บทที่ 331 ผู้สูงสุดสามล้านใต้ฟ้า พบจักรพรรดิยังต้องก้มหน้า

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 331 ผู้สูงสุดสามล้านใต้ฟ้า พบจักรพรรดิยังต้องก้มหน้า

ราชาเทพคุนมีอำนาจในเผ่าคุนสุญตาสูงมาก

เขาออกคำสั่งที ขุมอำนาจทั้งเผ่าคุนในทะเลอุดรต่างออกเคลื่อนไหว

อย่างน้อยบนป้ายประกาศในเมืองแห่งสุขาวดีก็แปะประกาศไว้ชัดเจนว่าเชิญบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาเป็นแขกที่หุบเหวสิ้นหวัง

การประกาศเชิญอย่าง ‘ยิ่งใหญ่ตรงไปตรงมา’ เช่นนี้ ย่อมเลี่ยงสายตาของเผ่าอื่นในทะเลอุดรไม่ได้ หรืออาจพูดได้ว่าราชาเทพคุนไม่คิดจะปิดบัง

เวลานี้ทั้งทะเลอุดรสั่นสะเทือนกับการเชิญเสิ่นเทียนของเผ่าคุน

“งานเลี้ยงหงเหมิน จะต้องเป็นงานเลี้ยงหงเหมินแน่!”

“มีใครในทะเลอุดรไม่รู้บ้างว่านายน้อยเผ่าคุนสุญตาชอบอวี้เผียนเซียน แต่อวี้เผียนเซียนมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ จู่ๆ เผ่าคุนสุญตาก็เชิญบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาเป็นแขกรึ เหอะๆ เกรงว่าคงจะเอาบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาเป็นกับข้าวละสิ!”

“เผ่าคุนสุญตาอวดดีเช่นนี้เชียวรึ เล่าลือว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นผู้ทำสัญญาของคนใหญ่คนโตท่านหนึ่งของเผ่ามังกร มีฐานะสูงส่งยิ่งในเกาะมังกรดำ!”

“หากเผ่าคุนสุญตากล้าลงมือกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จริงๆ เกรงว่าเกาะมังกรดำกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คงไม่ยอมแน่!”

“นี่ก็พูดยาก ข้าได้ยินมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ชิงวิชาคุนเผิงสมบูรณ์มาก่อนในทะเลอุดร นี่คือมรดกสำคัญยิ่งกับเผ่าคุนสุญตา เผ่าคุนจะทำอะไรลงไปเพื่อวิชาคุนเผิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

……

ทั้งทะเลอุดรสั่นสะเทือนเพราะเรื่องของเสิ่นเทียนกับเผ่าคุน แน่นอนว่าเผ่ามังกรย่อมไม่อยู่เฉย

ในตำหนักราชามังกร ราชามังกรดำเอ๋าเย่กำลังนั่งขัดสมาธิฝึกบำเพ็ญเพียร

ในมือเขากอบผลจุดกำเนิดมังกรผลหนึ่ง นั่นคือผลที่ฉีเซ่าเสวียนให้เขามา และเพื่อเป็นการตอบแทน เขาจึงมอบอาวุธเตรียมอริยะให้ฉีเซ่าเสวียนชิ้นหนึ่ง

แต่เอ๋าเย่มองว่านี่คุ้มค่ามาก

เพราะหากหลอมรวมผลจุดกำเนิดมังกรนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ต่อให้เอ๋าเย่ไม่อาจทะลวงสายเลือดมังกรดำระดับเก้าได้ อย่างน้อยก็ไปถึงขีดจำกัดระดับแปด

ถึงตอนนั้น ศักยภาพของเขาก็จะพุ่งทะลวงสู่ระดับขั้นใหม่หมด

เจ้าเด็กฉีเซ่าเสวียนนี่รู้จักวางตัวจริงๆ คิดไม่ผิดที่ข้าฝากเสี่ยวอูให้เขาดูแล

แน่นอน ถ้าเทียบกับสายตาของท่านป้าเอ๋าปิงแล้ว ข้าไม่อาจเทียบได้เลย

เมื่อหลายวันก่อนฉีเซ่าเสวียนกับเอ๋าอูออกมาจากเขตทะเลเบิกฟ้าและติดต่อเอ๋าเย่เป็นคนแรก บอกเรื่องผลจุดกำเนิดมังกรกับเขา

