บทที่ 261 ปลาหมักเหล้า

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 261 ปลาหมักเหล้า
  เมื่อได้ยินฉีชุนตะโกนว่า“ทีมเสือดำ” คนที่อยู่ข้างๆ สีหน้าของหม่าหงเทาก็เคร่งขรึมไปเยอะ ในสายตาของเขา แสดงถึงความกังวล

  ลังเลไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงต่ำว่า:“คุณฉิน ทีมเสือดำของตระกูลฉีรับมือยาก”

  “ไปตอนนี้ ยังทันนะ”

  ฉีชุนโกรธ พูดตะโกนเสียงดังว่า:“เหล่าหม่า นี่นายตั้งใจช่วยเขาเหรอ?”

  “ตระกูลฉีของฉันเสียแรงที่เลี้ยงดูนาย!”

  “นายรับเงินของฉัน ก็เป็นหมาของฉัน!”

  “เรื่องที่นายหักหลังฉัน เดี๋ยวค่อยมาคิดบัญชีกัน!”

เมื่อคิดถึงเรื่องที่หม่าหงเทาช่วยฉินเทียน จากนั้นหลอกตัวเองเข้า ฉีชุนก็โกรธเป็นไฟ

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ สีหน้าของหม่าหงเทาก็เคร่งขรึม ในสายตาของเขาลุกเป็นไฟ จากนั้นก็ได้แต่กัดฟัน แล้วก็อดทนต่อไป

ราวกับว่า มีเรื่องอะไรที่ซ่อนเอาไว้ในใจ

  “ไม่เป็นไร ก่อนหน้าที่คนของนายจะมา ฉันจะนั่งอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหนทั้งนั้น”ฉันเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา

บรรยากาศในตอนนี้ มีความแปลกเล็กน้อย

ทุกคนต่างก็มองฉินเทียนราวกับเป็นคนโง่คนหนี่ง

ต่างก็รอให้เถ้าแก่ของตระกูลฉีนำทีมเสือดำมาด้วยตัวเอง เพื่อมาทำลายฉินเทียน แก้แค้นในครั้งนี้

ขณะนั้นเอง ตระกูลฉี

ทีแรกเจ้าบ้านตระกูลฉี ฉีเหรินต้องไปรับแขกคนสำสัญ

เมื่อได้รับโทรศัพท์ของฉีชุน ทั้งโมโหและตกใจมาก

ใครกัน กล้ามาถึงในพื้นที่เมืองเจิ้ง บังอาจมาทำกับลูกชายของเขาฉีเหริน?

ฉีเหรินมีลูกชายอยู่สามคน ลูกชายคนโตเสียชีวิตแต่วัยเยาวน์ ลูกชายคนที่สองหลงใหลในการเรียน ไม่ชอบพวกพ่อค้า

มีเพียงลูกชายคนที่สาม ที่มีหัวทางการค้ามาก ได้ดั่งใจเขามากที่สุด

เขาจึงเป็นคนที่ถูกเลี้ยงดูมาเพื่อที่รับกิจการสืบทอดต่อไป

  พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างจึงพูดเสียงต่ำว่า:“นายท่าน ตามที่ผมรู้มา ช่วงนี้นายน้อยสามอยู่ที่ชานเมืองเหนือ ทำโรงงานหนึ่งอยู่”

  “ของที่ผลิตเป็นชีวเวชสำอางที่เอามาเลียนแบบ ไม่ใช่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกนะ?”

  ฉีเหรินพูดด้วยความโกรธ:“ในเมืองเจิ้ง ลูกชายฉีเหรินอย่างฉัน ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ถูกต้องทั้งหมด!”

  “อย่าว่าเขาผลิตผลิตภัณฑ์เลียนแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นยาบ้า หากอยากจะมีคนมาร้ายเขา ก็ต้องถามความคิดฉีเหรินอย่างฉันก่อน!”

  “เรียกเสือดำ!”

ไม่นาน ร่างกำยำ ผู้ชายที่มีใบหน้าดุร้าย เดินก้าวเท้าเข้ามา

  “เสือดำ ตอนนี้มีคนจะมาทำร้ายลูกชายฉัน นายคิดว่าควรทำยังไง?”

  เสือดำ พูดด้วยความโกรธ:“เมื่อมีคนอยากตาย งั้นผมจะส่งเขาไปสวรรค์!”

  ฉีเหรินเสียงเย็น:“รีบเรียกลูกน้องของนาย เป้าหมายอยู่ที่โรงงานชานเมืองเหนือ!”

