บทที่222 ท่านอ๋องเล่นกับลูกสาว

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่222 ท่านอ๋องเล่นกับลูกสาว

มองไปทั่วใต้หล้า ใครประสบความสำเร็จในด้านการต่อสู้มากกว่าเขา?

หนานหว่านเยียนไม่เป็นวิทยายุทธ์ ถึงนางจะมีชายชู้มากมายแค่ไหน ก็เป็นแค่พวกกระจอกที่เอามาอวดไม่ได้ ไม่มีความสามารถจริงกันสักคน

เกี๊ยวน้อยมีพรสวรรค์ด้านวิทยายุทธ์ เขายังจะต้องตรวจสอบอะไรอีก เด็กสองคนนี้เป็นลูกของเขาจริงๆ!

อาจารย์เย่ว์เอ่ยชมแล้ว เกี๊ยวน้อยก็รู้สึกภูมิใจ แต่นางก็แกล้งทำท่าทางเฉยๆ กอดอกพิงกำแพง แล้วพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “เหอะ! ดีกว่าคนเลวนั่นแค่สิบเท่าเอง!”

“ข้าจะบอกเจ้าให้นะ ต่อไปข้าจะเป็นยอดฝีมือในยุทธภพ หากเจ้ากล้ารังแกแม่ของข้า ก็ต้องถามหมัดของข้าก่อน!”

ว่าแล้ว นางก็ทำท่าทำทาง กำปั้นอ่อนนุ่มนั้นชกไปยังหน้าของกู้โม่หานหลอกๆ ทำท่าเหมือน ‘เจ้าสู้ข้าไม่ไหวหรอก’

ความไร้เดียงสาแบบเด็กๆ บวกกับการยั่วยุเล็กน้อย ทำเอาหัวใจของทุกคนละลายทันที

เซียงเหลียนเห็นภาพของกู้โม่หานตอนเด็กในร่างของเกี๊ยวน้อย

ความไม่ยอมแพ้ และความสะอาดบริสุทธิ์ สายตาที่บริสุทธิ์โดยไม่มีสิ่งอื่นใดปะปนเลย

ซาลาเปาน้อยถือหนังสือไว้ แล้วพูดกับกู้โม่หานอย่างตื่นเต้นว่า “ใช่แล้ว! เจ้าอย่ารังแกแม่ของข้าอีก คนที่มาทีหลังแซงนำหน้าไปก่อน พี่ข้าจะต้องชนะเจ้าได้แน่นอน!”

สำหรับคำท้าทายของเด็กสองคน กู้โม่หานไม่หงุดหงิดเลย และยังดีใจอย่างมาก

เขาโน้มตัวลงไปใกล้เด็กสองคน นิ้วมือเรียวยาวนั้นบับแก้มนุ่มนิ่มของเกี๊ยวน้อยเบาๆ

“ไม่มีผู้ใดชนะข้าได้ หรือแม้แต่เจ้า ก็ทำไม่ได้”

เกี๊ยวน้อยได้ยินแล้ว ตอนแรกยังรู้สึกหงุดหงิดที่โดนบีบแก้ม เหมือนโดนกระตุ้น ทนไม่ได้กระโดดลงมาจากหน้าต่าง พูดอย่างไม่พอใจว่า: “งั้นเจ้ากล้าประลองกับข้าไหมล่ะ!”

กู้โม่หานกระตุกยิ้ม ถอดเสื้อคลุมออก แล้วโยนไปไว้ข้างๆบนกิ่งไม้ “พร้อมรับเสมอ”

ชายหนุ่มหล่อเหลาเคลื่อนไหวรวดเร็ว หมัวมัวข้ารับใช้ที่อยู่ข้างๆต่างก็รู้สึกหวั่นไหวกันหมด

ถูกดึงดูกเพราะใบหน้าอันหล่อเหลาและร่างกายกำยำของท่านอ๋อง

เกี๊ยวน้อยกลับไม่พอใจ พูดกับอาจารย์เย่ว์ว่า: “ท่านอาจารย์ ท่านจะต้องตัดสินอย่างยุติธรรมนะ ห้ามขี้โกงเด็ดขาด!”

อาจารย์เย่ว์ตื่นเต้นกว่าคนอื่นๆ “ขอรับ!”

พอพูดจบ เกี๊ยวน้อยก็ทำท่า‘เสือน้อยเบ่งอำนาจ’ พุ่งกรงเล็บไปยังกู้โม่หาน

ซาลาเปาน้อยเบิกตาโพลงอย่างตั้งใจ แก้มแดงๆตื่นเต้นอย่างมาก “พี่สาวสู้ๆนะ!”

