ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

 

บทที่ 1292 – พลังที่เพิ่มขึ้น ธงสวรรค์ปัญจธาตุ ขั้นที่ 1 หนอนไหมมังกรทอง หนอนไหมโลหิตเยือกแข็ง

 

ทุกอย่างค่อย ๆ ดีขึ้นและนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ ชิงสุ่ยไหลเวียนพลังจนถึงขั้นสุดและหลอมรวมพลังทั้งหมด

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถดูดซับพลังของประตูเทวะแห่งเต๋าล่วงหน้าได้ โดยนับเวลาเช่นเดียวกับโลกภายนอก ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขที่เขาสามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่าง

 

บูม!

 

ในตอนที่ชิงสุ่ยค่อย ๆ ผ่อนคลาย ร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยพลังมหาศาล แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งนี่ไม่ได้หมายความว่าพลังที่ชิงสุ่ยได้รับในครั้งนี้ด้อยกว่ารั้งก่อน แต่เป็นเพราะ“ขุมพลัง”ในร่างกายของเขาค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นจากประตูเทวะแห่งเต๋า

 

ชิงสุ่ยตั้งสมาธิดูดซับพลังอย่างระมัดระวัง ซึ่งการระวังตัวไว้ก่อนนั้นย่อมดีที่สุด เขาพยายามทำให้ร่างกายของเขารองรับพลังได้มากที่สุด

 

อวัยวะของชิงสุ่ยค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แก่นแท้แห่งโลหิต ในร่างกายของเขาค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อและพลังวิญญาณของเขาเองก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันดาราสีทองและกลุ่มจักรวาลในทะเลแห่งปัญญา รวมถึงก้อนเม็ดสีทองในจุดตันเถียนก็ขยายขนาดขึ้นเช่นกัน

 

แสงสีทองส่องประกายรอบๆ ตัวเขา พลังสีม่วงในร่างกายของเขาค่อย ๆ เพิ่มขึ้นและลดลงสลับกัน เมื่อพลังที่ชิงสุ่ยดูซับมาค่อย ๆ หมดไป ชิงสุ่ยก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ

 

เวลาในดินแดนหยกยุพราชอมตะผ่านไป 7 วัน ชิงสุ่ยหลอมรวมพลังได้สำเร็จ ครั้งนี้เขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าเหมือนครั้งก่อนและไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในร่างกายของเขา ต่างจากครั้งแรกและครั้งที่สองที่เขาอยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว

 

ชิงสุ่ยลืมตาและพยายามสัมผัสพลังในร่างกายของเขา ก่อนจะยิ้มออกมาบาง ๆ

 

ตอนนี้พลังของเขาสูงถึง 20,000 เมฆา ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 2 สุริยะ ก่อนหน้านี้เขามีพลังเพียง 12,000 เมฆา นั่นหมายความว่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นมาถึง 8,000 เมฆา หากเทียบกับครั้งก่อน พลังในครั้งนี้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่าตัว

 

ครั้งนี้มีเพียงพลังพื้นฐานของเขาที่เพิ่มขึ้น แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ ในทางกลับกันชิงสุ่ยรู้สึกพอใจเสียด้วยซ้ำ

พลังโจมตีทางร่างกายของเขากลายเป็น 3,700 สุริยะ ภายอิทธิพลของก้อนเม็ดเจ็ดสี กระบี่ดารายุพฆาต เกราะอสูรสำแดง ก้อนเม็ดสีทอง และการโจมตีของหุบเขา 9 เทวา ทั้งหมดนี้สามารถทำให้พลังของชิงสุ่ยกลายเป็น 7,400 สุริยะ

 

ชิงสุ่ยยิ้ม ถ้าเขาใช้หุบเขา 9 เทวากระแทกลงไปบนพื้นดิน แล้วคนในมหาทวีปอู่เซียตะวันตก จะหยุดเขาได้?  หุบเขา 9 เทวา มีพลังที่แข็งแกร่งมาก แม้อีกฝ่ายจะมีพลัง  10,000  สุริยะ แต่ด้วยพลัง 7,400 สุริยะของเขาก็สามารถทำให้อีกฝ่ายต้องยอมถอยเช่นกัน

 

ภายใต้อิทธิพลก้อนเม็ดเจ็ดสี ลูกประคำอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ กระบี่ดารายุพฆาต เกราะอสูรสำแดง ก้อนเม็ดสีทองและ รูปแบบดาราจักร พลังวิญญาณสามารถเพิ่มขึ้นไปจนเกือบถึง 7,400 สุริยะ ถ้าเขาใช้ตราประทับแห่งวิหคศักดิ์สิทธิ์ก็อาจจะเพิ่มขึ้นมากถึง 13,000 สุริยะ และถ้าทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า พลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 26,000 สุริยะ

