บทที่ 497 แย่งชิง / บทที่ 498 ครั้งก่อนป้อนยังไง Ink Stone_Romance
บทที่ 497 แย่งชิง
เซวียลี่ทางด้านข้างเห็นว่าฉินรั่วซีพูดจานอบน้อมกับคุณหนูไฮโซที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย สีหน้าของเขาก็ยิ่งแย่ขึ้นไปอีก
ชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยว่า “ตั้งแต่เมื่อไรกันที่พวกเราจะรายงานการทำงาน แล้วต้องไว้หน้าคนนอกก่อน? คุณหนูท่านนี้ ฉันคิดว่าคุณไม่มีสิทธิมาขัดขวางไม่ให้พวกเราพบคุณชายเก้าเลยนะ!”
เวลานี้เอง สวี่อี้ที่อยู่ข้างหลังกระแอมเสียงขึ้นได้เหมาะสมกับเวลา พลางอธิบาย “ประธานเซวีย คุณหนูรั่วซี เป็นเรื่องจริงที่คุณชายเก้าให้คุณหนูหวันหวั่นมาจัดการเรื่องนี้ครับ คุณทั้งสองมีเรื่องอะไรสามารถบอกผ่านคุณหนูหวันหวั่นได้เลย ส่วนเอกสารคุณหนูหวันหวั่นก็จะส่งมอบให้คุณชายเก้า!”
ได้ยินสวี่อี้พูดเช่นนี้แล้ว เซวียลี่พลันจุกพูดไม่ออก ฉินรั่วซีเงียบไปทันที
เยี่ยหวันหวั่นหาวนอนอย่างเกียจคร้าน สีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว “ยังมีปัญหาอะไรอีกไหม?”
ฉินรั่วซีหน้าเปลี่ยนสี ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นความตั้งใจของประธานซือ งั้นก็มอบให้คุณหนูเยี่ยเถอะ ประธานซือตอนนี้กำลังพักผ่อนรักษาตัว ไม่เหมาะที่จะไปรบกวนจริงๆ”
เซวียลี่ได้ยินก็ร้อนใจ “แบบนี้ได้ไง จะเอาเรื่องสำคัญขนาดนี้ให้คนนอกได้ไง…”
ฉินรั่วซีชำเลืองมองเยี่ยหวันหวั่น “คุณหนูเยี่ยคือว่าที่นายหญิง จะเป็นคนนอกได้อย่างไร”
“นายหญิงอะไรกัน เห็นชัดว่าเป็น…” นังจิ้งจอกใช้มารยาเข้าแลก!
คำพูดถัดมา เซวียลี่ไม่กล้าพูดออกมา เพียงแต่ส่งเอกสารให้กับมือของเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่ยินดี
เมื่อออกจากประตูใหญ่
เซวียลี่ยังคงโมโหไม่หาย “ผู้อำนวยการฉิน จะยอมให้ผู้หญิงคนนี้แทรกมือเข้ามายุ่งเรื่องสำคัญขนาดนี้จริงๆ เหรอ? ตอนนี้สถานการณ์สุขภาพของคุณชายเก้ามาถึงขั้นนี้แล้ว หลับไหลไม่ได้สติ หากผู้หญิงคนนั้นทำอะไรลับหลังคุณชายเก้า ผลที่ตามมาอาจเลวร้ายจนไม่กล้าคิด…”
ฉินรั่วซีขมวดคิ้วย่น “ในเมื่อเป็นคนที่เก้าไว้ใจ น่าจะไม่…”
เซวียลี่กล่าวอย่างโกรธเคือง “จะไม่ได้ไง! ผู้อำนวยการฉิน คุณมองคนในแง่ดีเกินไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นอ้างว่าช่วยดูแลสุขภาพของคุณชายเก้าให้ดีขึ้นคอยอยู่ข้างกายคุณชายเก้าโดยตลอด ตอนนี้ก็เริ่มยื่นมือมายุ่งเรื่องงานบริษัท แม้แต่สวี่อี้ก็ยังถูกเธอดึงมาเป็นพวก นี่เห็นได้ชัดว่ามีแผนการอื่น! ถึงตอนนั้นไม่เพียงทำร้ายคุณชายเก้า แม้แต่บริษัทก็คงต้องพังพินาศไปด้วย!”
