บทที่ 505 คุณสมบัติไม่ถึง / บทที่ 506 จับเธอ Ink Stone_Romance
บทที่ 505 คุณสมบัติไม่ถึง
เยี่ยหวันหวั่นประคองเจียงเยียนหรานอย่างระมัดระวัง ผลักผู้คนให้เปิดทางพลางเดินออกจากบาร์
เธอมั่นใจว่าตัวเองเคยเจอผู้หญิงคนนั้นที่ไหน เพียงแต่นึกไม่ออกชั่วขณะ รอกลับไปก่อนเธอจะลองคิดดูดีๆ อีกที…
เยี่ยหวันหวั่นประคองเจียงเยียนหรานพลางจดจ่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขณะเดินผ่านโต๊ะบาร์ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งขวางด้านหน้าเอาไว้
เยี่ยหวันหวั่นไม่ทันสังเกต จึงเดินหลีกไปอีกทาง
ทว่า พอเปลี่ยนเส้นทาง อีกด้านหนึ่งก็ถูกขวางไว้แล้ว
เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้ง จนเยี่ยหวันหวั่นรู้สึกตัวแล้วว่าผิดปกติ นี่มันจงใจนี่?
เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มคนที่มาขวางทางเดินของพวกเธอ
คนที่เป็นหัวโจกคือคุณชายเพลย์บอยสวมเสื้อผ้าโอร์ กูตูร์แบรนด์อาร์มานี่ ใบหน้าหื่นกระหาย สายตาหยาดเยิ้มเลื่อนลอยที่เมามายคู่นั้นกำลังพิจารณาเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างลำพองใจราวกับกำลังประเมินเหยื่อ
ด้านหลังคุณชายเพลย์บอยมีคนชุดดำร่างสูงใหญ่บึกบึนหลายคน ดูจากบุคลิกรูปร่างแล้วไม่เหมือนบอดี้การ์ดธรรมดาทั่วไป แต่เหมือนบอดี้การ์ดประจำบ้านของตระกูลผู้ดีที่ผ่านการฝึกมาหนักหน่วง
“จิ๊ๆ สวย…สวยจริงๆ…”
ดวงตาของคุณชายเพลย์บอยตะลึงกับสิ่งสวยงามตรงหน้า สายตาที่จ้องมองเยี่ยหวันหวั่นราวกับลิ้นงูพิษชุ่มเหนียวและน่ารังเกียจ ค่อยๆ เลียผิวหนังคน ชวนให้รู้สึกขนลุก
ผู้ชายท่าทางเจ้าเล่ห์ข้างๆ คุณชายเพลย์บอยมีหน้าตาอัปลักษณ์ สวมเสื้อกั๊กสีดำ ย้อมผมทอง ได้ยินดังนั้นก็ถูมืออย่างย่ามใจ “ผมก็บอกแล้วว่าใช้ได้ คุณชาย ผมจะไปหลอกคุณชายได้ยังไงกัน!”
คนหัวทองพูดจบแล้วก็หันมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยท่าทางอวดดี “คนสวย คุณชายเฉินของพวกเราเชิญเธอไปดื่มด้วยกันสักแก้ว ไปกันเถอะ!”
เยี่ยหวันหวั่นกวาดมองคนพวกนี้ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “โทษที ไม่มีอารมณ์”
นายหัวทองนิ่งอึ้ง คาดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าปฏิเสธ “เธอรู้หรือเปล่าว่าคุณชายของเราเป็นใคร?”
บาร์เหล้านี่เป็นร้านของคุณชายของเขา คนที่มาที่นี่ยังไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธคุณชายเฉินมาก่อน นอกเสียจากคนตาบอดที่ไม่รู้จักพวกเขา
ใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นยังไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “ฉันต้องรู้ด้วยเหรอ?”
น้ำเสียงเฉยเมยของเยี่ยหวันหวั่นยั่วให้นายหัวทองโมโหขึ้นมา “คุณชายฉันเป็นถึงลูกเจ้าของซินต๋าอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นเจ้าของสการ์เล็ตบาร์แห่งนี้!”
“แล้วไง?”
“เพราะงั้น ให้เกียรติเธอแล้วก็อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย!”
…
ห่างออกไปไม่ไกล ซ่งจิ้งรู้สึกแล้วว่าสถานการณ์ข้างหน้าไม่สู้ดีนัก รีบเอ่ยขึ้นว่า “หัวหน้า คุณหนูเยี่ยถูกคนหาเรื่องแล้ว!”