ตอนนั้น เอ๋าเย่นิ่งอึ้งไปเลย

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กวาดผลจุดกำเนิดมังกรหลายสิบผลมาจากต้นเทพจุดกำเนิดมังกร แม้แต่ผลสูงสุดนั้นยังเก็บมาด้วยหรือ

โอ้ สวรรค์ของข้า

มังกรบรรพบุรุษผู้สูงส่ง นี่เป็นข่าวที่บ้าคลั่งเพียงใดกัน

ถ้าเกาะมังกรได้ผลพวกนั้นมาจริงๆ อย่างน้อยก็สร้างสายเลือดมังกรดำระดับเก้าได้สามสี่ตัว สร้างสายเลือดมังกรดำระดับแปดได้หลายสิบตัวสบายๆ

ถึงตอนนั้นขอแค่พัฒนาต่อไปสักระยะ ศักยภาพส่วนยอดของเกาะมังกรดำก็จะพุ่งขึ้นหลายเท่า

ต้องรู้ว่าเดิมทีเกาะมังกรดำเป็นขุมอำนาจที่แกร่งที่สุดในทะเลอุดรอยู่แล้ว ถ้าพุ่งขึ้นอีกหลายเท่า นั่นหมายความว่าอย่างไรกัน

เผ่าเทพหงส์ดินแดนทักษิณต้องชิดซ้ายใช่หรือไม่

“เฮ้อ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ บรรพบุรุษน้อยของข้า! ตอนนี้เจ้าไปอยู่ที่ใดกัน รีบกลับมาเถอะ! ข้าคิดถึงเจ้าจะตายอยู่แล้ว!”

เอ๋าเย่กอบผลจุดกำเนิดมังกรพลางดูดซับพลังต้นกำเนิดในนั้นอย่างระมัดระวัง

ผลจุดกำเนิดมังกรในมือเขาได้ฉีเซ่าเสวียนเก็บมา คุณภาพด้อยกว่าผลนนั้นในมือเอ๋าอูเล็กน้อย ดังนั้น เอ๋าเย่จะต้องใช้พลังงานทั้งหมดให้ได้ประโยชน์สูงสุด

แต่เอ๋าอูไม่เหมือนกัน เขากินผลจุดกำเนิดมังกรคุณภาพสูงนั้นลงท้องไปอย่างฉับไว จากนั้นกินยายกระดับขั้นที่เกาะมังกรทำขึ้นเป็นพิเศษก่อนจะนอนหลับไปตื่นใหญ่

หากไม่มีอะไรผิดพลาด เดาว่าเจ้าเด็กนี่น่าจะนอนหลับสิบวันถึงครึ่งเดือน และจะกลายเป็นมังกรดำสายเลือดระดับเก้าตัวที่สองของเกาะมังกรดำในรอบหมื่นปีนี้

มังกรแพนด้าที่เกียจคร้านมาแต่เยาว์วัยกอดต้นขาเสิ่นเทียนจนได้เดินบนจุดสูงสุดของชีวิตมังกรอย่างน่ามหัศจรรย์

นี่มัน ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!

นี่ทำให้เอ๋าเย่ยิ่งคิดถึงเสิ่นเทียนเข้าไปใหญ่

………

“ขอรายงานขอรับ!”

ทันใดนั้น มีเสียงองครักษ์มังกรดังขึ้นนอกตำหนักราชามังกร

องครักษ์เทพมังกรทรงพลังในชุดเกราะสีดำที่แผ่กลิ่นอายพลังผู้สูงศักดิ์สวรรค์ทั้งตัวปรากฏขึ้น

เขาโค้งตัวให้เอ๋าเย่ “เรียนท่านราชามังกร มีข่าวจากเมืองสุขาวดีมาขอรับ เผ่าคุนสุญตาได้ประกาศเชิญบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ พวกเขาได้ส่งป้ายคำสั่งคุนสุญตามาเชิญบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้เป็นแขกที่หุบเหวสิ้นหวัง และยังประกาศกับทุกคนอย่างเป็นทางการ”

เผ่าคุนรึ

พวกเขามาก่อเรื่องอะไรกัน

เอ๋าเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อพิจารณาดูก็เข้าใจแจ่มแจ้ง

