บทที่ 108 เดอะแองเจลถือกำเนิดใหม่จากโคลน

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 108 เดอะแองเจลถือกำเนิดใหม่จากโคลน
บทที่ 108 เดอะแองเจลถือกำเนิดใหม่จากโคลน

เหมือนกับตอนที่เวอร์เธอร์เรียกโทรลล์กลับมาไม่ได้ หลังจากที่มันตกอยู่ในสภาพคลุ้มคลั่ง

หากจอมเวทต้องการเรียกวิญญาณรับใช้หรือสปิริตกลับเข้าการ์ด พวกเขาก็ต้องได้รับการตอบสนองจากพวกมัน

เมื่อวิญญาณรับใช้หรือสปิริตอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถตอบสนองได้ ก็จำต้องเรียกกลับด้วยการบังคับเท่านั้น

หลักการของการบังคับเรียกกลับคืน คือพลังเวทมนตร์ของจอมเวทนั้นต้องสูงกว่าสปิริต!

ดาร์กอัดฉีดพลังเวทมนตร์เข้าไปในการ์ดคัดสรรอย่างสิ้นหวัง แต่กลับไม่สามารถส่งสัญญาณไปหาเดอะเลดี้ได้

เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ดีแล้ว

โดยทั่วไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้มักเป็นจุดเริ่มต้นของความชั่วช้า ปรสิต และแม้กระทั่งการครอบงำร่างกายของเจ้านาย!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แสงจันทร์นั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และค่อย ๆ แคบลงจนถึงจุดหนึ่ง

ดาร์กพลันรู้สึกว่าในที่สุดพิธีกรรมก็มาถึงจุดสิ้นสุด

ทุกอย่างดูเหมือนจะจบแล้ว!

“♪♩♫♬∮!”

เหมือนกับไม่อยากให้ดาร์กได้มีเวลาคิดมากเกินไป จู่ ๆ ท่วงทำนองที่บรรเลงขึ้นจากคำสวดภาวนาของสมาชิกภาคีอาหารทะเลก็ดังขึ้น

มวลสารสีดำนั้นกลิ้งไปมาอย่างรุนแรงราวกับโดนน้ำร้อนเดือด

แสงจันทร์สุดท้ายถูกดูดกลืนเข้าไป

และมวลสารสีดำก็หยุดกลิ้ง

โลกราวกับหยุดหมุนไปชั่วขณะ ประหนึ่งว่ามีเพียงท่วงทำนองเท่านั้นที่ดังมากขึ้น

ด้านนอกปราสาท

ท้องฟ้ายามค่ำคืนกลับมาสดใสอีกครั้ง

แสงจันทร์ไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป

ทุกอย่างดูราวกับย้อนกลับไปในช่วงที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทว่าความเป็นจริงคือ มวลสีดำในวิหารเริ่มไหลจากบนลงล่างแล้ว

วัตถุสีดำไหลลงสู่พื้นดินและแผ่ออกไปเหมือนแอ่งน้ำเสีย

ธารลำแสงสีขาวไหลออกมาจากช่องว่าง จากนั้นมันก็เปล่งแสง!

แสงประทีปนั้นดูนุ่มนวลมาก เสมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อแสงนี้ส่องกระทบร่างกายของผู้คน ความรู้สึกเบาสบายก็ยิ่งผุดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ และมันยังทำให้ผู้คนรู้สึกดีด้วย

เทวทูตศักดิ์สิทธิ์ผู้มาพร้อมกับปีกสีขาวดุจหิมะแปดคู่ พลันถือกำเนิดขึ้นใหม่จากแอ่งโคลนสีดำ

“รุกกี้เดวิมอน?” ดาร์กพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจ

แต่เดอะแองเจลเพียงแค่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับคลี่ยิ้มเบาบางที่มุมปากของนางขึ้น “ข้าคือเทพธิดาแห่งจันทรา และยังเป็นมารดาแห่งผืนพิภพด้วย”

ดาร์กเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยออกมาสองสามคำ “ไม่ เธอเป็นแค่เดอะแองเจล”

เดอะแองเจลอุทาน “อ้อเหรอ” แต่เทพธิดาแห่งจันทราไม่ได้ดูโกรธเลยสักนิด นางเพียงหัวเราะเบา ๆ “ผิวกายของข้าหาใช่อะไรเลย มันก็แค่เปลือกกลวง ๆ ที่ไร้ความหมาย ที่สำคัญคือรากเหง้าของข้าได้ตื่นขึ้นแล้วต่างหากเล่า”

