ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1298 – ความรู้สึกที่เรียกว่าความสุข คนรักของชิง หมิน?

 

เมื่อคิดอย่างนั้น ชิงสุ่ยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาที่ครอบครัวของเขายังมีชีวิตยืนยาว ปู่ของเขาเองก็มีชีวิตอยู่อีก 300 ปี ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะให้ชิงสุ่ยเตรียมพร้อมทุกอย่าง เขาคิดว่าในอนาคตศาสตร์ปรุงยาของเขาน่าจะแข็งแกร่งขึ้นและเขาอาจจะทำอะไรบางอย่างเพื่อทุกคนได้

 

ทุกอย่างเริ่มลงตัว ทั้งตระกูลครื้นเครงในตอนกลางคืน ชิงสุ่ยรีบไปที่เตียงของรัก ตามที่ ห่าวหยุน ลิ่วลี่ถามเขาไว้ว่าเตียงใดจะเป็นเตียงแรกที่เขาไป?

 

ห้องของชางห่าย หมิงเยวี่ย !

 

ทั้ง ชิง ซุนและชิง หยินแยกไปอยู่อีกห้องนานแล้ว ชิงสุ่ยเคาะประตูห้องก่อนจะเข้าไปในห้องทันที ใบหน้าของชางห่าย หมิงเยวี่ย แดงระเรื่อ เธอมองชิงสุ่ยที่กำลังปิดประตู

 

ชิงสุ่ยรีบพาร่างบางขึ้นเตียง

 

ร่างของเธอช่างยั่วยวน เธอยื่นมือมาโอบรอบคอชิงสุ่ย ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเจอกันก็เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว อย่างที่เขากล่าวกันยิ่งห่างกันก็ยิ่งคิดถึงกันมากขึ้น  ดังนั้นเมื่อหญิงสาวได้เจอชายที่เธอรัก เธอก็ต้องแสดงความรักให้เขาเห็น

 

หากชายหญิงคิดถึงกันและกัน ก็มีแต่การร่วมรักเท่านั้นที่จะบรรเทาความรู้สึกของทั้งคู่ได้ ชิงสุ่ยถอดเสื้อของเขาและเธอออก ก่อนทั้งสองจะโผเข้าหาและกอดกันแน่น

 

ในตอนนั้นชิงสุ่ยจูบชางห่าย หมิงเยวี่ยอย่างคนกระหาย ในขณะที่ร่างของเธอก็ตอบสนองเขาอย่างน่าหลงใหล ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกที่เธอจะมีอารมณ์ร่วมกับเขามากมายขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเธอปล่อยตัวไปตามความรู้สึกจริงๆ ท่าทางของเธอทำให้ชิงสุ่ยใจสั่นระรัว ก่อนเขาจะพรมจูบเธอทั่วทั้งร่าง

 

ส่วนล่างของทั้งสองเคลื่อนเข้าหากัน ในขณะที่มือและปากของชิงสุ่ยก็ไม่หยุดทำงาน ชิงสุ่ยทำให้เธอมีความสุขจนถึงจุดสูงสุด ก่อนเขาจะเปลี่ยนท่าร่วมรักไปเรื่อยๆ

 

แม้จะเขินอายอยู่บ้าง แต่เธอก็คล้อยตามชิงสุ่ยเพื่อให้เขาได้สุขสมใจหมาย

 

บนเตียงนุ่ม ร่างทั้งสองอิงแอบกัน ชิงสุ่ยกอดร่างบางของชางห่าย หมิงเยวี่ย ไว้แน่น

 

“ชิงสุ่ย ..เจ้าไม่ไปหาพวกนางต่อเหรอ?” ชางห่าย หมิงเยวี่ยถามอย่างอ่อนโยนในขณะที่เธอกำลังอิงอยู่ในอ้อมกอดของชิงสุ่ย

 

