ซันนี่ตกใจสุดขีดจนตัวของเธอสั่นเทิ้ม!

‘นี่… เขารู้ได้ยังไงว่าหม้อต้มกำลังจะระเบิด?’

เหล่านักเรียนเองก็ยังคงตกใจและหันไปมองแดร์ริลด้วยความไม่เชื่อ!

‘นี่มัน… นี่มันเป็นไปได้ยังไง?! หม้อมันระเบิดจริง ๆ ?”

‘เขารู้ได้ยังไง?’

‘นี่เขาเพิ่งจะทำนายอนาคตงั้นเหรอ?’

‘นี่มันทำอะไรกับหม้อรึเปล่า?!’

แดร์ริลเมินเฉยต่อสายตาของเหล่านักเรียนแแล้วสูดหายใจเข้าแรง ๆ เขารู้สึกถึงสัมผัสไหม้ ๆ บนหลังของเขา

เศษจากหม้อต้มขูดหลังของแดร์ริลตอนที่เกิดระเบิดและไฟจำนวนมากก็กระจายใส่เขา เสื้อของเขาถึงกับไหม้

ซันนี่ถูกปกป้องอย่างดี เธอจึงปลอดภัยไม่มีบาดแผลใด

เมื่อรู้สึกตัวว่าแดร์ริลยังคงกดตัวของเธอเพื่อปกป้องเธอไว้ เธอจึงกัดริมฝีปากของเธอแล้วถามเสียงแผ่ว “แดร์ริล เธอช่วย… ลุกขึ้นได้ไหมจ้ะ?”

โอ้

แดร์ริลเพิ่งจำได้ เขายืนขึ้นอย่างเขินอาย

เขายิ้มให้ซันนี่เมื่อเขาสังเกตเห็นท่าทางเอียงอายของเธอ ‘ฉันไม่คิดว่ามิสซันนี่จะมีเสน่ห์ขนาดนี้ตอนเธออายนะเนี่ย’

ซันนี่ยืนขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลนแล้วหันมองไปรอบห้องพร้อมกับแก้มแดง ๆ ของเธอ เธอถามอย่างกังวล “ทุกคนเป็นอะไรไหมจ้ะ?”

เธอสังเกตเห็นว่านักเรียนหลายคนได้รับบาดเจ็บ

ทั้งห้องปรุงโอสถเละเทะไปหมด

นักเรียนจำนวนมากยังคงบาดเจ็บจากแรงระเบิด โดยเฉพาะพวกนักเรียนชายที่ยืนใกล้หม้อต้ม พวกเขาบาดเจ็บรุนแรงไม่น้อย ยังไงก็ตาม เธอยังโล่งใจที่ไม่มีใครเสียชีวิต

ซันนี่ตื่นตระหนก “เร็วเข้า ไปห้องพยาบาลของสถาบัน”

นักเรียนทั้งหลายตั้งสติขึ้นมาได้เมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์ นักเรียนชายที่บาดเจ็บหนักช่วยกันพยุงเดินไปยังทางห้องพยาบาล

“แดร์ริล!”

แด๊กซ์รีบเดินเข้าไปหาแดร์ริลและมองเลือดที่อยู่หลังเขา เขารู้สึกเป็นห่วง “แดร์ริล นายกำลังจะตายเหรอ? นายต้องไปห้องพยาบาลของสถาบันไหม?”

จากนั้น เขาก็ยกนิ้วโป้งให้แดร์ริล

มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมากที่เขารู้ว่าหม้อต้มกำลังจะระเบิด แม้แต่แด๊กซ์เองก็ยังตกใจ โชคดีที่แด๊กซ์ตอบสนองได้ทันเวลาและไม่ได้รับบาดเจ็บ เขาแม้กระทั่งช่วยลูกพี่ลูกน้องทั้งสองของเขาได้ด้วย

“ฉันยังไม่ตายว้อย!” แดร์ริลหัวเราะเบา ๆ ความเจ็บทุเลาลงเรื่องจากการบาดเจ็บที่ได้รับเป็นเพียงแผลถลอกเล็ก ๆ

