บทที่ 934 ความตายและ…ความเกลียดชัง

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

ผีเสื้อพุ่งตัวเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด!

เขากำลังสู้สุดตัว สู้ด้วยความเร็วและการตอบสนอง เพื่อไม่ให้หลิงม่อแผ่หนวดสัมผัสออกมาเพิ่มในเวลาสั้นๆ นี้

การใช้พลังจิตนั้นก็จำเป็นต้องใช้เวลาและการเตรียมพร้อมเช่นกัน ไม่ว่าจะมีสมาธิแน่วแน่ขนาดไหน ระหว่างที่คิดไปจนถึงตอนที่หลอมรวมพลังจิตเป็นหนวดสัมผัส ก็ต้องมีช่วงเวลาที่สะดุดไปบ้าง และสิ่งที่เขาจะทำ ก็คือการฉวยโอกาสพุ่งตัวเข้าไปหาหลิงม่อในช่วงเวลานั้น และโจมตีเขาให้พ่ายแพ้ในครั้งเดียว!

“ถ้าฆ่าแกทิ้ง ฉันก็จะดำเนินแผนการของฉันต่อไปได้! ถ้าฉันฆ่าแก! ฉันก็จะได้อะไรอีกมาก! เรื่องแบบนี้ไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะทุกคนต่างทำเพื่อมีชีวิตรอดทั้งนั้น…ใช่แล้ว เพื่อมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้น…”

สีหน้าของผีเสื้อเหี้ยมโหดขึ้นกว่าเดิม!

ใกล้แล้ว…เหลืออีกยี่สิบเมตรเท่านั้น! อากาศที่กำลังไหลเวียนกลุ่มนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว!

ทว่า…

“ทำไมหยุดแล้วล่ะ?” ผีเสื้อชะงักไปเล็กน้อย

ทันใดนั้น…อากาศรอบตัวหลิงม่อพลันสงบนิ่ง

ไม่มีคลื่น ไม่มีรังสีอำมหิต ไม่มีอะไรเลย…

เขายอมแพ้แล้ว? ไม่ เป็นไปไม่ได้ สีหน้าของเขา…ใบหน้าของเขา ยังคงน่าชังเหมือนเดิม ไม่มีสีหน้าแห่งความกลัว หรืออาการลนลานใดๆ ที่ผีเสื้ออยากเห็นเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้กระทั่งเหงื่อผุดออกมาซักเม็ด การที่คู่ต่อสู้ใจเย็นได้ถึงขั้นนี้ ถือเป็นความอัปยศอย่างหนึ่งของผีเสื้อ!

ถ้าอย่างนั้น หรือว่าเขาสร้างกับดักอะไรไว้งั้นหรอ?

“พื้น!” ผีเสื้อรีบใช้พลังสัมผัสกับพื้นดินทันที

นอกจากความเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผลเมื่อครู่ เขาก็ไม่รู้สึกถึงสิ่งอื่นใดอีก

“หรือบนหัว?”

แต่ด้านบนก็สงบนิ่งมาก…

ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด ระยะห่างระหว่างผีเสื้อกับหลิงม่อก็ลดลงไปอีก—

ยังเหลืออีกสิบเมตร!

“ทำยังไงดี?” ผีเสื้อจ้องหลิงม่อเขม็ง

เรื่องผิดไปจากที่เขาคาดไว้มากทีเดียว เขาไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในเวลาอย่างนี้

เขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว จะพุ่งเข้าไปต่อไป หรือจะสังเกตการณ์ก่อนดี?

“ไม่ทันแล้ว…ถ้าหากเลือกถอยตอนนี้ กลับจะทำให้หมอนั่นขึ้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ…จนถึงตอนนี้ หมอนั่นก็มีแค่การโจมตีไร้รูปนั่นอย่างเดียว…

ความคิดมากมายแวบผ่านสมองอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียว ผีเสื้อก็พุ่งตัวเข้ามาในรัศมีสิบเมตรนั้นแล้ว!