นางเอื้อมมือออกมาก่อนจะงอนิ้ว แสงจันทร์พลันปรากฏขึ้น แล้วก่อตัวเป็นลูกศรศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงจันทร์

นี่คือการสำแดงอำนาจของจันทรา

นางยื่นมือออกมาอีกครั้ง จากนั้นคันธนูศักดิ์สิทธิ์ก็โผล่ออกมาจากกลางอากาศและปรากฏอยู่ในมือซ้ายของนาง

“ผู้ดูหมิ่นเทพเจ้าจะถูกลงโทษ!”

เทพธิดาแห่งจันทราง้างลูกศรศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงจันทร์ด้วยท่าทางที่สง่างามยิ่ง นางค่อย ๆ เล็งไปยังดาร์กซึ่งอยู่ที่ทางเข้าของวิหาร

แสงที่ลูกศรปล่อยออกมานั้นรุนแรงหาสิ่งใดเทียบ เมื่อคันธนูถูกง้างออกมาจนสุด มันก็พุ่งตัวออกไปทันที!

ฟิ้ว!

ลูกธนูถูกยิงออกไป

แต่กระดองก็โผล่ขึ้นมาทันที

ดาร์กอัญเชิญ [ชัคคารุ] ออกมาปกป้องหน้าอกของเขา

แต่ชัคคารุที่รับลูกธนูจากเทพธิดาแห่งจันทราแทนดาร์ก กลับมีรอยแตกจำนวนมากบนกระดองของมัน

พลังเวทมนตร์: 900 → 1

[แข็งตัว: สกิลติดตัว สปิริตที่มีสกิลนี้จะไม่ถูกฆ่าตายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว]

ชัคคารุ ผู้รอดจากภัยพิบัติด้วยการพึ่งพาสกิลติดตัวกลับเฉื่อยช้าลง

ดาร์กหยิบมันขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งออกไปซ่อนตัวอยู่นอกประตูวิหาร

ไม่ว่าชัคคารุจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็เป็นเพียงการ์ดสามดาวที่สามารถอัญเชิญได้ตามปกติ

เมื่อครู่นี้ เทพธิดาแห่งจันทราสามารถเจาะพลังป้องกันของมันได้อย่างง่ายดาย หากให้นางเอาจริงแม้เพียงเล็กน้อยละก็…

“จงออกมา!”

ในช่วงเวลาวิกฤตดาร์กได้ทำลายขีดจำกัดอีกครั้ง และเวลาอัญเชิญของเขาก็ลดลงเหลือเพียงสี่วินาทีเท่านั้น

หลังจากดื่ม [น้ำยาพลังงาน] แล้ว ชัคคารุก็ได้พลังงานกลับคืนมาในที่สุด

โดยปราศจากคำสั่งจากดาร์ก ชัคคารุได้ใช้พลังจิตในการ [แบ่งพลัง] ทันทีเพื่อพยายามทำให้พลังของเทพธิดาอ่อนแอลง

แต่พลังจิตที่ปล่อยออกมาจากชัคคารุนั้นกลับถูกเทพธิดาทำลายอย่างง่ายดาย!

ความล้มเหลวครั้งแรกของสกิล [แบ่งพลัง] ทำให้ดาร์กตระหนักว่า เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก

เมื่อมือสัมผัสกับซองการ์ด ใบหน้าของเขาก็ซีดลงทันที

ชัคคารุสามารถกล่าวได้ว่าเป็นการ์ดที่ทรงพลังที่สุดของเขา ทว่าตอนนี้เขากลับเหลือแค่แบล็คบุยกับ [น้ำยาเงียบสงัด] ให้ใช้เท่านั้น

แต่ผลเอฟเฟกต์ของ [น้ำยาเงียบสงัด] ไม่มีสามารถชี้ขาดผลแพ้ชนะในเวลานี้ได้

ถึงแม้ว่าแบล็คบุยจะมีพลัง แต่มันก็ไม่อาจต่อสู้กับเทพธิดาแห่งจันทราที่สามารถกลืนกินเดอะเลดี้เข้าไปได้

ในตอนนี้เอง เทพธิดาก็ง้างลูกศรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาอีกดอก

ดาร์กไม่มีเวลาครุ่นคิดมาก เขาแค่ดึงการ์ดออกมาอัญเชิญ [น้ำยาเงียบสงัด] แล้วขว้างไปที่เทพธิดาแห่งจันทราทันที!

