“นายทำไมมาเร็วจังเลย” ชุยหังถาม 

 

 

ชย่าชิวตอบ: “ออกเดทกับนายทั้งทีก็ต้องเร็วหน่อยสิ” 

 

 

ชุยหังมีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นในใจ ชย่าอวี่ชิวชื่อนี้ถึงแม้จะฟังดูค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ว่าเขาก็นับว่าเป็นผู้ชายที่แมนมากๆ แถมดูยังไงก็เป็นชายแท้คนหนึ่ง 

 

 

แต่ว่าด้วยนิสัยอารมณ์ดีชอบก่อกวนของคนตงเป่ยก็มีบางครั้งที่อาจจะพูดล้อเล่น 

 

 

ถ้าเขารู้ว่าตนเป็นเกย์ล่ะก็ คงจะไม่มีทางพูดอะไรแบบนี้กับตนแน่ๆ 

 

 

“นายจะไปไหน” ชุยหังถาม 

 

 

ชย่าอวี่ชิวตอบกลับ: “ไปซื้อไอศกรีม พอดีเมื่อกี้พึ่งจะชนะพนันกับเพื่อนที่หอมาน่ะ พวกเขาออกเงินส่วนฉันก็วิ่งมาซื้อ” 

 

 

“พนัน? พนันอะไร” ชุยหังเริ่มอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา 

 

 

ชย่าอวี่ชิวพูดตอบ: “ก็พนันว่าถ้าฉันขอให้นายไปเป็นเพื่อน นายจะตอบรับทันทีเลยไหม” 

 

 

ชุยหังตะลึงงัน เรื่องแบบนี้เอามาพนันได้หรอ 

 

 

“ถ้าเกิดว่าฉันไม่ตอบรับนายก็จะต้องเป็นคนเลี้ยง?” เขาถามขึ้น 

 

 

ชย่าอวี่ชิวพูดต่อ: “ก็คงงั้น ยังดีนะที่นายให้ความร่วมมือ” 

 

 

“ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ไปแล้ว ยังไงซะพวกเขาก็รู้กันแล้วว่าฉันรับปากแล้ว” ความรู้สึกของชุยหังตอนนี้เริ่มรู้สึกผิดหวังขึ้นมาหน่อยๆ 

 

 

แต่ว่าเขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้โกรธชย่าอวี่ชิวเลยแต่มันเป็นเพราะคำตอบของหลิวเฮ่อเมื่อครู่นี้ต่างหากที่มันทำให้เขาไม่มีอะไรจะพูดต่อ ตอนนี้ความรู้สึกของเขาติดลบแล้ว ตอนนี้มันอัดอั้น ต้องหาช่องทางระบายมันออกมา 

 

 

พอดีกับที่ชย่าอวี่ชิวพูดเรื่องนี้ขึ้นมา มันทำให้ความรู้สึกอัดอั้นตันใจของชุยหังเหมือนถูกเปลวไฟดวงเล็กๆ แผดเผาขึ้นมาภายในชั่วพริบตา 

 

 

เพียงแต่เขาเองก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชย่าอวี่ชิวเลย เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ดังนั้นเขาไม่มีทางจะระเบิดมันออกมาตรงๆ หรอก 

 

 

ดูเหมือนชย่าอวี่ชิวจะมองอะไรออกจึงถามขึ้น: “เป็นอะไร โกรธหรอ ฉันผิดไปแล้วโอเคไหม ไปเถอะพวกเขาเลี้ยงฉัน ฉันเลี้ยงนายเอง” 

 

 

ชุยหังพูดต่อ: “ไม่ใช่กับนาย กับคนอื่น ถ้าฉันโกรธนายคงไม่มีทางลงมาหรอก” 

 

 

ชย่าอวี่ชิวพูดต่อ: “แฟนสาวหรอ” 

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “…ไม่ใช่ ไม่มีแฟนสาว” 

 

 

ตอนนี้แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลิวเฮ่อมันคืออะไร ไม่สามารถพรรณนามันได้เลยจริงๆ 

 

 

“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นแฟนหนุ่ม?” ชย่าอวี่ชิวถามพลางหัวเราะคิกคัก 

 

 

แต่ว่าพวกผู้ชายซื่อตรงมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ชอบพูดล้อเล่น 

 

 

พวกเขารู้ว่ามีคนแบบนี้จริง แต่ว่าไม่ควรจะคิดถึงคนรอบข้างตัวเองไปในแนวทางแบบนั้น 

 

 

“อย่าคิดไปสุ่มสี่สุ่มห้าสิ ไปเถอะรีบไปซื้อไอศกรีม ไม่อย่างนั้นอีกเดี๋ยวคนที่หอนายได้รอจนร้อนใจแน่เลย” 

 

 

“ไม่เป็นไร ก็ให้พวกเขารอไปสิ ในเมื่อฉันเป็นคนชนะไม่ใช่พวกเขาสักหน่อย จะกลับเมื่อไหร่มันขึ้นอยู่กับฉัน ตอนนี้ฉันทำให้นายโกรธต้องโอ๋นายหายก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ชย่าอวี่ชิวพูด 

 

 

ชุยหังพูดต่อ: “นายอย่าทำแบบนี้นะ ทำอย่างกับฉันเป็นสาวๆ ไปได้” 

 

 

“ก็ขนาดอาบน้ำนายยังไม่ยอมอาบด้วยกันกับฉันเลย นี่ฉันยังแอบสงสัยเลยว่านายเป็นฮวามู่หลาน [1] ” ชย่าอวี่ชิวพูด 

 

 

“ฮวาบ้าอะไรล่ะ นายเป็นมู่กุ้ยอิง [2] หรือยังไงที่ไม่ว่าอะไรก็หยุดนายไม่ได้ อะไรก็เดามั่วไปหมด” 

 

 

“พอแล้ว ไม่เถียงแล้ว ร้อนจะตายแล้วรีบไปซื้อไอศกรีมเถอะ ไปซื้อไอติมแท่งให้พวกเขา แล้วซื้อไอศกรีมรูปหัวตุ๊กตาให้นายด้วยเป็นไง” ชย่าอวี่ชิวพูด 

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันนายก็ไม่มีทางชนะหรอก ฉันสบายใจละ” 

 

 

เขาทำให้ตนเองใจเย็นลงก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือยัดไว้ในกระเป๋ากางเกง พร้อมกับตั้งใจกดตั้งเป็นเสียงเงียบแม้แต่ระบบสั่นก็ปิดไปด้วย 

 

 

เขากำลังคิดว่าบางทีตอนที่ตัวเองกลับมาอาจจะได้เห็นข้อความที่ส่งจากหลิวเฮ่อเพิ่มขึ้นอีกสองสามข้อความก็ได้ 

 

 

 

 

 

—— 

 

 

[1] ฮวามู่หลาน (花木兰)กล่าวถึงมู่หลานหญิงสาวที่ปลอมตัวเป็นชายไปรับราชการทหารแทนผู้เป็นบิดา 

 

 

[2] มู่กุ้ยอิง (穆桂英)คือสะใภ้และยังเป็นขุนศึกแห่งตระกูลหยาง เก่งวิทยายุทธ ฉลาดหลักแหลมและกล้าหาญ มีประโยคที่กล่าวว่า穆桂英挂帅,阵阵落不下 (ขุนศึกมู่กุ้ยอิงไม่ว่าอะไรก็เอาไม่ลง) มีความหมายแฝงว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ขาดเขาไปไม่ได้