บทที่ 936 ความจริงแล้วเป้าหมายของฉันคือ จั่วไพ่ตัดหน้า! (เป็นสำนวนหมายถึง ช่วงชิงความสำเร็จ)

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

“ฮั่ก…ฮั่ก…”

ในทางเชื่อมเส้นหนึ่งของอุโมงค์ลิฟต์บริษัทลอว์สัน

ทันใดนั้น หลี่ย่าหลินที่อยู่ข้างหน้าพลันหันหน้ากลับมา แล้วถามอย่างเป็นห่วง “ไหวหรือเปล่า?”

หุ่นซอมบี้ที่กำลังปีนตามหลังเธอมาอย่างเหน็ดเหนื่อยหอบหายใจแรงๆ อีกสองครั้ง แล้วพยักหน้าบอกว่า “โอเคแล้วล่ะ แค่เมื่อกี้ควบคุมได้ไม่ค่อยราบรื่นนัก…”

แค่ไม่ราบรื่นเสียที่ไหนกัน!

ในเวลาคับขัน เขาเกือบถูกตัดสายสัมพันธ์ทางจิตขาดไปแล้วด้วยซ้ำ!

ทว่าต่อสู้ติดต่อกันนานขนาดนี้ หลิงม่อเองก็รู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ

โชคดีที่ระหว่างต่อสู้กับผีเสื้อ ภารกิจของหุ่นซอมบี้ก็เหลือเพียงต้องไต่สลิง ซึ่งนั่นทำให้เขาจดจ่อได้มากขึ้น…

ไม่กี่นาทีก่อน ตอนที่เสียงนั้นดังมากจากทางเชื่อมเส้นนี้ พวกเขาก็รีบตามเข้ามาทันทีอย่างไม่ลังเล

แต่หลังจากเข้ามา พวกเขาก็ค้นพบว่าข้างในนี้มีสภาพภูมิประเทศที่ซับซ้อนกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก ทั้งสองตกอยู่ในสถานการณ์ยุ่งเหยิงที่ราวกับกำลังปีนเขาวงกตก็ไม่ปาน ถ้าหากไม่ใช่ว่าตลอดทางมีกลิ่นอายของซย่าน่าอยู่ พวกเขาคงถูกความมืดที่ไร้จุดสิ้นสุดและการปีนป่ายอันน่าเบื่อนี้ทำให้หงุดหงิดไปนานแล้ว…

“ซย่าน่าปีนเข้ามาลึกขนาดนี้ เพราะไล่ตามอะไรบางอย่างมาตลอดทางแน่ๆ…” หลี่ย่าหลินพูดขึ้นจากข้างหน้า

ถึงแม้ที่นี่จะมืดจนไม่มีแสงแม้แต่น้อย แต่มันกลับไม่มีผลกระทบต่อการมองเห็นของซอมบี้เลย

หลิงม่อเพียงเงยหน้า ก็จะมองเห็นสะโพกของหลี่ย่าหลินส่ายไปส่ายมาอยู่ตรงหน้าพอดี

อาจเป็นเพราะเธอเป็นนางพญางูผู้เลอโฉม ท่าทางในการปีนป่ายของเธอจึงดูงดงามกว่าปกติ กระทั่งดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจเลยทีเดียว

และเนื่องจากมีสะโพกส่ายไปส่ายมาอยู่ตรงหน้า หลิงม่อจึงได้ปีนป่ายอย่างมีความสุขขึ้นมาหน่อย…

“หลิงม่อ นายว่าใช่ไหม?” หลี่ย่าหลินถาม

“อะแฮ่ม…ดูเหมือนว่าจะใช่นะ” หลิงม่อตอบรับ แต่กลับร้อง “เอ๋” ขึ้นมา

เขายื่นมือข้างหนึ่งออกไปลูบผนังปูนข้างตัวเองก่อน จากนั้นก็พึมพำอย่างสงสัย “น่าแปลกมาก…”