“ชอบล่อผึ้งเรียกผีเสื้อ[1]!” หลิวอิ่งส่งเสียงเฮอะ
“เอ่อ หัวหน้า พวกเรารีบเข้าไปช่วยก่อนเถอะ ไม่งั้นถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา…” ซ่งจิ้งเผยสีหน้าร้อนใจ
แววตาหลิวอิ่งวูบไหวเล็กน้อย ปรายตามองซ่งจิ้ง “กลัวอะไร? ผู้หญิงคนนั้นเก่งออกขนาดนี้ เป็นถึงว่าที่นายหญิงของตระกูลซือ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ต้องให้นายเป็นห่วงด้วยเหรอ?”
ซ่งจิ้งถูจมูกด้วยสีหน้าเก้อกระดาก เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจ “แต่ว่า…ยังไงเธอก็เป็นแค่ผู้หญิง…คนที่มาหาเรื่องคือเฉินซื่อเจี๋ยลูกเศรษฐีตระกูลเฉินคนนั้น ชอบอาศัยบารมีพ่ออวดเบ่งรังแกคนไปทั่วเมืองหลวง ขึ้นชื่อเรื่องความอันธพาล ไม่รู้ว่าเล่นงานผู้หญิงตายไปกี่คนแล้ว…คุณหนูเยี่ยมีคนประเภทนี้มาวอแว กลัวว่า…กลัวว่าจะโดนเอาเปรียบเข้า…”
แววตาหลิวอิ่งเยียบเย็น “ที่จริงนายก็รู้ดีนี่? ฉันจะบอกให้ ถ้าไม่มีนายท่าน ไม่มีตระกูลซือ ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่มีอะไรทั้งนั้น เธอเป็นคนรักน่ะได้ แต่เป็นนายหญิงของบ้านเหรอ? คุณสมบัติไม่ถึง!”
เห็นท่าทางมาดร้ายของหลิวอิ่ง ซ่งจิ้งได้แต่นิ่งเงียบ ไม่กล้าขัด
มองจากมุมหนึ่ง สิ่งที่หัวหน้าพูดก็ถูก ให้ผู้หญิงอย่างเยี่ยหวันหวั่นมาเป็นนายหญิงของบ้าน….คุณสมบัติไม่ถึงจริงๆ นั่นแหละ…
………………………………………………………………..
บทที่ 506 จับเธอ
สีหน้าซ่งจิ้งอับจนปัญญา
แม้ว่าใจจะคิดเช่นนี้ แต่ว่าคนเขาก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ถึงได้ให้พวกเราออกมาด้วย คงจะคาดหวังให้เธอติดปีกบินหนีออกไปจากสถานการณ์แบบนี้ได้ด้วยตัวเองไม่ได้หรอกมั้ง?
ขณะที่หลิวอิ่งและซ่งจิ้งเฝ้ามองความเป็นไปของสถานการณ์อยู่เฉยๆ เยี่ยหวันหวั่นถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมเอาไว้แล้ว
คนอื่นในร้านเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางนี้ล้วนไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามายุ่ง ตรงกันข้ามทุกคนหลบไปให้ห่าง
ที่แห่งนี้เป็นของเฉินซื่อเจี๋ย ไม่มีใครกล้ายุ่งอยู่แล้ว
นายหัวทองยิ่งเบ่งอำนาจ “สาวน้อย พูดด้วยดีๆ ไม่ชอบต้องให้ใช้กำลังใช่ไหม ไปกับพวกเราดีๆ ไปเล่นกับคุณชายเฉินของเราสักสองสามวัน! ไม่อย่างนั้น…”
“อากุ้ย อย่าหยาบคายกับคนสวยแบบนี้สิ!” เฉินซื่อเจี๋ยมองเยี่ยหวันหวั่นตาไม่กะพริบ แววตาท่วมท้นไปด้วยความปรารถนาจนน้ำลายสอ
เมื่อกวาดสายตาเห็นเจียงเยียนหรานข้างกายเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาของเฉินซื่อเจี๋ยยิ่งเป็นประกายขึ้นอีก เมื่อครู่นี้มองไกลๆ ยังรู้สึกเฉยๆ ตอนนี้มามองใกล้ๆ แม่สาวชุดแดงคนนี้ก็มีน้ำมีนวลดีเหลือเกิน
ถ้าได้ทั้งสองคน…ฮึๆ…
คืนนี้เขาโชคดีจริงๆ…
เฉินซื่อเจี๋ยถือวอดก้าแก้วหนึ่ง เดินโซเซใกล้เข้าไป “สาวสวยคนนี้ก็ไม่เลว ไปอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วยกันซะเลยสิ ฉันชอบเล่นแบบ 3P…สุดๆ แล้ว”
ลูกน้องรอบด้านได้ยินดังนั้นพลันส่งเสียงหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆๆ…”
“คืนนี้คุณชายเฉินโชคดีไม่เบาเลยนะครับ!”