 

ชิงสุ่ยดีใจที่เขามีพลังมากมายขนาดนี้ เพราะการข้ามประตูเทวะแห่งเต๋า เขาสามารถสยบคนที่ไม่เคยเดินผ่านประตูนี้ได้แล้ว พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจริง ๆ

 

ชิงสุ่ยที่มีพลังเปี่ยมล้น เขาเริ่มวางแผนสำหรับอนาคตของเขา การหลอมรวมพลังในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกเข้าใกล้ขั้นที่ 8 มากขึ้น เมื่อมองไปรอบ ๆ เขาสังเกตเห็นบันไดยาวด้านล่างโดยที่เขายังมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด ชิงสุ่ยคิดว่าสักวันเขาจะต้องมองเห็นปลายทางของประตู ในตอนที่เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้

 

นอกจากนี้เขารู้สึกว่ากำลังเข้าใกล้อาณาจักรพลังปราณบรรชาสวรรค์พินาจมากขึ้นแต่ก็ยังเลือนราง ชิงสุ่ยหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในที่สุดก็สามารถใช้พลังของเทวะแห่งเต๋าและพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นวันที่เขาจะก้าวข้ามถึงอาณาจักรพลังปราณบรรชาสวรรค์พินาจจะต้องมาถึงอย่างแน่นอน

 

หลอมรวมพลัง!

 

ไม่เพียงแต่แก่นแท้แห่งโลหิตจะเพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่าแก่นแท้แห่งโลหิตภายในสระโลหิตแก่นแท้ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และพลังภายในก็แข็งแกร่งมากขึ้นด้วย

 

ในตอนนั้นเองหัวใจของชิงสุ่ยเต้นระรัว เมื่อมังกรสีทองยาว 2 นิ้วปรากฏตรงหน้าเขา

 

หนอนไหมมังกรทอง!

 

ความจริงแล้วมันคือหนอนไหมสีทองตัวเล็ก แต่ตอนนี้พลังของมันเพิ่มขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงในสระโลหิตแก่นแท้ทำให้หนอนไหมเกิดการก้าวข้ามไปด้วย

 

ร่างของมันตอนนี้ใหญ่กว่าเดิมสองเท่า เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยากจะอธิบายได้ มันมีเขาของมังกรปรากฏขึ้นที่หัว และหน้าตาของมันก็ดูคล้ายมังกรมากขึ้น ที่สำคัญกว่านั้นกรงเล็บเล็ก ๆ ค่อยงอก ๆ ออกมาจากร่างกายของมันทั้งสองด้าน

 

กรงเล็บของมันงอกออกมาบริเวณข้างใต้หัว ขนาดของมันเท่ากับหัวแม่โป้งเท่านั้น รูปร่างของมันดูสมส่วน เขาคาดว่าในอนาคตจะต้องมีกรงเล็บงอกออกมาอีก 2 กรงเล็บ บริเวณใกล้ ๆ ปลายหางแน่ ๆ

 

น่าเสียดายที่มันไม่ใช่มังกรจริง ๆ แค่มีสายเลือดมังกรร่วมอยู่ด้วยเท่านั้น เพราะสายพันธุ์ที่เกิดการกลายพันธุ์ในอดีตกาล ปกติแล้วหนอนปรสิตมักจะเติบโตในร่างกายของสัตว์อสูรหรือมนุษย์ที่ทรงพลัง แต่ปรากฏการณ์แบบชิงสุ่ยนั้นคงมีน้อยมาก

 

ชิงสุ่ยพยายามพูดคุยผ่านจิตกับเจ้าหนอน แม้จะเป็นการพูดโต้ตอบอยู่ฝ่ายเดียว แต่ชิงสุ่ยคิดว่ามันเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เพราะอย่างไรแล้วเจ้าหนอนก็โตขึ้นเพราะได้พลังจากแก่นแท้แห่งโลหิตของเขา

 

ชิงสุ่ยปล่อยเจ้าหนอนลงไปในสระโลหิตแก่นแท้เช่นเดิม เขาสังเกตบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยกับหนอนไหมเยือกแข็ง 2 ตัว เส้นโลหิตปรากฏขึ้นบนร่างของมัน

 

หนอนไหมเยือกแข็ง!

 

เกิดการกลายพันธุ์ขึ้น!

