เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1067 การหลอมรวมวิญญาณของทั้งสองฝ่าย

แปลโดย iPAT

 

หลายวันต่อมาในถ้ำนรกใต้พิภพ

 

ซื่อหนิวกลับมาจากด้านนอกและรายงานอิงอู๋เซี่ย “นายท่าน ข้าตรวจสอบมาอย่างชัดเจนแล้ว เนื่องจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่นี่ นิกายจิตวิญญาณบรรพกาลได้ส่งผู้อมตะสามคนออกมาตรวจสอบ ตามคำแนะนำของท่าน ข้าล่อสัตว์อสูรบรรพกาลและสัตว์อสูรเดียวดายหลายตัวไปหาพวกเขา นอกจากนั้นยังมีวิญญาณอมตะป่าอยู่ในร่างของพวกมัน หลังจากนี้ผู้อมตะจากนิกายจิตวิญญาณบรรพกาลจะยุ่งมาก”

 

ซื่อหนิวเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี ดังนั้นเขาจึงมีประโยชน์มากในสภาพแวดล้อมเช่นถ้ำนรกใต้พิภพ

 

อิงอู๋เซี่ยพยักหน้า “เจ้าทำได้ดีมาก แต่เจตจำนงสวรรค์มีอยู่ทุกแห่ง เราไม่สามารถประมาท เมื่อข้าเริ่มหลอมรวมวิญญาณ เจตจำนงสวรรค์จะส่งอิทธิพลต่อผู้อมตะเหล่านั้นและบังคับให้พวกเขามาที่นี่เพื่อทำลายแผนการของพวกเรา”

 

ซื่อหนิวคิดก่อนกล่าว “นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว เช่นนั้นเราจะจัดสัตว์อสูรเดียวดายสามกลุ่มไว้กีดขวางพวกเขา แม้พวกเขาจะสามารถผ่านสัตว์อสูรเหล่านี้และมาถึงที่นี่ เราก็ยังมีเวลาพอที่จะตอบสนอง”

 

อิงอู๋เซี่ยส่ายศีรษะเล็กน้อย “เจ้ายังไม่เคยเห็นพลังอำนาจที่แท้จริงของเจตจำนงสวรรค์ มันไม่เพียงส่งอิทธิพลต่อผู้อมตะ มันยังส่งอิทธิพลต่อสัตว์อสูรและพืชอสูร ในช่วงเวลาสำคัญสัตว์อสูรเหล่านี้อาจหันมาโจมตีพวกเรา”

 

การแสดงออกของซื่อหนิวเปลี่ยนแปลงไป “หากสัตว์อสูรโจมตีที่นี่…เราควรทำอย่างไร?”

 

“ไม่จำเป็นต้องกังวล ความมั่นใจของข้าไม่ได้มาจากสัตว์อสูรเดียวดายหรือสัตว์อสูรบรรพกาลแต่เป็นค่ายกลวิญญาณของเรา!” ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยส่องประกายแหลมคม

 

ที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเขา

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ไม่เพียงสามารถซ่อนตัวจากเจตจำนงสวรรค์ มันยังสามารถป้องกันการอนุมานจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา มันมีทั้งพลังป้องกันและพลังโจมตีที่ไม่น่าเชื่อ

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณกลืนกินดวงวิญญาณของผู้อมตะจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่หลังประตูแห่งชีวิตและความตาย เขาได้รับความรู้และประสบการณ์ในทุกแง่มุม กล่าวได้ว่าความสามารถของเขาเหนือกว่าตัวตนที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดในประวัติศาสตร์

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ดังนั้นประสิทธิภาพของมันจึงไม่ธรรมดา

 

นี่เป็นเหตุผลที่อิงอู๋เซี่ยต้องการหลอมรวมวิญญาณภายในค่ายกลวิญญาณนี้

 

กระทั่งสัตว์อสูรเดียวดายหรือสัตว์อสูรบรรพกาลจะบุกโจมตี เขาก็สามารถใช้ค่ายกลวิญญาณสังหารพวกมันและใช้ดวงวิญญาณของพวกมันกระตุ้นค่ายกลวิญญาณให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

สำหรับซื่อหนิว แม้เขาจะอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน แต่เขาไม่รู้ถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของค่ายกลวิญญาณนี้

 

‘ข้าไม่ได้ทำลายวิญญาณกาลเวลา เจตจำนงสวรรค์อยู่ในวิญญาณดวงนี้ ดังนั้นตำแหน่งของค่ายกลวิญญาณจะถูกค้นพบโดยเจตจำนงสรรค์ แต่มันไม่ใช่ปัญหา กระทั่งผู้อมตะระดับแปดจากวังสวรรค์จะบุกมาที่นี่ ข้าก็ยังสามารถรับมือพวกเขาได้ระยะเวลาหนึ่ง หอคอยดวงตาสวรรค์ถูกทำลายไปแล้ว แม้จะมีวิญญาณชะตากรรม โอกาสที่วังสวรรค์จะสามารถยึดครองที่นี่ก็มีต่ำมาก’

