ตอนที่ 298 ตอบโต้

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 298 ตอบโต้

“คุณ…คุณหนูสาม…”

ท่านหมออ้ำอึ้งมิยอมกล่าวออกมาจนหลี่ซื่อทนมิไหว “อีเอ๋อเป็นอันใดท่านก็รีบกล่าวออกมาสิ ! ”

“คุณหนูสามติดเชื้อกามโรคขอรับ ! ”

ทันทีที่ท่านหมอกล่าวประโยคนี้ออกมา ห้องทั้งห้องก็เงียบกริบทันใด เงียบเสียจนได้ยินเสียงลมหายใจของตน

“เป็นไปมิได้ ! ”

อันหลิงอีร้องเสียงแหลม นางจ้องไปที่ท่านหมอคล้ายกำลังมองศัตรูก็มิปาน “ข้าจักติดกามโรคได้อย่างไร ! ”

ต่อให้ตอนนี้นางอาจติดโรค ท่านหมอก็มิมีทางตรวจพบ แต่เมื่อเขากล่าวออกมาเช่นนี้ก็แสดงว่าเขาต้องโดนคนซื้อตัวเพื่อมาใส่ร้ายนางแน่นอน !

ชายร่างกำยำหัวเราะออกมาเสียงเย็น “เจ้าแอบไปตะลอนเที่ยวนอกจวน ยั่วยวนบุรุษตั้งมากมาย แค่นี้เจ้ายังมิเข้าใจอีกหรือ ? ”

“หากมิใช่เพราะข้าก็จักมีชีวิตอยู่ได้อีกมินาน ข้าย่อมมิมีทางมาเล่นสนุกกับสตรีเยี่ยงเจ้าหรอก ! ”

เขาฉีกแขนเสื้อข้างหนึ่งของตนออกเผยให้เห็นรอยเป็นจ้ำบนแขน รอยนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นอาการของคนติดกามโรคระยะสุดท้าย !

ทุกคนตกตะลึงและถอยหลังโดยมิรู้ตัว แม้แต่หลี่ซื่อที่ตอนแรกจ้องจับโจรให้ได้ถึงกับหน้าถอดสีเช่นกัน

หากมีความสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้อกามโรคก็หมายความว่าอีเอ๋อย่อมติดโรคนี้แน่นอน !

อันหลิงอีตื่นตระหนกอย่างมากในตอนนี้ นางกำลังจักเอ่ยให้อันอิงเฉิงช่วยก็ได้ยินเสียงของอันหลิงเกอกล่าวขึ้นเสียก่อน “เจ้ารู้ได้เยี่ยงไรว่าน้องหญิงสามเป็นกามโรค ? ”

ดวงตาดำขลับของนางจ้องไปที่ชายคนนั้นราวกับจักค้นหาบางอย่างจากใบหน้าของเขา

ชายร่างกำยำมิได้มีความกระวนกระวายแม้แต่น้อย เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง “หญิงแพศยาเยี่ยงนางใครก็รู้จักดี หากมิใช่เพราะคนที่หลับนอนกับนางก่อนหน้านี้ติดกามโรคจากนาง ข้ามิมีทางมานอนกับนางหรอก ! ”

เขาหัวเราะออกมาอย่างน่ารังเกียจ “แม้ข้าจักอดอยากปากแห้งมากเพียงใดก็ยังรู้ตัวดี ฉะนั้นข้าจักหลับนอนกับคนที่เป็นกามโรคด้วยกันเท่านั้น”

หลี่ซื่อรู้สึกราวกับขาไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ จนต้องยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของอันอิงเฉิงและฝืนตัวยืนให้ไหว

ยิ่งฟังสิ่งที่ชายคนนั้นกล่าวก็รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดลอยขึ้นมาจากลำคอจนอยากกระอักออกมาเสียให้ได้

ทว่าทันใดนั้นก็มีเสียงกระอักโลหิตดังขึ้นมาจากหลี่ซื่อจริง ๆ

“หลี่อี๋เหนียง ท่านเป็นอันใดหรือไม่ ? ”

อันหลิงเกอมองอย่างเป็นห่วงแล้วสั่งให้สาวใช้ไปเตรียมยา “เกิดเรื่องเช่นนี้กับน้องหญิงสามทุกคนก็เสียใจ แต่หลี่อี๋เหนียงต้องดูแลตัวเองให้ดี หากท่านเป็นอันใดไปอีกคนแล้ว ท่านพ่อต้องเสียใจมากแน่ ๆ ”

หลี่อี๋เหนียงถึงขั้นกระอักโลหิตออกมาจึงทำให้รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรงยิ่งนัก แต่เมื่อเห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของอันหลิงเกอก็อดกัดฟันด้วยความโกรธแค้นมิได้

ทำเป็นเสแสร้งแกล้งเห็นใจ !

