บทที่ 365 ชีวิตแสนสิ้นหวัง

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

บทที่ 365 ชีวิตแสนสิ้นหวัง

บทที่ 365 ชีวิตแสนสิ้นหวัง

ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง มีเพียงหัวหน้าปฏิบัติการจ้าวที่นิ่งเงียบ ในใจเต็มไปด้วยความขมขื่น

“ให้ตายเถอะ! ฉันไม่โทษนายเรื่องนี้หรอก ทุกคนต่างก็มีนายของตัวเองทั้งนั้น เป็นความผิดของฉันเองที่มองคนไม่ออก”

ในห้วงสุดท้าย โจวเฟยหู่เห็นท่าทีนิ่งเงียบของอีกฝ่าย เขาหลับตาและเอ่ยขึ้นอย่างไม่ถือสา

ทว่าประโยคนี้กลับทำให้หัวหน้าจ้าวสั่นคลอนทันที

“ไอ้เวรเอ๊ย! หลบไป! น่ารำคาญ!”

เฉียนเวยหยุดหัวเราะ เขาเห็นอีกฝ่ายยั้งมือไว้จึงเตะออกให้พ้นทางอย่างหมดความอดทน

“ฉันจะส่งหัวหน้าโจวลงนรกเอง!” ว่าแล้วเฉียนเวยก็หยิบสายยางและเปิดก๊อกน้ำทันที

หากแต่ในจังหวะนี้เอง!

“ตู้ม!”

ประตูเหล็กชั้นใต้ดินถูกถีบเปิดออกส่งเสียงดังลั่น! แรงมหาศาลกระแทกประตูเหล็กให้กระเด็นไกลไปกว่าแปดเมตร!

ร่างชายหนุ่มร่างเพรียวคนหนึ่งเดินเข้ามาท่ามกลางฝุ่นควันโขมง

ทุกคนต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า พวกเขาจ้องมองอย่างงุนงงไปยังคนที่กำลังก้าวเข้ามา

พวกเขาอดจะตื่นตะลึงไม่ได้ ถึงอย่างไรก็เป็นประตูเหล็ก!

น้ำเสียงเฉื่อยชาพลันดังขึ้น

“การไปส่งคนนี่งานถนัดฉันเลยล่ะ”

อวี้ฮ่าวหรานค่อย ๆ เดินเข้ามาในชั้นใต้ดิน!

“เดี๋ยวฉันจะพาแกไปส่งก็แล้วกัน!”

หลังออกค้นหากว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดชายหนุ่มก็หาตัวพบจนได้

เวลานี้ทุกคนต่างเตรียมรับมือ เฉียนเวยนิ่วหน้า ดูท่าจะหัวเสียเต็มที

“แกเป็นใคร! รนหาที่ตายไม่ดูตาม้าตาเรือหรือยังไง?”

เขาไม่รู้จักอีกฝ่าย ด้วยก่อนหน้านี้คนจากฉลามคลั่งไม่ค่อยได้ลงสมรภูมิมากนัก

“ฮ่า ๆ ขอบเขตพลังภายในขั้นสูงนี่ ไม่เลวเลย ยังพอมีกำลังอยู่บ้าง”

อวี้ฮ่าวหรานตวัดสายตามอง เขารู้ระดับพลังของฝ่ายตรงข้าม คำพูดเขาทำเอาคนฟังไม่อาจแยกแยะได้ว่าเป็นคำชมหรือคำถากถาง

“แม่งเอ๊ย! เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกล้าดียังไงมาทำจองหอง!”

“ฆ่ามันซะ!”

ยังไม่ทันที่เฉียนเวยจะออกคำสั่ง ลูกน้องเขาหลายคนก็กรูเข้าโจมตี

หากแต่คนพวกนี้ไม่แม้แต่บรรลุขอบเขตพลังภายใน ซึ่งแน่นอนว่าไม่คณามืออวี้ฮ่าวหรานซึ่งอยู่ในขอบเขตก่อรากฐาน

เขาเบื่อจะเสียแรงกับอีกฝ่าย เพียงฝ่ามือเดียวพวกเขาก็ถูกพลังวิญญาณรุนแรงกวาดฟาดเข้าจนเกลี้ยง!

“อ่อก!”