 

อิงอู๋เซี่ยยังไม่ยอมแพ้ต่อวิญญาณกาลเวลา

 

ฟางหยวนใช้วิญญาณกาลเวลาทำลายแผนการนับหมื่นปีของนิกายเงา แล้วเหตุใดอิงอู๋เซี่ยจะไม่เก็บมันไว้เป็นไพ่ตาย?

 

แม้เจตจำนงสวรรค์จะยิ่งใหญ่ มันก็รักษาสมดุลของสรรพสิ่งเท่านั้น มันไม่มีความโกรธแค้นส่วนตัว นอกจากนั้นเป้าหมายหลักของเจตจำนงสวรรค์ในเวลานี้ก็คือฟางหยวนไม่ใช่อิงอู๋เซี่ย กระทั่งวิญญาณกาลเวลาจะเต็มไปดวยเจตจำนงสวรรค์ มันก็ยังมีประโยชน์ต่อเขา

 

ตามแผนการของอิงอู๋เซี่ย เขาจะปรับแต่งวิญญาณกาลเวลาอีกครั้งและกำจัดเจตจำนงสวรรค์ออกไป

 

แต่นี่เป็นแผนการในอนาคต

 

ตอนนี้สิ่งที่อิงอู๋เซี่ยต้องการมากที่สุดก็คือวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

วิญญาณอมตะดวงนี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เขาสามารถแก้ปัญหา

 

ด้วยวิญญาณท่องแดนอมตะ เขาจะสามารถเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง

 

“ไม่มีเวลาแล้ว เราควรหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะทันที ซื่อหนิว ข้าจะกระตุ้นการทำงานของค่ายกลวิญญาณ เจ้าจงควบคุมแกนกลางของมัน เจ้าต้องช่วยข้าหลอมรวมวิญญาณ!” อิงอู๋เซี่ยออกคำสั่ง

 

“ทราบแล้ว ข้าจะทำอย่างดีที่สุดและเดิมพันด้วยชีวิต!” ซื่อหนิวเร่งตอบรับ

 

หลังจากจัดการเรื่องของซื่อหนิว อิงอู๋เซี่ยส่งไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันไปควบคุมแกนกลางอีกสองแห่งของค่ายกลวิญญาณ

 

แม้มันจะเป็นเพียงวิญญาณท่องแดนอมตะระดับหก แต่วิญญาณอมตะดวงนี้มีความสำคัญต่ออนาคตของนิกายเงาเป็นอย่างมาก

 

การหลอมรวมวิญญาณเริ่มขึ้นในเวลานี้

 

ครึ่งเดือนผ่านไป

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

การหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ครั้งแรกกำลังจะเริ่มขึ้น

 

ฟางหยวนยืนมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาที่ลอยอยู่กลางอากาศราวกับเทพเจ้า

 

พลังงานแห่งเต๋าหมุนวนอยู่รอบๆ

 

“ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม พวกมันเป็นตัวช่วยชั้นยอดในการหลอมรวมวิญญาณ!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

 

แสงระยิบระยับส่องประกายขึ้นบนท้องฟ้า

 

“เกิดสิ่งใดขึ้นบนท้องฟ้า?”

 

“ดูเร็ว! ปรากฏการณ์อมตะเกิดขึ้นอีกครั้ง!”

 

“เพียงไม่นานหลังจากเกิดแสงสีรุ้ง ตอนนี้ยังเกิดเหตุการณ์แสงดาวสีรุ้งขึ้นอีกครั้ง นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่!”

 

ผู้คนในทวีปผมดำ ทวีปผมเหลือง และทวีปผมขาวมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างกระตือรือร้น

 

“แสงดาวเหล่านี้ มันเกิดจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมงั้นหรือ?” ฟางหยวนถาม

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพยักหน้า “เจ้าเดาได้ถูกแล้ว น่าเสียดายที่แกนกลางส่วนใหญ่ของมันหายไป หากเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมดั่งเดิม โอกาสประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์จะเพิ่มขึ้นอีกหกสิบส่วน!”

