แด๊กซ์ต้องตามล้างแค้นตระกูลดิกสันแน่หากเขารู้เรื่องเข้า
เขาจะเสียเปรียบเพราะตระกูลดิกสันทรงอำนาจเกินไป แดร์ริลมอบทุกอย่างให้เคลันดูแลดีกว่า
แด๊กซ์แสยะยิ้ม “ฉันรู้แล้ว นายต้องสวีทกับลิลี่ที่บ้านแน่ ยังไงก็เถอะ อาจารย์ของเรากำลังมองหานายเมื่อนายน่ะ”
‘แคทเธอรีน?’
แดร์ริลชะงักไปก่อนที่เขาจะจำได้ว่าเขาได้รับสายโทรเข้าหลายสายจากเธอ และเขาก็ลืมโทรกลับ พลังของเธอจะต้องลดลงเยอะแน่ตลอดหลายวันมานี้
เซอร์ซี นิวแมน ผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างหน้าหันมากะทันหันแล้วโยนกระดาษโน้ตให้เขา
เ-ี่ย!
แด๊กซ์คว้าแขนของแดร์ริลแล้วเขย่า!
‘เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย? ทำไมสาวงามส่งโน้ตให้เรา?’
แดร์ริลงุนงงในขณะที่แด๊กซ์โน้มตัวไปหาเขาอย่างตื่นเต้นแล้วถามด้วยความแปลกใจ “ว้าว แดร์ริล ไม่กี่วันมานี้นายไปสนิทกับนางฟ้าประจำสถาบันแล้วเหรอ?”
แดร์ริลหัวเราะเบา ๆ “ใช่ดิ”
เขาเปิดกระดาษโน้ตออกมา มันเขียนไว้ว่า ‘นายสะดวกไหมคืนนี้? ฉันจะเลี้ยงมื้อค่ำนาย’
‘ฮ่าฮ่า เธอนี่ดื้อเอาเรื่องแฮะ’
เขาถูกดึงไปโดยแคทเธอรีนแล้วถูกพาไปที่ห้องสมุดเพื่อบ่มเพาะครั้งที่แล้วในตอนที่เธอจะเลี้ยงมื้ออาหารเขา
เขาลืมเรื่องนี้ไปโดยสิ้นเชิง และเขาก็ไม่คิดว่าเซอร์ซีจะจำได้
แด๊กซ์เหล่มองโน้ตแล้วยิ่งแปลกใจ “บัดซบ นี่เรื่องจริงเหรอเนี่ย?”
เซอร์ซีเป็นนางฟ้าผู้เย็นชาประจำสถาบันหกวิถี
เธอมักจะมีทัศนคติเย็นราวกับน้ำแข็งและไม่เคยมอบชายใดเป็นครั้งที่สอง ไม่แม้แต่พวกคนที่โดดเด่น
‘แล้วทำไมเธอชวนแดร์ริลไปดินเนอร์?’
เมื่อสังเกตความแปลกใจบนใบหน้าของแด๊กซ์ แดร์ริลก็ยิ้มแล้วกล่าว “ให้ตาย หยุดมองฉันแบบนั้นทีเถอะ นายไปกับฉันก็ได้”
เขาจะลืมเพื่อนรักของเขาเมื่อจะได้ไปทานอาหารกับสาวงามได้ยังไง?
แด๊กซ์มีความสุขเลยทีเดียว
แดร์ริลเขียนอย่างลวก ๆ ไปว่า ‘หลังจากนี้ฉันว่าง’ บนกระดาษโน้ตแล้วส่งกลับไป
ร่างอันสง่างามเดินเข้ามาในห้องเรียนหลังจากแดร์ริลส่งกระดาษกลับไป เธอมีออร่าของความสงบนิ่งและสง่างามพร้อมด้วยผมประบ่า เธอคืออาจารย์วิชาปรุงโอสถของพวกเขา ซันนี่ สก็อตต์
ว้าว
เหล่าชายหนุ่มในห้องเรียนจ้องเธอตาไม่กะพริบเมื่อเธอเข้ามา
มีอาจารย์ที่น่าหลงไหลอยู่สองคนในห้องสิบหก อาจารย์ที่ปรึกษาของพวกเขาคือแคทเธอรีน คีธ และซันนี่ สก็อตต์
แคทเธอรีนนั้นเข้มงวดแม้ว่าเธอจะรูปลักษณ์ที่งดงาม
ซันนี่นั้นอ่อนโยนกว่าเมื่อเทียบกัน
ซันนี่ยิ้มแล้วกล่าว “นักเรียน อาจารย์ได้อธิบายเกี่ยวกับการผลิตโอสถไปเมื่อสองวันก่อน แต่ทฤษฏีนั้นแตกต่างจากการปฏิบัติมาก ดังนั้นเราจึงจะมาลองฝึกกันวันนี้ เราจะไปที่ห้องปรุงโอสถกันในคาบเรียนนี้จ้ะ”
ทั้งห้องโห่ร้อง
ไม่มีใครเคยปรุงโอสถมาก่อน การปรุงโอสถนั้นเป็นอะไรที่พวกเขาไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย!
