บทที่ 447
บทที่ 447
จ้านอู่ตี้ไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าทำไมกองทัพหลักของเทียนหยวนถึงอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าถังหยินจะฉลาดจนมองแผนของพวกเขาออกกัน ?
แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็ไร้ประโยชน์แล้วในตอนนี้ จ้านอู่ตี้จึงได้แต่กัดฟันแล้วตะโกนออกมา “ตีฝ่าพวกมันออกไป !” จากนั้นเขาก็ชูดาบพุ่งเข้าใส่ถังหยิน
ชายหนุ่มหรี่ตามองภาพตรงหน้าก่อนทำการเรียกปราณสีดำออกมา “จ้านอู่ตี้ เจ้าถูกล้อมไว้หมดแล้ว หากอยากรอดออกไปก็จงยอมแพ้ซะ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว !!”
“ไร้สาระ ! ไม่มีใครอยากก้มหัวให้เจ้าหรอก !” จ้านอู่ตี้โกรธจัดกับคำพูดนี้
ถังหยินส่ายหัว “คำแนะนำมันไม่เคยเข้าหัวคนที่ตายแล้วสินะ ได้ ! ข้าจะจัดให้เจ้าเอง ! ยิงธนู !”
สิ้นเสียงคำสั่ง ทหารเทียนหยวนทั้ง 4 หมื่นนายก็พากันยิงธนูออกไปใส่พวกแม่ทัพเปิงทั้ง 3 นาย
ห่าฝนธนูมันกว้างและมีเยอะมากจนแทบไม่มีทางหลบไปจากมันได้เลย ทุกคนแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลยสักนิด
และเมื่อไม่มีที่ให้หลบแล้ว ทั้งกองทัพเปิงก็คงมีแต่ถูกลูกธนูยิงตายเท่านั้น
ฉึก ฉึก ฉึก !
เพียงพริบตาลูกธนูมากมายก็พากันพุ่งเข้าใส่พวกทหารเปิงจนล้มตายลงอย่างน่าเวทนา
และแม้จ้านอู่ตี้จะพยายามป้องกันพวกมันเอาไว้ด้วยดาบของตัวเอง แต่ไม่นานนักก็มีห่าฝนธนูชุดใหม่พุ่งเข้ามาเรื่อย ๆ จนทำให้เกราะปราณมีรอยร้าวปรากฏขึ้นมาบ้างแล้ว
ท้ายที่สุด เมื่อจ้านอู่ตี้เห็นว่าเกราะของเขากำลังจะแตก จึงได้คว้าร่างของทหารคนหนึ่งมาเป็นโล่
…แม้ว่าเขาจะอยู่ไม่ห่างจากถังหยินในตอนแรก แต่ในตอนนี้เขาก็จำต้องถอยเว้นระยะตัวเองออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และเมื่อหันไปมองพวกทหารที่เหลืออีกที จ้านอู่ตี้ก็ต้องพบว่าพวกเขาต่างถูกลูกธนูยิงจนตาย !!
พื้นที่โดยรอบกลายเป็นทุ่งสังหารไปแล้ว แทบทุกร่างจะมีลูกธนูมากมายปักอยู่จนกลายเป็นเม่น
นี่คือความทรงพลังของลูกธนู !
“ท่านจ้าน ?” ฮ่าวจ้าวถอยกลับมา เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บมามากพอสมควรจนเลือดไหลออกจากทั่วร่างกาย “พวกเราตีฝ่าออกไปไม่ได้ เราหนีไปทางตะวันออกกันเถอะ”
จ้านอู่ตี้ปล่อยมือจากศพแล้วมองฮ่าวจ้าว จากนั้นจึงมองไปรอบ ๆ ก่อนพบว่าทหารของตัวเองเหลือแค่เพียง 5 พันนายเท่านั้นทั้ง ๆ ที่ศัตรูยังไม่ทันเข้ามาปะทะเลย
หลังจากได้เห็นภาพนั้น จ้านอู่ตี้ก็ได้แต่ถอนหายใจ ด้วยนี่คงเป็นชะตากรรมที่สวรรค์กำหนดไว้ให้เขาแล้ว และมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะใช้จำนวนทหารเพียงเท่านี้ตีฝ่าวงล้อมออกไปได้ เขามองไปรอบ ๆ แล้วถาม “แล้วเจี๋ยนฟานเล่า ?”
“ปล่อยเขาไปเถอะ เราต้องหนีกันก่อน !” ฮ่าวจ้าวพูดอย่างจริงจังและหันไปบอกพวกทหาร “ทุกคน ตามข้ามาทางตะวันออก !”
เขาคิดว่าเจี๋ยนฟานน่าจะตายไปแล้ว แต่ในระหว่างที่กำลังหนีอยู่ก็พลันมีใครบางคนผุดขึ้นมาจากซากศพ ซึ่งอีกฝ่ายก็กำลังถือคันธนูสีทองที่ไม่มีสายรั้งกับศรดอกหนึ่งไว้ในมือ
นั่นคือศรล่าวิญญาณ ศรที่สามารถปักติดเป้าหมายได้ตลอดกาล และหากจะดึงมันออก ก็อาจถึงกับต้องตัดแขนเลยทีเดียว !
ไม่มีใครคิดว่าคนที่ยังรอดอยู่จะเป็นเจี๋ยนฟาน !!!
…..ถังหยินไม่รู้แม้แต่น้อยว่าจะมีอันตรายใกล้เข้ามา ดังนั้นเมื่อรู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นว่าศรล่าวิญญาณได้พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วแล้ว !