สายตากู้โม่หานมองไปยังการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเกี๊ยวน้อย แววตาเต็มไปด้วยความภูมิใจ แต่เขาขยับเล็กน้อย เสื้อผ้าโบกพลิ้ว หลบการโจมตีครั้งแรกของเกี๊ยวน้อยได้อย่างง่ายดาย แล้วพูดสอน

“พลังมีแล้ว แต่สายตาดูออกว่าคิดจะทำอะไร”

เกี๊ยวน้อยแตะไม่โดนเสื้อของเขาด้วยซ้ำ นางกัดฟันกรอด

นางตั้งสมาธิ แล้วยืนอยู่กับที่ไม่ขยับ วินาทีต่อมา นางก็กลับหลังหัน เดินจะตบไปยังแข้งของกู้โม่หาน แต่กลับทำท่าหลบ แล้วเตะขาออกไปแทน

ในตอนที่นางคิดว่าจะสำเร็จแล้ว แสยะยิ้มอย่างได้ใจ กู้โม่หานกลับคว้าเสื้อหลังคอของนางไว้ “ให้ได้แบบนี้สิ พัฒนาไปอีกขั้นแล้วนะ”

เรียนรู้ไวจริงๆ รู้จักแกล้งโจมตีแล้ว

“โอ๊ย ทำไมเจ้าเป็นแบบนี้นะ!” เกี๊ยวน้อยเบะปาก สายตาไม่พอใจอย่างมาก กู้โม่หาน “ครั้งนี้ไม่นับ! เจ้าขี้โกง! ทำไมยกข้าขึ้นมาล่ะ? อาจารย์เย่ว์ ท่านไม่ห้ามเขาหน่อยเลยเหรอ!”

อาจารย์เย่ว์เหงื่อแตก อย่าว่าแต่จวนนี้เลย แม้แต่ทั่วซีเหย่ เกรงว่าคงจะมีแต่สองพี่น้องที่กล้าเล่นกับกู้โม่หานแบบนี้?

แต่ว่า ท่านอ๋องไม่ว่าอะไรคุณหนูสองท่านเลย แต่กลับสอนนางแทน

และวิทยายุทธ์ของท่านอ๋องก็ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้ ปกติถึงแม้จะขี้เล่น แต่ถ้าถึงสนามรบจริง ก็เหมือนกับยมทูต ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาเลย

ดังนั้นพวกทหารในค่ายทหารก็ถึงยอมสยบต่อหน้าเขา ไม่เพียงแค่เขาให้ความสำคัญกับมิตรภาพ แต่เพราะเขามีความสามารถจริงๆ

ถ้าคุณหนูได้รับการสอนจากเขาจริงๆ เทพสงครามคนต่อไป ก็ฝึกฝนออกมาแบบนี้?

“ในสงครามไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้……” ไร้ความสามารถก็จะต้องพ่ายแพ้ กู้โม่หานอยากพูดแบบนี้ แต่คิดว่าไม่จำเป็นหรอก หากวันไหนมีสงครามขึ้นมาจริงๆ ขอแค่มีเขาอยู่ เขาไม่ปล่อยให้คนนอกมีโอกาสโอหังแน่นอน

เขาปล่อยตัวนางลงมา “งั้นก็เอาใหม่อีกครั้ง”

“เอาก็เอา!” เกี๊ยวน้อยรีบตั้งสติ นางทำท่าจะเตะเขาอีกครั้ง นิ้วมือที่เรียวยาวของชายหนุ่มกดไปที่จุดของเกี๊ยวน้อย ทันใดนั้นนางก็ขยับไปไหนไม่ได้

“เจ้าแพ้แล้ว ยอมหรือยัง?”

เกี๊ยวน้อยยืนอยู่กับที่อย่างไม่อยากจะเชื่อ ซาลาเปาน้อยเบิกตาโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน

จบแล้วเหรอ?

เพิ่งจะเริ่มเองนะ?

เกี๊ยวน้อยโกรธมาก “ข้าไม่ยอม เจ้ากดจุดข้าทำไม! นี่มันเป็นการต่อสู้นะ!”

กู้โม่หานตามใจนาง คลายจุดให้นาง เกี๊ยวน้อยรีบหยิบไม้บนพื้นขึ้นมาตีเขาทันที

กู้โม่หานไม่รู้ว่าจะขยับยังไง เขารีบอ้อมไปด้านหลังเกี๊ยวน้อย ฝ่ามือใหญ่จับข้อมือเรียวเล็กของนางไว้ ไม้ของสาวน้อยก็ตกลงไปบนพื้น

“ครั้งนี้ล่ะ? ยอมแพ้หรือยัง?”

