ตอนที่ 304 นายจะเชื่อฉันไหม

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

ห้องผู้ป่วยวีไอพี
ซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงประคองท่านผู้เฒ่าฮ่อขึ้นไปนอนบนเตียงกันอย่างระวัง
“คุณปู่ พักผ่อนเยอะๆ นะครับ” ตระหน้าท่านผู้เฒ่าฮ่อแล้ว ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย
ท่านผู้เฒ่าฮ่อตบมือฮ่อหยุนเฉิงเบาๆ “หยุนเฉิง ปู่ไม่เป็นไร”
ซูฉิงที่อยู่ข้างๆ มองท่านผู้เฒ่าฮ่อนอนลงก็ช่วยคลุมผ้าห่มและไม่ลืมที่จะเอ่ยเตือน “คุณปู่ฮ่อคะ ฉันรู้ว่าเรื่องนีทำให้คุณโกรธและเสียใจมาก
แต่ท่านต้องคำนึงถึงร่างกายตัวเอง ร่างกายเพิ่งจะดี จะอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ไม่ได้นะคะ จะมีภาวะซึมเศร้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องได้ง่ายนะคะ”
คราวนี้หลังจากที่เธอสังเกตอย่างละเอียด และรู้ว่าถังรั่วอิง แม่ฮ่อและฮ่อเฉียนนั้นกำลังจะลงมือกับท่านผู้เฒ่า
ดังนั้น ซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงจึงวางแผนกันล่วงหน้า ในห้องผ่าตัดนั้นเธอรักษาท่านผู้เฒ่าตามแผน พยาบาลเช็ดเข็มเงินที่วางยาพิษ แล้วเธอก็เปลี่ยนเป็นเข็มสะอาดอย่างรวดเร็ว
เธอเร็วมากจนไม่มีใครในที่นั้นสังเกตเห็น และต่างคนต่างคิดว่าเธอฆ่าท่านผู้เฒ่าจริง
จากนั้นก็มีฉากที่ซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิง แตกหัก กันตรงประตูห้องผ่าตัด
อันที่จริงพวกเขาได้พูดคุยกันล่วงหน้าแล้ว มีเพียงซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงและท่านผู้เฒ่าเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
แม้ว่าตอนนั้นท่านผู้เฒ่าจะขยับตัวไม่ได้ แต่กลับสามารถลืมตาและฟังพวกเขาได้
ซูฉิงเสนอเรื่องนี้เพราะในเมื่อตอนนั้นมีคนต้องการทำร้ายคุณปู่ฮ่อ งั้นก็เป็นการตลบแผน
น่าเสียดายที่ ถังรั่วอิงไม่ปรากฏตัว
ซูฉิงคิดไปคิดมา ถังรั่วอิงคงเห็นฮ่อเฉียนและแม่ฮ่อจะลงมือก็เลยเป็นการยืมมือฆ่า
“อย่าห่วงเลย ฉิงฉิง ฉันอายุปูนนี้แล้ว รอดตายมาได้ ใจฉันก็ต้องรู้ดีว่าควรตาสว่างได้แล้ว”
ท่านผู้เฒ่าเป็นคนใจกว้าง เขาต้องใช้ชีวิตให้ดีและใช้ชีวิตอยู่กับหลานที่รักไปอีกหลายปี
เมื่อคิดอย่างนั้น ท่านผู้เฒ่าฮ่อก็เหลือบมองที่ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ
เขาถอนหายใจ แม้ว่าสีหน้าฮ่อหยุนเฉิงจะไม่มีอะไร แต่เขารู้ว่าในใจต้องเจ็บปวดมากแน่
ฮ่อเฉียนไม่สำคัญ แต่แม่ฮ่อนั้น ยังไงก็เป็นแม่แท้ๆ ของเขานี่นะ
ท่านผู้เฒ่าฮ่อละความคิดและขอบคุณซูฉิง “เรื่องคราวนี้ต้องขอบคุณฉิงฉิงเลยนะ ไม่อย่างนั่นปู่หลานสองเราคนคงไม่มีวันรู้อะไรเลย”
