บทที่ 122 แผนการเติบโตของระบบได้เริ่มต้นขึ้น

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

บทที่ 122 แผนการเติบโตของระบบได้เริ่มต้นขึ้น
ทันทีที่แอนเดอร์สันพูดจบ ไห่เฉิงซึ่งยังคงโจมตีด้วยดวงตาศักดิ์สิทธิ์ผ่านทางถ้ำต่อไปก็ราวกับถูกมีดคมเฉือน เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทันที ก่อนจะขมวดคิ้วและล้มลง

ตอนนั้นเองโม่ซิ่งผู้ซึ่งกำลังเติมพลังเวทของตนให้เขาอยู่ด้านหลัง สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นไม่อยากเชื่อ มือยกขึ้นจับศีรษะ เศษผมร่วงหลุดออก พร้อมกับรอยคราบเลือดที่มองเห็นได้ชัดเจนก็ปรากฏขึ้น

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ถ่มน้ำลายออกมา “โชคดีที่ฉันเตี้ยกว่าพี่ไห่มาก…”

ใบหน้าของไห่หลานตกตะลึง “ฉันใช้การป้องกันถึงสี่ชั้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถป้องกันได้อีกเหรอ?”

ตอนนั้นเอง ติงเซียงก็เข้ามาช่วยเหลือ

…………

ในสนามรบ แอนเดอร์สันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงผิดหวังอีกครั้ง

“ไม่มีการเชื่อมโยงตามที่คาดไว้จริงๆ หลังจากที่ดวงตาเทพเจ้าโจมตีเกินระยะทาง ความพินาศก็จะสลายตัวเร็วมากขึ้น”

“โอเค ดูเหมือนว่าครั้งนี้ฉันคงจะต้องยอมแพ้จริงๆ ดังคำพูดนี้ที่เคยกล่าวไว้ การพึ่งพาตนเองเป็นแนวทางของกษัตริย์ หากต้องการที่จะขโมยเทคโนโลยีขั้นสูงสุด คุณก็ไม่สามารถทำได้ แม้ว่าจะขโมยได้ไม่ครบ อย่างน้อยก็เข้าใจเรื่องนี้มากพอ แล้วนั่นก็เพียงพอแล้ว แต่คนที่จ้องจะทำลายแผนการของฉัน มันไม่มีวันรอดไปได้”

ฟางหนิงได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายในพื้นที่ระบบ ก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเข้ามา

เขาฝึกฝน ‘การแปลงร่างมังกร’ และฝึกฝน ‘คัมภีร์โพธิ์’ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นคู่มือลับที่สมบูรณ์แบบที่ได้รับจากระบบ ตอนนี้เขาไม่ใช่มือใหม่ในการต่อสู้อีกต่อไปแล้ว เพราะเขารับรู้ได้ถึงอันตรายที่แฝงอยู่

การแจ้งเตือนของระบบ ‘ระบบจะใช้ช่องพลังงานบวกที่เหลือทั้งหมด และระบบจะใช้พลังความโกรธทั้งหมดเพื่อเพิ่มพลังให้แก่วิชา ‘การแปลงร่างมังกร’ ก่อนหน้านั้น ‘การแปลงร่างมังกร’ อยู่ในระดับกลาง แต่ตอนนี้ได้ได้ก้าวไปสู่ ‘การรวมร่างมังกรคู่’ อีกครั้ง

ระบบเปิดใช้งานรูปแบบของมังกรลม และมังกรเพลิงเพื่อรวมร่าง นี่จะทำให้ความแข็งแกร่งของร่างกายของโฮสต์เพิ่มขึ้นอย่างมากฟางหนิงตกตะลึง

เพียงแค่เขาเห็นร่างมังกรเพลิงตัวนั้น ทันใดนั้นแสงสีฟ้าก็วาบผ่านบนตัวมังกรเพลิวแล้วปรากฏขึ้นตรงศีรษะมังกรอีกตัวหนึ่ง ไม่เพียงเท่านั้น ด้านบนเกล็ดสีแดงเพลิงบนร่างมังกร ก็ได้ปรากฎเกล็ดสีฟ้าชั้นใหม่ปกคลุมเกสรสีแดงไว้จนหมดสิ้น เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งกว่ามาก