 

“แต่ลืมเรื่องการสูญเสียไปเถอะ ข้าจะไม่ซ่อมแซมหม้อหลอมรวม ความแข็งแกร่งที่แท้จริงไม่ได้มาจากวิญญาณอมตะ แต่ขึ้นอยู่กับตัวผู้อมตะเอง”

 

“สงบจิตใจ ข้าจะเริ่มเดี๋ยวนี้!”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาบินขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับวิญญาณจำนวนมหาศาล

 

หลังจากชั่วครู่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะโกน “ถึงเวลาของเจ้าแล้ว”

 

ฟางหยวนสลับตำแหน่งกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอย่างกะทันหัน ตอนนี้ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศขณะที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายืนมองอยู่บนพื้น

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตัดสินใจให้วิธีหลอมรวมวิญญาณคู่ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาใช้วิธีการหลอมรวมของมนุษย์ขนขณะที่ฟางหยวนแปรรูปทรัพยากรอมตะ

 

ฟางหยวนเตรียมตัวมาแล้ว หลังจากเข้าประจำตำแหน่ง เขาเริ่มปรับแต่งฝนในร่มทันที

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

‘เด็กคนนี้สมแล้วที่เป็นผู้กลับชาติมาเกิด ด้วยประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้า ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขากำลังจะบรรลุระดับปรมาจารย์ แต่ก้าวสุดท้ายไม่ใช่เรื่องง่าย’ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาประเมิน

 

การหลอมรวมวิญญาณดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้จะเกิดอุบัติเหตุบ้าง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

 

ด้วยความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญสองคนที่เตรียมตัวมาอย่างดี มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีความคืบหน้าดังกล่าว

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากับฟางหยวนหลอมรวมวิญญาณอมตะเป็นเวลาสามวันสามคืนโดยไม่หยุดพักกระทั่งตัวอ่อนของวิญญาณอมตะถือกำเนิดขึ้น

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีความสุขมาก “ดูเหมือนการหลอมรวมครั้งแรกจะประสบความสำเร็จ ตราบเท่าที่ไม่เกิดปัญหา…”

 

แต่ก่อนที่เขาจะกล่าวได้จบประโยค สายฟ้ากลับแลบลั่นขึ้นอย่างกะทันหัน

 

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป

 

“อย่ากังวล มันเป็นเพียงภัยพิบัติของวิญญาณอมตะระดับหก โอ้ ไม่!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตกใจเมื่อตระหนักถึงบางสิ่ง

 

ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าไปไกลเกินกว่ามาตรฐานของวิญญาณระดับหกที่อยู่ในความทรงจำของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

ในความเป็นจริงกระทั่งวิญญาณอมตะระดับเจ็ดก็ยังไม่สามารถดึงดูดภัยพิบัตินี้

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสับสน

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง โปรดดูแลการหลอมรวมวิญญาณ ข้าจะรับมือภัยพิบัติ” ฟางหยวนกัดฟันกล่าว

 

“ไม่! ตอนนี้เป็นเวลาสำคัญ เจ้าไม่สามารถจากไป โชคอึสุนัขของเจ้ากำลังปกป้องวิญญาณอมตะ ให้ข้าจัดการภัยพิบัตินี้ ทุกคน เตรียมค่ายกลวิญญาณสายต่อสู้!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาออกคำสั่ง

 

หลังจากจบคำ ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเกือบสิบคนบินเข้ามาหาเขาก่อนที่ยักษ์สวรรค์จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

 

ค่ายกลวิญญาณสายต่อสู้โบราณยักษ์สวรรค์!

 

ภาคกลาง ถ้ำนรกใต้พิภพ

 

อิงอู๋เซี่ยหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง เขากัดฟันแน่นหลังจากพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

 

ครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาพยายามหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่จนถึงตอนนี้เขาล้มเหลวไปแล้วแปดครั้ง

 

“บัดซบ! ข้าเหลือโอกาสอีกเพียงสองครั้ง!”

 

“ข้ามีค่ายกลวิญญาณให้ความช่วยเหลือ แต่ข้ายังล้มเหลวถึงแปดครั้ง วิธีหลอมรวมวิญญาณของมนุษย์มีอัตราความสำเร็จต่ำเกินไป”

 

“อย่างไรก็ตามกระทั่งหยูมู่ฉานจะยังมีชีวิตอยู่ ข้าก็จะไม่ใช่วิธีการหลอมรวมวิญญาณของมนุษย์ขนเพราะเจตจำนงสวรรค์จะฉวยโอกาสโจมตีข้า หากภัยพิบัติทำให้ค่ายกลวิญญาณพังทลายลง พวกเราจะพบปัญหาใหญ่!”

 

“ฟางหยวนไม่รู้เกี่ยวกับเจตจำนงสวรรค์ เขาใช้วิธีหลอมรวมวิญญาณของมนุษย์ขนที่จะดึงดูดภัยพิบัติใหญ่ ฮ่าฮ่าฮ่า ขอให้เจ้าโชคดี”