ตอนที่ 366 มู่มู่น่าเกรงขาม

แม่ครัวยอดเซียน

ถึงแม้ทุกคนจะเข้าใจว่าตนเองทำไม่ถูก วิจารณ์คนอื่นมากเกินไป แต่เมื่อมีข่าวใหม่เกิดขึ้น ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่ดี

“ข่าวใหม่ล่าสุด ฮูหยินของศิษย์พี่จื่อฉีจะประลองกับศิษย์พี่เซวียนหลิง ได้ยินมาว่าใครชนะ ศิษย์พี่จื่อฉีก็จะอยู่กับคนนั้น”

“ข้าได้ยินมาว่าศิษย์พี่จื่อฉีทนให้ศิษย์พี่เซวียนหลิงมารบกวนไม่ได้ ส่วนฮูหยินของศิษย์พี่จื่อฉีที่เป็นหญิงขี้อิจฉาตัดสินใจที่จะกำจัดทุกปัจจัยที่สามารถสั่นคลอนความสัมพันธ์ของนางทิ้ง”

“จะว่าไปแล้ว ภรรยาของศิษย์พี่จื่อฉีชื่ออะไรนะ” ไม่รู้สึกว่าเรียกยากหรือ

“ข้านึกออกแล้ว ชื่อไพเราะไม่น้อยเลยนางชื่อมู่มู่” มีคนพยายามคิด แล้วคิดออกได้ว่าภรรยาของศิษย์พี่จื่อฉีที่ไม่ได้มีชื่อเสียงคนนั้น มีนามว่ามู่มู่

“ฮูหยินมู่มู่ ดูเหมือนว่าตั้งแต่บรรลุขั้นมาก็เอาแต่เข้าฌาน ไม่เคยเห็นนางต่อสู้มาก่อน ไม่รู้ว่าพลังการต่อสู้จะเป็นอย่างไร”

“คิดว่าก็คงจะไม่ได้แย่ ศิษย์พี่จื่อฉีเป็นถึงน้องชายของศิษย์พี่หลง ศิษย์พี่หลงจะเลือกคนที่มีฝีมือห่วยมากๆ มาเป็นภรรยาของน้องตัวเองได้อย่างไร” นี่หมายความว่าเชื่อมั่นในตัวหลิวหลี แต่ไม่เชื่อในสายตาของจื่อฉีอย่างนั้นหรือ

“แต่ศิษย์พี่เซวียนหลิงเป็นผู้บำเพ็ญเพียรในขอบเขตเทพสวรรค์มานาน แต่ฮูหยินมู่มู่ ดูแล้วเหมือนจะเพิ่งจะบรรลุ ความสามารถแตกต่างกันมากขนาดนั้น ไม่ต้องดูก็รู้ผลแล้ว”

“มันก็ไม่แน่ ข้ารู้สึกว่าคนที่รู้จักกับศิษย์พี่หลง ต่างก็เป็นคนที่สามารถสู้กับคนที่ระดับเหนือกว่าตัวเองได้ ใครจะตายใครจะรอด ก็ยังไม่แน่”

“ข้ารู้สึกว่าพวกเราจะต้องลองติดตามสถานการณ์ต่อไป”

บนสนามประลอง ผู้หญิงทั้งสองคน คนหนึ่งเร่าร้อนดั่งไฟ อีกคนสงบนิ่งราวกับต้นไผ่ เป็นพลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทุกคนค่อนข้างเอนเอียงชื่นชอบมู่มู่มากกว่า เพราะนางให้ความรู้สึกที่สบายๆ แต่ความเร่าร้อนที่เซวียนหลิงปล่อยออกมา กลับทำให้คนอื่นรู้สึกรังเกียจ

“ศิษย์น้อง ศิษย์พี่ไม่ได้ประลองฝีมือมานานแล้ว หากลงมือหนักไป ก็ต้องขออภัยด้วย” เซวียนหลิงพูดขึ้นอย่างเสแสร้ง

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เป็นมู่มู่ที่มาขอคำแนะนำจากศิษย์พี่เอง หากว่ามู่มู่ได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นเพราะมู่มู่บำเพ็ญฝึกฝนได้ไม่ดีพอ” มู่มู่ส่ายหัวแล้วพูดขึ้น วันนี้จะต้องทำให้เรื่องนี้จบสิ้นไป ผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่ตนเองบรรลุขึ้นมา ก็เอาแต่บอกให้สามีของนางเปลี่ยนคู่ครอง พยายามแสดงออกว่าตัวเองอยากมาแทนที่ แต่เมื่อเจอท่านพี่ก็เหมือนหนูเจอแมว เป็นคนที่ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ถ้าเช่นนั้นคิดว่าตัวเองเป็นคนที่อ่อนแอกว่าหรือ ตัวนางเองก็เก่งมากเหมือนกัน