ในเวลาเดียวกันกับที่มังกรเพลิงเปลี่ยนร่าง บรรดาผู้คนที่นอนอยู่ในโลงแก้วต่างก็ลืมตาขึ้นทีละคน ทันใดนั้นรูทวารทั้งเจ็ดก็เปิดออก และหลังจากผ่านการโจมตีสองสามครั้งก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอีก

ใจของฟางหนิงที่เต้นระรัวอยู่ครู่หนึ่ง นี่แหละความน่ากลัวของยุคนี้ ดังเช่นมหาสมุทรที่ดูเหมือนจะสงบ วันหนึ่งอาจมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามา ก่อนคลื่นจะสงบตัว ใครที่ขึ้นเรือใหญ่ไม่ทัน ขึ้นได้แต่เรือลำเล็ก ก็ต้องว่ายน้ำเปลือยกายและถูกคลื่นดูดกลืนลงทะเลอย่างไร้ความปราณี…

ผู้โชคดีเท่านั้นที่จะได้นั่งบนเรือลำใหญ่ที่มีรากฐานที่ดีและอัพเกรดตัวเองได้

ในขณะที่ฟางหนิงกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นโล่สีดำทั้งหมดก็หายวับไปทันที

บนร่างของชายหนุ่มผิวขาวซีดที่เสียชีวิต วิญญาณก็ปรากฏขึ้น เทียบกับดวงตาเทพเจ้าของร่างมังกรขาวของฟางหนิง รูปแบบของดวงตาเทพเจ้านี้มีพลังมากกว่ามาก ฟางหนิงเพียงแค่มองผ่านระบบมุมมอง ก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่เหนือกว่าเขาอย่างแท้จริง

แอนเดอร์สัน “มันอยู่ได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น มาเลย มาเลย อัศวิน A มังกรตัวจริง คราวนี้ถึงคราวตายของแก!”

แต่ก่อนที่จะพูดจบ พริบตาต่อมาเขาก็พุ่งชนร่างของมังกรลมสองหัว!

ฟางหนิงตกตะลึงหลังจากที่มองผ่านมุมมองของระบบ เขาเคยเห็นเทพของระบบใช้มังกรเพลิงหรือมังกรพิโรธทำลายร่างกายคนมานับครั้งไม่ถ้วน จากนั้นเขาก็ทำลายอีกฝ่ายให้กลายเป็นฝุ่นผงที่กระจัดกระจายไป!

แต่โชคดีไม่ได้อยู่กับคุณตลอด หรือคราวนี้จะถึงคราวโชคร้ายแล้วว?

ฟางหนิงรู้สึกเสียใจที่เขาขี้เกียจขึ้นมาทันที ถ้าเพียงแต่เขาตั้งใจ ขยันฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง มีพัฒนาการในทุกวัน ตื่นนอนเวลาตีสี่ครึ่งทุกเช้า และเข้านอนเวลาห้าทุ่มทุกวัน คงจะดีกว่านี้…

แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว…

ศัตรูที่เทพแห่งระบบต้องเจอนั้น แม้แต่เฉียวจื่อซาน และคนอื่นๆ ก็รับมือไม่ได้ แม้ว่าเขาจะทำงานหนักเป็นเวลาห้าเดือน เขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย พวกเขาจะถูกฆ่าทันทีเมื่อเขาออกไป…

แน่นอนว่าเขายังคงเริ่มต้นจากกลยุทธ์พื้นฐาน เพื่อช่วยให้เทพแห่งระบบเลื่อนระดับอย่างรวดเร็ว

ขอเพียงแค่เทพแห่งระบบสามารถต้านการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ เขาสัญญาว่าจะจัดทำแผนการเติบโตของระบบให้สมบูรณ์ และจะไม่ยอมให้เทพแห่งระบบประมาทอีก…