เอ๋าเย่รู้ว่าพวกเสิ่นเทียนได้วิชาคุนเผิงมาจากเขตทะเลเบิกฟ้า กระทั่งบุตรชายที่รักของเขาเอ๋าอูยังตระหนักความหมายลึกล้ำของวิชาคุนเผิงมาส่วนหนึ่ง จึงพัฒนาขึ้นอย่างมาก

แต่ไม่ว่าอย่างไร วิชาคุนเผิงก็เป็นวิชาโบราณดั้งเดิมของเผ่าคุนเผิง และเผ่าคุนสุญตาคือหนึ่งในสายเลือดตรงของคุนเผิง

ตอนนี้วิชาคุนเผิงสมบูรณ์ปรากฏขึ้น เผ่าคุนไม่มีทางปล่อยมือแน่ นี่คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง!

เอ๋าเย่พลิกมือเก็บผลจุดกำเนิดมังกร ในดวงตาเหมือนมีมหาสมุทรดาราลอยขึ้นลง “แต่มาเชิญบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไปหุบเหวสิ้นหวังตรงๆ เช่นนี้ หมายความว่าอย่างไรกันแน่ หรือว่าผ่านมาพันปีแล้ว เจ้าหนูคุนซวีนั่นคิดจะวิวาทกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ตัดสินสูงต่ำกันอีกครั้ง”

เอ๋าเย่ไม่ห่วงว่าเผ่าคุนสุญตาจะลงมือสังหารเสิ่นเทียน เพราะเขารู้ว่าเจ้าหนูคุนซวีนี่ ถึงจะยังหนุ่ม แต่ก็ไม่โง่

เสิ่นเทียนมีฐานะสูงส่ง ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ต่อให้เป็นเผ่าคุนก็รับผลที่ตามมาไม่ไหว

แต่เผ่าคุนก็ยังมีความโอหัง เกิดสมองร้อนขึ้นมากักขังเสิ่นเทียนขู่เข็ญ เช่นนั้นราชามังกรอย่างเขาจะบอกกับท่านป้าเอ๋าปิงกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างไร

“เผ่าคุน เจ้าเผ่าคุนนี่ ไม่ให้ข้าได้สบายใจเลยจริงๆ!”

เอ๋าเย่ถอนหายใจ ก่อนจะกลายเป็นมังกรดำหมื่นจั้งตัวหนึ่งพุ่งออกไป

ใช่ เขาจะไปพบราชาเทพคุนที่เผ่าคุนก่อน คุยกับเจ้านี่เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องอันไม่น่าพึงพอใจขึ้น

ถึงอย่างไรฐานะของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รวมถึงแต้มต่อในมือเขา ก็สำคัญกับเผ่ามังกรมากจริงๆ

ต่อให้เอ๋าเย่เป็นราชามังกรดำ เป็นหนึ่งในผู้ที่มีอำนาจและฐานะสูงสุดในห้าดินแดนก็ยังต้องเช็ดก้นให้ ‘ท่านลุง’ คนนี้

……

ขณะเดียวกัน บนยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยู่กลางสายฟ้าประกายเซียน ดูยังคงสูงส่งและน่าเกรงขาม

ในมือเขาถือตำราโบราณที่ถักขึ้นจากหนังสัตว์ที่ไม่รู้จักเล่มหนึ่ง บนปกหนังสือเป็นอักขระโบราณลึกลับยากจะคาดเดาเก้าคำ

‘ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคจริงๆ’!

นี่คือตำราโบราณที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้มาจากมหาสุสานบรรพกาลแห่งหนึ่งเมื่อตอนยังหนุ่ม เป็นสมบัติฝังไปพร้อมกับมหาจักรพรรดิท่านหนึ่ง

ในนั้นบันทึกเรื่องราวปาฏิหาริย์ของสุดยอดโอรสสวรรค์ในยุคบรรพกาลไว้มากมาย

เรื่องราวพวกนี้น่าเหลือเชื่อมาก

อะไรคือบรรพกาล

เมื่อหมื่นปีก่อนคือโบราณ เมื่อแสนปีก่อนคือบรรพกาล เมื่อล้านปีก่อนคือดึกดำบรรพ์

ในยุคดึกดำบรรพ์ไม่อาจตรวจสอบได้แล้ว กระทั่งตำนานส่วนใหญ่ก่อนบรรพกาลหายสาบสูญไปในห้าดินแดนนานแล้ว