“ถ้าเช่นนั้น ศิษย์น้อง เริ่มได้หรือยัง” อีกฝ่ายให้ข้ออ้างที่ดีขนาดนี้กับนางแล้ว หากนางไม่คว้าเอาไว้ ก็เสียโอกาสแย่

และเป็นอย่างที่จื่อฉีคาดการณ์เอาไว้ แรกๆมู่มู่แพ้ราบคาบ ใบหน้าปรากฏรอยแผลขึ้นไม่น้อย ทำให้จื่อฉีรู้สึกปวดใจ

“เหอะๆ นิสัยแบบสุมาเจียวของศิษย์พี่เซวียนหลิงใครๆก็รู้ ดูสิ การลงมือเช่นนี้ไม่ได้เรียกว่าชี้แนะแล้ว นี่จะฆ่ากันชัดๆ คงจะรีบร้อนอยากจะมาแทนตำแหน่งมู่มู่จะแย่”

“ข้ารู้สึกว่าหากเกิดเรื่องขึ้นกับฮูหยินมู่มู่ ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พวกเจ้าดูสายตาของศิษย์พี่จื่อฉี แดงก่ำเลย ดูเหมือนกำลังจะพยายามอดทนกับอะไรบางอย่างอยู่”

“ข้ากลับรู้สึกว่าฮูหยินมู่มู่ไม่แพ้หรอก นางแค่กำลังปรับตัว อย่างไรเสียนางก็ไม่เคยประลองมาก่อน อีกอย่างพวกเจ้าดูสายตาของนางสิ ความมุ่งมั่นของนางนั้น แค่มองข้ายังรู้สึกเสียวสันหลังไปหมด ฮูหยินมู่มู่เป็นคนที่รักการทำสงครามแน่ๆ”

จื่อฉีได้ยินคำพูดพวกนี้ก็รู้สึกอยากจะหัวเราะออกมา ฮูหยินของเขาเป็นคนที่รักการทำสงคราม ช่างน่าขันยิ่งนัก ก่อนที่จะรู้จักกับเขา ก่อนที่จะรู้จักกับท่านพี่ นังหนูคนนี้เกลียดการประลองฝีมือ เกลียดการต่อสู้แย่งชิง แต่ว่าวิบากกรรมในครั้งนั้นทำให้นางเติบโตขึ้น เวลาสู้รบขึ้นมาก็ไม่แพ้เขาเช่นกัน ไม่ใช่คนที่ผู้หญิงที่ลืมการต่อสู้ รู้จักแต่การฉวยโอกาสจากคนอื่น จะมาเทียบเทียมได้ พลังบำเพ็ญเพียรไม่ใช่ตัวตัดสินทุกอย่าง คอยดูก็แล้วกัน อีกไม่นานภรรยาของเขาจะเริ่มโจมตีกลับแล้ว

“พระเจ้า ฮูหยินมู่มู่เพิ่งจะบรรลุขอบเขตเทพสวรรค์จริงๆหรือ เมื่อเทียบกับเมื่อครู่นี้แล้ว ราวกับเป็นคนละคน” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป มู่มู่เริ่มโจมตีกลับ ความสามารถในการลงมือไม่ต่างอะไรกับเซวียนหลิง คนที่คิดจะมาแย่งสามีจากนาง นางจะออมมือให้ทำไม

“พระเจ้า ฮูหยินมู่มู่ไม่ธรรมดาจริงๆ ลงมือได้โหดเหี้ยมมาก”

“เอาเถอะ ข้ารู้สึกสนุกมาก ศิษย์พี่เซวียนหลินแต่ก่อนชอบมองคนผ่านปลายจมูก คิดว่าตัวเองเป็นศิษย์ระดับพิเศษ ไม่มีใครสู้ได้ ตอนนี้มาแพ้ให้กับศิษย์ระดับธรรมดา ไม่รู้ว่าในใจของนางจะคิดอย่างไร ไม่รู้ว่าจะมีปมไปเลยหรือเปล่า”

เซวียนหลิงเหลือเชื่อจริงๆ คนระดับล่างที่เพิ่งจะบรรลุขอบเขตเทพสวรรค์ สามารถสู้กับนางได้ถึงขนาดนี้ เดิมคิดว่าเป็นเกมที่แมวหยอกหนู ตอนนี้กลับถูกตบหน้าเข้าอย่างแรง ไม่ได้ นางจะแพ้ไม่ได้ นางแพ้ไม่ได้

แล้วการประลองต่อจากนั้นก็แสนน่าตื่นตาตื่นใจ จนคนอื่นไม่อยากแม้แต่จะกระพริบตา ที่แท้การประลองระหว่างผู้หญิงก็สนุกไม่แพ้กัน แข็งแกร่งได้ขนาดนี้ แข็งแกร่งจนทำให้พวกเขายังละอายใจ

“ข้าตัดสินใจแล้ว คนเดียวก็ดีอยู่แล้ว”

