ตอนที่ 1542 ภูผาสุสานเทพ (6)
นางกำนัลเดินมาข้างหน้า “ทุกคน เหมือนเดิม ใครก็ตามที่ได้รับเม็ดยาในมือท่านราชครูคือคนที่จะเสียชีวิตในอีกสองสามวัน”
ยา?
อวิ่นลั่วเฟิงขมวดคิ้วแล้วหันไปหาคนที่ยืนดูอยู่ข้างๆ นางเพื่อถาม “ทำไมราชครูต้องใช้ยาแทนที่จะบอกอายุขัยของคนคนนั้นตรงๆ ด้วย”
คนคนนั้นหันมามองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสายตาดูถูก “เจ้าไม่รู้นิสัยของท่านราชครูหรือ ท่านราชครูจิตใจดีและไม่กล้าบอกว่าชีวิตของใครคนหนึ่งใกล้จะถึงจุดจบ ดังนั้นนางเลยใช้วิธีนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดตรงๆ”
เมื่อพูดจบ พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอวิ๋นลั่วเฟิงอีกแล้วหันไปมองสตรีในชุดน้ำเงินที่อยู่บนระเบียงโดยไม่ละสายตา
อวิ๋นลั่วเฟิงพูดไม่ออก ถ้านางทนไม่ได้ นางก็ไม่ต้องทำนายความตายของคนอื่นสิ การกระทำของนางก็ไม่ถูกตั้งแต่แรกแล้ว
“ทุกคน ท่านราชครูของพวกเราได้ข้อสรุปแล้ว นางหวังว่าคนที่นางทำนายจะจัดเตรียมงานศพเอาไว้” นางกำนัลพูดอีกครั้ง ทำให้ทุกคนวิตกกังวล
จากนั้นราชครูก็ลงมือ นางสะบัดเม็ดยาออกไปกลางอากาศ แล้วเม็ดยาก็กระเด็นไปโดนลำคอของคนผู้หนึ่งทันที อาจเป็นเพราะว่าเม็ดยาลอยมาไกลและไม่ได้มีพลังอยู่ด้านใน ดังนั้นจุดที่โดนเม็ดยาจึงไม่ได้เป็นแม้แต่รอยแดง
แต่ถึงอย่างนั้น คนที่โดนก็ทรุดลงไปคุกเข่าที่พื้นจนเกิดเสียงดัง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
คนอื่นๆ ก็ส่ายหน้า สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสารและเห็นใจ แต่ก็ไม่มีใครไปช่วยพยุงเขาขึ้น
อวิ๋นลั่วเฟิงต่างจากคนเหล่านี้ หลังจากที่นางเห็นเม็ดยาพุ่งไปโดนลำคอของคนคนนั้น ใบหน้าของนางก็มืดครึ้ม ประกายดุร้ายฉายชัดในดวงตานาง “เสี่ยวโม่ เจ้าเห็นหรือไม่”
สักพักเสี่ยวโม่ก็ตอบ “ข้าเห็น เม็ดยานี้มียาพิษเคลือบไว้ แค่สัมผัสถูกผิวหนังคนคนนั้นก็จะตายทันทีภายในห้าวัน! ข้าก็สงสัยอยู่ว่าความจริงแล้วมีคนที่สามารถทำนายความตายของคนที่อยู่บนโลกนี้ได้จริงหรือ แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะวิธีโหดร้ายแบบนี้”
คนพวกนี้บอกว่าราชครูไม่ยอมทำนายให้ใครก็ตามที่ไปหานางแล้วใช้วิธีนี้เพื่อทำนายความตายของใครสักคน วิธีนี้แม่นยำอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ใช่ว่าเด็กหนุ่มที่โดยเม็ดยาจะมีโชคชะตาที่ต้องตาย แต่…เม็ดยานั่นเคลือบพิษไว้อยู่แล้ว เช่นนั้นเขาจะไม่ตายได้อย่างไร
“นายหญิง คนที่อาณาจักรนี่โง่ใช่หรือไม่” เสี่ยวโม่พูดไม่ออก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าสตรีที่บอกว่าตัวเองเป็นราชครูไม่ได้มีความสามารถใดๆ เลย แต่นางก็สามารถหลอกคนโง่พวกนี้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
“พวกเขาไม่ได้โง่ เพียงแค่อาณาจักรนี้ไม่มีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพิษ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าเม็ดยามีพิษเคลือบอยู่”
ยิ่งไปกว่านั้นผู้อยู่อาศัยในอาณาจักรก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมาหลายปี ดังนั้นพวกเขาจะไปรู้แผนการลับของคนข้างนอกได้อย่างไร เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะถูกหลอก
“นายหญิง ท่านจะไม่ช่วยชายหนุ่มคนนั้นหรือ”
“พวกเราเป็นคนแปลกหน้า แล้วทำไมข้าต้องช่วยเขา” อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้า “ข้าไม่ยุ่งกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับข้า”
ที่สำคัญกว่านั้น ความนับถือของคนที่นี่แปลกมาก ถ้านางช่วยคนที่ถูกทำนายให้ตายแล้วกลายเป็นจุดสนใจของผู้อาวุโสของอาณาจักรนี้ พวกเขาอาจบังคับให้นางเป็นราชินีก็ได้
ทำไมนางจะต้องทำอะไรที่ต้องลงแรงแต่ไม่ได้อะไรตอบแทนด้วยล่ะ
อวิ๋นลั่วเฟิงหันหลังโดยไม่มองเหตุการณ์ตรงหน้าอีก นางเดินไปยังถนนอีกสายหนึ่ง
บนระเบียง หลินโยวอวี่สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง นางมองอวิ๋นลั่วเฟิงที่อยู่ท่ามกลางผู้คนดวงสายที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
ตอนที่ 1543 ภูผาสุสานเทพ (7)
อวิ๋นลั่วเฟิง! ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!