“เจ้าจะไล่ข้าไป หลังจากเจ้าสมใจหมายงั้นเหรอ?”ชิงสุ่ยหยอกเธอ

 

“เจ้าก็พูดไปเรื่อย..” ชางห่าย หมิงเยวี่ย ยิ้มเพราะช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ ใบหน้าของเธองดงามจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ โดยเฉพาะใบหน้าตอนที่เธอมีอารมณ์ใครนั้น ช่างงามเหนือสิ่งอื่นใด

 

ชิงสุ่ยรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร เขาจึงยิ้มตอบและสวมเสื้อผ้า ชิงสุ่ยพิงตัวไว้ข้างเตียงก่อนจะกอดเธอและจูบเธออีกครั้ง

 

เขารู้สึกว่าเวลาคืนเดียวนั้นช่างสั้นเหลือเกิน ชายหนุ่มรีบมุ่งหน้าไปอีกห้อง เพราะเขาเองก็มีเรื่องที่อยากคุยกับพวกเธอเช่นกัน

 

ชายหนุ่มกำลังครุ่นคิด..ความรักนั้นทำให้คนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างนั้นเหรอ? แม้จะมีลูกแล้ว แต่หลายคนก็เลือกที่รักที่ชัง ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลย

 

ความจริงแล้ว ชิงสุ่ยเคยคิดว่าความรักระหว่างชายหญิงนั้นเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว ยิ่งรักอีกฝ่ายมากเท่าไร เขาก็ไม่อาจมองหาใครได้อีก ทว่าในกรณีของชิงสุ่ยนั้นต่างออกไป เขารักภรรยาทุกคนของเขา จนยอมที่จะต่อสู้กับทุกคน เขาไม่สน แม้ต้องเสี่ยงตายก็ตาม

 

คงไม่ใช่ทุกคนที่มีความรักแบบเดียวกับเขา เพราะคนส่วนมากมักนิยมของใหม่มากกว่าของเก่า ชิงสุ่ยไม่คิดว่าเขามีนิสัยเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถมีภรรยาได้เพียงคนเดียว ดังนั้นเขาจะพยายามรักทุกคนให้เท่ากัน

 

ชิงสุ่ยไปที่ห้องของจรู้ชิงในตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ตอนแรกเขาไปที่ห้องจของ ชางห่าย หมิงเยวี่ย  และตามด้วยติ๊ ชิง ห่าง ตงชิงหรือเหล่าภรรยาของเขาที่ยังไม่มีบุตรหรือคนไม่ได้นอนอยู่กับลูกๆ ก่อนชิงสุ่ยจะไปที่ห้องของจรู้ชิง

 

เธอเปิดประตูและโผเข้ากอดชิงสุ่ยทันที เขารีบกอดตอบ เธอรู้ว่าเธอยังนอนไม่ได้ หากชิงสุ่ยไม่มาหาและชิงสุ่ยรู้ดีว่าเธอรอเขาอยู่ ดังนั้นถึงจะดึกแล้ว แต่เขาก็ต้องมาหาเธอให้ได้

 

“ที่รัก เจ้าคิดถึงข้าไหม?”ชิงสุ่ยกระซิบถาม

 

“แน่นอน ข้าคิดถึงเจ้าทุกวัน บางครั้งข้าก็อยากไปหายังที่ที่เจ้าอยู่เลยด้วยซ้ำ”ในตอนนั้นจรู้ชิงกอดชิงสุ่ยอย่างมีความสุข

 

“ข้าก็เช่นกัน หลงเอ๋อหลับรึยัง?”ชิงสุ่ยกระซิบถามอีกครั้ง

 

“แน่นอน!”