ฉินรั่วซีนวดขมับสีหน้าลำบากใจ พลางกล่าว “แต่ว่าตอนนี้ เธอคือคนที่เก้าเชื่อใจที่สุด ต่อให้เป็นฉัน ก็ไม่อาจยื่นมือเข้าไปแทรกได้ อีกอย่างด้วยสถานะของฉันก็ลำบาก…”
เซวียลี่เข้าใจถึงการแสดงออกนี้ดี ฉินรั่วซีถูกพูดถึงมาตลอดว่าเป็นตัวเต็งที่ดีที่สุดสำหรับตำแหน่งนายหญิงในอนาคต ในเวลานี้จะออกหน้าคัดค้านเยี่ยหวันหวั่น ก็คงจะถูกเข้าใจผิดว่ากำลังแย่งชิงตำแหน่งนายหญิงกับเขาอยู่
“คนที่เชื่อใจมากที่สุดอะไรกัน คนที่ประธานซือไว้ใจที่สุดทำไมถึงยังเป็นคนรักไม่ได้! ผมว่าประธานซือป่วยจนเลอะเลือนไปแล้วจริงๆ! ผู้อำนวยการฉิน คุณไม่สะดวกแทรกมือ งั้นเดี๋ยวผมทำเอง ผมจะไปหากรรมการบริหารที่สำนักงานใหญ่ เรื่องนี้ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”
เซวียลี่พูดแล้วก็จัดแจงเสื้อผ้า สาวเท้าฉับไวเดินออกไป
เห็นเงาหลังของเซวียลี่จากไปด้วยความโมโห สีหน้าเหนื่อยล้าและลำบากใจของฉินรั่วซีพลันค่อยๆ จางหายไป
“คุณหนูรั่วซี!” เวลานี้ ด้านหลังมีเสียงเรียกของชายหนุ่มพลันดังขึ้น
ได้เห็นคนที่มา ฉินรั่วซีฝืนเป็นเผยรอยยิ้มเหนื่อยล้า “หลิวอิ่ง นายกลับมาแล้ว”
หลิวอิ่งกำหมัดแน่น กล่าวว่า “เป็นเรื่องจริงเหรอครับ?”
“อะไร?”
“นายท่าน…สุขภาพของเขา…”
ฉินรั่วซีหน้าจืดจางลงไป “ใช่…เมื่อวานที่งานประชุมใหญ่ของตระกูล เก้าและคุณหญิงย่าพูดเองกับปาก”
“เป็นแบบนี้ไปได้ไง…” หลิวอิ่งใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เขารู้เพียงว่าสุขภาพของนายท่านไม่ค่อยดีมาโดยตลอด กลับไม่รู้ว่าจะเลวร้ายมาถึงขั้นนี้ได้
………………………………………………………..
บทที่ 498 ครั้งก่อนป้อนยังไง
“ผมได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นพยายามขัดขวางการผ่าตัดของนายท่าน?” หลิวอิ่งเอ่ยถามอย่างเดือดดาล
ฉินรั่วซีทอดถอนใจพลันตอบ “คุณหนูเยี่ยทำไปก็เพื่อสุขภาพของเก้า…”
ได้เห็นสีหน้าเหนื่อยล้าจนปัญญาของฉินรั่วซี หลิวอิ่งก็ยิ่งโมโหหน้าอกกระเพื่อมรุนแรง กล่าวไปว่า “เพื่อสุขภาพของนายท่านอะไรกัน! คุณหนูรั่วซี ผมได้ยินหมดแล้ว เรื่องที่พวกคุณคุยกันเมื่อครู่ผมได้ยินทั้งหมดแล้ว ร่างกายของนายท่านจำเป็นต้องรีบเข้ารับการผ่าตัดภายในสามเดือน ไม่เช่นนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ทุกเมื่อ แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นกลับยืนกรานขัดขวางไม่ให้นายท่านรับการผ่าตัด เห็นชัดว่าต้องการทำร้ายนายท่านถึงตาย!”
ฉินรั่วซีเอ่ยปลอบใจ “ไม่แน่ว่าคุณหนูเยี่ยอาจสามารถปรับสุขภาพของเก้าให้ดีขึ้นมาก็เป็นได้ อย่างนั้นก็เป็นเรื่องน่ายินดีมาก…”
หลิวอิ่งโมโหแค่นเสียงหัวเราะออกมา ใบหน้าร้ายกาจเอ่ยว่า “เฮอะ ปรับสุขภาพให้ดีขึ้น? คุณหนูรั่วซี คุณรู้ไหมว่าทำไมสุขภาพของนายท่านถึงได้กลายมาเป็นสภาพแบบตอนนี้ได้? ทั้งหมดเป็นเพราะถูกผู้หญิงคนนั้นกระตุ้นขึ้นมา เธอแทบอยากจะให้นายท่านตายไปเสีย แล้วจะมีใจมาช่วยปรับสุขภาพของนายท่านให้ดีขึ้นได้ยังไง?