“ยังไม่รีบขอบคุณคุณชายเฉินอีกที่เอ็นดูพวกเธอสองคนเท่าๆ กัน ให้โอกาสขึ้นเตียงคุณชายเฉินเชียวนะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดลามกสกปรกของคนพวกนั้น แววตาเยี่ยหวันหวั่นเย็นเยียบ ประคองเจียงเยียนหรานถอยหลังไปครึ่งก้าว
ไม่อยากวอแวกับคนพวกนี้ เธอมองไปทางด้านหลังแวบหนึ่ง
หลิวอิ่งกับซ่งจิ้งก็อยู่ใกล้ๆ
ผลคือเธอหันไปและหาจุดที่พวกหลิวอิ่งอยู่เจอ แต่กลับเห็นสายตาเยาะเย้ยของหลิวอิ่ง ส่วนซ่งจิ้งที่อยู่ด้านข้างกัน ทั้งๆ ที่เห็นเธอแล้วกลับจงใจหลบสายตา ก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไร
ทั้งสองรู้สถานการณ์ของเธอทางนี้แล้วแท้ๆ แต่ยังยืนนิ่งเฉยอยู่ที่เดิม ไม่มีความคิดจะเข้ามาช่วยเหลือแม้แต่น้อย
ไม่ต้องเดาก็รู้ หลิวอิ่งจงใจไม่ช่วย
เยี่ยหวันหวั่นเห็นดังนั้น มุมปากพลันแสยะยิ้ม เฮอะ เธอประเมินความสามารถในการซื้อใจคนของฉินรั่วซีต่ำไป
“ไม่ได้ยินที่คุณชายเฉินพูดหรือไง? ยังไม่พาผู้หญิงสองคนนี้ไปอีก! คืนนี้คุณชายเฉินต้องการลิ้มรส! เร็วเข้าเบามือด้วยล่ะ!”
“ครับ!”
หลังได้ยินคำสั่งของนายหัวทอง ชายกำยำสองคนเดินเข้ามาทันที ฝ่ามือหยาบหนายื่นมาจับเยี่ยหวันหวั่นและเจียงเยียนหราน
จากนั้นเฉินซื่อเจี๋ยเดินเข้าไปหาเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่รีบร้อน…
แววตาของเยี่ยหวันหวั่นเย็นเยือกแวบหนึ่ง พริบตาที่เฉินซื่อเจี๋ยเดินเข้ามาใกล้ก็เตะเข้าที่ท้องเขา ขณะเดียวกันก็ใช้ข้อศอกเล่นงานผู้ชายที่จับเจียงเยียนหราน
คาดไม่ถึงว่าเยี่ยหวันหวั่นจะมีลูกไม้นี้ด้วย เฉินซือเจี๋ยกุมท้องที่ถูกเตะเข้าไปทีหนึ่ง ดวงตาเมามายมีแววเหี้ยมเกรียมวาบผ่าน “โอ้โห ร้ายซะด้วย! ดี! ฉันชอบ…”
เมื่อเห็นว่าเยี่ยหวันหวั่นรับมือไม่ง่ายนัก ทั้งยังทำร้ายเฉินซื่อเจี๋ย ลูกน้องอีกสองคนจึงถลาเข้ามาทันที
เยี่ยหวันหวั่นต้องคุ้มครองเจียงเยียนหรานไปพร้อมกับการรับมือผู้ชายสี่คน ไม่นานก็เริ่มทุลักทุเล็กน้อย
แม้ว่าเธอเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทว่าเธอไม่ชอบเรียนการใช้กำลังแบบนี้เลย ตอนที่พ่อจัดหาครูมาสอนเธอ หากเธอหาช่องอู้ได้ก็มักจะอู้เสมอ เป็นการเรียนทฤษฎีทั้งนั้น
หากสู้กับคนธรรมดาทั่วไปนั้นพอไหว แต่กับบอดี้การ์ดที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีเหล่านี้ แต่ละคนล้วนมีฝีมือสามารถสู้หนึ่งต่อสิบได้สบาย นับประสาอะไรกับการรับมือผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเธอ
……………………………………
[1] ล่อผึ้งเรียกผีเสื้อ สำนวนจีนมีความหมายว่าเรียกร้องให้ผู้คนสนใจ