“มาแล้ว”

เทียบกับผีเสื้อ หลิงม่อดูสงบนิ่งกว่ามากทีเดียว

นับจากวินาทีที่เขาหลับตา เขาก็ได้พุ่งสมาธิทั้งหมดไปยังการควบคุมหนวดสัมผัส

นี่เป็นการปะทะกันอย่างตรงไปตรงมาที่สุดครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เขาก็ต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น!

ผีเสื้อทำเพื่ออยู่รอด แต่เขากลับทำเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่กับพวกเย่เลี่ยน…

ไม่เพียงต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พวกเธอยังต้องวิวัฒนาการต่อไปเรื่อยๆ ภายใต้การช่วยเหลือของเขา…

“และตัวตนของฟางอิ๋งกับแก ก็ได้นำข้อมูลอันล้ำค่ามาให้พวกฉัน…ดังนั้น…”

สายลมแรงกลุ่มหนึ่งพลันพุ่งเข้ามา ถึงแม้หลับตาอยู่ แต่หลิงม่อก็สัมผัสได้ว่าผีเสื้อกลุ่มนั้นได้รวมตัวกันจนกลายเป็นพลังงานอันน่ากลัว และกำลังพุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงราวกับใบมีดมากมาย หากถูกโจมตีเข้า จุดจบก็คงต้องพิการ หรือไม่ก็ตายไม่เหลือซาก

“คิดไม่ถึงว่าการระเบิดพลังจะรุนแรงขนาดนี้…และเพราะมีหนึ่งดำหนึ่งแดงสินะ ถึงสามารถเปลี่ยนพละกำลังของตัวเองให้กลายเป็นเหมือนเครื่องบดเนื้ออย่างนี้ได้…” หลิงม่อยังคงครุ่นคิดแม้ในยามคับขัน

“ตายซะเถอะ!” ขณะที่ปล่อยหมัดนี้ออกไป ผีเสื้อพลันเผยรอยยิ้มประหลาดออกมา เป็นรอยยิ้มที่ทั้งคลายใจ ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและน่าเกลียด ราวกับว่าเขามองเห็นภาพที่หลิงม่อกำลังตายอย่างน่าอนาถ และถูกฉีกร่างเป็นชิ้นๆ ซึ่งนั่นเป็นภาพที่งดงามที่สุดสำหรับเขา…

“หึหึ ฉันกลายเป็นอย่างนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…เพราะผลกระทบจากเชื้อไวรัสงั้นหรอ? บางทีอาจใช่…ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ฉันเริ่มเกลียดชังคนอื่นๆ…แต่ในเมื่อคนอย่างฉันยังได้รับพลังพิเศษ และรอดมาจนถึงตอนนี้ได้ ก็แสดงว่าฉันสมควรมีชีวิตอยู่ต่อไป และเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าอุปสรรคที่ขวางทางจะเป็นสิ่งใด ฉันจะกำลังทิ้งให้สิ้นซาก!”

ผีเสื้อพลันยื่นฝ่ามือไปหมายจะคว้าหัวหลิงม่อ ราวกับว่าเขามองเห็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้าอย่างไรอย่างนั้น —

เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นกะทันหัน กระดูกที่ค่อยๆ แตกหัก สีหน้าของคู่ต่อสู้ยามที่รู้ว่าสถานการณ์ได้พลิกผันไปแล้ว…

“จะว่าไปแล้ว ฉันเหมือนจะชอบความรู้สึกอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าพี่ชาย หรือน้องสาวที่ชอบมากกว่ากัน…”

“ฉึก!”

เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆ ข้างหู ผีเสื้อพลันทำหน้างุนงงอย่างชัดเจน

ทว่าไม่นาน เสียงคล้ายๆ กันนี้ก็ดังขึ้นติดๆ กันข้างผีเสื้ออีกหลายครั้ง เหมือนเสียงของน้ำมันที่ระเบิดพุ่งขึ้นมาจากท่อ!