 

“ถ้างั้นเราก็มาทำอะไรสนุกๆกันเถอะ ข้าคิดถึงเจ้าไม่ไหวแล้ว…”ชิงสุ่ยขบใบหูเธอเบาๆ

 

จรู้ชิงเป็นหญิงสาวร่างเล็ก เนินอกของเธอกลมเต่งตึงและใหญ่ตรงข้ามกับรูปร่าง อีกทั้งใบหน้าของเธอยังทรงเสน่ห์เหมือนหญิงสาวที่โตเต็มวัย

 

“…ข้าไม่บอกเจ้าหรอก” ร่างกายของเธออ่อนไหวง่าย เธอหายใจขาดห้วงเพราะชิงสุ่ย และถึงแม้ชิงสุ่ยจะไปห้องคนอื่นมาก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด

 

“เจ้าจะไม่บอกข้าจริงๆเหรอ?”ชิงสุ่ยถามก่อนจะเริ่มใช้มือของเขาลูบไล้ไปมาอย่างชำนาญ มือของเขาชอนไชเข้าในส่วนเร้นลับของเธอ

 

“เจ้าคนเจ้าเล่ห์! เจ้าก็รู้ว่าข้าอดใจไม่ไหวแล้ว..รีบขึ้นเตียงเถอะ ข้าต้องการเจ้าทั้งตัวแล้ว!” จรู้ชิงกระซิบข้างหูชิงสุ่ยในขณะที่เธอกำลังกัดฟันอดกลั้นความรู้สึก

 

ทั้งสองกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียงอย่างบ้าคลั่ง ราวกับกระหายอะไรบางอย่างจากร่างของอีกฝ่าย

 

หลังจากผ่านศึกหนัก..ร่างของจรู้ชิงก็อิงอยู่ข้างกายชิงสุ่ย ท้องฟ้ามืดสนิท ชิงสุ่ยสังเกตท่าทีพอใจของเธอ เนินอกสีขาวราวหิมะกำลังประชิดอยู่ที่หน้าอกของชิงสุ่ย

 

เมื่อมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาก็อดใจไม่ไหวจริงๆ ชิงสุ่ยค่อยๆ เคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้หน้าอกของจรู้ชิง เธอเองก็ไม่รอช้า รีบยื่นหน้าอกเข้าไปหาปากของชิงสุ่ยทันที

 

……

 

ทั้ง อวี้เหอและ เหวินเหรินอูซวง ออกเดินทางไปที่ มหาทวีปราชันย์เหนือฟ้าเพื่อไปหา มู่ ชิง ดังนั้นพวกเธอจึงไม่อยู่ที่นี้ เป็นเวลาเกือบปีแล้วที่พวกเธอไม่ได้เดินทางไปที่นั้น ดังนั้นถ้าไม่มีปัญหาอะไร พวกเธอก็จะกลับมาภายในปีนี้ ชิงสุ่ยเองก็จะกลับมาที่นี้อีก เขาจึงไม่จำเป็นต้องออกเดินทางไปตามหาพวกเธอที่มหาทวีปราชันย์เหนือฟ้า อีกทั้งครั้งนี้ชิงสุ่ยก็ได้ใช้เวลาร่วมกับห่าง ติงชิง และติ๊ชิงได้นานขึ้นเพราะพวกเธอเองก็อยากมีลูกเช่นกัน

 

ก่อนหน้านี้ ชิงสุ่ยคิดว่าหญิงสาวกลัวการมีลูก เพราะรูปร่างของพวกเธออาจจะเปลี่ยนไป อีกทั้งยังมีปัญหาต่างๆ นานาหลังคลอด เขาจึงคิดว่าพวกเธออาจจะต้องรู้สึกใจเสียใจ หากต้องมีลูกตอนที่ยังไม่พร้อม

 

อีกทั้งตอนนี้ชิงสุ่ยเองก็มีลูกแล้ว ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับผู้ฝึกตนที่อายุเท่าเขา ในขณะที่ภรรยาของเขาอายุมากกว่าเขา แต่อายุก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวล พวกเขายังมีอายุขัยอีกยาวนานนั่นเอง

 