 

ชิงสุ่ยรู้สึกยินดี ไม่ว่าจะเกิดการกลายพันธุ์กับสัตว์อสูรหรือพืชสมุนไพรก็ตาม การเกิดการกลายพันธุ์แต่ละครั้งมักนำอะไรดี ๆ มาด้วยเสมอ

 

หนอนไหมเยือกแข็งยังคงอยู่ในสภาวะทารก ขนาดร่างกายของมันใกล้เคียงกับหนอนไหมมังกรทอง  ถ้ามันเจริญเติบโตมากกว่านี้ เขาอาจจะเก็บมันไว้ในดินแดนหยกยุพราชอมตะแทน

 

ชิงสุ่ยตัดสินใจหลอมรวมสมบัติวิเศษ เพราะเขาไม่หลอมของวิเศษมาเกือบ 7-8 วันแล้ว ดังนั้นต่อจากนี้ไปเขาจะไม่ละเลยอีก

 

ในวันที่ 60 ธงสวรรค์ปัญจธาตุประกายแสง 5 สีออกมา ชิงสุ่ยประหลาดใจจนหัวใจเขาเต้นกระหน่ำ

 

ระดับของมันเพิ่มขึ้น

 

ชิงสุ่ยไม่สนใจอะไรอีก เขารีบตรวจสอบดูทันมี

 

ธงสวรรค์ปัญจธาตุ (ตัวส่ง)!

 

ธงสวรรค์ปัญจธาตุ ขั้นที่ 1 โดยต้องหลอมรวมพลังกับแก่นแท้แห่งโลหิต 1 ครั้งต่อวัน และสามารถปักธงภายในแผนที่ของ ธงสวรรค์ปัญจธาตุได้ 1 จุด และหากต้องการปักธงในจำนวนมากขึ้น ระดับของพลังจะต้องพัฒนาขึ้นอีก และการเดินข้ามไปมาระหว่างจุดปักธงนั้นสามารถทำได้หนึ่งครั้งต่อเดือน

 

สถานะ: ได้รับการจดจำในฐานะผู้ครอบครอง

 

เขาสามารถสื่อสารผ่านทางจิตกับผู้ครอบครองธงสวรรค์ปัญจธาตุ (ตัวรับ) และการเดินทางไประหว่างทั้งสองก็ไม่มีข้อจำกัดในกรณีนี้

 

ในที่สุดเขาก็ปักธงได้สำเร็จหนึ่งจุด และเขาสามารถใช้งานได้เดือนละครั้ง ถือเป็นเรื่องดีสำหรับชิงสุ่ย เขารีบมองหาจุดปักธงบนแผนที่ของโลก 9 มหาทวีป

 

ในตอนนั้นชิงสุ่ยรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสิ่งที่หญิงสาวบอกไว้เพราธงขั้นที่ 1 สามารถปักได้บนแผนที่ของ 5 มหาทวีปเท่านั้น

 

ชิงสุ่ยมองแผนที่โลก 9 มหาทวีป การจะปักธงในแต่ละที่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและแผนที่ที่เขาได้จากตลาดนั้นก็เป็นส่วนเล็ก ๆ แน่นอนว่าจะต้องมีแผนที่สำหรับมหาทวีปอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่แผนที่เหล่านี้ก็ไม่ค่อยแม่นยำเท่าไรนัก เนื่องจากโลก 9 มหาทวีปเป็นดินแดนกว้างใหญ่ อีกทั้งข้อมูลที่มีอาจจะเป็นข้อมูลเก่า

 

มหาทวีปธรรมไตร!

 

ชิงสุ่ยมองมหาทวีปธรรมไตรที่อยู่บน 5 มหาทวีป เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะเปลี่ยนที่ตั้งของจุดปักธงได้ไหมในอนาคต แต่ชิงสุ่ยไม่ลังเลอีกต่อไปเพราะนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แม้ย่างก้าว 9เทวายังไม่สามารถเดินข้ามไปมาระหว่าง 9 มหาทวีปได้และการพัฒนาทักษะนี้ก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน ซึ่งชิงสุ่ยไม่รู้เลยว่าจะเกิดการก้าวข้ามเมื่อไร อาจจะสิบปีหรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตามความสามารถของมันในตอนนี้ก็มีประโยชน์เพียงพอแล้ว  และก็ไม่ความจำเป็นจะต้องไปกังวลเรื่องของอนาคตในตอนนี้ด้วย

 

ราวกับว่ามีพลังเวทมนต์อยู่ในมือของชิงสุ่ย เมื่อเขาชี้ไปที่มหาทวีปธรรมไตร วงสีแดงก็ปรากฏขึ้น

 

ในที่สุดก็ปักธงได้สำเร็จ 1 จุด และเขาก็สามารถเดินทางไปที่นั้นได้ทันทีที่ต้องการ ยิ่งกว่านั้นถ้าเขาจะกลับมาที่นี้ เขาก็แค่เคลื่อนย้ายตัวเองไปหาท่านอาจารย์หญิงเท่านั้น เพราะว่าไม่มีข้อจำกัดระหว่างผู้ใช้

 

ตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกเหมือนได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อคิดลึกๆ ชิงสุ่ยก็แอบเสียใจ เพราะสถานการณ์ตอนนี้เหมือนได้เปรียบและเสียเปรียบ เพราะถ้าหญิงสาวเคลื่อนยาวตัวเองมาหาเขาในตอนที่เขาอยู่ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ หญิงสาวจะไปโผล่ที่ไหน?