นางถอนสายตากลับแล้วบอกนางกำนัล “บอกเขาว่าอีกห้าวันเขาจะตาย” หลังจากพูดจบ นางก็เดินออกจากระเบียงแล้วจากไปด้วยท่าทางทรงภูมิ
…
อวิ๋นลั่วเฟิงใช้เวลาทั้งวันในกาารหาทางออก แต่ดูเหมือนว่าใต้หน้าผาจะถูกสาปทำให้ไม่มีใครสามารถบินออกจากที่นี่ไปได้
อวิ๋นลั่วเฟิงเดินช้าๆ เข้าห้องไป ระหว่างนั้นนางก็ครุ่นคิดแล้วถามเบาๆ “เสี่ยวโม่ ถ้าพวกเรายังหากันอยู่แบบนี้ก็ไม่มีทางสำเร็จ ข้าต้องหาว่าคำสาปอยู่ที่ไหน มีแค่ต้องทำลายคำสาปเท่านั้น พวกเราถึงจะออกจากที่นี่ได้”
ก่อนที่เสี่ยวโม่ที่อยู่ในมิติคัมภีร์เซียนจะตอบนาง ประตูก็เปิดออก แล้วชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดผ้าป่านสีเหลืองก็เดินเข้ามาพร้อมกลุ่มผู้คุ้มกัน
“แม่นางอวิ๋น ดูเหมือนว่าเจ้าจะหายดีแล้ว”
ชายหนุ่มแปลกใจ หากคนธรรมดากระโดดลงมาจาหน้าผา เขาต้องบาเจ็บสาหัสแน่นอน หรือไม่ก็อาจจะตายได้
แต่แผลของนางกลับหายภายในวันเดียวงั้นหรือ
อวิ๋นลั่วเฟิงจิบชาแล้วถาม “ข้าขอถามท่านสักข้อได้หรือไม่”
“เชิญเลยแม่นางอวิ๋น” เสวียนหยวนยิ้ม “ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง”
“ข้าแค่อยากจะรู้ว่าอาณาจักรของเจ้ามีพื้นที่พิเศษบางหรือไม่”
“พิเศษ?”
เสวียนหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ที่ด้านหลังเขามีพื้นที่ต้องห้ามอยู่ คนที่จะเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามจะต้องตาย ดังนั้นหลายปีมานี้จึงไม่มีใครเข้าไปที่นั่น ถ้าเจ้าหมายถึง ‘พิเศษ’ แล้วละก็ มีแค่ที่นี่ที่เดียวที่พิเศษ”
“พื้นที่ต้องห้ามงั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุด “เจ้าพาข้าไปที่นั่นได้หรือไม่”
เสวียนหยวนส่ายหน้าแล้วยิ้มแห้ง “ผู้อาวุโสไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามเพื่อความปลอดภัย เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะได้เหรียญจากผู้อาวุโส เจ้าถึงจะเข้าไปได้ ข้าช่วยไม่ได้จริงๆ”
อวิ๋นลั่วเฟิงสังหรณ์ใจว่านางจะหาทางออกเจอถ้าไปที่พื้นที่ต้องห้าม
“ช่วยพาข้าไปหาผู้อาวุโสของอาณาจักรเจ้าหน่อย”
เสวียนหยวนครุ่นคิดเงียบๆ อยู่พักหนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้ ตามข้ามา”
ในอาณาจักรนี้ ไม่ว่าจะเป็นองค์ราชาหรือผู้อาวุโสก็ไม่ได้อยู่เหนือกว่าคนอื่น ในทางกลับกัน ถ้าใครอยากพบพวกเขา เขาก็แค่ต้องรายงาน แล้วถ้าหากเขาได้รับอนุญาตก็สามารถเข้าพบได้เลย
ดังนั้นเสวียนหยวนจึงพาอวิ๋นลั่วเฟิงมาที่สภาผู้อาวุโส
ตอนนั้นในสภาผู้อาวุโส ผู้อาวุโสดูเป็นกังวลขณะกำลังปรึกษาเรื่องบางอย่างกันอยู่ แล้วทันใดนั้นก็มีคนเข้ามาแจ้งว่าเสวียนหยวนมาขอพบพวกเขาพร้อมสตรีแปลกหน้าคนหนึ่ง
“เสวียนหยวนมาพบพวกเราพร้อมสตรีคนหนึ่งงั้นหรือ” ผู้อาวุโสสูงสุดหยุดไปชั่วครู่แล้วขมวดคิ้ว “หรือว่าเขาอยากจะรับนางสนม ไม่มีทาง พวกเราไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้น”
ในอาณาจักรนี้จำนวนสตรีมีน้อยกว่าบุรุษ ดังนั้นการแต่งงานแบบหลายภรรยาจึงไม่ได้รับอนุญาตเพราะบุรุษบางคนจะไม่มีภรรยา ถึงแม้ว่าเสวียนหยวนจะเป็นองค์ราชา เขาก็ต้องมีสตรีเพียงแค่คนเดียว นอกจากว่าองค์ราชินีบังเอิญจะเสียชีวิตเท่านั้น เขาถึงจะได้รับอนุญาตให้แต่งภรรยาคนที่สองได้
“ให้พวกเขาเข้ามา พวกเรามาดูกันซิว่าเขาอยากได้อะไร” ผู้อาวุโสอีกคนเสนอ
ไม่นานประตูก็เปิดออก แสงจากภายนอกแล้วตกกระทบร่างของชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ตรงประตู สตรีผู้นี้งดงามไร้ที่ติ ดวงตาสีดำสนิทของนางเป็นประกายร้ายกาจทำให้นางดูเกียจคร้านและไม่รีบร้อน