เซี่ยวอวี่เซวียนหันกลับมาด้วยความโกรธ “หัวเราะๆๆ มีสิ่งใดน่าขำหรือ พวกเรายินดีที่จะเก็บหญ้าผิดต่อพวกเจ้าหรือ? ไปไปไป รีบไปซะ”

หลิ่วเย่ว์อวี๋ฮุยก็รีบไล่ตะเพิดคนออกไป เช่นไรนี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าดูจริงๆ

“แม่สาวอัปลักษณ์เจ้ารู้หรือไม่ว่าจุดเส้นวรยุทธ์ของข้าได้ทะลุอีกแล้ว ในตอนนี้ได้ถึงยังขั้นที่เจ็ดแล้ว รอให้ข้าทะลุผ่านขั้นที่เก้าก็สามารถขึ้นระดับที่หนึ่งได้ ถึงเวลานั้นก็ไม่ต้องกลัวมู่หรงเฉินและตงฟังเจ๋ออีกแล้ว”

“พี่ใหญ่ พวกเราสองคนก็ได้ทะลุไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว นี่คือยาเสริมลมปราณที่เหลืออยู่ท่านรีบเก็บไว้ให้ดี ยานี้มีราคาแพงนะ หากให้คนอื่นในสำนักศึกษารู้เข้าก็ไม่รู้ว่าจะแย่งชิงเช่นไรกัน”

นอกจากความอิจฉาแล้วกู้ชูหน่วนยังอิจฉาอีก

ยาเสริมลมปราณเม็ดเดียวพวกเขาก็ทะลุผ่านได้แล้ว เหตุใดนางถึงยังติดอยู่ที่ขั้นสองของเส้นวรยุทธ์หล่ะ ไม่ว่านางจะกินยามากเพียงใดก็ไม่มีวี่แววว่าจะทะลวงผ่านได้

หลิ่วเย่ว์กล่าวว่า “พี่ใหญ่พวกเรายังจะต้องหาที่หลบซ่อนมู่หรงเฉินกับตงฟางเจ๋ออยู่หรือไม่?”

กู้ชูหน่วน “……”

นางมาภูเขาสวินหลงซานหรือว่าก็เพียงเพื่อหลบซ่อนสองคนนั้นหรือ?

“พวกเจ้าดูให้ละเอียดอีกครั้ง สมุนไพรในกระสอบของข้ามีสิ่งใดที่พวกเจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน”

เซี่ยวอวี่เซวียนและคนอื่นๆนั่งย่อเข่าลงล้วงเข้าไปด้านใน จากนั้นล้วงสมุนไพรออกมาได้หลายชนิด “พวกนี้พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน นี่เป็นวัชพืชอันใด?”

ดอกเฟิงซวงหลิง ใบไร้รากอมตะ หญ้าปี้เยี่ย

ของเหล่านี้เป็นยาวิเศษหายากพบได้น้อยนัก แม้ว่าในยุคปัจจุบันก็ยากที่จะหามาได้

“พวกเจ้าสามคนมองหาสมุนไพรตามชนิดเหล่านี้เด็ดมาให้มากๆหน่อย ยิ่งมากเท่าใดก็ยิ่งดี

“เอ่อ……เด็ดหญ้าเหล่านี้ไปทำสิ่งใด? แม่สาวอัปลักษณ์สมองเจ้าคงไม่ได้ถูกเผาจนเสียไปแล้วนะ?”

“สมองเจ้าสิที่ถูกเผาจนเสีย ข้าดูเหมือนคนที่ว่างเช่นนั้นหรือ? ให้พวกเจ้าเก็บก็ต้องมีประโยชน์ต่อข้าแน่ๆ”

“มีประโยชน์อันใด”

ค่อยคุยกันภายหลัง เวลามีค่ายิ่งนักรีบเก็บกันเถอะ” นางกล้ารับประกันว่าออกจากภูเขาสวินหลงแล้วคิดที่จะเก็บสมุนไพรเหล่านี้ที่อื่นนั้นยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก

“หากว่าเกิดพบกับตงฟังเจ๋อและคนอื่นๆเข้าหล่ะ?” เซี่ยวอวี่เซวียนนั้นไม่ได้ลืมว่าสองคนนั้นยังคงตามหากู้ชูหน่วนไปทั่วโลกและเตรียมสังหารเอาชีวิตของนาง

“ไปเก็บที่ที่คนมากๆ คนยิ่งเยอะยิ่งดี” เพียงแค่คนเยอะพวกเขาต้องการลงมือก็ต้องคิดใคร่ครวญ

“ได้”

บอกว่าทำก็ทำกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆอีกสี่คน แต่ละคนถือกระสอบใหญ่คนละใบเดินไปยังสถานที่ที่คนพลุกพล่านเก็บไปตลอดทางโดยหวังที่จะเก็บสมุนไพรไปให้หมด

ผู้คนที่สำนักศึกษาวังหลวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขบขันกันอีกครั้ง

“คนโง่เง่าสี่คนคิดว่าวัชพืชเหล่านี้เป็นสมุนไพรหายากที่เก็บไปแล้วสามารถหาเงินมาได้หรือ? หากว่าสมุนไพรเก็บได้ง่ายดายเช่นนั้นภูเขาสวินหลงจะเต็มไปด้วยวัชพืชเหล่านี้ได้เช่นไร?”

“ข้านึกว่าสมองกู้ชูหน่วนฉลาดเฉลียวคิดไม่ถึงว่าจะซื่อบื้อเช่นเดียวกับแต่ก่อน เฮ้อ ดูเหมือนว่าข้าจะมองว่านางเก่งกาจมากเกินไปเสียแล้ว”

“ช่างเถอะ พวกเขาชอบเก็บหญ้าก็เก็บไปเถอะ พวกเรารีบไปล่าของล้ำค่ากันต่อเร็ว ใช่แล้ว อย่าได้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่นั่นมีสัตว์ดุร้ายมากมายซึ่งช่างดุร้ายยิ่งนัก ลูกศิษย์หลายคนในสำนักศึกษาถูกกินไปกันหมดแล้ว”

“อะไรนะ……สัตว์ดุร้ายอะไรถึงได้ร้ายกาจเช่นนี้ถึงขนาดกินคนได้ด้วย?”

“ข้าก็ไม่รู้ว่าสัตว์ดุร้ายอันใด รูปร่างลักษณะดูไม่เหมือนกันซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ว่าความเร็วช่างไวนักเห็นคนเข้าก็กัดเลย”

“เช่นนั้นข้าก็ไม่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้แล้ว พวกเราไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือกันเถอะ ได้ยินมาว่าที่นั่นมีสมบัติล้ำค่ามากมาย”

ดวงตาของกู้ชูหน่วนเป็นประกายและสมองก็หมุนได้อย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าที่ใดที่มีสิ่งของวิเศษที่นั่นเป็นต้องมีสัตว์ดุร้ายคอยเฝ้าดูอยู่

และระฆังวิญญานสะบั้นของนางก็นำทางให้นางไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่ว่าจะมีสมบัติล้ำค่าอยู่ที่นั่นจริงๆ

“เซี่ยวอวี่เซวียน ไป พวกเราไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้กัน”