เขาขึ้นรถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่ง นำเสือดำ และสมาชิกเสือดำอีกห้าสิบคน

มาอย่างรวดเร็ว มาด้วยความโกรธ เพื่อการสังหาร

ภายในรถ ฉินเทียนรู้สึกว่าบรรยากาศมีความตรึงเครียดเล็กน้อย เขารู้สึกได้ว่า ซูซูที่อยู่ข้างๆ รู้สึกเครียดอยู่ตลอดเวลา

เพื่อการผ่อนคลายบรรยากาศ เขาจึงจับมือซูซูไว้

พบว่ามือน้อยๆ นั้นเต็มไปด้วยเหงื่อ

  ราวกับเขากำลังจับหยกสวยอยู่ เขาจับอย่างทะนุถนอมแล้วพูดว่า :“หิวนิดหน่อย ที่รักหิวไหม?”

  “หืม?”ใบหน้าเคร่งเครียดของซูซู ราวกับไม่เข้าใจว่าฉินเทียนกำลังพูดถึงอะไร

  “ใกล้เที่ยงแล้ว พวกเราจะกินอะไรกันดี”

  “กงลี่ ในเมืองเจิ้งมีอาหารอะไรโดดเด่นไหม?”

  สีหน้ากงลี่เหมือนเห็นผี พูดแบบไม่ได้คิด:“ตอนนี้ นายยังมีอารมณ์กินอยู่อีกเหรอ?”

  ฉินเทียนหัวเราะแล้วพูดว่า:“เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะชื่นชมอาหาร ไม่ใช่ เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะชื่นชมอาหารและเสื้อผ้า”

  “ไม่กินมือหนึ่งหิวตายเลย”

  “ทำไม เธอคงไม่ได้กลัวเสียเงินแล้วไม่อยากเลี้ยงหรอกนะ?”

  กงลี่หัวเราะแล้วพูดว่า:“ในเมืองเจิ้งมีปลาหมักเหล้าของหอแปดสิ่งล้ำค่า(หอแปดสิ่งล้ำค่า)มีชื่อเสียงมากที่สุด”

  “ถ้านายจัดการตระกูลฉีได้ กินเท่าไหร่ฉันเลี้ยงหมด!”

  ฉินเทียนหัวเราะแล้วพูดว่า:“ได้ งั้นก็ตามนี้”

  จากนั้น มองไปที่ซูซูหัวเราะแล้วพูดว่า:“ที่รัก อยากกินปลาอะไร เดี๋ยวพวกเราไปชิมกัน”

  ซูซูที่เหนื่อยหน่าย ครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะพูดว่า:“ปลาจะกินเมื่อไหร่ก็ได้ นายคิดก่อนไหมว่าจะจัดการแก้ปัญหายังไงดี”

ฉินเทียนพยักหน้าหากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วพูดว่า:“ที่รักพูดถูก”

  “ตรงหน้าของฉันตอนนี้ สำคัญมากที่สุด นั่นก็คือปลาหมักเหล้าของหอแปดสิ่งล้ำค่า”

  “กงลี่ ตามที่เธอพูด กิจการของพวกเขาคงจะดีมากแน่ๆ ?”

  “ตอนนี้เหลืออีกหนึ่งชั่วโมง ถึงตอนนั้นไม่มีที่นั่งแล้ว?”

  “เร็ว เธอรีบโทรศัพท์เร็ว จองห้องไว้”

  กงลี่พูดแบบไม่ได้คิดว่า:“นายไม่ได้พูดจริงใช่ไหม?”

ทีแรกเธอคิดว่า เพราะว่าฉินเทียนเครียด จึงตั้งใจให้ผ่อนคลาย

เมื่อดูจากตอนนี้ เจ้าหมอนี้ เล่นจริงเหรอ?

ส่วนฉีชุนที่คุกเข่าอยู่ด้าน หม่าหงเทาที่อยู่ด้านข้าง ก็มีสีหน้ายากที่จะเข้าใจ

  ฉินเทียนพูดด้วยสีหน้าปกติ:“แน่นอนว่าจริงอยู่แล้ว!”

  “ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเลี้ยงหรอกนะ?”

  กงลี่เริ่มหงุดหงิด จากนั้นควักโทรศัพท์ออกมาหาเบอร์โทรศัพท์ของปลาหมักเหล้าของหอแปดสิ่งล้ำค่า พูดอย่างโกรธๆ ว่า:“ฉันจองห้องหนึ่ง!”

  “เอาของที่ดีที่สุด!”

