ตอนที่ 88 สิ่งมีชีวิตและของกินที่น่ากลัวที่สุดในโลก

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

การมีขายาวนั้นมีข้อดียังไง 

 

 

อันซย่าซย่าไม่เคยคิดถึงคำถามนั้นมาก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเมื่อเธอคิดว่าสามารถทิ้งระยะห่างจากเขาได้มากพอสมควร จนมายืนหอบอยู่ข้างเสาไฟฟ้า เซิ่งอี่เจ๋อก็เดินตามมาทันในไม่กี่อึดใจ เขามองเธอด้วยท่าทางเย็นชาขณะดึงคอเสื้อเธอไว้ อันซย่าซย่าคิดอย่างอิจฉา “ฉันอยากมีขายาวสักร้อยแปดสิบเซนฯ …” 

 

 

“ใจเย็นแล้วเรามาคุยกันอย่างคนที่เจริญแล้วเถอะ ระวังสิ่งที่นายกำลังทำด้วย นายยังเป็นคนดังอยู่นะ มันจะดูไม่งามเอามากๆ เลยถ้าเกิดใครสักคนแอบถ่ายรูปตอนนายทำแบบนี้…” อันซย่าซย่าพยายามโน้มน้าวเพื่อเอาตัวรอด 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่หลงกลคำพูดของเธอ เขาร้องหึแล้วออกคำสั่ง “อธิบายมาเลย” 

 

 

อันซย่าซย่าโอดครวญอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กระโดดขึ้นดึงฮู้ดเสื้อแจ็กเกตมาคลุมหัวเขาไว้และพูดด้วยน้ำเสียงประจบเอาใจ “บอสอี่เจ๋อคะ ทั้งหมดเป็นความผิดฉันเอง มันเผลอหลุดปากไปเองน่ะ…หิวไหมคะบอส ไปหาอะไรกินกันเถอะ” 

 

 

การจงใจเปลี่ยนเรื่องคุยทำให้เซิ่งอี่เจ๋อคิดว่าคงใจร้ายเกินไปหากจะไปคาดคั้นเอาความจริง เขาเลื่อนฮู้ดลงมาคลุมหน้าเอาไว้และตัดสินใจว่าคราวนี้จะยอมปล่อยเธอไปก่อน 

 

 

หึ! ใช่ว่าเธอจะหนีไปไหนได้นี่นะ! 

 

 

พอเห็นว่าเซิ่งอี่เจ๋อยอมรามือจากประเด็นนั้นแล้ว เธอก็แอบโล่งใจ แต่อย่างไรก็ตามรอยยิ้มของเธอก็ชะงักไปเมื่อนึกถึงกระเป๋า 

 

 

“เอ่อ… เซิ่งอี่เจ๋อ นายมีเงินบ้างไหม” 

 

 

“ไม่มี” เขาตอบอย่างตรงไปตรงมา เพราะเขาได้ให้กระเป๋าสตางค์ไว้กับฉือหยวนเฟิงไปเมื่อวันก่อนก่อนจะออกมาตามหาอันซย่าซย่าและยังไม่ทันได้คืนมา 

 

 

หญิงสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะล้วงธนบัตรห้าหยวนที่ยับยู่ยี่ออกมาจากกระเป๋า “ฉันเหลือติดตัวอยู่แค่นี้” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพูดอะไรไม่ออกเลย 

 

 

สิบนาทีต่อมา 

 

 

ทั้งสองยืนอยู่ข้างหน้าต่างร้านสะดวกซื้อ กำลังแย่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกัน 

 

 

“เฮ้! ฉันซื้อมันมาด้วยเงินของฉันนะ! นายห้ามกิน!” อันซย่าซย่าโมโหหิว 

 

 

“แต่ฉันให้เงินนั้นกับเธอนะ โอเค้” 

 

 

“ฉันเป็นผู้หญิง เพราะงั้นนายต้องเสียสละสิ!” 

 

 

“ฉันไม่สบาย ดังนั้นเธอก็ควรจะเป็นห่วงสุขภาพฉัน” 

 

 

อันซย่าซย่าต้องยอมพ่ายแพ้อย่างหมดหนทางหลังจากการถกเถียงกัน แต่แล้วก็นึกถึงทางออกสุดท้ายขึ้นมาได้ “ฉันจะไปเอาตะเกียบมาอีกคู่ แล้วเราก็สลับกันกิน!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อสะดุ้งเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมา “ก็ได้” 

 

 

ระหว่างที่อันซย่าซย่าเดินไปขอตะเกียบอีกคู่จากเจ้าของร้าน เขาก็เหลือบมองไปยังถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในมือของเธอ 

 

 

เธอดันเลือกรสชาติที่แปลกประหลาดที่สุดมาด้วยสิ – รสหม้อไฟจัดจ้าน 

 

 

เขาเคยคิดมาตลอดว่าสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้คือผู้หญิงและอาหารที่น่ากลัวที่สุดคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 

 

 

วันนี้วันเดียวเขาเจอเข้าไปทั้งคู่เลย 

 

 

ทำไมชีวิตมันถึงได้ยากลำบากขนาดนี้นะ… 

 

 

ไม่นานนัก อันซย่าซย่าก็กลับมาพร้อมกับตะเกียบแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เธอเชิดหน้าขึ้น “เกี่ยวก้อยสัญญาก่อน!” 

 

 

“ความเชื่อใจกันของคนเรามันหายไปไหนหมดนะ…” มุมปากชายหนุ่มบิดคว่ำลง นี่เขาดูเหมือนคนไม่รักษาสัญญาขนาดนั้นเลยเหรอ 

 

 

หญิงสาวส่ายหน้า “ฉันไม่เชื่อใจนาย นี่มันช่วงเวลาวิกฤต ใครจะบอกได้ว่านายจะไม่ทำอะไรที่ไร้ศีลธรรมหรืออำมหิตผิดมนุษย์” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นแล้วเกี่ยวก้อยสัญญากับเธอ 

 

 

“เกี่ยวก้อยสัญญากันและเรามารักษาคำพูดต่อกันไปอีกร้อยปี…” ระหว่างที่อันซย่าซย่าพร่ำกล่าวคำปฏิญาณด้วยน้ำเสียงจริงจังอยู่นั้น ชายหนุ่มก็ถึงกับนิ่งงันไป 

 

 

ใครบางคนเคยเอ่ยถ้อยคำสัญญาแบบนี้กับเขามาแล้วครั้งหนึ่ง 

 

 

แต่จากนั้น… 

 

 

“นายจะกินหรือไม่กิน” อันซย่าซย่าโบกมือไปมาใส่หน้าเขา 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเรียกสติคืนมา เอาตะเกียบคีบบะหมี่เข้าไปเต็มปาก อันซย่าซย่ามองดูจากอีกฝั่งหนึ่งและคอยเตือนเขา “อย่ากินเยอะนักสิ! คำเบ้อเร่อขนาดนั้น เหลือไว้ให้ฉันบ้าง!” 

 

 

หลังจากนั้นเธอก็ดึงถ้วยบะหมี่กลับมาแล้วเอาส้อมตักเข้าปากคำใหญ่ จากนั้นก็ส่งคืนให้เซิ่งอี่เจ๋ออย่างไม่เต็มใจ 

 

 

แม้แต่เจ้าของร้านก็ยังทนดูไม่ได้ เขาจึงกวักมือเรียกเธอ “นี่ มีผักดองถุงนี้อยู่ในบ้านแน่ะ”