บทที่ 228 ขัดขวางเพื่อฆ่า

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

บทที่ 228 ขัดขวางเพื่อฆ่า

 

จู่ๆ สีหน้าของหลี่หงเทียนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงก้มลงมอง กระบี่อันแหลมคมเล่มหนึ่ง แทงทะลุจุดตันเถียน

จากนั้น ความเจ็บปวดรุนแรงแผ่ซ่านเข้ามา จู่ๆ สติของเขาเลอะเลือน ล้มลงไปกับพื้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“จู่โจมวิญญาณเป็นของดีตามคาด” หลัวซิวมองหลี่หงเทียนที่ล้มลงบนพื้น และพูดพึมพำออกมา

อาศัยวิชายิ่งเลิศพลังแปรเสวียนเทียน ถึงเขาสามารถเทียบได้กับปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตขั้น8 ขั้น 9 แต่ก็ไม่มีทางฆ่าคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

เพราะหลังฝึกจิต เรียกได้ว่าแตกต่างจากก่อนฝึกจิตมาก ความห่างชั้นของแดนเล็กทุกแดน ล้วนแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ผลการฝึกตนยิ่งสูง การต่อสู้ข้ามขั้นก็ยิ่งยาก เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ นี่เป็นบทสรุปของการฝึกยุทธ์ ที่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ!

แต่เมื่อมีจู่โจมวิญญาณ กลับทำให้การต่อสู้ข้ามขั้นกลายเป็นสิ่งที่ง่าย นี่ยิ่งทำให้หลัวซิวตระหนักได้อย่างถ่องแท้ว่า พลังก่อรวมวิญญาณที่เหยียนเยว่เอ๋อร์มอบให้เขา มันล้ำค่ามากเพียงใด

ในสิบตระกูลใหญ่ ตระกูลเหยียนที่เมืองกู่เจี้ยน เชี่ยวชาญการฝึกวรยุทธ์ธาตุไฟ และทำให้มีชื่อเสียง แต่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าตระกูลเหยียนเชี่ยวชาญการจู่โจมวิญญาณ

และพลังก่อรวมวิญญาณ เป็นวรยุทธ์กลั่นวิญญาณระดับ8 ในนั้นมีการบันทึกวิธีการจู่โจมวิญญาณ หลัวซิวไม่รู้ว่าเหยียนเยว่เอ๋อร์ไปเอาวรยุทธ์นี้มาจากไหน

หลัวซิวยื่นมือไปเก็บดาบรบกับแหวนเก็บของ ของหลี่หงเทียนขึ้นมา จากนั้นโยนเปลวไฟดำออกไปเผาศพ จนกลายเป็นเถ้า และออกจากที่นี่ทันที

หลังผ่านไปไม่กี่วัน หลัวซิวผ่านเขาจิ่วเฟิง เข้ามายังเขตการปกครองหยุนหลง

บริเวณกำแพงเมืองใกล้ๆ หลัวซิวใช้ค่ายวาร์ป มาถึงเมืองชิงหยุน

หลังจากจางหลู่เหลียงกับโกวหงยี่ตายไป ภายใต้การคุ้มครองขององค์กรนักล่ายุทธ์ พ่อแม่และพี่สาวของเขา ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

บวกกับตอนนี้เขามีชื่อเสียงในประเทศเทียนหวูอย่างรวดเร็ว อำนาจใหญ่แต่ละฝ่ายให้ความสำคัญในการชักชวน และไม่มีใครมีความคิดหน้ามืดตามัว มาทำร้ายคนใกล้ชิดและพ่อแม่ของเขา

“แค่พละกำลังของฉันแข็งแกร่งเพียงพอ ถึงจะสยบได้ คนใกล้ชิดและพ่อแม่ของฉัน จะได้อยู่อย่างสงบสุขต่อไป”

ตอนนี้พี่สาวอย่างหลัวซิ่วเอ๋อร์กำลังตั้งครรภ์ อีกไม่นาน หลัวซิวจะกลายเป็นลุง

หลัวซิวไม่ได้ปรากฏตัว เพราะเขาเข้าใจดีว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ข้างกายคนใกล้ชิดได้นาน นักยุทธ์เป็นเส้นทางแห่งความตายที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าและอันตราย เมื่อเดินเส้นทางนี้แล้ว มิอาจหันหลังกลับไปได้อีก

