ตอนที่ 85 ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

เป็นอย่างที่เขาคาดไว้เลย อันซย่าซย่าผุดลุกขึ้นทันที แก้มเธอแดงปลั่งอย่างกับก้นลิง แล้วเธอก็ฉวยเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือเขาคืนมาด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบก่อนพูดตะกุกตะกัก “นาย…นาย! ฉันหลงคิดว่านายจะนิสัยดีกว่านี้!”  

 

 

“ฉันก็แค่พูดความจริง ลูกแมวสีชมพู… เธอเป็นอะไร เป็นเด็กประถมงั้นเหรอ รสนิยมแย่มาก” เซิ่งอี่เจ๋อกะพริบตา เขาจำที่เธอแกล้งล้อเขาเมื่อตอนบ่ายนี้ได้ นี่มันถึงเวลาที่เขาจะได้เอาคืนแล้ว! 

 

 

หญิงสาวหน้าแดงแปร๊ด จ้องหน้าเซิ่งอี่เจ๋อน้ำตาคลอ เธอนึกไม่ออกเลยว่าจะสรรหาคำไหนมาพูดดี 

 

 

เมื่อเห็นว่าเธออายจนหน้าแดงขนาดนี้ เขาจึงฉุกคิดก่อนถามออกไป “แล้วเรื่องที่เธอบอกว่าเปลี่ยนชุดให้ฉันล่ะ” 

 

 

“คิดว่าไงล่ะ ลุงโจวเป็นคนเปลี่ยนให้นาย! ฉันไม่ได้โรคจิตอย่างนายนะ!” อันซย่าซย่าคำรามเกรี้ยวกราด แต่ใบหน้าเธอกลับยิ่งแดงขึ้นอีก… 

 

 

เธอซักเสื้อผ้าทุกชิ้นให้เขาจริง… แต่พวกเธอเพิ่งจะรอดพ้นจากความตายมาได้ เธอไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่นหรอก 

 

 

ทีนี้เมื่อเธอย้อนกลับไปนึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ก็ให้รู้สึกกระดากอายเหลือเกิน… 

 

 

“เซิ่งอี่เจ๋อ! ฉันขอไม่พูดกับนายแล้วตั้งแต่บัดนี้ไป! ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา!” อันซย่าซย่าทั้งโกรธทั้งอาย เธอปีนขึ้นที่นอน หยิบหมอนมากั้นไว้ระหว่างทั้งสองเป็นเขตแดน จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนโดยหันหลังให้เขา ความหวาดระแวงของเธอดูมีสีสันมาก 

 

 

รอยยิ้มฉายผ่านใบหน้าเขาแวบหนึ่งขณะที่เขานอนลงข้างๆ เธอ 

 

 

ชายหนุ่มหลับตาลง ความเจ็บปวดเตือนให้เขานึกถึงอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ 

 

 

เขาจะไม่เจ็บตัวได้อย่างไรในการกระโดดลงไปในลำธารเชี่ยวกรากแบบนั้น 

 

 

แต่อย่างไรเสียเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องบอกเธอเรื่องนั้น 

 

 

ภายในห้องเงียบสงัดจนต่างฝ่ายต่างได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ที่ด้านนอก แมลงอะไรสักอย่างกำลังส่งเสียงเบาๆ ฤดูใบไม้ร่วงเดือนตุลาคมช่างหนาวเย็นและสงบเงียบ 

 

 

สำหรับคนที่เสพติดอินเทอร์เน็ตอย่างอันซย่าซย่า เธอไม่อาจข่มตาหลับได้โดยง่าย หลังจากพลิกตัวไปมาบนที่นอนพักใหญ่ เธอก็กระแอมอย่างไม่ตั้งใจพลางกระซิบ “เซิ่งอี่เจ๋อ นายหลับหรือยัง” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่สนใจจะตอบ 

 

 

หญิงสาวบ่นพึมพำ “หลับไวจังนะ…” 

 

 

เธอยื่นมือออกไป จิ้มหน้าเขาอย่างลังเลใจ 

 

 

จึ้ก— โดนแล้ว! 

 

 

โหย ผู้ชายอะไรทำไมผิวดีขนาดนี้ 

 

 

ด้วยความได้ใจ อันซย่าซย่ากำลังจะจิ้มเขาอีกครั้ง แต่ว่ามือใหญ่ๆ คู่หนึ่งจับเธอไว้ได้กลางทาง! 

 

 

“ตื่นอยู่เหรอ แหะๆ …” เธอยิ้มแห้งๆ ที่จริงอยากจะร้องไห้มากกว่า 

 

 

“แล้วเธอคิดจะทำอะไรล่ะถ้าฉันหลับไปแล้ว” เขาถามพลางหันหน้ามาหาเธอ 

 

 

อันซย่าซย่าแค่นหัวเราะ “มาคุยกันเรื่องชีวิตกับเรื่องอนาคต ระหว่างทอดสายตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อกลั้นน้ำตาของเรากันเถอะ!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อจ้องมองเธอด้วยใบหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึก หลังจากครู่หนึ่ง มุมปากเขาก็ขยับ “โอเค” 

 

 

“นี่ ทำไมต้องเย็นชาขนาดนั้นด้วยล่ะ พวกเราผ่านพ้นความตายมาด้วยกันขนาดนี้แล้วนะ ถ้าอยากคุยกับนาย จะถือว่าขอมากไปหรือไง” อันซย่าซย่ากลอกตาอย่างน่ารักใส่เขา 

 

 

ชายหนุ่มครุ่นคิด “ทั้งหมดเท่าที่ฉันจำได้คือมีใครบางคนพูดว่า ‘ใครพูดก่อนคนนั้นเป็นหมา’ เธอได้ยินหรือเปล่านะ” 

 

 

อันซย่าซย่า : “…” 

 

 

บ้าเอ๊ย! ทำไมเธอถึงได้เหยียบธงที่เธอปักไว้เองด้วยนะ 

 

 

เธอตีหน้าซื่อ “ไม่ นั่นไม่ใช่ฉันแน่นอน น้องสาวเซิ่งอี่เจ๋อต่างหากที่พูด แต่ตอนนี้ฉันเป็นอันซย่าซย่า เพื่อนร่วมห้องของนาย” 

 

 

ชายหนุ่มพูดไม่ออก 

 

 

ท่ามกลางแสงจันทร์สีเงิน เจ้าแมงมุมบนเพดานกำลังปลิวลงมาเพราะสายลมและดันเผอิญมาตกลงข้างๆ หูของเธอพอดี 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อนิ่วหน้า หันไปหาพลางขยับเข้าใกล้ อันซย่าซย่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอร้องแหว “นายจะทำอะไรน่ะ! ไอ้คนบ้า! คนผีทะเล! ฉันเป็นผู้เยาว์นะ! ถ้านายพยายามจะทำอะไรละก็ ฉัน—ฉันจะ–” 

 

 

“เธอจะอะไร” เซิ่งอี่เจ๋อถามด้วยเสียงแหบพร่า