“เป็นอะไรไป?” หลี่ย่าหลินพลันชะงัก แล้วถามอย่างระแวดระวัง

คราวนี้หลิงม่อยกมือขึ้นลูบผนังปูนบนหัว ปากก็พูดว่า “ผนังทั้งสี่ด้านของทางเชื่อมเส้นนี้ลื่นมาก แต่ดูจากรูปทรง กลับไม่เหมือนถูกขุดขึ้นด้วยอุปกรณ์เฉพาะทาง อย่างตรงนี้ก็เหมือนกัน” อยู่ๆ เขาก็หยุดที่จุดหนึ่ง ไม่ต้องดูก็รู้ว่า ตรงนั้นมีรอยมืออยู่สองรอย “พวกมันขุดที่นี่ขึ้นด้วยมือพวกมันเอง”

หลังลูบเสร็จ เขาก็พูดขึ้นอย่างเสียดาย “ร่องรอยนี้ไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถเทียบเพื่อหาจุดแตกต่างจากนิ้วมือของซอมบี้ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ คงได้รู้แล้วว่าสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ในนี้เป็นซอมบี้หรือไม่กันแน่”

“แต่ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์” หลิงม่อพูดขึ้นอีก

หลี่ย่าหลินกลับถามอย่างสงสัย “ทำไมล่ะ?”

“ถ้าหนูขุดรู มันจะขุดให้แมวมุดเข้าไปได้ไหม? ทางเชื่อมอย่างนี้เห็นชัดว่าพวกมันสร้างขึ้นเพื่อตัวเอง เพราะซอมบี้ที่อยู่ข้างนอกพวกนั้นไม่คิดจะเข้ามาในนี้อยู่แล้ว…” หลิงม่ออธิบายอย่างใจเย็น

“รูปร่างคล้ายคน…”

“อื่ม อีกอย่างพวกมันยังใช้ทางเชื่อมพวกนี้บ่อยมากด้วย ผิวผนังในนี้ถึงได้ถูกสีจนลื่นขนาดนี้” หลิงม่อบอก จากนั้นก็พูดเสริมอีกครั้ง “ถ้าเป็นอย่างนั้น มนุษย์ก็จะเข้ามาไม่ได้อีก ที่นี่ไม่เพียงลื่นมาก แต่พวกมันยังขุดในมุมที่ประหลาดมากอีกด้วย…”

ความจริงแล้ว ที่นี่ถูกขุดขึ้นตามพื้นที่ว่างระหว่างท่อที่มีอยู่แล้ว ดังนั้นระหว่างที่กำลังปีนเข้ามา พวกเขามักเจอมุมตั้งฉากเก้าสิบองศาอยู่หลายครั้ง นอกจากนี้ ทันทีที่มนุษย์เข้ามาในนี้ ก็เท่ากับว่าได้ทิ้งข้อได้เปรียบทั้งหมดของตัวเองไป และเอาตัวเองมาอยู่ในพื้นที่ที่อันตรายที่สุดนั่นเอง

ถ้าหากสิ่งที่พวกผีเสื้อตามหาอยู่ที่นี่จริงๆ ก็คงไม่แปลกที่พวกเขาล้มเหลวทุกครั้ง และสุดท้ายก็ทำได้แค่ฝากความหวังไว้กับพวกหลิงม่อแทน

และพอนึกถึงเรื่องนี้ หลิงม่อก็หายใจรัวเร็วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว…

ตลอดทาง เรื่องที่ทำให้เขาสงบจิตสงบใจได้ยากที่สุด ก็คือเรื่องนี้แหละ!

มีอะไรบางอย่าง ที่สามารถกำจัดผลข้างเคียง “สูญเสียสติปัญญา” ของพวกผีเสื้อได้…ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่สามารถกำจัดผลข้างเคียงได้ ถ้าอย่างนั้นของสิ่งนั้นก็ต้องมีประโยชน์กับพวกเย่เลี่ยนมากแน่ๆ!

มาคิดดูตอนนี้ แม้แต่เรื่องที่ฟางอิ๋งสามารถรักษาอารมณ์ความรู้สึกบางส่วนของมนุษย์ไว้ได้ ก็อาจเกี่ยวกับสิ่งนี้ด้วย! ถึงแม้ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่อาจส่งผลกระทบทางอ้อมก็ได้

โดยเฉพาะยิ่งหลังจากที่ประมือกับผีเสื้อ หลิงม่อก็ยิ่งคาดหวังกับเรื่องนี้มากกว่าเดิม!