ซูฉิงยกมุมริมฝีปากของเธอขึ้นยิ้มเบาๆ “คุณปู่ฮ่อดีกับฉันมาก นี่คือสิ่งที่ฉันควรทำค่ะ อีกอย่างเรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิดด้วย ฉันไม่ควรใจร้อนและพูดว่าจะยกเลิกการหมั้นที่งานหมั้นวันนั้น”
ตอนที่พูดออกไปเธอก็เหลือบมองฮ่อหยุนเฉิงข้างๆ เธออย่างเงียบๆ
ไม่ว่าฮ่อเฉียนจะมวางยาฮ่อหยุนเฉิงหรือไม่ก็ตาม แต่เธอทำเรื่องแบบนั้นก็ทำให้ตระกูลฮ่อต้องอับอายและทำให้ท่านผู้เฒ่าเสียหน้า และเขาคงสลบไปเพราะอารมณ์ขึ้นเช่นกัน
“เอาล่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ” ท่านผู้เฒ่าฮ่อตบมือของซูฉิงเบาๆ จากนั้นจึงมองที่ฮ่อหยุนเฉิง “หยุนเฉิง พวกเธอกลับไปได้แล้วล่ะ ที่นี่มีเหล่าหลี่ดูแลปู่ก็พอแล้ว”
“เข้าใจแล้วครับคุณปู่” ฮ่อหยุนเฉิงหันหลังกลับและเดินออกไปนอกห้อง “ถ้างั้นพักผ่อนนะครับคุณปู่”
“คุณปู่ฮ่อ ไว้พรุ่งนี้จะมาหาอีกนะคะ” ซูฉิงเดินตามฮ่อหยุนเฉิงไป
ซูฉิงเหลือบมองฮ่อหยุนเฉิงที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้า แผ่นหลังของเขายังคงสูงตระหง่านและเย็นชา
เขาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาแต่ในใจต้องเสียใจมากแน่ใช่ไหม?
ซูฉิงกระแอม ริมฝีปากแดงขยับกำลังจะเอ่ยปากพูด
ทว่าฮ่อหยุนเฉิงกลับชะงักฝีเท้าก่อนจะหันหลังดันซูฉิงชิดกำแพงพร้อมจ้องไปยังเธอ “เธอยังโกรธฉันอยู่เหรอ?”
เธอรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
“นายรู้ว่าฉันเกลียดการถูกคนอื่นหลอกมากที่สุด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าการที่นายสงสัยในความรู้สึกของฉันที่มีต่อนาย ฉันก็ต้องโกรธอยู่แล้วน่ะสิ!” ซูฉิงกล่าว อันที่จริงเธอหายโกรธตั้งนานแล้ว
ตอนนี้เธอจะโกรธเขาได้ยังไงล่ะ
แค่อยากให้บทเรียนเขาหน่อย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะหาว่าเธอโดนแกล้งได้ง่ายๆ
ดูซิว่าต่อไปเขาจะยังกล้าหลอกเธออีกไหม!
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงบูดบึ้งขึ้นทันที ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตอนนี้ฉันถูกคนที่รักที่สุดหักหลัง เธอก็ยังไม่ยอมยกโทษให้ ไม่ปลอบฉันเลย…”
ยอดไปเลย!
ซูฉิงประหลาดใจ นี่เริ่มชักเอาใหญ่แล้วนะ!
แต่ทว่า เมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงที่ดูไม่เป็นมิตรต่อหน้าโลกภายนอกแต่จู่ๆ กลับอ่อนแอขึ้นมา ซูฉิงก็ใจอ่อน
“โอเค เห็นแก่ความลำบากของนาย ฉันจะให้อภัยนายก็แล้วกัน”
ซูฉิงขมวดคิ้ว ก่อนจะทำสีหน้าไม่เต็มใจ “แต่ต่อไปนายห้ามโกหกฉันอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม!”