พวกเขากระอักเลือกออกมา หลายคนล้มกองคาที่ เฉียนเว่ยเบิกตากว้างทันทีเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

แข็งแกร่งนัก!

ต่อให้จะเอาชนะลูกน้องเขาได้ แต่ก็ยังถือดีคิดว่าคงไม่อาจล้มตนเองได้ง่าย ๆ!

“แกเป็นใคร!”

แม้จะหวั่นใจอยู่บ้าง แต่เฉียนเวยก็ยังอดตะโกนถามขึ้นไม่ได้

เพียงแค่ฝ่ามือเดียวกลับทำให้ยอดฝีมือ 7 ถึง 8 คนกระอักเลือดและหมดสติได้!

มีเพียงเคล็ดวิชาชั้นเซียนเท่านั้นที่ทำได้!

ฝ่ายตรงข้ามเป็นใครกันแน่?!

อวี้ฮ่าวหรานไม่ตอบ เดินตรงไปยังอ่างน้ำอย่างกับมาเดินเล่น

“อวี้…อวี้ฮ่าวหราน…อวี้ฮ่าวหรานมาเสียที!”

เสียงตะโกนดังทำลายบรรยากาศเงียบงันอึมครึม

“จบเห่แล้ว! มันจบแล้ว…”

เป็นหัวหน้าปฏิบัติการจ้าวที่เอ่ยขึ้น คนของฉลามคลั่งไม่เห็นหน้าเขา ไม่มีทางรู้จักเขาอย่างแน่นอน!

เป็นเขาคนนี้! คนที่ฆ่าหยวนหลงและกล้าท้าทายหลิวอวี้จิง

ขอแค่เขาอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าศัตรูทุกคนจะกลายเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือ

แต่วันนี้ดูเหมือนตนเองจะกลายมาเป็นศัตรูของเขาเสียแล้ว!

เมื่อเห็นว่ามีบางคนรู้จักเขา อวี้ฮ่าวหรานก็อดหันมองไม่ได้ ก่อนพบว่าเป็นคนผู้นี้

เขาใจหายไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าที่แท้มีคนทรยศ โจวเฟยหู่ถึงได้โดนจับตัวไปโดยไม่ทันได้ระวังตัว

“ชิบหายแล้ว!”

เฉียนเวยสบถรุนแรงเมื่อได้ยิน ตัวเองย่อมต้องเคยได้ยินกิตติศัพท์ของชายผู้นี้ รู้ดีว่าอีกฝ่ายน่ากลัวเพียงไหน!

หากแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาใจเสีย!

“ทุกคนรุมเข้าไปเลย! อย่าไปกลัว! มีพวกของเราอยู่แถวนี้ เดี๋ยวก็จะมาถึงกันแล้ว!”

ทว่าเมื่อคำพูดเขาหลุดออกมา อวี้ฮ่าวหรานกลับขำ

“เฮอะ ทุกคนเหรอ? ไม่มีใครเหลือแล้ว มีแต่แกคนเดียวเท่านั้นแหละ!”

อวี้ฮ่าวหรานสะบัดมืออีกครั้งหลังว่าจบ พลังวิญญาณแปรเปลี่ยนเป็นงูเลื้อยโฉบไปมา!

ลูกน้องที่เหลืออยู่ราวสิบคนถึงกับกระอักเลือด หมดสติทรุดลงไปกองกับพื้นทันที!

ภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว!

นี่ถึงจะเรียกได้ว่าทุกคน เหลือเฉียนเวยเพียงคนเดียว!

เป็นเคล็ดวิชาที่น่าประหวั่นเหลือเกิน!

เขาตกอยู่ในอาการสั่นกลัว! เข้าใจในท้ายที่สุดว่าเหตุใดหัวหน้าปฏิบัติการจ้าวถึงได้หน้าตาตื่นราวกับเห็นผีเมื่อพบหน้าอีกฝ่าย!

พลังของชายคนนี้น่าสะพรึงไม่ต่างกับภูตผี!

“อุ่ก…อุ่ก…”

ตอนนี้ระดับน้ำในอ่างท่วมปากโจวเฟยหู่แล้ว ไม่ว่าเขาจะต้องการพูดมากเพียงไหนแต่ก็ไม่อาจพูดได้

“หัวหน้า ผมมาแล้ว… เดี๋ยวผมจะช่วยเอง!”