ซึ่งระยะมันก็ใกล้มาก จนถังหยินแทบไม่มีเวลาหลบเลย
ทว่าถังหยินหาใช่คนธรรมดาไม่ แม้คนอื่นจะหลบไม่ได้ แต่ถังหยินก็ยังหลบมันได้ ด้วยการกลายร่างเป็นลูกบอลหมอกสีดำและสลายไปในอากาศ !!
เมื่อสูญเสียเป้าหมายเดิมไป คมศรจึงปักเข้าที่ร่างของทหารคนหนึ่งแล้วกระเด็นไปโดนทหารอีกคนหนึ่ง …ก่อนที่มันจะปักเรียงไปเรื่อย ๆ เช่นนั้นจนครบสิบนายและทำให้พวกเขาตายกันทั้งหมด
ฟุ่บ !
หลังจากนั้น 2 วินาที พวกเฟิงก็พากันตะโกนลั่นอีกครั้ง ก่อนธนูจะถูกยิงออกมาซ้ำใส่ซากศพที่อยู่บนพื้น ทว่าก่อนที่จะทันได้ยิงพวกเขาก็ต้องมีสีหน้าหวาดกลัว มือหยุดชะงักไป เพราะถังหยินเข้าไปอยู่ที่ด้านหลังของเจี๋ยนฟานแล้วในเวลานี้ !!
ทางด้านเจี๋ยนฟาน เขาเองก็รู้ดีว่าถังหยินใช้วิชาสลับเงาเข้ามาอยู่ข้างหลัง ดังนั้นคันธนูสีทองในมือของเขาจึงปลดปล่อยแสงออกมาก่อนกลายเป็นดาบไป
ก่อนที่เจี๋ยนฟานจะแทงดาบนั่นเข้าใส่ถังหยินที่อยู่ด้านหลังตัวเองทันที
เคร้ง !
ถังหยินใช้ดาบคู่ของเขาป้องกันมันเอาไว้อย่างง่ายดาย
“ธนูเจ้าเร็วอยู่นะ แต่มันไม่เห็นเหมือนดาบของเจ้าเลย !” ถังหยินยกดาบแล้วตะโกนออกมา
ฟุ่บ !
เจี๋ยนฟานใช้วิชาเคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่ข้างหลังถังหยินอีกครั้ง จากนั้นจึงฟันเข้าใส่จุดอ่อนของชายหนุ่ม
ถังหยินที่เห็นแบบนั้นจึงใช้วิชาเคลื่อนย้ายหลบมันแล้วฟันเข้าใส่แขนทั้งสองข้างของเจี๋ยนฟานกลับบ้าง
เจี๋ยนฟานจึงจำต้องกระโดดขึ้นอากาศหลบมันแล้วฟันดาบกลับลงมาต้านรับ
ส่วนถังหยินเอง เขาในตอนนี้ก็กำลังจับดาบในมือต้านรับเอาไว้จนเกิดประกายไฟท่ามกลางเงามืด
ก่อนที่ในจังหวะนั้น ถังหยินจะพลันขยับแทงดาบของเขาเข้าใส่เจี๋ยนฟานที่ลอยอยู่กลางอากาศ ทว่าอีกฝ่ายที่หลบไม่ได้กลับใช้วิชาเคลื่อนย้ายตัวเองหลบออกห่างออกจากถังหยินแล้วเล็งยิงธนูเข้าใส่ทันที
เมื่อเขาปล่อยลูกศรออกไป ถังหยินก็พูดขึ้นด้านหลังเขา “ลูกศรเจ้าหมดแล้วนะ ประหยัดหน่อยสิ !” จากนั้นเขาก็แทงดาบอีกครั้งก่อนจะม้วนตัวแล้วฟันเข้าไปที่ขาของเจี๋ยนฟาน ในขณะที่อีกฝ่ายทำการพุ่งตัวหลบไปข้างหน้าทันที
ฟุ่บ !
ดาบคู่ตัดผ่านเท้าของเป้าหมายไป ส่วนเจี๋ยนฟานที่กระโดดลงไปบนพื้นก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทา เขาได้ยินมาว่าถังหยินนั้นเก่งกาจ แต่ก็ไม่คิดว่าถังหยินจะรวดเร็วเกินกว่าคนธรรมดาจะตามได้ วิชาดาบนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาด้วยการฝึกพลังปราณแน่ ๆ!
…อันที่จริงฝั่งถังหยินเองก็ตะลึงไม่ต่างจากเจี๋ยนฟานเลย ด้วยนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ปะทะกับผู้ใช้ศาสตร์มืดที่มีฝีมือเก่งกาจถึงเพียงนี้ !!
และสำหรับถังหยินแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้มันก็เหมือนกับเกมการล่ามากกว่าจะเป็นการต่อสู้ที่แลกกันด้วยชีวิต
การต่อสู้ระหว่างถังหยินกับเจี๋ยนฟานนั้นหาดูได้ยากมาก มูฉิงและพวกทหารทุกคนในที่นี้ทั้งหมดต่างก็ล้อมวงกันไว้ และเพราะว่าพวกเขาทั้งคู่พากันหายตัวกันอย่างรวดเร็วก่อนจะปรากฏตัวในที่ที่ต่างออกไป มันก็เลยทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยผู้เป็นนายได้เลย จนได้แต่ดูทั้งสองสู้กันไปมาทั้งแบบนั้น