อย่างปีศาจที่มีอายุเป็นร้อยปีหรือพันปี ก็อาจจะต้องเรียกชิงสุ่ยว่ารุ่นพี่..เพราะในโลกของผู้ฝึกตน คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะมีคนเคารพนับถือ

 

ระหว่างการฝึกในตอนเช้า ชิงสุ่ยสังเกตว่าลูก ๆ ของเขาก็อยู่ที่นั่น แม้ชิงสุ่ยจะไม่ค่อยอยู่ที่นี้ เขาเห็นชิงหยุนอยู่ที่นั้น เธอกำลังฝึกทักษะย่างก้าว 9 เทวา ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าใครสอนเธอ เขาเพียงแต่มองดูเธอที่กำลังฝึกฝนอย่างสนุกสนาน

 

เมื่อพอใจ เขาก็เดินเข้าไปหาเด็ก ๆ  เมื่อชิง หยุนเห็นชิงสุ่ย เธอก็เรียกเขาทันที “ท่านพ่อ!”

 

“ว่าไง ใครสอนสิ่งนี้ให้เจ้าเหรอ?”ชิงสุ่ยถามอย่างสงสัย “ท่านแม่สอนข้า นางสอนข้าเพื่อให้ข้าวิ่งเร็วขึ้น!”

 

ชิงสุ่ยตัดสินใจไม่ฝึกต่อ แต่เขาเลือกที่จะสอนเด็ก ๆ แทน ความสามารถของ ชิง ซุนและชิง หยินค่อนข้างดี ซึ่งเป็นธรรมดาของพ่อแม่ที่พอจะสัมผัสได้

 

คนที่ทำให้ใครหลายคนต้องปวดหัวก็คือชิง หมิน  สำหรับเด็ก ๆ พวกเขามีความสามารถที่โดดเด่น เปรียบเทียบกับชิง ซุนเขามีไม่ได้ดีกว่าหรือด้อยกว่าเลย แต่ที่เขาแสดงออกมาราวกับเด็กมีปัญหานั้น อาจจะมีเหตุผลบางอย่าง

 

มีคำกล่าวว่า คนเลือกทำเลวเพราะสิ่งนี้ทำง่ายกว่าการทำดี ชิง หมินน่าจะเป็นเด็กประเภทนี้ การก้าวพลาดเพียงเล็กน้อยอาจจะทำให้เขากลายเป็นเด็กปีศาจ เหย่อหยิ่งและไม่เคารพกฎเกณฑ์ใด ๆ ชิงสุ่ยคิดว่าเด็ก ๆ จะโตเป็นคนที่แข็งแกร่งในอนาคต และดูเหมือนลูก ๆ ของเขาจะชอบ “ทางเดินชีวิต”ที่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป

 

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตระกูลชิงต้องปวดหัว ชิง หมินเป็นเด็กที่กล้า เขาพยายามทำให้คนอื่นๆ ตกใจในสิ่งที่เขาพูด แม้กระทั่งหมิงเยวี่ย เก้อโหลวก็ไม่รู้ว่าเธอจะจัดการอย่างไร บางครั้งเธอลงโทษเขาด้วยการตีก้น แต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนนิสัยของเขา  ในขณะที่ชิงอี้รู้สึกชอบชิง หมิน และพยายามเข้าข้างเขา ดังนั้นชิง หมิน จึงฟังแค่คำพูดของท่านย่าเท่านั้น

 

ชิงหลัว ..ปู่ของชิงสุ่ยไม่ได้เข้ามาตักเตือนหรืออะไรเด็ก ๆ ทุกครั้งที่เขาเห็นเด็ก ๆ เขาก็รู้สึกมีความสุขมากพอแล้ว ส่วนเรื่องการลงโทษก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นๆ  จากคนรุ่นเดียวกับชิงอี้ไม่ก็คนรุ่นชิงสุ่ยเป็นคนจัดการ

 

“มาคุยกับพ่อสิ” ชิงสุ่ยเรียก ชิง หมิน

 