หัวหน้าจ้าวที่อยู่ใกล้ ๆ รีบดึงสายยางออก ตอนนี้เขาไม่สนการเปลี่ยนท่าทีอีกต่อไป

เฉียนเวยไม่อาจทำสิ่งใดได้ด้วยถูกชายหนุ่มตรงหน้ามองเขม็งราวกับสัตว์ร้ายจับจ้องเหยื่อ!

“แกต้องการอะไรกันแน่?”

สีหน้าของเขาซีดเผือด ความอวดเก่งจองหองก่อนหน้านี้เลือนหายไปหมดสิ้น

“อะไรน่ะเหรอ? ก็จะฆ่าแกไง”

อวี้ฮ่าวหรานไม่คิดยืดเยื้อกับคนประเภทนี้ เขายกมือขึ้นเตรียมจะจู่โจมฝ่ายตรงข้าม

ด้วยพลังในขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูง เขาแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า สามารถใช้พลังวิญญาณคร่าชีวิตอีกฝ่ายได้ภายในฝ่ามือเดียว

“เดี๋ยวก่อน! ขอฉันลงมือเอง!”

หัวหน้าจ้าวช่วยโจวเฟยหู่เอาไว้ ตอนนี้ความโกรธของเขาพุ่งถึงขีดสุด!

ทุกคำดูถูกและคำถากถางทั้งหมดก่อนหน้านี้ โจวเฟยหู่จะตอบแทนให้สาสม!

“ปัง!”

เขาเตะฝ่ายตรงข้ามเต็มแรง ถือว่ารุนแรงไม่น้อย เฉียนเวยที่ถูกเขาเตะถึงกับทรุดลงคุกเข่ากับพื้น

“กล้าดียังไงมาแตะต้องฉัน!”

เฉียนเวยรับแรงกระทืบรุนแรง ความโกรธเกินทนล้นใจ!

“หือ? มีปัญหาอะไรกับฉันหรือไง? น้องอวี้อยู่ที่นี่ แกก็กล้าลองดีหรือไง?”

โจวเฟยหู่ขำเย้ย คราวนี้ถึงทีเขาจะเหยียบย่ำอีกฝ่ายบ้าง!

“ปัง!”

ลูกถีบส่งตรงไปยังแผงอกของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เฉียนเวยเตรียมใช้กำลังภายในป้องกัน

เมื่อโจวเฟยหู่ถีบออก ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถโจมตีได้ แต่ยังถูกแรงกระแทกกลับมาจนถอยกรูดไปหลายก้าว

“ฮึ่ย! ไอ้ขยะนี่!” เฉียนเวยส่งเสียงเย้ยในลำคอ

เขาอยากจะฆ่าไอ้คนโอหังผู้นี้เหลือเกิน ติดเพียงแค่ชายหนุ่มด้านข้างจ้องเขาราวกับเสือ

ชวนให้รับรู้ว่าหากขยับตัวเพียงนิด เขาอาจโดนกำจัดทันที! ดังนั้นแม้จะโกรธแค่ไหน แต่เขาก็ไม่กล้าขยับตัว

“ไอ้เวรนี่! อกแกทำมาจากเหล็กหรือยังไงกัน?”

โจวเฟยหู่เสียหน้าเล็กน้อยเมื่อถูกโต้กลับ เขารู้ว่ากำลังของตนไม่เพียงพอ หากแต่เขามีความสามารถจำกัด ไม่ว่าจะฝึกหนักเพียงไหน แต่ยังยากที่จะบรรลุขอบเขตพลังภายใน

อวี้ฮ่าวหรานนิ่งเงียบมองภาพตรงหน้า แผ่พลังวิญญาณรอบตัว หากอีกฝ่ายขยับตัวเพียงเล็กน้อย ชายหนุ่มจะลงมือทันที

เขาหมดความอดทนในท้ายที่สุด

“เอาล่ะ ฉันจะไว้ชีวิตพวกแกสองคนไว้แล้วกัน”

พลังวิญญาณรอบกายเขาพลันกลับกลายเป็นแส้สองสาย จ้วงเข้าทุกจุดทุ่นพลังของเฉียนเวยและหัวหน้าจ้าว!