“ค่อยดีหน่อย ฉันจะไปดูลูกพี่ลูกน้องของฉันก่อน พวกเธอตกใจใหญ่เลยล่ะ” แด๊กซ์กล่าวก่อนจะวิ่งออกไป เหลือเพียงแค่แดร์ริลกับซันนี่ที่เหลืออยู่ในห้องปรุงโอสถ

“แดร์ริล?” ซันนี่เก็บความสงสัยใคร่รู้ของเธอไม่ได้เลย เธอถาม “เธอรู้ได้ยังไงว่าหม้อต้มกำลังจะระเบิด?”

เธอยังคงไม่แน่ใจว่าทำไมถึงมีการระเบิดเกิดขึ้น นี่เธอพลาดขั้นตอนอะไรไปตอนที่กำลังปรุงยาละลายลิ่มเลือดเหรอ?

เพราะยังไงเสียมันก็เป็นครั้งแรกของเธอในการปรุงยาละลายลิ่มเลือด เธอคิดว่ามันเป็นเพียงโอสถระดับเริ่มต้นและการปรุงมันก็คงง่ายดาย

แดร์ริลตอบด้วยรอยยิ้ม “มิสสก็อตต์ คุณไม่ได้ใส่วัตถุดิบไปอย่างหนึ่ง มันคือสมุนไพรเหมันต์เยือกแข็ง ซึ่งมีความสามารถในการปรับความร้อน”

แดร์ริลกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “สมุนไพรนั้นเป็นวัตถุดิบจำเป็นในการปรุงยาละลายลิ่มเลือด ไม่อย่างนั้นจะเกิดอันตรายจากหม้อต้มระเบิดเพราะความร้อนที่มากเกินไป”

ซันนี่เข้าใจและพยักหน้า “แบบนี้นี่เอง”

เธอคงไม่มีทางปรุงโอสถด้วยความมั่นใจเต็มที่อีกต่อหลังจากนี้

โชคยังดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการระเบิด ซันนี่หันไปหาแดร์ริลด้วยความสงสัย “แดร์ริล เธอก็รู้เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุด้วยเหรอ?”

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสมุนไพรเหมันต์เยือกแข็งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรุงยาละลายลิ่มเลือด

แต่แดร์ริลกลับมองทุกอย่างขาด

แดร์ริลคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะยิ้มอย่างถ่อมตัว “ผมรู้แค่เล็กน้อย เพราะผมสนใจในโอสถมาตลอด ผมเคยฝึกปรุงมาสามถึงสี่ชนิดแล้ว”

ซันนี่ประทับใจ “การปรุงโอสถเคยรุ่งเรืองมากในสมัยอดีตกาล ทว่าหลายสูตรนั้นไม่ได้ตกทอดมาถึงยุคหลัง ถึงอาจารย์วิชาปรุงโอสถจากสถาบันหกวิถีอย่างฉันยังปรุงได้เพียงสิบกว่าชนิด เธอค่อนข้างเก่งทีเดียวที่รู้วิธีปรุงถึงสี่ชนิดถึงแม้ว่าเธอจะยังเป็นเพียงนักเรียน”

แดร์ริลทำเพียงแค่ยิ้ม

อาจารย์ของเขาเข้าใจเขาผิดแล้ว เขาหมายถึงเขาเชี่ยวชาญสูตรสี่ชนิด ไม่ใช่รู้วิธีปรุงโอสถเพียงสี่ชนิด

มันมีสูตรโอสถนับพันสูตรในคัมภีร์โอสถแห่งอนันต์

แดร์ริลอ่านมันทุกครั้งที่เขาที่เวลาและเขาเองก็ศึกษาวิธีทำอย่างละเอียดเสียด้วย

กล่าวได้ว่าเขาจะสามารถปรุงโอสถและเม็ดยาได้นับพัน ๆ ตราบใดที่เขามีวัตถุดิบพร้อม!