พวกนางต่างก็รู้ว่าเป็นศัตรูกัน ทว่าอันหลิงเกอตัวแสบยังมาเสแสร้งแกล้งทำอยู่อีก !

หลี่ซื่อโกรธจนร่างกายรู้สึกปั่นป่วนไปหมดแต่ก็ยังเหลือบเห็นรอยยิ้มตรงมุมปากของอันหลิงเกอโดยมิได้ตั้งใจ

ในชั่วพริบตา สมองของนางก็นึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้

ใช่แล้ว เมื่อวานนี้นางและอีเอ๋อเพิ่งสร้างเรื่องเพื่อให้อันหลิงเกอติดกามโรค วันนี้กลับมีผู้ชายที่เป็นโรคมาอยู่ในห้องของอีเอ๋อ นี่ต้องเป็นการแก้แค้นของอันหลิงเกออย่างแน่นอน !

“เจ้าเป็นคนทำ เรื่องทั้งหมดนี้เจ้าเป็นคนทำใช่หรือไม่ ? ”

ทหารยามในจวนก็คงเป็นอันหลิงเกอคอยเปิดทางให้ ชายคนนี้ก็ต้องเป็นนางหามา แม้แต่หมอของจวนก็โดนนางซื้อตัวไว้หมดแล้ว !

ท่าทางของหลี่ซื่อราวกับคนเสียสติ นางจ้องมองอันหลิงเกอคล้ายอยากกินเลือดกินเนื้อ

อันหลิงเกอเงยหน้ามองราวกับเด็กไร้เดียงสา “หลี่อี๋เหนียง ท่านกล่าวอันใด ข้าจักทำอย่างนั้นเพื่อเหตุใด ? ”

“เจ้าเป็นคนเปิดทางให้ทหารยามของจวนเพื่อปล่อยให้มันเข้ามา แล้วซื้อตัวหมอคนนี้เพราะต้องการใส่ร้ายอีเอ๋อใช่หรือไม่ ? ” ดวงตาแดงก่ำของหลี่ซื่อราวกับรู้ความจริงหมดแล้วจึงทั้งดีใจทั้งโกรธราวกับคนบ้ามิผิดเพี้ยน

“หลี่อี๋เหนียง ต่อให้ท่านเสียใจมากเพียงใดก็มิควรใส่ความว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของข้า” ดวงตาของอันหลิงเกอส่องประกายระยิบระยับไร้อาการร้อนรนแม้แต่น้อย

นางมองตรงไปยังหลี่อี๋เหนียง ท่าทางสงบนิ่งยิ่งทำให้หลี่อี๋เหนียงรู้สึกเดือดดาลขึ้นอีก “ข้าหรือเป็นคนอำมหิตถึงขั้นทำเรื่องเช่นนี้ได้ และต่อให้ข้าทำได้จริง แล้วเหตุใดข้าต้องทำด้วยเล่า ? ”

เพราะเหตุใดหรือ ?

ก็เพราะต้องการแก้แค้นอย่างไรเล่า !

หลี่อี๋เหนียงกล่าวมิออก เรื่องที่นางวางแผนทำร้ายอันหลิงเกอมิมีใครรู้ ตอนนี้จึงไร้เหตุผลใดที่จักไปกล่าวโทษอันหลิงเกอด้วยซ้ำ

ริมฝีปากของอันหลิงเกอโค้งขึ้นมา ทั้งที่อากาศร้อนเพียงนี้แต่รอยยิ้มกลับทำให้หลี่อี๋เหนียงรู้สึกหนาวจนจับขั้วหัวใจ

“หลี่อี๋เหนียง ท่านปฏิบัติต่อข้าเช่นไรใจข้าย่อมรู้ดี บุญคุณของท่านนั้นต้องทดแทนอย่างแน่นอน”

นางยอมรับแล้ว นางยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นคนทำ !