ลูกศรพุ่งผ่านขวดยา ทำให้ [น้ำยาเงียบสงัด] ระเบิดตัวออกแล้ว กลายเป็นม่านหมอกบดบังการมองเห็น

ดาร์กออกตัววิ่งไปข้างหน้าทันทีโดยที่ยังอุ้มชัคคารุไว้ และเมื่อคูลดาวน์จบลง เขาก็อัญเชิญ [สัตว์อสูรมายา: อีบุย] และการ์ด [ราคะ III] ออกมาตามลำดับ

เมื่ออีบุยวิวัฒนาการเป็นแบล็คบุยแล้ว มันก็กระโดดเข้าหาดาร์กโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ ดาร์กจึงเพิ่มการ์ด [อัตตา I] เข้าไปทันที!

ขณะที่ลูกบอลแสงสีทองเข้มทะลุผ่านหน้าผากของแบล็คบุย ความเย่อหยิ่งก็พลันปรากฏในดวงตาที่ไร้เดียงสาของแบล็คบุย

สิ่งนี้ทำให้การเคลื่อนไหวของมันหยุดชะงักไป

‘ได้ผลจริง ๆ สินะ’ ดาร์กคิด

เมื่อครู่นี้เขาลองใช้ [ราคะ III] ไปแล้ว แต่มันไม่ได้เชื่อมต่อกับเทพธิดา

นี่แสดงให้เห็นว่าเทพธิดาไม่ใช่รูปปั้นอีกต่อไป นางสามารถควบคุมพลังของตัวเองได้แล้ว ดังนั้นกลวิธีก่อนหน้านี้จึงล้มเหลวไปโดยปริยาย

เทพธิดาแห่งจันทราง้างลูกศรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอีกครั้ง

ฟิ้ว!

ลูกศรแสงบินมา

แบล็คบุยที่รู้สึกได้ถึงอันตรายก็ใช้ลูกบอลเงาทันที!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ลูกบอลเงาจะสัมผัสกับลูกศร มันก็ถูกชำระล้างโดยรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์ไปก่อนเสียแล้ว

ปัง!

แบล็คบุยกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา พร้อมกับถูกคลื่นพลังกระแทกซัดจนตัวปลิว

ดาร์กที่ใช้โอกาสนี้ซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องพลันอ้าปากค้าง

‘ระดับต่างกันเกินไป!’

‘นี่ควรจะเป็นตอนที่วีรบุรุษออกโรงไม่ใช่เหรอ?’

‘แล้ววีรบุรุษอยู่ไหน’

ความคิดของดาร์กเริ่มสับสนเล็กน้อยแล้ว

เขายังครุ่นคิดอย่างหนัก

แต่จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมา

‘เดี๋ยวก่อน วีรบุรุษ…’

‘ไม่ใช่ว่าอยู่ในกระเป๋าของฉันหรอกเหรอ?’

เทพธิดากระพือปีกและบินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ราวกับกำลังเพลิดเพลินกับความสุขครั้งแรกหลังจากเกิดใหม่

นางพอใจกับเปลือกนอกของ ‘เดอะแองเจล’ มาก

แม้ว่าผิวนอกของ ‘เดอะเลดี้’ จะเข้ากับรสนิยมของนางเช่นกัน แต่มันกลับเหมือนจะมีพลังน่าสะพรึงซ่อนเร้นอยู่ในเปลือกนอกนี้เช่นกัน

หากสามารถดึงศักยภาพนี้ออกมาได้ นางรู้สึกว่าอาจจะสามารถฟื้นความรุ่งโรจน์ในอดีตของนางขึ้นมาได้

อืม อย่างน้อยก็สองสามเปอร์เซ็นต์ล่ะนะ

“เจอแล้ว”

เมื่อเห็นเงาที่ส่องแสงอยู่ข้างหน้า เทพธิดาแห่งจันทราก็ดีใจและง้างลูกศรขึ้นอีกครั้ง

ทว่าสิ่งที่ปรากฏต่อหน้านางคือ กวางตัวผู้ที่เปล่งประกาย