องค์กรนักล่ายุทธ์ หลัวซิวเห็นชายชราเย่เซี่ยงโต่ว

“ไอ้หนุ่มอย่างนาย ระยะเวลาเพียงแค่ปีกว่าๆ ก็ทำให้คนแก่อย่างฉันเทียบไม่ได้แล้ว”

ผลการฝึกตนของเย่เซี่ยงโต่วคือฝึกจิตขั้น3 แต่ตอนนี้หลัวซิวคือแดนฝึกจิตขั้น5แล้ว

ย้อนคิดกลับไปในตอนแรก หลัวซิวยังขอความช่วยเหลือจากตนเอง เพราะต้องการช่วยคนใกล้ชิด ระยะเวลาปีกว่า เพียงพริบตาเดียว ชายหนุ่มที่อ่อนแอ กลายเป็นผู้แข็งแกร่งอายุน้อยที่มีชื่อเสียง

ถึงพละกำลังของตัวเองจะแข็งแกร่งกว่าเย่เซี่ยงโต่วมาก แต่หลัวซิวเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ต่อชายชราท่านนี้

แง่หนึ่งคือบุญคุณที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในตอนนั้น ส่วนอีกแง่หนึ่ง เย่เซี่ยงโต่วมีตำแหน่งในเมืองชิงหยุน คอยดูแลความปลอดภัยของพ่อแม่และพี่สาวของเขา

เย่เซี่ยงโต่วฝึกตนพลังจิตแท้ ที่เกี่ยวกับไม้ ในมือหลัวซิวไม่มีวรยุทธ์ธาตุไม้ขั้น7 ที่เหมาะกับเขา ดังนั้นจึงเหลือยากลั่นจิตให้เขา 3 ขวด

ถ้าใช้ยากลั่นจิต 3 ขวดนี้อย่างเหมาะสม บางทีช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของเย่เซี่ยงโต่ว อาจมีโอกาสบรรลุถึงแดนราชายุทธ์

ของขวัญชิ้นนี้ของหลัวซิว เรียกได้ว่ามีความสำคัญกับเย่เซี่ยงโต่วมาก ทำให้เขาทั้งทอดถอนใจและหดหู่

จากนั้นหลัวซิวใช้ค่ายวาร์ปไปยังเขตการปกครองหยุนหลง

ท่านหัวหน้าแก๊งเหวินเซวียนหง ต้องดำรงตำแหน่งในเขตการปกครองหยุนหลง ดังนั้นจึงไม่สามารถมาเปิดแดนปริศนาด้วยตัวเอง

สำหรับการที่หลัวซิวประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ เขาก็รู้สึกตกตะลึงมาก ขณะเดียวกันก็รู้สึกพอใจกับสายตาอันหลักแหลมของตัวเองในตอนแรก

คนเงียบๆ ที่ไม่มีชื่อเสียงใด เมื่อได้รับโอกาสอันเหมาะสม ก็จะโดดเด่นออกมาให้เห็นอย่างแท้จริง เหวินเซวียนหงคิดว่าคำพูดเหล่านี้ ใช้ตีความหลัวซิวได้ดีที่สุด

“เวลาเพียงแค่ปีกว่า นายก็มีผลการฝึกตนอย่างทุกวันนี้ ถ้าผ่านไปอีกปีสองปี ผลการฝึกตนของนายคงเหนือกว่าฉันแล้ว”

การเติบโตของหลัวซิวรวดเร็วมาก จนทำให้เหวินเซวียนหงตกตะลึงเป็นอย่างมาก

“ประเทศเทียนหวูเล็กเกินไป แต่โลกนี้กลับกว้างขวางไม่สิ้นสุด……”

เหวินเซวียนหงคิดว่าหลัวซิวไม่ควรถูกจำกัดไว้ในพื้นที่เล็กๆ อย่างประเทศเทียนหวู โลกอันกว้างขวางนี้ ควรเป็นเวทีสำหรับเขา

สำหรับโลกภายนอกประเทศเทียนหวู ก็ชวนให้หลัวซิวหลงใหลจริงๆ แต่ต้องรอให้เขาสะสางเรื่องจบ จึงค่อยเลือกจากไป