มือที่ตกอยู่ข้างกายทั้งสองข้างของหลี่ซื่อสั่นเทา สายตาที่มองไปยังอันหลิงเกอราวกับมองปิศาจที่คลานขึ้นมาจากขุมนรกก็มิปาน

นางวางแผนกำจัดอันหลิงเกอ อีกฝ่ายก็ตอบโต้กลับมาในทันทีด้วยวิธีชั่วร้ายยิ่งกว่าจนนางมิอาจโต้กลับได้อีก!

แววตาของหลี่ซื่อหันมองไปรอบห้อง จากนั้นก็จ้องไปที่ท่านหมอพร้อมถลึงตาใส่ราวกับคนบ้า “บอกมาว่าคุณหนูใหญ่จ้างให้เจ้าทำเช่นนี้ใช่หรือไม่ ? ”

อาการป่วยของอีเอ๋อมิมีทางตรวจพบในตอนนี้ แต่หมอก็กล่าวเช่นนี้แสดงว่าต้องโดนอันหลิงเกอซื้อตัวแล้วแน่นอน ขอเพียงหมอยอมสารภาพว่าอันหลิงเกอเป็นคนจ้างวาน เพียงเท่านี้อันหลิงเกอก็มิสามารถรอดตัวไปได้ !

ท่านหมอเดิมทีก็มองอันหลิงอีด้วยสายตาดูแคลนอยู่แล้ว นึกมิถึงว่าคนที่เป็นถึงคุณหนูแห่งจวนโหวจักมั่วมิเลือกจนติดกามโรคตั้งแต่ยังมิออกเรือนเช่นนี้

แต่เมื่อเห็นท่าทางของหลี่ซื่อในตอนนี้ เขาก็เข้าใจทันทีว่าอันหลิงอีถูกเลี้ยงดูจนเสียผู้เสียคน มีมารดาเช่นนี้ แล้วอันหลิงอีจักดีได้สักเพียงใด ?

“นายหญิงหลี่ แม้ตัวข้าเป็นเพียงหมอธรรมดาคนหนึ่ง แต่ข้าก็มีคุณธรรมที่พึงปฏิบัติ ท่านอย่ามาใส่ร้ายข้าเช่นนี้เป็นอันขาด ! ”

ท่านหมอคนเดิมของจวนโหวนั้นชรามากแล้วจึงขอลากลับบ้านเกิด ส่วนตนเป็นหมอที่มาใหม่และตอนที่เข้ามาในจวนนั้นหลี่ซื่อมิได้มีอำนาจมากแล้ว ดังนั้นท่านหมอจึงมิได้ให้ความเคารพนางมากนัก

เมื่อเห็นหลี่ซื่อกำลังจักเปิดปาก ท่านหมอก็ชิงกล่าวทันที “เมื่อวานนี้คุณหนูสามเรียกข้ามาถามเกี่ยวกับกามโรค ทั้งยังให้ข้าจัดยาที่ใช้ป้องกันโรคอีกด้วย เรื่องนี้นายหญิงหลี่เองก็รู้ดี เพราะตอนนั้นข้ายังแปลกใจว่าเหตุใดนางจึงถามเรื่องพวกนี้ขึ้นมา และตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว”

ส่วนเขาเข้าใจเรื่องอันใดนั้น ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างรู้ดีแก่ใจ

สีหน้าของหลี่ซื่อซีดจนแทบไร้สีเลือด เมื่อวานนี้อีเอ๋อถูกเข็มที่เปื้อนเลือดทิ่มเอา นางกลัวว่าจักติดโรคจริง ๆ จึงรีบเรียกหมอมาตรวจอาการ

แต่เรื่องทั้งหมดเมื่อมองจากมุมของอันอิงเฉิงคือมองว่าอันหลิงอีมิรักนวลสงวนตัวจนทำให้ติดกามโรค ส่วนหลี่ซื่อก็ต้องการโยนความผิดให้อันหลิงเกอ

นี่มันเรื่องบ้าบออันใดกัน !

สีหน้าของอันอิงเฉิงเข้มขึ้นทันที

“อันหลิงอี นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ ? ”

หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในจวนโหวจริงล่ะก็ เขาจักเอาหน้าไปไว้ที่ใด ?