“หากฉันรู้ว่านายมีเรื่องอะไรปิดบังหลอกลวงฉัน ฉันจะตัด…”
ขาด…
ยังไม่ทันสิ้นเสียงซูฉิงก็ถูกฮ่อหยุนเฉิงปิดปากกระทันหัน
เขาจูบริมฝีปากของเธออย่างตะกละตะกลาม กอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น ให้ความอบอุ่นแสนหวานของเธอค่อยๆ เคลือบร่างกายและหัวใจที่เย็นยะเยือกของเขา
ไม่มีใครอยู่ตรงทางเดินและมันก็หนาวมาก แต่กลับมีบรรยากาศอบอุ่นที่คลุมเครืออยู่รอบ ๆ ฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิง
ซูฉิงที่ถูกฮ่อหยุนเฉิงกดจูบจบหายใจไม่ทันเล็กน้อย
เธอทุบหน้าอกเขาด้วยกำปั้นก่อนจะส่งเสียงประท้วง
ฮ่อหยุนเฉิงมองไปที่ใบหน้าที่แดงก่ำของเธอก่อนจะปล่อยไปอย่างไม่เต็มใจ
“ฟู่~” ซูฉิงถึงได้สูดหายใจอย่างอิสระ ก่อนจะรีบสูดอากาศหายใจเข้าลึกๆ อย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เธอลืมตาก็เห็นกล้องด้านหลังฮ่อหยุนเฉิงและใบหน้าของเธอก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ นี่มันไม่ใช่ฉากที่ทั้งสองคนจูบกันเมื่อกี้เหรอ?
หากคนอื่นเห็นเข้า…
“แค่ก วันหลังอย่ารีบร้อนแบบนี้ได้ไหม ไปที่ส่วนตัวแล้วเริ่มไม่ได้หรือไง?”
ซูฉิงก้มศีรษะลงพลางพูดเสียงเบา
แต่เธอไม่รู้ว่าท่าทางที่เธอเขินนั้น ประกอบกับที่ถูกจูบเมื่อกี้ เสียงของเธอก็นุ่มนวลและอ่อนหวานเป็นเหมือนใจจริงก็ปรารถนาแต่แกล้งเป็นไม่อยาก
ทำเอาคนฟังจิตใจกระเจิง
ฮ่อหยุนเฉิงสูดลมหายใจ เหยียดมือใหญ่ไปบีบมือเล็กของซูฉิงเบา ๆ ทั้งยังลูบด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ “ซูฉิง เธอกำลังเชื้อเชิญฉันอยู่นะ ให้พัฒนาความสัมพันธ์ของเราต่อไปใช่ไหม?”
“เอ่อ” ซูฉิงพูดไม่ออกและรีบปฏิเสธ “นายคิดเยอะเกินไปแล้ว”
เมื่อจ้องมองเขา ซูฉิงก็นึกถึงเรื่องจริงจัง
แผนครั้งนี้ไม่เพียงแต่ดึงฮ่อเฉียนและแม่ฮ่อออกมาเท่านั้น แต่ยังมีคนสำคัญอีกคน ถังรั่วอิง!
ตอนที่มีคนจะวางยาพิษท่านผู้เฒ่าฮ่อในห้องผ่าตัด นอกจากแม่ฮ่อและฮ่อเฉียนแล้ว ยังมีถังรั่วอิงด้วย
มันเป็นเพียงการเคลื่อนไหวในคืนนี้จับถังรั่วอิงไม่ได้
เธอรู้สึกว่าถังรั่วอิงและคนที่อยู่เบื้องหลังเธอกำลังอดกลั้นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อจัดการกับเธอและฮ่อหยุนเฉิง
และถังรั่วอิงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของผู้อยู่เบื้องหลัง
ต้องดึงถังรั่วอิงออกมาให้ได้เร็วที่สุด
เมื่อนึกอย่างนั้น ซูฉิงก็เชยตาเพื่อสบตาการฮ่อหยุนเฉิงที่มองมา ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “ฮ่อหยุนเฉิง ถ้าฉันบอกว่าถังรั่วอิงไม่ใช่ถังถัง นายจะเชื่อฉันไหม?”