“ข้าก็คิดเหมือนกัน ไม่มีความสามารถขนาดนั้น อยู่คนเดียวก็ได้” ผู้หญิงช่างโหดร้ายเหลือเกิน ทำไมถึงได้มีผู้หญิงที่โหดร้ายเช่นนี้อยู่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเป้าหมาย คนหนึ่งต้องการปกป้องสามี อีกคนเป็นคนหน้าหนา ใช่แล้ว ในสายตาของทุกคน เซวียนหลิงเป็นคนหน้าหนา ขนาดถูกปฏิเสธถึงขั้นนั้น ก็ยังตามรังควานอีกฝ่ายไม่หยุด ถึงแม้จะบอกว่าผู้บำเพ็ญไม่สนใจเรื่องพวกนี้ แต่ถูกปฏิเสธชัดเจนขนาดนั้นแล้วยังทำตัวเช่นนี้อีก ทำให้คนอื่นรู้สึกรังเกียจอย่างยิ่ง พวกเขาต่างก็รู้สึกว่าศิษย์พี่เซวียนหลิงกับเยว่ฮุยที่สูญเสียสถานะศิษย์ระดับพิเศษเหมาะสมกันอย่างที่สุด

“ผู้หญิงแบบศิษย์พี่หลงกับฮูหยินมู่มู่มีไม่มาก อย่างไรเสียคนที่มีพลังการต่อสู้ดุเดือดขนาดนี้มีไม่กี่คนก็พอแล้ว หากว่าเป็นอย่างนี้กันหมด ผู้ชายจะใช้ชีวิตกันอย่างไร”

“รีบดูเร็ว บนสนามดูเหมือนมาถึงจุดเดือดแล้ว”

การประลองระหว่างมู่มู่กับเซวียนใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว อีกไม่นานก็จะมีผลออกมา ไม่รู้ว่าจะเพราะฮูหยินมู่มู่ต้องการจะปกป้องสามีอย่างมาก จนพลังการต่อสู้เดือดทะลุปรอท ส่งผลให้นางเอาชนะเซวียนหลิงมาได้อย่างหวุดหวิดหรือเปล่า แต่ว่าตอนนี้สภาพของทั้งสองคนต่างก็ดูไม่ได้เลยจริงๆ

“ศิษย์พี่เซวียนหลิง ต่อไปอยู่ห่างจากสามีของข้าหน่อย ข้าจะบอกอะไรให้ สิ่งเดียวที่ท่านมีดีกว่าข้าก็คือ ท่านมีพรสวรรค์มากกว่าข้าแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่คาดว่าก็คงจะถูกท่านทำลายเองไปไม่น้อยแล้ว ส่วนที่เหลือไม่มีอะไรที่ท่านสู้ข้าได้เลย” มู่มู่กระอักเลือดออกมาแล้วพูดขึ้น ฝีมือแค่นี้ยังมากล้าแย่งสามีของนาง ไปเอาความกล้ามาจากไหน

จื่อฉีไม่ได้พูดไม่จา ป้อนยาศักดิ์สิทธิ์ใส่ปากมู่มู่ทันที และอุ้มนางขึ้นโดยไม่ปรายตามองเซวียนหลิงที่นอนกองกับพื้นเลยแม้แต่น้อย คนพวกนี้มองไปก็เสียสายตา

“โถ่ นี่เป็นศิษย์ระดับพิเศษที่มีสิทธิพิเศษอย่างนั้นหรือ สู้ศิษย์ระดับธรรมดาไม่ได้ด้วยซ้ำ ดูท่าแล้วศิษย์ระดับพิเศษคงจะเป็นแค่ชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีความสามารถอะไรเลยจริงๆ”

“ก็ใช่ มีดีกว่าเราแค่พรสวรรค์ พลังการต่อสู้อาจจะสู้พวกเราไม่ได้ด้วยซ้ำ เกิดมาพร้อมกว่าพวกเรา แค่มีจุดเริ่มต้นที่ดีกว่าเท่านั้นเอง”

“ไม่นานก็คงถูกตัวนางเองทำลายจนหมด ตัวอย่างศิษย์ระดับพิเศษกลายเป็นศิษย์ธรรมดาก็มีให้เห็นกันอยู่”

“แต่ผู้หญิงคนนี้ร้ายจริงๆ รู้จักเล่นสกปรก ไม่คิดจะลงมือทำอะไรเอง บนโลกนี้มีเรื่องที่สบายขนาดนั้นที่ไหน”

“หากว่าเป็นอย่างนั้นกันหมด ใครจะยังบำเพ็ญฝึกฝนกัน นั่งรอความสำเร็จก็พอแล้ว จิตใจไร้ซึ่งคุณธรรม คาดว่าอีกไม่นานก็คงจะกลายเป็นแค่คนธรรมดา”

เมื่อได้ยินคำพูดเสียดสีของคนพวกนั้น เซวียนหลิงก็หลับตาลง ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้สักหน่อย

…………………………………….