“นี่มันเสียงอะไรกัน?” ในที่สุดผีเสื้อก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

การไหลเวียนของอากาศ…บริเวณรอบๆ ซึ่งมีเขากับหลิงม่อเป็นศูนย์กลาง พลันมีการไหลเวียนของอากาศอย่างรุนแรงเกิดขึ้น

หรือหากพูดกันตามจริง มันเรียกว่าพายุต่างหาก!

ผีเสื้อสามารถบินทวนสายลมได้ แต่ท่ามกลางพายุอันบ้าคลั่ง ก็อาจถูกฉีกทึ้งร่างกายจนกลายเป็นชิ่นเล็กชิ้นน้อย!

“เป็นไปไม่ได้…เมื่อกี้ฉันไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยนี่นา!”

ขณะที่ผีเสื้อยังไม่อยากจะเชื่อ ร่างกายของเขาก็ได้โน้มไปข้างหน้าตามแรงพายุ เลือดมากมายพลันพุ่งออกมาจากหลายจุดในร่างกายเขา

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ไม่เพียงทำให้ผีเสื้อตื่นตะลึง แต่ยังทำให้ถังฮ่าวที่กำลังรอลุ้นผลร้องออกมาอย่างตกใจด้วย

ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้!

เสี้ยววินาทีที่แล้วยังนึกว่าหลิงม่อต้องตายแน่ๆ อยู่เลย แต่ตอนนี้ คนที่ได้รับบาดเจ็บกลับกลายเป็นผีเสื้อ?

ถังฮ่าวที่อยู่ห่างออกไป และยังขาดพลังสัมผัสรู้อันแข็งแกร่ง ไม่รู้เลยว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นในเสี้ยววินาทีสั้นๆ นั้น ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ผีเสื้อที่เป็นคนถูกโจมตีเอง ก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“อ๊อก!”

เมื่อผีเสื้อกระอักเลือดออกมา เสียงเย็นชาของหลิงม่อก็ดังมาจากด้านข้าง

“ตอนแรกฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ก็เพิ่งจะมาเข้าใจเมื่อกี้นี้เอง แกไม่ได้กำลังสู้คนเดียวจริงๆ…”

แต่ในขณะที่พี่ฉีมีบทบาทสำคัญ หรือตอนที่ผีเสื้อใช้เพศชายนั้น ส่วนที่เป็นน้องสาวก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ

พี่ฉีจู่โจม ในขณะที่เธอสัมผัสรู้

“ส่วนทำไมแกถึงสัมผัสรู้ได้ เกรงว่ามันน่าจะเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างร่างกายของแกสินะ? แต่ว่า ความจริงมันไม่ได้สำคัญเลย”

ไม่ว่าผีเสื้อจะสัมผัสรู้ถึงเขาได้อย่างไร ในเวลาสั้นเพียงเท่านี้ ขอเพียงเขาเข้าใจวิธีการสับเปลี่ยนของผีเสื้อก็พอแล้ว

“วินาทีที่พลังสัมผัสรู้ของแกอ่อนที่สุด คือตอนที่พวกแกทั้งสองคนมีตัวตนอยู่พร้อมกัน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ…แค่ฟังเสียง หรือลมหายใจของแก ก็สามารถตัดสินได้แล้ว”

ผีเสื้อที่ลอยอยู่กลางอากาศยังคงกระอักเลือดอย่างต่อเนื่อง และจ้องหลิงม่ออย่างเคียดแค้น แต่มีเรื่องหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจเลยซักนิด

เขาหยุดนิ่งอยู่กับที่อย่างใจเย็นได้ยังไง?

