ผู้เชี่ยวชาญจอมปลอมมองเสี่ยวเชี่ยนด้วยสีหน้าตึงเครียด แต่ยังคงตอบอย่างใจเย็น
“แล้วไงล่ะ ก็คนของพวกคุณเชิญผมมาเอง พวกเราเซ็นสัญญาแล้ว”
“สัญญาเหรอ? สัญญาของคุณมันไม่ถูกกฎหมายตั้งแต่แรกแล้ว อย่าคิดว่าพวกคุณเป็นชาวต่างชาติแล้วกฎหมายบ้านเราจะทำอะไรไม่ได้”
“พวกคุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้…โอ๊ย” ล่ามถูกเสี่ยวเชี่ยนตบหน้าหนึ่งที ด้วยความโมโหเขาคิดจะทำเสี่ยวเชี่ยนกลับ แต่ถูกอวี๋หมิงหลางบิดข้อมือจนร้องโอดโอยเสียก่อน
“ช่วยคนต่างชาติหลอกลวงคนในชาติเดียวกัน นี่ถ้าเป็นช่วงสงครามคุณก็คือกบฏ” อวี๋หมิงหลางขยะแขยงคนแบบนี้ที่สุด
ฟังจากบทสนทนาระหว่างผู้เชี่ยวชาญจอมปลอมนั่นกับล่ามก็วิเคราะห์ได้ไม่ยากว่าล่ามคนนี้รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านี่เป็นผู้เชี่ยวชาญปลอม แต่กลับร่วมมือกันมาหลอกเงินพ่อฉิวฉิวเพื่อทำร้ายฉิวฉิว
ถ้าจะบอกว่าเหตุผลที่พ่อฉิวฉิวกักขังฉิวฉิวก็เพราะอยากให้ลูกได้ดี ถึงวิธีจะไม่ถูกต้องแต่ก็ใช่ว่าจะอภัยให้ไม่ได้
งั้นการที่สองคนนี้จงใจหลอกลวง อีกทั้งยังหลอกเอาเงินใช้วิธีที่น่ารังเกียจ ก็สมควรแล้วที่โดนตบ
“เอาหนังสือสัญญาออกมา” เสี่ยวเชี่ยนมีเสี่ยวเฉียงคุ้มครองอยู่จึงแสดงมาดเข้มได้เต็มที่ มือของล่ามคนนั้นยังโดนล็อคอยู่ เขารู้สึกได้ถึงความแข็งแรงและความน่ากลัวของอวี๋หมิงหลาง ไม่กล้าขัดขืน ทำตัวเชื่อฟัง
“ปล่อยผมขึ้นรถก่อน มันอยู่ในกระเป๋าเอกสาร…”
อวี๋หมิงหลางปล่อยมือ ล่ามรีบมุดเข้าไปในรถคิดจะสตาร์ทรถหนี
ต่อหน้าเสี่ยวเฉียงหนีรอดได้ก็แปลกแล้ว
ล่ามรู้สึกว่าแขนอ่อนกำลังลง อวี๋หมิงหลางตามเขาขึ้นรถมาแล้วลากเขาออกไปเหยียบไว้ เสี่ยวเชี่ยนรีบขึ้นไปบนรถหากระเป๋าเอกสารบนเบาะหลัง จากนั้นก็หยิบหนังสือสัญญาออกมาพร้อมด้วยเช็ค
ตัวเลขที่อยู่บนนั้นทำให้เสี่ยวเชี่ยนโมโหมาก
สองแสน พ่อฉิวฉิวใช้เงินมากขนาดนี้เพื่อให้คนชั่วสองคนนี้มาช็อตลูกตัวเอง?
“ของพวกนี้ฉันจะเก็บไว้ฟ้องพวกเขารักษาคนโดยไม่มีใบอนุญาต แถมยังหลอกลวงข้ามชาติ พวกเขามาทำเรื่องชั่วแบบนี้ในบ้านเราก็ไปรอขึ้นศาลเท่านั้น” เสี่ยวเชี่ยนโยนกระเป๋าเอกสารให้อวี๋หมิงหลางแล้วถีบหน้าล่ามคนนั้นไปหนึ่งที
อวี๋หมิงหลางถือกระเป๋าไว้แล้วพูดเสริม “ต้องฟ้องหมอนี่เรื่องขโมยรถด้วย”
รถลาดตระเวนของตำรวจสนามบินเห็นทางนี้ผิดปกติจึงกำลังจะมาดู อวี๋หมิงหลางมองระยะห่าง ชี้ไปที่จุดหนึ่งแล้วพูดกับเสี่ยวเชี่ยน
“ให้เวลาสองนาทีคิดว่าเอาอยู่ไหม? ตรงนั้นเป็นมุมอับ”
“พอ”
ผู้เชี่ยวชาญจอมปลอมนั่นเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีก็คิดหนี ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกกระชาก คอเสื้อของเขาถูกคนลากไป
“จะไปไหน? มานี่ มาคุยเรื่องถ้าไม่เชื่อฟังก็ช็อตไฟฟ้ากันหน่อย” อวี๋หมิงหลางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลิวเหมยกับอาข่าลากตัวผู้เชี่ยวชาญจอมปลอมไปยังมุมอับ
“มีอะไรก็พูดกันดีๆสิ ผมเป็นคนต่างชาติ ผมขอความคุ้มครอง ผมขอ…โอ๊ย” เขาเอามือจับตา เสี่ยวเชี่ยนชักหมัดออก อวี๋หมิงหลางเลิ่กคิ้ว
เอ๋ ดูเหมือนช่วงนี้เมียเขาจะมีแนวโน้มไปทางชอบใช้ความรุนแรงแบบกู่ไม่กลับแล้วนะ