ชีวประวัติของบุคคลที่บันทึกใน ‘ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคจริงๆ’ เล่มนี้ ต่อให้เป็นยอดอัจฉริยะอย่างเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ยังต้องตกใจ

ในคัมภีร์โบราณเล่มนี้ บันทึกบุตรแห่งโชคในยุคบรรพกาลไว้หนึ่งร้อยแปดท่าน

พวกเขาแทบทุกคนล้วนมีปรากฏการณ์ธรรมชาติมาโดยกำเนิด มีความหลักแหลม วันที่กำเนิดจะสั่นสะเทือนแปดทิศ

บางคนมีเนตรลึกล้ำมาโดยกำเนิด มองภาพมายาออก หายากแต่เทียบเท่าผู้อริยะ

บางคนกอดกระจกโบราณมิติกำเนิด สวรรค์ประทานการควบคุมวิชาแห่งมิติให้ ถูกเรียกว่าบุตรแห่งมิติ

บางคนมารดาเหยียบรอยเท้าสัตว์ยักษ์สายฟ้าและตั้งครรภ์ วันคลอด เกิดสายฟ้าเทพสวรรค์กระจายไปเก้าหมื่นลี้ เหมือนกับจาริกแสวงบุญ

และยังมีบางคน วันกำเนิด เกิดมังกรและหงส์ขึ้นเป็นมงคล กิเลนมอบหยก สัตว์อสูรในระยะหมื่นลี้ก้มกราบคารวะ ราวกับต้อนรับจักรพรรดิอสูร

…..

และเส้นทางการเติบโตของบุตรแห่งโชคพวกนี้ก็สมกับปรากฏการณ์ยามที่พวกเขาถือกำเนิดจริงๆ

สำหรับพวกเขาแล้ว ‘อาจารย์อาวุโส’ ‘โอรสสวรรค์อาวุโส’ เปรียบได้กับดอกเบญจมาศเมื่อวาน ถูกแซงหน้าไปได้อย่างง่ายดาย

พวกเขามุ่งหน้าไปตามหาสมบัติในแดนลับ สมบัติล้ำค่าที่คนอื่นลงแรงแทบเป็นแทบตายก็ยังไม่ได้มา กลับมาหาตนเหมือนกับสุนัขพันธุ์ปั๊ก

พวกเขาฝึกฝนวิชาบรรพกาลที่ไม่สมบูรณ์ อันตรายหรือยากเย็นอะไรก็ตาม ปรากฏว่าไม่ใช่แค่ไม่ธาตุไฟเข้าแทรก แต่ยังเปิดวิถีแห่งผู้สูงสุดคนใหม่ได้

กระทั่งแม้แต่โดนศัตรูแข็งแกร่งล่าสังหารตกไปในแดนต้องห้าม พวกเขายังได้โชคลิขิตใหม่มา จากนั้นเพิ่มศักยภาพตัวเองกลับไปแก้แค้น

บุตรแห่งโชคร้อยแปดท่านนี้ คือนิยามของคำว่า ‘ไร้เหตุผล’

และที่ไร้เหตุผลยิ่งไปกว่านั้นคือ บุตรแห่งโชคร้อยแปดท่านนี้รวมกันเกิดขึ้นในยุคหนึ่ง

ยุคนั้นห่างจากยุคนี้ไปสี่แสนเก้าหมื่นปี เล่าลือว่าเป็นในล้านปีหลังจากยุคดึกดำบรรพ์ นั่นคือยุคที่รุ่งเรืองที่สุด

โอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคร้อยแปดท่านรวมตัวกันกำราบห้าดินแดนแปดทิศ กระทั่งออกจากดินแดนไปสร้างขุมอำนาจที่รุ่งเรืองที่สุดเท่าที่เคยมีมาก่อน

ใช่ นามของขุมอำนาจนั้นคือ…ตำหนักสวรรค์!