  “รีบมาภายในหนึ่งชั่วโมง!”

จากนั้น ก็มองฉินเทียนแบบโกรธ

  ฉินเทียนหัวเราะแล้วพูด:“แบบนี้ถึงจะถูกต้อง”

เขายกมือขึ้นเพื่อดูนาฬิกา นาฬิกา เรือนนี้เป็นซูซูช่วยให้เขามีหน้าซื้อโอเมก้าให้ตอนที่ฉู่โจวครั้งที่แล้ว

ถึงแม้ว่ามันจะดีมาก แต่ตามสถานะของเขาแล้ว มันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่

แต่ว่าเขาใส่มันเป็นเหมือนของล้ำค่ามาตลอด

  “ตอนนี้ผ่านไปสิบกว่านาทีแล้ว ฉันว่า ทำไมพ่อของนายยังไม่พาทีมเสีอดำมาช่วยนายอีก?”

  “หรือว่า นายจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ กันนะ?”เขาพูดอย่างไม่พอใจ

  เช่นนั้นฉัน……

ฉีชุนโกรธจนแทบจะกระอักเลือด

อยากจะต่อว่าด่าทอ แต่พอได้ยินเสียงที่มาจากนอกดโรงงาน ก็ได้ยินเสียงรถยนต์เข้ามา

ไม่รู้ว่ามีรถมากันกี่คัน ที่พุ่งเข้ามา

  “เจ้าบ้านมาแล้ว!”

  “เจ้าบ้านพาทีมเสือดำมาแล้ว!”

เมื่อเห็นรถโรลส์-รอยซ์ทะเบียนหมายเลข 8 ด้านหลังตามมาด้วยเบนซ์หลายคัน ส่วนพวกนักเลงที่ถูกฉินเทียนตีจนน่วม ต่างก็ตื่นเต้น

  “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

  “พ่อฉันมาแล้ว!”

  “คนแซ่ฉิน เตรียมตัวตายได้เลย!”ฉีชุนกระตือรือร้น จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนออกไปต้อนรับ

“อย่าขยับ”ฉินเทียนใช้มือกด มีดม้งเล่มยาว กดฉีชุนไม่ให้ลุกขึ้นยืน

หน้าของเขามืด กัดฟันแล้วพูดว่า:“นายถึงเวลาตายแล้ว!”

รถโรลส์-รอยซ์จอดที่ด้านนนอก จกานั้นก็มีชายอายุห้าสิบกว่า เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

  “ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ในพื้นที่ของเมืองเจิ้ง ใครมันบังอาจกล้าแตะต้องลูกชายของฉีเหริน!”

  “ไม่อยากรอดชีวิตไปเหรอ!”

ด้านหลัง เสือดำได้นำสมาชิกทีมมาอีกห้าสิบคนที่บุกเข้ามา

พวกเขาตัวเตี้ย สายตาเต็มไปด้วยความกระหายในการสังหาร มองดูก็รู้ว่าผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างเชี่ยวชาญ

ซึ่งแข็งแกร่งมากว่าคนที่หม่าหงเทาพามาเยอะมาก

  “พ่อ ช่วยผมด้วย!”

  “เจ้าปีศาจนี่ ไม่ได้เพียงแค่ตีมือผมให้บาดเจ็บ แต่ยังแทงจนมือผมทะลุด้วย!”ฉีชุนที่คุกเข่าบนพื้น ก็ตะโกนเสียงดังออกมา

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ฉีเหรินก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดด้วยโทสะว่า

  เขามองฉินเทียน กัดฟันแล้วพูดว่า:“ว่ามา นายเป็นใคร”

  “ต้องการอะไรกันแน่?”

ขณะนั้นเอง เสื้อดำสะบัดมือ สมาชิกทีมห้าสิบคนก็พุ่งเข้ามา จากนั้นก็ล้อมฉินเทียนและคนอื่นๆ ไว้

กงลี่และซูซูหน้าซีด

ขณะนั้น พวกเธอทำได้แค่ยืนด้านหลังของฉินเทียน

  ฉินเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา มองไปทางฉีเหริน

  “ก่อนหน้าที่จะตอบคำถามคุณ ผมอยากรู้ว่า ตระกูลฉีของคุณ เป็นตระกูลแรกในเมืองเจิ้งไหม?”

  “ในเมืองเจิ้ง ยังมีตระกูลไหนที่ใหญ่กว่าของพวกคุณไหม คนที่เจ๋งกว่าพวกคุณน่ะ?”

  “ถ้าหากมี โทรศัพท์เรียกมา”