“ดูเหมือนแกจะไม่เข้าใจสินะ…ง่ายมาก แค่หยุดความคิดทั้งหมด แล้วเพ่งสมาธิไปที่ลมหายใจของแก จากนั้นก็ปรับไปตามลมหายใจของแก แค่นี้ก็ได้แล้ว”

ขณะที่พูด หลิงม่อก็ล้วงปืนพกกระบอกหนึ่งออกมาอย่างแช่มช้า

“เดี๋ยว…” ผีเสื้อเพิ่งจะเค้นเสียงพูดออกมาคำหนึ่ง ก็ถูกหลิงม่อพูดแทรกก่อน

“ขออภัย ฉันยังมีธุระต้องไปทำต่อ คงอยู่เสียเวลากับแกที่นี่ต่อไปไม่ได้”

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ หากจะใช้คำว่าน่าเวทนาจนกว่าจะทนดูมาบรรยายก็คงจะไม่เกินไป…

ถึงแม้จะอยู่ห่างกันเพียงไม่ไกล แต่การต่อสู้ที่เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จบก็รวดเร็วเช่นกันในครั้งนี้ กลับเงียบสงบลงอย่างแท้จริงหลังจากเสียงลั่นไก “ฟุบ ฟุบ ฟุบ” ดังขึ้นเบาๆ เกือบสามสิบนัดเลยทีเดียว และในระหว่างนั้น ยังมีเสียงเปลี่ยนปลอกกระสุนดังผสมอยู่ด้วย…

“ฮู่ว…”

หลิงม่อถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็ลดปืนลง

เวลานี้ บนพื้นข้างหน้าเขา เต็มไปด้วยเลือดสดๆ ที่สาดกระเซ็นไปทั่ว…

ผีเสื้อนอนคว่ำอยู่บนพื้น แต่เขากลับยังไม่สิ้นลม ร่างกายกระตุกสั่นไม่หยุด

เขามองหลิงม่อด้วยใบหน้าซีกที่เป็นสีแดง สายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและอาฆาต

“ฉัน…”

หลิงม่อเดินไปนั่งยองๆ ลงตรงหน้าเขา บอกว่า “เจ็บใจ?”

มุมปากผีเสื้อกระตุกเล็กน้อย เหมือนอยากถ่มน้ำลายใส่เขา แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงปล่อยให้เลือดไหลออกจากปากอย่างอ่อนแรง

เขาหันไปมองปืนพกของหลิงม่อ จากนั้นก็พยายามเค้นเสียงหัวเราะเหยียดหยาม

“แก…”

หลิงม่อยกปืนพกขึ้นมาตรงหน้า บอกว่า “อ๋อ อันนี้น่ะหรอ? แค่เอามาใช้ก่อกวนการสัมผัสรู้ของแกต่อการไหลเวียนของอากาศเท่านั้นล่ะ”

“ตามคาด…คนที่ฉันเกลียด…ความจริง…คือตัวเอง…”

ม่านตาของผีเสื้อค่อยๆ ขยายกว้างขึ้น ทันใดนั้นแขนขาทั้งสี่ข้างของเขาพลันกระตุกสั่นอย่างรุนแรง จากนั้นก็แน่นิ่งไป แต่ดวงตาของเขายังคงเบิกกลม มีเพียงผีเสื้อบนผิวหนังเขาที่กำลังค่อยๆ จางหายไปช้าๆ

“สิ่งที่ผู้มีพลังกลายพันธุ์ต้องใช้ในการเผาผลาญ คือพลังชีวิตของตัวเองอย่างนั้นหรอ? หรือว่า มีพลังจิตรวมอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง?” หลิงม่อก้มหน้ามองแวบหนึ่ง จากนั้นจึงค่อยหยัดตัวลุกขึ้น

เสี้ยววินาทีที่เขาหันหน้าไป ถังฮ่าวที่กำลังจ้องเขาด้วยสภาพปากอ้าตาค้างพลันตัวสั่นสะท้านทันที

—————————————————————————–