ในโอรสสวรรค์พวกนี้บ้างเป็นอสูร บ้างเป็นครึ่งคนครึ่งอสูร แต่มีพรสวรรค์สะท้านโลก

ได้ยินมาว่าคัมภีร์ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคจริงๆ เล่มนี้ ผู้เขียนเป็นหนึ่งในโอรสสวรรค์สูงสุดร้อยแปดท่านนี้

ส่วนเหตุใดโอรสสวรรค์ท่านนี้ที่มีดวงชะตาสะท้านฟ้า แต่กลับตั้งชื่อคัมภีร์ในชีวประวัติตนเองเช่นนี้ เหตุผลก็ง่ายมาก

เพราะชีวประวัติและกำลังรบของบุตรแห่งโชคร้อยแปดคนนี้มัวหมองถอดสีลงเมื่ออยู่ต่อหน้าตัวตนต้องห้ามบางอย่าง

การคงอยู่ต้องห้ามบางอย่างนั้นมีเอ่ยทิ้งท้ายไว้ในคัมภีร์เล่มนี้เล็กน้อย ไม่ได้บรรยายตัวอย่างโดยละเอียด หรืออาจพูดได้ว่าเก็บไว้ไม่ได้

เพราะส่วนครึ่งหลังของคัมภีร์โบราณส่วนนี้ถูกฉีกไป

ราวกับว่าเรื่องราวที่บันทึกไว้ในครึ่งหลังน่าตื่นตกใจเกินไป ไม่ควรถ่ายทอดสู่ยุคหลัง

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รู้แค่ว่าการคงอยู่ต้องห้ามนั้น ผู้เขียนคัมภีร์เล่มนี้เรียกว่าจักรพรรดิสวรรค์ เป็นที่น่าเคารพสูงสุด

ในคัมภีร์โบราณเล่มนี้บรรยายเกี่ยวกับจักรพรรดิสวรรค์ท่านนี้ไว้ประโยคเดียว ‘ผู้สูงสุดใต้ฟ้าสามล้าน พบจักรพรรดิยังต้องก้มหน้า!’

บ้าอำนาจ โอหัง!

…….

“ฟู่ อยากเกิดใหม่ในยุคบรรพกาลไปพบการคงอยู่ต้องห้ามท่านนั้นสักครั้งจริงๆ”

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ แม้เขาจะอ่านคัมภีร์โบราณเล่มนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่ทุกครั้งที่อ่านก็ยังเลือดร้อนเสมอ

แค่ตำนานของบุตรแห่งโชคร้อยแปดท่านนั้นก็น่าตกใจสุดขีดแล้ว ยากจะจินตนาการได้ว่าจักรพรรดิสวรรค์ท่านนั้นที่พวกเขานับถือจะมีพรสวรรค์ระดับใดกัน

ไม่รู้ว่าดวงชะตาของเทียนเอ๋อร์เทียบกับผู้สูงสุดร้อยแปดท่านนั้นแล้ว ใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พลิกอ่านคัมภีร์โบราณ ทันใดนั้นก็เกิดความคิดนี้ขึ้น

“แต่จากในบันทึกคัมภีร์โบราณ เมื่อสี่แสนเก้าหมื่นปีก่อนเหมือนว่าห้าดินแดนจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ที่ไม่อาจบรรยายได้ขึ้น จักรพรรดิสวรรค์ท่านนั้นกับผู้สูงสุดร้อยแปดท่านเป็นคนต้านหายนะไว้

เมื่อหมื่นปีก่อนวิญญาณร้ายต่างแดนบุกห้าดินแดน เผ่ามนุษย์และเผ่าอสูรต่างพากันให้กำเนิดโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุค แม้แต่จักรพรรดิฮวงสือก็ยังกำเนิดขึ้นเพื่อต้านหายนะ”

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวเบาๆ “ตอนนี้ห้าดินแดนต่างพากันมีมังกรกำเนิดขึ้น หรือว่า ใต้หล้าจะเข้าสู่กลียุคอีกครั้ง”

……..

ชั่วขณะที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กำลังครุ่นคิดอะไรต่างๆ นานา ป้ายคำสั่งเจ้าศักดิ์สิทธิ์ในอกเสื้อเขาก็สั่นไหวเบาๆ

“หืม คุนซวีรึ เจ้านี่มาหาข้าเรื่องอะไรกัน”

………………………………..