ตอนที่ 968 อย่ามาแข่งเรื่องความโหดเหี้ยมกับฉัน

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“การตัดสินอยู่ในมือคุณแล้วนะ…ผมจะให้เวลาคุณคิดสักสองชั่วโมงแล้วกัน”

 

 

พูดจบ ประธานฟ่านก็หัวเราะและวางสายไป เพราะเพียงแค่ได้ข่มขู่ถังหนิงก็นับว่าเป็นชัยชนะของเขาแล้ว

 

 

ทว่าถังหนิงไม่ได้ทำอย่างที่คาดคิดเอาไว้ ยิ่งสถานการณ์น่าเป็นห่วงมาเท่าไร หญิงสาวก็ยิ่งปิดบังความคิดของตัวเองและนิ่งสงบได้มากขึ้น จึงไม่มีทางที่เธอจะยอมรับข้อเสนอของประธานฟ่าน ความจริงแล้วเธอกำลังจะทำให้เขาต้องชดใช้อย่างถึงที่สุดต่างหาก

 

 

ถังหนิงคุยกับประธานฟ่านเสร็จ ก็ต่อสายหาโม่ถิงและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง รวมถึงความกดดันจากประธานฟ่าน

 

 

โม่ถิงนิ่งไป หลังจากนั่งเงียบในห้องทำงานอยู่ครู่หนึ่ง เขาเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจนัก “คุณจะไม่ไปช่ไหมครับ”

 

 

“ฉันไปแน่นอนค่ะ แต่ฉันจะเตรียมตัวไปอย่างดี” ถังหนิงตอบ “คุณจะช่วยฉันใช่ไหมคะ…

 

 

“ถิง คุณก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันไม่ชอบถูกข่มขู่ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไม่มีทางเลือกคงไม่ทำอย่างนี้หรอกค่ะ”

 

 

เมื่อโม่ถิงได้ยินดังนั้น ทั้งคู่เข้าใจกันและกันทันที

 

 

“ผมเข้าใจครับ ฉันจะกลับไปหาคุณภายในสองชั่วโมงนะครับ”

 

 

ถังหนิงรู้ว่าเขาเข้าใจว่าเธอคิดอะไรอยู่ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการให้ลู่เช่อตามหาหลินเฉี่ยนให้เจอ

 

 

 

 

ในขณะนั้นเอง ดวงอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า หลินเฉี่ยนและลูกสาวเจ้าของที่พักใช้เวลาพักหนึ่งก็มาถึงบ้านไร่ที่พวกเธอสามารถพักในยามกลางคืนได้ในที่สุด

 

 

ชายสองพี่น้องที่บ้านไร่เป็นกันเองกับหญิงสาวทั้งสองคน “ผมละสงสัยว่าทำไมผู้หญิงสองคนอย่างพวกคุณถึงได้มาลงเอยที่หมู่บ้านไกลปืนเที่ยงแบบนี้กันล่ะครับ”

 

 

“ฉันมาตามหาใครบางคนที่นี่น่ะค่ะ…”

 

 

“คุณมาที่นี่เพราะเหตุการณ์เครื่องบินตกเหมือนกันเหรอ” พี่ชายคนโตถาม “คุณอาจจะไม่เชื่อผมนะว่าในตอนที่เครื่องบินตก ผมก็อยู่แถวๆ นั้นกับแกะของผม เพราะเสียงดังมาก ฝูงแกะเลยวิ่งหนีไปหมดจนผมต้องไล่ต้อนพวกมันอยู่นานเลยล่ะครับ…”

 

 

“มีอะไรอีกไหมคะ”

 

 

“ผมยังได้เจอกับนายทหารคนหนึ่งด้วยครับ เขาสูงผอม มีแผลเต็มตัวไปหมด และมุ่งหน้าไปทางช่องเขาน่ะ ตอนนั้นผมกลัวเลยไม่ได้เผยตัวออกไป พวกคุณมาตามหาเขาเหรอครับ”

 

 

หลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้น ก็โผเข้าไปคว้าเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนถาม “คุณเห็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอคะ”

 

 

“ใช่ครับ ผมเห็นจริงๆ ผมจะโกหกเรื่องอย่างนี้ไปทำไมกันครับ”

 

 

“แปลว่าเขายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมคะ”

 

 