เวลาผ่านไปทีละนิด…

ฟางหนิงกำลังรอผลของการต่อสู้ที่เด็ดขาดภายในร่างกายอย่างใจจดใจจ่อ มุมมองของระบบไม่สามารถมองเห็นภายในร่างกายได้ และเขาไม่ได้ฝึกเพื่อที่จะมองเข้าไปข้างใน เขาจึงไม่รู้เลยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในขณะนี้

เขาไม่พูดอะไรออกมาอีก ด้วยกลัวว่าจะรบกวนจิตวิญญาณของเทพแห่งระบบที่ต่อสู้กับศัตรูและกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสินระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้

เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจับตาดูสิ่งรอบข้างจากมุมมองของระบบ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อื่นขึ้น ไม่อาจพูดได้ว่ามีแค่ตัวเขาเอง มังกรขาวผู้ศักดิ์สิทธิ์นี้ปรากฏตัวเป็นผู้กอบกู้โลกอีกครั้งหนึ่ง

ประมาณห้านาทีต่อมา เฉียวจื่อซานและคนอื่นๆ ก็เข้ามาในสนามรบอย่างระแวดระวัง ฟางหนิงจึงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย อย่างน้อยกลุ่มของพวกเขาก็ไม่มีใครคิดทรยศ

เฉียวจื่อซาน มองเห็นลมและไฟของมังกรสองหัว และเห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะถูกแช่แข็งในอากาศ ไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหว

“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”

หลังจากเฉียวจื่อซานพูดแล้ว เขาก็หันไปหาไห่เฉิง

ไห่เฉิงปิดหว่างคิ้วแล้วขา และหลังจากการรักษาฉุกเฉินจากรองหัวหน้าทีมอย่างติงเซียง อาการบาดเจ็บของเขาก็ทุเลาลง

เขาพูดว่า “ฉันจะลองดูอีกครั้ง”

เมื่อไห่หลาน พี่สาวของเขาได้ยินดังนี้ เธอก็พูดทันที “นายเพิ่งได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ยังไหวเหรอ?”

ใบหน้าของไห่เฉิงสงบมาก “ไม่เป็นไร ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

ขณะที่เขาตอบกลับ หว่างคิ้วก็เปิดออกอีกครั้ง

และหลังจากเปิดมันได้ น้ำตาก็พลัยไหลออกมาจากตาดวงนั้นทันที ลามไปที่จมูกของเขา ราวกับว่าใบหน้าทั้งหมดของเขาถูกผ่าครึ่ง

แสงสีฟ้าส่องผ่านดวงตาสีเลือดอีกครั้ง ฉายแสงไปที่มังกรสองหัว

ไห่เฉิงดูงุนงง “มังกรแห่งจิตวิญญาณมีดวงตาเทพเจ้าที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ไปทั่ว ราวกับว่าเขากำลังมองหาบางอย่างที่ใช้ในการต่อสู้ ดวงตาเทพเจ้านั้นชั่วร้ายและลึกลับ ไม่ใช่ดวงตาเทพเจ้าของมังกรแห่งจิตวิญญาณอย่างแน่นอน”

ทันทีที่เฉียวจื่อเจียงได้ยินประโยคนี้ เธอก็ถามทันทีว่า “มีอันตรายอะไรไหม? เป็นไปได้ไหมที่จะเป็นนายของดวงตาเทพเจ้าก่อนหน้านี้?”

ไห่เฉิงส่ายหัว “ไม่มีอันตราย ดวงตาเทพเจ้าที่น่าสะพรึงกลัวถูกมังกรในร่างกายปิดกั้นและมันไม่สามารถออกมาทำร้ายผู้คนได้แล้ว แต่ดวงตาเทพเจ้าของมังกรแห่งจิตวิญญาณนั้นไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว นี่คือเหตุผลที่มังกรแห่งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นี้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้”

ฟางหนิงรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของไห่เฉิงจากพื้นที่ของระบบ ขณะนี้เขาทำได้เพียงฟังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และหวังว่าคำพูดเหล่านั้นจะเชื่อถือได้