ไม่ว่าจะเป็นถังฮ่าวหรือผีเสื้อ หลังจากที่พวกเขาแปลงร่างพวกเขาล้วนดูเหมือนซอมบี้มาก โดยเฉพาะเรื่องนิสัยอันบิดเบี้ยวโหดร้าย พวกเขาแทบไม่ต่างอะไรจากซอมบี้เลย

นิสัยบางด้านแสดงออกมาชัดเจนขึ้น…สำหรับซอมบี้ จุดนี้เป็นข้อเสียที่ไม่อาจเลี่ยงได้ แน่นอน ว่านี่เป็นมุมมองจากมุมของมนุษย์ แต่หากยืนอยู่ในมุมมองของซอมบี้ เพราะความคิดและการทำอะไรอย่างตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อนอย่างนี้ พวกมันจึงแสดงพลังต่อสู้ของตัวเองออกมาได้อย่างดีที่สุด

ข้อเสียที่เหมือนกับซอมบี้เป๊ะ เพราะการค้นพบนี้เอง ที่ทำให้หลิงม่อสนใจในสิ่งที่พวกเขากำลังพยายามไขว่คว้าขึ้นมา!

ถ้าไม่ใช่เพราะมีความสามารถในการควบคุมตัวเองสูง ไม่แน่ว่าในตอนที่ถังฮ่าวยื่นข้อเสนอออกมา เขาอาจลงมือทันทีอย่างคุมตัวเองไม่อยู่…แต่เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก หลิงม่อจึงทำได้เพียงสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้ สืบค้นจากความทรงจำ สิ่งที่ได้มีเพียงภาพตัดความทรงจำบางส่วน โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายเป็นผู้มีพลังพิเศษที่ไม่ใช่สายพลังจิตอย่างถังฮ่าวด้วยแล้ว…ถ้าหากโชคไม่ดี ก็อาจเจอแต่ภาพตัดความทรงจำที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ความจริง กับผีเสื้อก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน…

“ถึงยังไงถังฮ่าวก็เป็นลูกพี่ในนาม และดูจากข้อมูลพวกนั้นที่เขารู้ ปกติผีเสื้อคงจะเชื่อใจเขาไม่น้อย ทั้งสองเลยพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรกันหลายอย่าง…”

หลิงม่อคิด พลางปรับลมหายใจไปด้วย “ใจเย็น ถ้าหากถูกถังฮ่าวดูออก ต้องแย่แน่ๆ…”

แต่ถังฮ่าวที่กำลังพูดคุยกับร่างจริงของหลิงม่ออยู่ในเวลานี้ กลับไม่มีทางคาดฝัน ว่าสาเหตุที่คนตรงหน้าเขาดูใจเย็นได้ขนาดนี้ เป็นเพราะเขาได้เอาความตื่นเต้นไปปลดปล่อยกับหุ่นซอมบี้แทน!

ดังนั้นในขณะที่หลิงม่อดูเหมือนใจเย็นอยู่อย่างนี้ ความจริงเขากลับซ่อนงำสายตาแห่งความบ้าคลั่งเอาไว้ แต่ถังฮ่าวที่กำลังขลาดกลัว กลับก้มหน้าก้มตาเล่าเรื่องอย่างไม่หยุด…

“เล่าออกมาให้หมด ไม่ว่าพวกแกคิดจะทำอะไร ฉันก็จะทำให้สำเร็จก่อน!”

หลิงม่อเกาะผนังปูนแล้วปีนขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง แต่ทันใดนั้นเขากลับได้ยินเสียงหลี่ย่าหลินร้อง “อ๊ะ” ขึ้นมา

“เป็นอะไรไป!” หลิงม่อดึงสติกลับมาทันที แล้วถาม

“เหมือนฉันจะเห็นอะไรบางอย่าง…” หลี่ย่าหลินพูดขึ้น และเร่งความเร็วปีนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“เอ๊ะ ดูเหมือนจะมีเสื้อผ้าของซย่าน่าด้วย!”

—————————————————————————–