เมื่อวานชิงสุ่ยเอาของมาแจกจ่ายเด็ก ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา แม้ชิงสุ่ยไม่ค่อยมีเวลาให้เด็ก ๆ แต่เขาก็เป็นที่ชื่นชมท่ามกลางบรรดาลูก ๆ ทุกคนเชื่อเสมอว่าพ่อของเขาคือฮีโร่

 

“ได้สิ ท่านพ่อ..ตอนนี้ท่านแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?” ชิง หมิน ถามอย่างสงสัย

 

“ทำไมงั้นหรือ?”ชิงสุ่ยถาม

 

“เจ้าเด็กหัวโตจากตระกูลเฮยฟงโดนข้าจัดการ ดูเหมือนว่าตระกูลของเจ้านั่นจะแข็งแกร่งทีเดียว พวกนั้นจะทำร้ายท่านแม่รึเปล่า?” ชิง หมิน ถามหลังจากคิดเล็กน้อย

 

ชิงสุ่ยจำใบหน้าเมื่อวานของเด็กน้อยได้ เพราะเขาตัวเปื้อนฝุ่นและโคลน ก่อนชิงสุ่ยจะถามอย่างสงสัย “เจ้าตีเขาจนอาการปางตายงั้นเหรอ?”

 

“ข้าทำขาและแขนของเขาหัก คนของตระกูลนั้นมาล้อมตัวข้าไว้ แต่โชคดีที่ข้าหนีออกมาได้ ไม่อย่างนั้นข้าคงโดนทำร้ายจนตายแน่”

 

ชิงสุ่ยลูบหัวเขา เขาไม่เคยได้ยินเรื่องของ ตระกูลเฮยฟง มาก่อนแต่เขาก็ยิ้มและถามอีกครั้ง “แล้วทำไมเจ้าถึงไปตีเขาล่ะ?”

 

“ก็เจ้านั่นบังอาจมาแย่งคนรักของข้า! เจ้าหัวถ่านนั้นกล้าขโมยผู้หญิงของข้า!” ชิง หมินพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

 

ทันทีที่ชิงสุ่ยได้ยิน เขาแทบจะหมดสติ เด็กคนนี้อายุเท่าไรกันแน่? เขาเป็นแค่เด็กอายุ 9 ปีเท่านั้น ชิงสุ่ยไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรเช่นนี้จากเด็กอายุ 9 ปี ก่อนชิงสุ่ยจะลองย้อนนึกไปในอดีต ซึ่งเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเช่นกันในโลกก่อนหน้านี้ เพียงแต่เขาไม่ได้ไปหักแขนหักขาของอีกฝ่ายก็เท่านั้น..

 

ชิง หมิน แก่แดดไม่เบา..ความคิดของเขาเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องเช่นนี้ก็ยังเร็วเกินไปสำหรับเด็กอายุเท่านั้น สิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยตะลึงที่สุดก็คงจะเป็นคำว่า “เจ้าหัวถ่านกล้าขโมยผู้หญิงของข้า”….

 

“เข้าใจแล้ว ข้าจะช่วยเจ้าเอง แล้วใครคือคนรักของเจ้างั้นเหรอ? นางเป็นคนรักของเจ้าจริงๆเหรอ?” ชิงสุ่ยรู้สึกปวดหัวเกี่ยวกับปัญหานี้อยู่บ้าง ในเมื่อเขาหยุดลูกชายไม่ได้ ก็มีแต่เขาจะต้องเป็นคนชี้นำและสั่งสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กอย่างชิง หมิน

 

“นางเป็นคนของตระกูลหลิง แน่นอนว่านางเป็นคนรักของข้า พวกเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เพราะ ตระกูลเฮยฟงแข็งแกร่งมาก..พวกนั้น ท่าทางยโส ข้าก็เลยรู้สึกอยากจะสั่งสอนเจ้านั่น”