เฉียวจื่อซานและคนอื่นๆ เฝ้าระวังอยู่ทุกหนทุกแห่งเพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามฉวยโอกาสลอบโจมตี

…………

อีกห้องหนึ่ง ผู้เฒ่าไป๋กำลังรับชมฉากนี้บนหน้าจอขนาดใหญ่ รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของเขา

ผู้เฒ่าไป๋ “มันควรจะเป็นไม้ตายสุดท้ายของแอนเดอร์สันศึกชี้ชะตาของดวงตาเทพเจ้า อย่างที่คาดไว้ อัศวิน A จะชนะ แต่ดวงจาเทพเจ้าของเขากลับบาดเจ็บสาหัส และมันจะต้องใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อยสองสามปี”

ไป๋ซื่อซิน “ท่านผู้เฒ่าก็ชมเกินไปแล้ว อันตรายของศึกชี้ชะตาดวงตาเทพเจ้านี้ พวกเราในฐานะมนุษย์นั้นเข้าใจมากที่สุด การแข่งขันระหว่างสองฝ่าย มีช่องว่างมาก ผู้ชนะก็จะถูกโจมตีอย่างหนักเช่นกัน

“ไม่ว่าดวงตาเทพเจ้าของอัศวิน A จะแข็งแกร่งเพียงใด เมื่อเทียบกับผลรวมของดวงตาเทพเจ้าของพลังไซโอนิกของแอนเดอร์สัน ย่อมได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีวิธีรักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณประเภทนี้ และกว่าเขาจะฟื้นตัวรากฐานของพวกเราก็มั่นคงแล้ว”

ผู้เฒ่าไป๋ตอบรับ “อืม ซื่อซิน แกใจเย็นกว่าที่ฉันคิด”

ภาพหน้าจอเปลี่ยนไป พวกเขาต่างมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาพร้อมกันในทันที…

…………

ฟางหนิงไม่พูดอะไร เขารอถึงครึ่งชั่วโมงก่อนจะได้ยินระบบแจ้งเตือน

‘ดวงตาพระเจ้าของแอนเดอร์สันกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการประลองกับดวงตาพระเจ้าของโฮสต์

แอนเดอร์สันไม่พบเป้าหมายการต่อสู้

แอนเดอร์สันกำลังมองหาเป้าหมาย…

แอนเดอร์สันกำลังมองหาเป้าหมาย…

แอนเดอร์สันสับสน…

แอนเดอร์สันเตรียมที่จะล่าถอย และระบบก็ปิดกั้น

การล่าถอยของแอนเดอร์สันล้มเหลว และแอนเดอร์สันล้มลง…

การปลดปล่อยดวงตาเทพเจ้าของแอนเดอร์สัน ทำลายทุกสิ่งอย่าง…

ร่างกายของโฮสต์ได้รับบาดเจ็บ และระบบกำลังรักษา…

โฮสต์ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ

กระบวนการข้างต้นนั้นกำลังวนซ้ำเรื่อยๆ …

ดวงตาเทพเจ้าของแอนเดอร์สันประสบกับภาวะถดถอยอย่างรุนแรง…

ระบบจับจิตวิญญานของแอนเดอร์สันและใส่ไว้ในเซลล์ระบบ

โฮสต์ได้รับบาดเจ็บสาหัส…

ในเวลานี้ ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นว่ามังกรสองหัวตกลงมาจากกลางอากาศ และเปลี่ยนร่างเป็นอัศวิน A ก่อนจะอาเจียนเป็นเลือดออกมา!

ติงเซียงรีบรักษา แต่ก็พบว่าผลการรักษาของเธอมีประสิทธิภาพน้อยมาก

ฟางหนิงเห็นฉากนี้จากมุมมองของระบบเป็นครั้งแรก นี่เป็นครั้งแรกที่เทพแห่งระบบอาเจียนจนเป็นเลือดและได้รับบาดเจ็บ!

