ตอนที่ 713 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (3) / ตอนที่ 714 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (4)

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 713 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (3)

“ตอนนี้ระหว่างเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่ว่าฉันหวังว่าต่อไปพวกเราจะเกี่ยวข้องกัน”

“เธอฟังฉันให้ดีนะ ฉันเป็นอาจารย์ของพี่สะใภ้เธอ อาจารย์เป็นบิดา? เธอกับพี่สะใภ้เธอเทียบเท่ากับลูกสาวของฉัน ดังนั้นระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะขัดต่อศีลธรรม…”

“เดี๋ยวก่อน” เจียงฉี่แทรกคำพูดเขา มีสีหน้าไม่เข้าใจ “ระหว่างเราก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆ คุณกับพี่สะใภ้ฉันก็เป็นแค่ศิษย์กับอาจารย์เท่านั้น ระหว่างเรามันจะขัดต่อศีลธรรมได้ยังไงกัน”

เหอสือกุยตอบอย่างจริงจัง “ในใจของฉันมันเป็นเช่นนั้น ดังนั้นความรู้สึกของเธอที่มีต่อฉันมันเป็นไปไม่ได้ เธอควรจะรีบหยุดความคิดเลอะเทอะเหล่านี้ไป”

“ฉันไม่ทำ ฉันชอบคุณจริงๆ ชอบมากๆๆ ขนาดนั้น อาจารย์เหม่ยเหรินคะ คุณลองดูกับฉันก่อนเถอะ” เจียงฉี่ทิ้งการสงวนท่าทีทุกอย่างไป มือจับข้อมือของเหอสือกุยและพูดทุกอย่างในใจออกมาจนหมด

เหอสือกุยมองมือที่โดนเธอจับเอาไว้แวบเดียว แล้วค่อยๆ ดึงมือของเขาออกพร้อมกับแววตาเย็นชาเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเสียงเย็น “ในเมื่อเธอต้องการคำตอบจากฉันให้ได้ งั้นฉันก็จะบอกเธอตอนนี้ ฉันไม่ชอบเธอ ไม่ชอบเลยสักนิดเดียว ดังนั้นฉันไม่สามารถลองคบกับเธอดูได้”

นัยน์ตาของเจียงฉี่สั่นไหวรุนแรง หัวใจราวกับโดนดาบคมแทงทะลุ

ดวงตาของเธอแสบร้อน พยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้น “เพราะอะไร”

เหอสือกุยตอบ “การที่ไม่ชอบคนคนหนึ่งนั้นไม่มีเหตุผล”

“ฉันไม่ดีตรงไหน คุณบอกฉัน ฉันเปลี่ยนให้ได้” เจียงฉี่กะพริบตาจนหยดน้ำตาไหลออกมา มองเหอสือกุยด้วยสายตาพร่ามัว “คุณไม่รู้จักฉันเลยสักนิด บางที…ตอนนี้คุณยังไม่ชอบฉัน ไม่แน่ว่าหลังจากที่ได้รู้จักกันอาจจะชอบฉันก็ได้ คุณไม่ลองดูจะรู้ได้ยังไงว่าชอบหรือไม่ชอบล่ะ”

เหอสือกุยสบตากับเธอด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปเลย แววตาไม่ปรากฏความเห็นใจเลยสักนิด ยังคงพูดด้วยเสียงเย็นต่อ “ไม่ได้ชอบคนคนหนึ่งยิ่งไม่ควรลองดู มันเป็นการกระทำที่ไม่เคารพ ยิ่งกว่านั้นฉันบอกแล้วว่าในใจของฉันเธอเหมือนกับพี่สะใภ้ของเธอ ลองคบกับเธอดูอาจทำให้ฉันเกิดความรู้สึกเหมือนคบกับลูกสาว”

น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ไม่อยู่ไหลลงมา เจียงฉี่ร้องไห้พร้อมกับพูดอย่างโศกเศร้าและเสียใจ “แต่ฉัน…ฉันไม่ใช่ลูกสาวคุณ คุณกำลังพูดจาไร้สาระ อย่างมากที่สุดคุณก็โตกว่าฉันสิบกว่าปี ตอนคุณสิบขวบจะมีลูกสาวคนหนึ่งได้ยังไงกัน”

สะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดต่ออีกครั้ง “ตอนฉันโดนกู้ซูหลิงขู่ คุณช่วยฉัน ปลอบฉัน ถ้าไม่ได้ชอบฉัน ทำไมคุณต้องช่วยปลอบใจฉัน แล้วต่อมาก็ยัง…”

เด็กสาวพึมพำถึงแต่ก่อน เหอสือกุยฟังแล้วจนปัญญาเป็นอย่างยิ่ง

มองเด็กสาวร้องไห้ จนสุดท้ายร้องไห้สะอึกสะอื้น เหอสือกุยคิดจะปลอบสักหน่อย แต่ว่ายื่นแขนออกไปก็ดึงกลับมาอีก

ระหว่างเขากับเธอเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด ในเมื่อเป็นเช่นนี้งั้นเขาจะให้เธอฝันลมๆ แล้งๆ อีกทำไม

ปฏิเสธอย่างโหดร้ายจึงจะทำให้เธอลืมความรู้สึกไร้สาระที่สุดอีกทั้งแปลกประหลาดในช่วงนี้ไปได้จริงๆ

รอให้เจียงฉี่ร้องไห้เสร็จ เหอสือกุยค่อยเอ่ยปาก “ความรู้สึกของเธอที่มีต่อฉันแล้วมันไม่ใช่ความรักอะไร แค่ฉันช่วยเธอแล้วในใจจึงเกิดความรู้สึกขอบคุณขึ้นมา ที่จริงเราต่างอยู่กันคนละโลกและเป็นคนละรุ่น ฉันห่างกับเธอสิบปี เราไม่มีเรื่องที่เหมือนกันและไม่มีความรักเหมือนกัน เด็กผู้หญิงอายุเหมือนกับเธอนี้น่าจะหาเด็กผู้ชายสักคนที่อายุพอกันได้ มีความรักในแบบที่วัยนี้ของพวกเธอควรจะมี…”

โดยไม่รอให้เขาพูดจบ เจียงฉี่ก็พูดเสียงดังขึ้นมา “แต่ว่าฉันไม่ชอบผู้ชายรุ่นเดียวกับฉัน ฉันชอบคุณนี่”

ตอนที่ 714 อกหัก! ยังไม่ทันได้คบเลย (4)

“แต่ฉันไม่มีเวลาอยู่กับเธอ ไม่ความโรแมนติกใดๆ เวลากับเธอ เธอเสียใจ เธอมีความสุขก็ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับฉัน…”

“คุณไม่ใช่ฉัน คุณจะรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบอะไร บางทีฉันก็ชอบแบบนี้ล่ะ” เจียงฉี่พูดอย่างดึงดัน

“แต่ฉันไม่ชอบ” เหอสือกุยขมวดคิ้วมุ่น จับจ้องเธออย่างใจเย็น สุดท้ายค่อยกล่าวอย่างชัดเจน “ฉันไม่ชอบผู้หญิงที่พูดไม่รู้เรื่อง ไม่ชอบผู้หญิงที่นอกจากตามตื๊อฉันแล้วก็ทำอะไรไม่เป็น คนรักเช่นนี้เพิ่งเริ่มคบอาจจะทนนิสัยทำความรู้จักกันได้ แต่ว่าเวลาผ่านไปนานเข้าฉันจะเบื่อ จะรู้สึกว่าเป็นภาระ เธอหวังให้วันแบบนั้นมาถึงเหรอ”

เจียงฉี่ขบริมฝีปากแรง หน้าซีดเผือดไม่มีสีเลือดใด

เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าซึ่งดูเหมือนจะอ่อนโยนแต่แท้จริงแล้วเย็นชา ริมฝีปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มขมขื่นบางๆ

ต่างพูดกันว่าผู้หญิงจีบผู้ชายติดง่ายกว่า แต่ว่าเธอกลับคิดว่าผู้ชายจีบผู้หญิงขอแค่ตามตื๊อ แค่ทุ่มเททั้งใจก็ไม่กลัวว่าจะจีบไม่ติด

แต่ผู้หญิงจีบผู้ชาย ไม่ว่าเธอจะทำอะไร แม้ว่าจะเป็นฝ่ายเข้าหา โยนตัวเองไปให้เขา เขาก็ล้วนไม่มีทางคบกับเธอ

ไม่มีเหตุผล แค่ไม่ชอบ ถ้าเธอตามตื๊อต่อไปอีก เกรงว่าความรู้สึกดีๆ อันน้อยนิดระหว่างพวกเขาจะเลือนหายไปจนหมด

“ขอโทษด้วย เป็นฉันที่บังคับดื้อดึงเอง!”