“ครับ เขาเดินได้อยู่นะครับ แต่แถวๆ ช่องเขานั้นมีสัตว์ป่าอยู่เยอะ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะมีชีวิตออกมาได้ไหมเหมือนกัน” เขาเอ่ยอย่างสิ้นหวัง “เราใช้ชีวิตบนภูเขานี้มาทั้งชีวิต ไม่เคยออกไปเห็นโลกภายนอกเลย ผมก็แยกแยะคนดีเลวไม่ออก เลยกลัวที่จะเผยตัวเองต่อหน้าเขาน่ะครับ…”

 

 

ทันทีที่หลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้น น้ำตาเริ่มไหลรินจากดวงตา เธออยากจะวิ่งตรงดิ่งไปตามหาหลี่จิ่นที่ช่องเขาเสียเดี๋ยวนั้น

 

 

อย่างไรก็ตาม ลูกสาวเจ้าของที่พักได้มองสำรวจชายสองพี่น้อง สัญชาตญาณของเธอบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

“หนิงเซียง…”

 

 

“คุณหลิน ฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวลใจ แต่ฟ้ากำลังจะมืดแล้ว ไม่มีทางที่เราจะออกไปที่ช่องเขาได้ตอนนี้หรอกนะคะ อีกอย่างก็ไม่มีใครเคยไปลึกเข้าไปในช่องเขาด้วย และฉันก็ไม่แน่ใจว่ามีอะไรข้างในด้วยค่ะ ไม่ว่าคุณจะอยากไปแค่ไหน อย่างน้อยก็ต้องทนเอาไว้ก่อนนะคะ” เธอออกปากเตือนด้วยท่าทีจริงจัง “อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่ามเลยค่ะ”

 

 

ได้ยินดังนั้น หลินเฉี่ยนก็พยักหน้ารับ หากเธออยู่เพียงลำพังเธอคงยอมเสี่ยงไปแล้ว หากแต่เธออยู่ที่นี่กับคนอื่นด้วยจึงต้องนึกถึงความปลอดภัยของหญิงสาวข้างกายเช่นกัน

 

 

“ถ้าอย่างนั้นก็นอนพักให้เต็มที่ก่อนเถอะค่ะ คุณต้องเก็บแรงเอาไว้สำหรับวันพรุ่งนี้อีก”

 

 

หลินเฉี่ยนทำตามที่บอก…

 

 

 

 

เวลาสองทุ่ม

 

 

ครบเวลาสองชั่วโมงที่ประธานฟ่านบอกเอาไว้แล้ว ทว่าถังหนิงยังคงรอคำตอบจากโม่ถิง ในที่สุดเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นในนาทีสุดท้าย

 

 

“ผมทำตามที่คุณบอกเรียบร้อยแล้วครับ”

 

 

“ลูกสาวกับภรรยาของเขาล่ะคะ”

 

 

“พวกเธออยู่กับผมครับ” โม่ถิงตอบ

 

 

บทสนทนาของทั้งคู่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา พูดง่ายๆ คือโม่ถิงตอบโต้กลับโดยการเชิญลูกสาวและภรรยาของประธานฟ่านมายังหนึ่งในโรงแรมในเครือไห่รุ่ย ซึ่งตอนนี้พวกเธอกกำลังดื่มด่ำกับมื้อค่ำแสนอลังการ

 

 

จากนั้นถังหนิงจึงต่อสายหาประธานฟ่าน

 

 

“ตัดสินใจได้แล้วเหรอครับ คุณจะไปหรือเปล่าล่ะ” ประธานฟ่านถาม

 

 

ถังหนิงเหลือบตามองเวลาก่อนออกปากถาม “ประธานฟ่านคะ พอดีตอนนี้ฉันกำลังพาภรรยาและลูกสาวของคุณมาทานอาหารค่ำ หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะคะ”

 

 

เขานึกไม่ถึงว่าเธอจะตลบหลังเขาด้วยวิธีเดียวกันเช่นนี้

 

 

ด้วยไม่คิดว่าถังหนิงจะกล้าทำเรื่องอย่างนี้เขาจึงไม่ทันได้ตั้งตัว!