ต่อให้เธอไม่มีความพยายามจะดื้อด้าน แล้วเธอมีความสามารถอะไรที่จะมาทำในเรื่องที่แม้แต่หมอเทพยังทำไมได้? ตอนนี้เธอยังแทรกมือเข้ามายุ่งเรื่องภายในบริษัทอีก! เธอมีคุณสมบัติอะไร!”
……
ภายในห้องรับแขก หลังจากที่ฉินรั่วซีและเซวียลี่ออกไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ถือเอกสารขึ้นไปบนตึก
เปิดประตูห้องนอน ซือเยี่ยหานนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างว่าง่ายจริงๆ
เยี่ยหวันหวั่นสีหน้าผ่อนคลายลงไปไม่น้อย ลากเก้าอี้ในห้องนอนมาที่ขอบเตียง
กำลังจะนั่งลงไป ซือเยี่ยหานทอดสายตาจดจ้องมาที่เธอ เอ่ยช้าๆ “มานั่งข้างฉัน”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยิน ก็เอะใจขึ้นมาแล้วมองไปทางเขา เธอก็นั่งอยู่ข้างเขาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ลากเก้าอี้มาแล้วด้วยเนี่ย!
แต่ฟังจากน้ำเสียงของซือเยี่ยหานแล้ว สิ่งที่เขาหมายถึง คงจะเป็นบนเตียง…
“ฉันนอนไม่หลับ” ซือเยี่ยหานเอ่ย
ได้ยินประโยคนี้ เยี่ยหวันหวั่นพลันหมดคำจะพูด เลิกผ้าห่มแล้วลงไปนั่งข้างซือเยี่ยหาน
“แบบนี้ได้แล้วใช่ไหม?” เยี่ยหวันหวั่นถาม
ซือเยี่ยหานบอก “นอนจะดีกว่า”
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งไป
“ไม่ได้ ฉันต้องอ่านเอกสารเหล่านี้ให้จบ จากนั้นรวบรวมสักหน่อย คุณนอนพักผ่อนอีกสักหน่อยนะ รอให้คุณตื่นมาแล้ว ฉันก็น่าจะจัดการเอกสารได้เกือบเสร็จแล้ว ถึงตอนนั้นฉันจะสรุปแล้วอ่านให้คุณฟัง” เยี่ยหวันหวั่นพูดไปตรงๆ ไม่เหลือพื้นที่ให้ปฏิเสธได้เลย
เผชิญกับสีหน้าเคร่งขรึมของหญิงสาว ซือเยี่ยหานเผยสีหน้าจนปัญญา
“เดี๋ยวก่อน คุณต้องกินยาก่อน แม้ว่าไข้จะลดไปแล้ว แต่หวัดของคุณยังไม่หายขาด เดี๋ยวจะกลับมาอาการหนักอีก!”เยี่ยหวันหวั่นรีบลุกขึ้นมา เทยาสองสามเม็ดออกมาด้วยความชำนาญ
เยี่ยหวันหวั่นถือยา และยกแก้วน้ำเดินมาหน้าเตียง
แต่ว่า ซือเยี่ยหานมองเธอทว่ากลับไม่ขยับเคลื่อนไหวเลย
“ทำไมอีก?” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว
ซือเยี่ยหานแววตาหมุนวน พลันเอ่ยถามช้าๆ “ครั้งก่อนที่ฉันหมดสติไป เธอป้อนฉันยังไง?”
เยี่ยหวันหวั่นตะลึงงัน ก่อนที่แก้มจะร้อนผ่าวขึ้นมา ยื่นแก้วน้ำส่งให้อย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันก็ยัดเข้าไปนั่นสิ!”
ทำไมเธอถึงพบว่าผู้ชายคนนี้นับวันยิ่งจัดการยาก? ไหนบอกว่าเย็นชาไม่ใช่เหรอ?
ครั้งก่อนเธอใช้ปากป้อน ก็เพราะสถานการณ์บังคับให้ต้องทำไหมล่ะ?
กว่าจะป้อนยาซือเยี่ยหานแล้วกล่อมให้เขายอมนอนได้ไม่ง่ายเลย เยี่ยหวันหวั่นพิงไปที่หัวเตียง จ้องเอกสารลับในมือ สีหน้างุนงงอยู่บ้าง
ที่ผ่านมาจริงที่ซือเยี่ยหานไม่เคยปิดบังเธอไม่ว่าจะเป็นความลับใด แต่ว่า หากเป็นเธอเองที่ไปเปิดเอกสารเหล่านั้น งั้นความหมายมันก็ต่างกันไปโดยสิ้นเชิง
เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่นาน สุดท้ายก็ค่อยๆ เปิดเอกสารเหล่านั้น…
………………………………………………………..