ทิ้งประโยคนี้เอาไว้ด้วยน้ำเสียงสุภาพและห่างเหิน เจียงฉี่หยิบกระเป๋าแล้วรีบออกไป

ขณะที่อวี๋กานกานได้รับข้อความของเหอสือกุย เธอกำลังเตรียมกล่องข้าวอยู่ วางแผนไว้ว่ากินข้าวเสร็จแล้วก็จะเอาไปส่งที่โรงพยาบาล

ผลกลับได้รับข้อความจากเหอสือกุยบอกว่าเขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว กำลังอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน

ไม่ใช่บอกว่าออกโรงพยาบาลพรุ่งนี้ ทำไมวันนี้ก็กลับบ้านแล้ว อวี๋กานกานรีบโทรกลับไปหาเหอสือกุย

เดิมยังวางแผนไว้ว่าจะไปหาเหอสือกุยที่คอนโดโดยตรง แต่รู้ว่าเจียงฉี่อยู่เธอจึงล้มเลิกความคิดที่จะไป ยังขอให้เจียงฉี่ดูแลอาจารย์เหม่ยเหรินให้ดี

หลังจากวางสาย อวี๋กานกานถือโทรศัพท์เดินวนไปมา

เหตุผลที่เธอรบกวนเจียงฉี่เป็นเพราะคิดว่าเสี่ยวฉี่เหมือนจะชอบตามไปใกล้อาจารย์เหม่ยเหริน เธอกำลังเดาว่าเจียงฉี่จะชอบอาจารย์เหม่ยเหรินใช่หรือไม่

คนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่อีกคนเป็นเด็ก ทำไมรู้สึกแปลกๆ

แต่ว่าอาจาย์เหม่ยเหรินไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเธอ ถ้าเจียงฉี่ชอบจริงๆ ก็เหมือนว่าจะไม่เลวทีเดียว

เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหล เธอชอบ พอเป็นอย่างนี้ก็จะกลายเป็นคนในครอบครัวกันจริงๆ แล้ว แต่ว่าอาจารย์เหม่ยเหรินอาจจะทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง

ถึงตอนนั้นจะเรียกฟังจือหันว่าลูกเขยดี? หรือว่าเรียกว่าพี่ดีล่ะ?

ขณะที่เธอกำลังคิดเช่นนี้ อวี๋กานกานก็หัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมา

หลังจากหัวเราะเสร็จก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ต่อให้เสี่ยวฉี่ชอบอาจารย์เหม่ยเหริน แต่เกรงว่าคงจะเป็นไปไม่ค่อยได้ที่อาจารย์เหม่ยเหรินจะชอบเสี่ยวฉี่ เพราะเธอจำได้ว่าแต่ก่อนอาจารย์เหม่ยเหรินเคยพูดว่าจะหาสักคนที่อยู่สายอาชีพเดียวกัน

มิน่าก่อนหน้านี้เจียงฉี่บอกจะย้ายไปเรียนหมอ…

อวี๋กานกานคิดฟุ้งซ่านมากเกินไปแล้ว เธอไม่ต้องไปส่งข้าวที่โรงพยาบาลจึงขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชั้นบน อาบน้ำ จากนั้นจึงลงมากินข้าว

ขณะที่กำลังจะบอกฟังจือหันว่าวันนี้เธอไม่ต้องไปโรงพยาบาลและถามว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น

อวี๋กานกานลุกไปเปิดประตู เห็นเจียงฉี่ที่ยืนอยู่ข้างนอกก็แปลกใจเล็กน้อย “เสี่ยวฉี่ ไม่ใช่ว่าเธออยู่ที่บ้านอาจารย์เหม่ยเหรินเหรอ”

เจียงฉี่ตาแดง เธอจงใจยิ้มตาเป็นเส้นโค้ง ไม่ให้อวี่กานกานสังเกตได้ หลังจากเข้าบ้านก็ก้มตัวเปลี่ยนรอยเท้าแล้วค่อยตอบ “อาจารย์เหม่ยเหรินจะพักผ่อนแล้ว ฉันก็เลยมานี่”

หลังจากเธอเข้าบ้านก็เห็นอาหารบนโต๊ะจึงถามพร้อมรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ พี่กำลังจะกินข้าวเหรอ”