คนนอกอาจจะดูไม่ออก แต่อาจารย์เย่ว์กลับตกตะลึงมาก การเคลื่อนไหวเมื่อกี้ของกู้โม่หาน ถึงจะเป็นเขา เขาก็แพ้แน่นอน

ให้อีกฝ่ายปรากฏขึ้นด้านหลัง ถึงจะตอบโต้เร็วแค่ไหนก็ต้องตายแน่นอน

ซาลาเปาน้อยเบิกตาโพลง ถึงแม้นางจะไม่เข้าใจ ก็สนับสนุนเกี๊ยวน้อยเต็มที่ แต่พอเห็นบุคลิกแข็งแกร่งของกู้โม่หาน “เก่งจัง……”

ถึงแม้เกี๊ยวน้อยจะไม่พอใจ ก็ยังตกตะลึงมาก แรงกดดันที่กู้โม่หานกับอาจารย์เย่ว์ให้นางนั้นแตกต่างกันมาก

กู้โม่หานเฉียบคม เด็ดขาด และทรงพลัง!

นางเบือนหน้าหนี “ก็ได้ ข้ายังไม่แข็งแกร่งพอ แต่ตอนนี้ข้ายังเด็ก ยังเรียนรู้ได้อีกนาน ต่อไปเจ้าสู้ข้าไม่ได้แน่นอน!”

กู้โม่หานหัวเราะ อุ้มเกี๊ยวน้อยขึ้นมา ลูบสันจมูกของนางเบาๆ “ได้ ข้าจะรอเจ้าโตนะ ค่อยมาประลองกันอีกที!”

เขาเหลือบตาไปมองซาลาเปาน้อยที่พูดไม่ออก แล้วเดินเข้าไปอุ้มนางขึ้นมา “มีเวลา พวกเรามาประลองบทกลอนกันไหม?”

ซาลาเปาน้อยพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ข้า ข้าจะต้องชนะเจ้าแน่นอน!”

กู้โม่หานหัวเราะอย่างดีใจเป็นแค่แรก เขาอุ้มเด็กสองคนหมุนรอบในเรือนอย่างดีใจ

“ได้ ข้าจะรอพวกเจ้าแข็งแกร่งนะ แล้วมาท้าประลองข้าอีกครั้ง!”

ซาลาเปาน้อยกับเกี๊ยวน้อยถูกกู้โม่หานยกตัวขึ้น ตกใจจนรีบจับแขนเขาไว้แน่น แต่กลับรู้สึกมีความสุขมาก

ต่างจากที่แม่สอน สิ่งที่แม่ให้ คือความรัก ความอดกลั้น มากกว่า แข็งแรงหรือไม่ ไม่สำคัญ ขอแค่มีเพียงพอก็พอแล้ว

แต่กู้โม่หานแตกต่างกัน เขาแค่แสดงความแข็งแกร่งของเขาออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ซึ่งกระตุ้นความปรารถนาที่จะชนะของพวกนาง และอดไม่ได้ที่จะตั้งเป้าหมายด้วยตัวเอง โดยหวังว่าจะเอาชนะเขาได้ในสักวันหนึ่ง!

ช้าก่อน ท่านแม่……

เสียงหัวเราะของเกี๊ยวน้อยหยุดชะงัก

จะทรยศท่านแม่ไม่ได้!

เกี๊ยวน้อยรีบชักสีหน้า “ปล่อยพวกข้าลงนะ! พวกข้าจะไปเรียนหนังสือ! ไม่งั้นท่านแม่กลับมาได้ด่าพวกเราแน่!”

ซาลาเปาน้อยก็ได้สติ “ใช่! อาจารย์ฟางคงรอไม่ไหวแล้ว!”

แต่ทุกคนกลับคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย——

ยังจะเรียนอะไรอีก ภาพแบบนี้น้อยครั้งที่จะเห็น ท่านอ๋องเล่นกับลูกสาว ช่างอัศจรรย์นัก!

กู้โม่หานไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของสองพี่น้อง แค่คิดว่าพวกนางคงจะเหนื่อยแล้ว เขาปล่อยพวกนางลงมาอย่างระมัดระวัง

“พวกเจ้าไปเรียนต่อเถอะ ถ้าไม่ตั้งใจ ข้าจะให้อาจารย์ฟางสั่งการบ้านพวกเจ้าเยอะๆนะ”

เกี๊ยวน้อยแลบลิ้นให้เขา จับมือซาลาเปาน้อยกลับเข้าไปในห้อง

มองดูแผ่นหลังของเด็กน้อยสองคน กู้โม่หานก็หุบยิ้ม สายตากลับมาเป็นปกติ ใบหน้าหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยความมืดมน

รอหนานหว่านเยียนกลับมา เขาจะคุยกับนางเกี่ยวกับเรื่องของเด็กให้เข้าใจ……