 

เธออาจจะถูกส่งเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ..หากเขาอยู่ที่นั้นในตอนนั้น

 

ชิงสุ่ยหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะความต้องการของเขานั้นยิ่งใหญ่กว่า อย่างไรซะยังมีสิ่งที่เขาต้องสะสางให้เรียบร้อย สิ่งที่เขากังวลก็คือ เขาอาจจะไม่ถูกส่งกลับมาที่นี้ ซึ่งมันก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ชิงสุ่ยคิดเรื่องนี้เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน

 

วันต่อมาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ เพื่อฝึกฝนในตอนเช้า

 

พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้การเปลี่ยนแปลงในตัวเขา ในตอนที่ชิงสุ่ยหันไปรอบ ๆ เขาก็พบว่าหญิงสาวกำลังมองเขาอยู่จากในศาลา

 

ในตอนที่เธอเห็นว่าชิงสุ่ยก็กำลังมองเธอ เธอเคลื่อนตัวมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาอยู่ข้างกายชิงสุ่ยด้วยเวลาเพียงอึดใจเดียวจนชิงสุ่ยตกใจ

 

พลังของหญิงสาวมากถึง 20,000  เมฆา

 

ยิ่งชิงสุ่ยตกใจ เธอก็ยิ่งตกใจเช่นกัน ที่พลังของชิงสุ่ยเพิ่มขึ้นมากมายในเวลาเพียงไม่นาน เธอมองชิงสุ่ย ดวงตาคู่นั้นทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก

 

“ข้าอาจจะกลับไปที่ 5 มหาทวีปในอีกไม่ช้า และข้าอาจจะเคลื่อนย้ายตัวข้ามาหาท่านอีก”ชิงสุ่ยบอกเธอ

 

ในตอนที่เธอได้ยินคำว่า “เคลื่อนย้ายร่าง” ใบหน้าของเธอดูแปลกตาไปทันที  “ธงสวรรค์ปัญจธาตุของเจ้าบรรลุขั้นที่ 1 แล้วเหรอ?”

 

“ใช่ เพราะข้ามีของวิเศษช่วยเพิ่มพลัง น่าเสียดายที่ของสิ่งนั้นไม่สามารถใช้กับท่านได้”

 

“ข้าเข้าใจ แล้วจุดปักธงแรกล่ะ?”

 

“สำหรับขั้นที่ 1 สามารถปักได้ในบริเวณ 5 มหาทวีปเท่านั้น”ชิงสุ่ยอธิบายด้วยน้ำเสียงเศร้าใจเล็ก ๆ

 

หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะพูดบางอย่างที่ทำให้ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไร “เจ้าห้ามเคลื่อนย้ายร่างมาตอนข้ากำลังอาบน้ำเด็ดขาดนะ!”

 

“ข้าไม่ทำหรอก..มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้น”ชิงสุ่ยพูดอย่างเขินอาย

 

“หืม พ่อหนุ่ม เจ้ากำลังเขินหรือคิดว่าข้าไม่ดีพอสำหรับเจ้ากันแน่?”หญิงสาวดูท่าทางชอบใจเมื่อเห็นท่าทีเช่นนั้นของชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด เขาพูดอะไรไม่ออก เพราะเธอก็เป็นสาวงามเต็มตัวที่เหมือนกับผลไม้ใกล้สุกงอมจนน้ำหวานทะลักออกมา..

 

เมื่อชิงสุ่ยนึกถึงน้ำหวาน..เขาก็อดนึกถึงหญิงสาวในสภาพเมื่อกลางดึกเสียไม่ได้ …ภาพในตอนที่ส่วนล่างของเธอกำลังชุ่มช่ำ..

 

หญิงสาวมองชิงสุ่ยก่อนจะยื่นมือมาเชยคางของเขา จนชิงสุ่ยตะลึงอีกครั้ง ชิงสุ่ยรู้สึกเหมือนถูกเธอหยอกล้อ

 

“พ่อหนุ่ม ไม่ทราบว่าเจ้ากำลังมองอะไรงั้นเหรอ? จะเชื่อรึไม่ ก็ช่าง.. แต่ข้านี่แหละที่จะเป็นฝ่ายกลืนกินเจ้าเอง..”

 

แม้ท่าทางของเธอจะดูเป็นผู้ใหญ่และดูบริสุทธิ์ แต่สิ่งที่เธอพูดก็ทำให้ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าเขาควรจะร้องไห้หรือหัวเราะดี เขารีบใช้มือปัดมือของหญิงสาวออกไป