 

 

“ผมคิดว่าประธานถังจะเป็นคนดีจนไม่ลงมาใช้วิธีสกปรกขนาดนี้เสียอีกนะครับ”

 

 

“ฉันจัดการสถานการณ์ไปตามสมควรอยู่ตลอดนั่นแหละค่ะ ฉันปฏิบัติกับคนเหมือนอย่างที่ปฏิบัติกับสัตว์ ทีนี้จะบอกฉันได้หรือยังคะว่าหลินเฉี่ยนอยู่ที่ไหน” ถังหนิงถาม “ไหนๆ เราก็ประกาศสงครามกันแล้ว ฉันก็ไม่คิดจะยั้งมืออีกต่อไปแล้วค่ะ ถ้าเรื่องมันจะพังไปมากกว่านี้ งั้นเราก็มาลงพนันไปด้วยกัน ฉันจะทำกับลูกสาวและภรรยาของคุณเหมือนกับที่คุณทำกับหลินเฉี่ยน…”

 

 

ประธานฟ่านกัดฟันกรอดๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเกมจะพลิกได้

 

 

“ถังหนิง! คุณจะต้องตายอย่างทรมาน…”

 

 

“ตั้งแต่ฉันได้มาข้องเกี่ยวกับคุณ ฉันก็ไม่ได้หวังจะเห็นจุดจบที่ดีหรอกค่ะ แต่อย่ามาแข่งเรื่องความโหดเ**้ยมกับฉันเลยค่ะ คุณสู้ฉันไม่ได้หรอก”

 

 

แน่นอนว่าประธานฟ่านคงไม่ยอมรามือ จึงโต้กลับ “ถ้าคุณเก่งนัก งั้นก็เอาเลยสิครับ ขังพวกเธอเอาไว้ แล้วมาดูกันว่าคุณจะอธิบายเรื่องนี้กับทางตำรวจยังไง”

 

 

“ฉันไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกค่ะ ต่อให้ฉันติดคุกฉันก็ยังมีโม่ถิง ยังมีลูกชายอีกสองคน รวมถึงตระกูลถังและตระกูลโม่ด้วย ฉันมั่นใจว่าคนของฉันจะทำลายทุกอย่างที่คุณมีและทำให้คุณเหมือนตายทั้งเป็นได้ค่ะ

 

 

“โอ๊ะ แล้วฉันก็มั่นใจว่าคุณรู้ว่าโม่ถิงไม่ชอบที่จะถูกลองดีด้วย ฉันจะให้เวลาคุณคิดสักคืนหนึ่ง พรุ่งนี้จะมาเอาคำตอบแล้วกันนะคะ”

 

 

พูดจบ ถังหนิงก็วางสาย ครั้งนี้เธอถือไพ่เหนือกว่าเขาแล้ว

 

 

ความจริงแล้วหลังจากที่โม่ถิงพาภรรยาและลูกสาวของประธานฟ่านมาที่โรงแรม เขาได้อธิบายเรื่องทุกอย่างกับพวกเธอแล้ว ที่แท้ภรรยาของประธานฟ่านก็เป็นคนที่มีเหตุผล เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สามีของตัวเองทำเรื่องเลวร้ายไปมากกว่านี้ เธอตกลงที่จะอยู่ที่โรงแรม เขาจึงเลี้ยงอาหารและดูแลพวกเธอเป็นอย่างดี อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้เหมารวมพวกเธอเป็นคนประเภทเดียวกับประธานฟ่านอยู่แล้ว

 

 

ในท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายจึงตกอยู่ในความกังวลเพราะไม่มีใครยอมเลิกราก่อน

 

 

ในขณะเดียวกันลู่เช่อได้ทำการค้นหาต่อไป

 

 

 

 

ระหว่างนั้นหลินเฉี่ยนไม่รู้ว่าถังหนิงและประธานฟ่านได้ประกาศสงครามกันเพราะเธอ

 

 

ตอนนี้เธอกำลังเห็นหลี่จิ่นในห้วงความฝัน

 

 

ในฝันของเธอเขาดูสูงกว่าที่เคย

 

 

“เฉี่ยนเฉี่ยน อย่าตามหาผมเลยครับ…อย่าเลย”

 

 

หลินเฉี่ยนสะดุ้งตื่นขึ้น ในขณะที่เธอลุกขึ้นนั่งนัยน์ตาของเธอคลอไปด้วยน้ำตา

 

 

โชคดีที่เข้าสู่ช่วงกลางวันแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้ว่าจะผ่านค่ำคืนที่เหลือไปได้อย่างไร

 

 

ไม่นานเธอกับหนิงเซียงก็เก็บข้าวของเตรียมออกเดินทาง ในเวลาเดียวกันถังหนิงก็ได้รับสายจากประธานฟ่าน “ผมจะไม่บอกคุณว่าหลินเฉี่ยนอยู่ที่ไหนหรอกนะ ถ้าคุณอยากจะได้ชีวิตภรรยาและลูกสาวของผมไปก็เอาเลย เอาไปได้เลย”