ห้องปรุงโอสถของสถาบันหกวิถี นั้นมีบรรยากาศโบราณพร้อมด้วยสมุนไพรล้ำค่ามากมายเก็บอยู่ในนั้น
ทั้งห้องต่อแถวกันอยู่หน้าหม้อปรุงโอสถ
ซันนี่เป็นคนแรกของแถว เธอสอนอย่างนุ่มนวล “อย่าจับอุปกรณ์ในห้องนี้นะจ้ะ อาจารย์จะสาธิตวิธีปรุงยาละลายลิ่มเลือดให้ดู ยาละลายลิ่มเลือดนั้นมีประสิทธิภาพมากในการรักษาอาการบาดเจ็บภายใน มันเป็นยารักษา”
เธอหยิบวัตถุดิบมาหลายอย่างแล้วต้มน้ำในหม้อเพื่อปรุงยา
เหล่านักเรียนจ้องมองด้วยความตื่นเต้น เพราะมันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นการปรุงโอสถ พวกเขามองตาเขม็งตาไม่กะพริบเพราะพวกเขากลัวจะพลาดอะไรไป
หืมม?
แดร์ริลอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วทันที
เขารู้ดีว่ายาละลายลิ่มเลือดนั้นเป็นยาพื้นฐานทั่ว ๆ ไป และไม่ได้ต้องการขั้นตอนที่ซับซ้อน
ยังไงก็ตาม ซันนี่ขาดวัตถุดิบไปชนิดหนึ่ง สมุนไพรเหมันต์เยือกแข็ง
มันเป็นสมุนไพรที่มีความเย็นตามธรรมชาติและมีความสามารถในการปรับความร้อนในขั้นตอนการปรุงยา
หม้อปรุงยาจะระเบิดหากไม่มีมัน!
แดร์ริลจำต้องร้องออกไป “มิสสก็อตต์ รอก่อนครับ”
ยังไงก็ตาม มันสายไปแล้วเพราะซันนี่ได้ปิดฝาและเปลวไฟที่อยู่ข้างใต้ก็ลุกไหม้แล้ว
ซันนี่มองไปที่แดร์ริลด้วยความสงสัยแล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและรื่นหู “คะ? มีคำถามอะไรรึเปล่าจ้ะ?”
นักเรียนทั้งหลายจ้องแดร์ริลอย่างไม่เป็นมิตร
มันเป็นโอกาสอันหายากที่อาจารย์ของพวกเขาจะได้สาธิตวิธีการปรุงยา เขาจะทำอะไรอีกล่ะรอบนี้?
แดร์ริลยิ้มให้ซันนี่ “มิสสก็อตต์ คุณควรดับไฟนะครับ”
การปรุงยาละลายลิ่มเลือดใช้เวลาเพียงสามนาที
และนี่ก็ผ่านไปครึ่งนาทีแล้ว
หม้อจะระเบิดเมื่อผ่านไปอีกสองนาที เหล่านักเรียนอาจได้รับบาดเจ็บหากไฟไม่ถูกดับลง
ซันนี่งุนงงแล้วยิ้ม “ทำไมอาจารย์ต้องทำแบบนั้นล่ะ?”
มันมีกฎข้อห้ามมากมายในขั้นตอนการปรุงโอสถมาตั้งแต่สมัยโบราณ และการดับไฟระหว่างขั้นตอนก็เป็นหนึ่งในนั้น มันอาจสร้างความเสียหายจนหม้อไหม้ได้
ซันนี่จำได้ว่าเธอเคยสอนเรื่องนี้ไปแล้วในชั้นเรียน ‘เขาต้องแอบหลับในห้องแน่’
เธอไม่พอใจเล็กน้อย