ในเวลานี้เขารู้สึกปวดใจไม่น้อย เขาหายใจติดขัด “มันเป็นความผิดของฉันเองที่ฉันขี้เกียจเกินไป และฉันลืมเตรียมแผนการเติบโตของระบบให้แกก่อนหน้านี้ ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ระบบ แกยังสบายดีใช่ไหม?”

ระบบ “ระบบไม่เป็นอะไร แต่ร่างกายของโฮสต์…”

ฟางหนิงพูดแทบไม่ออก “เอาล่ะ ฉันลืมไปว่าสิ่งที่ฉันควรกังวลมากที่สุดคือร่างกายของฉันเอง… ฉันจะรักษาอาการบาดเจ็บร้ายแรงนั้นได้อย่างไร?”

ระบบตอบกลับ “กินยา”

ฟางหนิงตอบ “เอาล่ะ คราวหน้าแกห้ามใจร้อนอีก”

ระบบ “โฮสต์สบายใจได้ ดวงตาเทพเจ้าของแอนเดอร์สันนี้ หากเขาไม่รีบเข้าไปในร่างโฮสต์ของตัวเอง ก็จะไม่สามารถจับเขาได้เลย ประโยชน์ของการจับเขาครั้งนี้ไม่มีที่สิ้นสุด และโฮสต์จะรู้ในภายหลัง ตอนนี้ระบบจะมอบหมายงานใหม่ให้โฮสต์”

ฟางหนิงตกใจมาก “เขาแข็งแกร่งมากเลยเหรอ?”

ระบบตอบกลับ “ถูกต้อง ทุกคนรู้ว่าการต่อสู้ทางจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด ถ้าเปลี่ยนเป็นพระโพธิสัตว์ก็มีโอกาสสูงที่จะถูกเขาฆ่า ในตอนนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถต้านเขาได้”

ฟางหนิงรู้สึกโชคดีมากในตอนนี้ “โชคดีของระบบที่แกไม่ใช่สิ่งมีชีวิต โชคดีที่หลังจากที่ฉันได้รับมอบหมายจากแกฉันก็อยู่ในพื้นที่ของระบบมาตลอด”

ระบบ “ใช่ ถูกต้อง โฮสต์ครั้งนี้คุณทำได้ดีมาก ต้องขอบคุณความขี้ขลาดและกลัวตายที่ฝังในหัวของโฮสต์ โฮสต์ได้พัฒนานิสัยที่ดี ขอเพียงแค่โฮสต์ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของระบบในตอนนี้ เขาจะมาถึงในทันที และด้วยความคิดของมนุษย์ ไม่สามารถตอบโต้กลับได้เลย เขาสามารถจับโฮสต์ได้ในคราวเดียว และเราจะถูกแขวนไปด้วยกัน ครั้งนี้อยากได้รางวัลภารกิจเป็นอะไร?”

ฟางหนิงส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการรางวัลอะไรทั้งนั้น ฉันตระหนักได้ทันทีว่าในยุคของการฟื้นฟูพลังชีวิตนี้ คือการได้อยู่ในพื้นที่ของระบบด้วยความอุ่นใจเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว”

ระบบงุนงง “???”

หลังจากนั้นไม่นาน ระบบก็พูดว่า “โฮสต์ถูกดวงตาเทพเจ้าที่หลงเหลือของแอนเดอร์สันจู่โจมเหรอ? ไม่มีทาง นี่แปลกมากๆ ระบบต้องเช็กสักหน่อย…”

ก่อนที่ฟางหนิงจะได้ค้านอะไร เขาก็ได้ยินข้อความแจ้งเตือนจากระบบแล้ว

ระบบเริ่มตรวจสอบจิตใจของโฮสต์

ระบบตรวจสอบจิตใจของโฮสต์…

ระบบพบว่าวิญญาณของโฮสต์อยู่ใน ‘สถานะปราชญ์’ ชั่วคราว

ระบบจะถือว่าทุกอย่างเป็นปกติและสิ้นสุดการตรวจสอบ

ฟางหนิงกล่าวเบาๆ “ขอบคุณท่านเทพแห่งระบบที่เป็นห่วงฉันนะ”

……………………………………….