ค่ายวาร์ประดับต่ำที่สุด ให้ค่ายระดับ5 ทำให้ระยะทางในการวาร์ปมีขีดจำกัด ดังนั้นหลัวซิวจะไปที่ตูเฉิงประเทศเทียนหวู ต้องเดินทางด้วยตัวเองเยอะพอสมควร

เขาไม่ได้ใช้เวลาในเขตการปกครองหยุนหลงนานนัก แดนปริศนาใกล้เปิดแล้ว ถ้าไปสายแล้วพลาดโอกาส ก็จะเสียหายจริงๆ

“มีคนประกาศภารกิจให้รางวัลในองค์กรนักล่ายุทธ์ ฆ่านายจะได้หินพลังจิตแสนก้อน นายต้องระวังด้วย”

ตอนกำลังจะไป เหวินเซวียนหงบอกข่าวนี้กับหลัวซิว

รางวัลเป็นหินพลังจิตแสนก้อน เรียกว่าเยอะมาก ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ทั่วไป ก็ต้องรู้สึกหวั่นไหว

……

หมู่บ้านสุ่ยหยางตั้งอยู่ที่แถบชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือ ของเขตการปกครองหยุนหลง ที่นี่มีลมแรงตลอดปี ค่อนข้างรกร้าง

นอกหมู่บ้านเล็กๆ หลัวซิวในชุดคลุมยาวดำ ขมวดคิ้วขึ้น

ด้านหน้าเขา มีคนสิบกว่าคน ปิดบังใบหน้า ยืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน มองเขาด้วยสายตาเย็นชา เผยให้เห็นเจตนาไม่ดี

หลัวซิวคิดไม่ถึง ระหว่างทางที่ตัวเองจะไปตูเฉิงประเทศเทียนหวู จะเจอการขัดขวางเพื่อฆ่า

แววตาคนเป็นหัวหน้า ของพวกที่ปิดบังใบหน้า ดูดุดัน เขาสะบัดมือ คนที่ปิดบังใบหน้าสิบกว่าคน เข้ามาล้อมเอาไว้ และประชิดเข้าไปหาหลัวซิว

ดาบรบของคนหนึ่งถูกชักออกจากฝัก และฟาดดาบลงไปด้านหลังหลัวซิว แสงดาบเย็นยะเยือก แหวกไปในอากาศ

พลังจิตแท้สว่างวาบขึ้นมา หลัวซิวไม่แม้แต่จะหันหลังมอง และยื่นมือไปคว้าทางด้านหลัง

เกิดเสียงดังขึ้น ดาบรบแตกสลาย คนลงมือที่ปิดบังใบหน้า ถูกหมัดของเขากระแทกที่หน้าอก อวัยวะภายในแตกกระจาย ตายตรงนั้นทันที

“อ่อนแอเกินไป ใครส่งพวกแกมา”

หลัวซิวชักมือกลับมาช้าๆ และกวาดตามองพวกคนที่ปิดบังใบหน้าอย่างเฉยเมย สุดท้ายจ้องไปยังหัวหน้าของพวกที่ปิดบังใบหน้า

การปะทะกันเพียงครั้งเดียว ทำให้คนที่ปิดบังใบหน้าตายไปหนึ่งคน

ภาพตรงหน้าทำให้คนที่ปิดบังใบหน้าที่เหลือ พากันขนหัวลุก

“จากรายงานบอกว่าพละกำลังของไอ้หมอนี่ เปรียบได้กับฝึกจิตขั้น7” หัวหน้าคนที่ปิดบังใบหน้าขมวดคิ้ว สำหรับคนที่เสียไปหนึ่งคน เขาไม่สนใจ และไม่ได้ส่งผลกระทบกับแผนการมากเท่าไร

“จัดค่ายกล!” คนที่ปิดบังใบหน้าสะบัดมืออีกครั้ง น้ำเสียงเย็นชา

คนพวกนี้ได้รับการฝึกมาอย่างดี การกระทำดูเป็นระเบียบแบบแผน ขณะเดียวกันก็กระตุ้นธงค่ายออกมา

ม่านแสงสว่างขึ้นมา ความอาฆาตที่มองไม่เห็นปกคลุม คนที่ปิดบังใบหน้า ยืนตามจุดของค่ายกล พลานุภาพพุ่งไปที่หลัวซิวที่อยู่ตรงกลาง

“ฆ่า!”