“ฉันขอเป็นตัวแทนคนในแวดวงด้านประสาทของทั้งโลกอัดนาย ลงโทษที่นายที่ทำให้วงการนี้ต้องแปดเปื้อน”
เสี่ยวเฉียงยกนิ้วโป้งให้เธอ สุดยอดเลยเมีย
“ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผมเป็นจิตแพทย์ชื่อดังระดับโลก”
“หึหึ การใช้ความรุนแรงไม่มีทางกลายเป็นยารักษาที่ช่วยแก้ผิดให้เป็นถูกได้ วิธีรักษาของนายมันฟังไม่ขึ้นตั้งแต่แรกแล้ว วงการจิตแพทย์ระดับนานาชาติต้องมาอับอายเพราะคนอย่างนาย ก่อนที่ตำรวจจะมาฉันจะอัดนายให้เละโดยถือคติเดียว เอาให้เจ็บยิ่งกว่าช็อตไฟฟ้า”
เสี่ยวเชี่ยนชูนิ้วกลางใส่ เธอใช้ภาษาอังกฤษพูดทั้งหมด ท่าทางของเธอดูโหดมาก
เมื่อไปถึงโรงพักพ่อฉิวฉิวก็ช็อคหนัก
‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ที่เขาเชิญมาด้วยเงินจำนวนมาก แท้ที่จริงแล้วเป็นแค่คนเร่ร่อนในต่างประเทศ
เมื่อทางตำรวจสืบ ทุกอย่างก็กระจ่าง
คนที่เป็นล่ามรีบสารภาพออกมาโดยเร็ว ที่แท้หลังจากที่เขาเรียนจบก็หางานที่เหมาะสมให้ตัวเองไม่ได้แถมยังมีนิสัยใช้เงินเป็นว่าเล่น พอได้ยินว่าพ่อฉิวฉิวขุดเหมืองจนร่ำรวย แต่กลุ้มปัญหาเรื่องลูกสาว เขาจึงคิดแผนชั่วร้ายขึ้นมา
ไปหาชาวต่างชาติแล้วร่วมขบวนการแก๊งค์ต้มตุ๋น
วิธีรักษาทั้งหลายก็ล้วนแต่อ่านจากหนังสือมา พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่า อย่างไรเสียเศรษฐีใหม่อย่างพ่อฉิวฉิวก็คิดว่าของเมืองนอกย่อมดีกว่าอยู่แล้ว เห็นพูดภาษาต่างประเทศก็ยกย่องว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ พวกเขาปลอมเอกสารประจำตัวมาก็เชื่อหมด
จากนั้นผู้เชี่ยวชาญตัวปลอมคนนี้ก็ไปหาหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยามาอ่านเพื่อให้มีความรู้ขึ้นมาหน่อย เวลาพูดศัพท์เฉพาะขึ้นมาพ่อฉิวฉิวก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง
พอเสี่ยวเชี่ยนได้ฟังแบบนั้นไม่รู้จะพูดว่าพ่อฉิวฉิวมีเงินแต่ไร้สมองหรือจะบอกว่าสองคนนี้เจ้าเล่ห์มากเกินไปดี แล้วเรื่องใช้เครื่องช็อตไฟฟ้านี่ไปอ่านมาจากหนังสือเล่มไหนกัน?
ผู้เชี่ยวชาญจอมปลอมพูดชื่อหนังสือ เสี่ยวเชี่ยนไฟโกรธลุกโชนขึ้นมาทันที
นั่นมันหนังสือภาพอารมณ์เหมือนความเชื่อชาวบ้านที่ไม่มีการพิสูจน์ใดๆว่าใช้ได้ผลจริง นี่กลับใช้ของแบบนี้มาหลอกคนอื่น แถมยังจะเอาเงินตั้งสองแสน
ถ้าเสี่ยวเชี่ยนไปถึงไม่ทันเวลา พ่อฉิวฉิวเสียหายเรื่องเงินเป็นเรื่องรอง แต่ฉิวฉิวจะต้องรับเคราะห์ขนาดไหน?
สองคนนี้ถูกคุมตัวไว้ พวกพ่อฉิวฉิวออกจากโรงพัก พ่อฉิวฉิวยังอยู่ในอาการตกใจตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้
เดิมเขาคิดว่าครั้งนี้มีวิธีรักษาลูกตัวเองแล้ว ใครจะไปคิดว่า…จะเจอพวกต้มตุ๋น?
เดิมฉิวฉิวอยากพูดแดกดันพ่อตัวเองสักหน่อย แต่พอเห็นสีหน้าของพ่อ คำพูดที่มาถึงปากแล้วก็ถูกกลืนลงท้องไป
“ฉิวฉิว…” ทุกคนเดินกันมาถึงปากประตู ฉิวฉิวกำลังจะไปกับพวกเสี่ยวเชี่ยน แต่พ่อเรียกเขาไว้ด้วยน้ำเสียงเหมือนแก่ลงไปหลายปี
“มีอะไร?” ฉิวฉิวไม่อยากหันหน้าไป
“กลับบ้านกับพ่อเถอะ…”
“ยังคิดจะเอาผู้เชี่ยวชาญจอมปลอมมาช็อตไฟฟ้าผมอีกเหรอ? ยังเห็นชาวบ้านมามุงดูไม่พอหรือไง? คุณเศรษฐีใหม่ ถ้าเงินของพ่อมันโตไปพร้อมกับความคิดพ่อ พ่อก็คงไม่ถูกหลอกแบบนี้หรอก”
คำพูดของฉิวฉิวสร้างความสะเทือนใจให้พ่อเขาอย่างจัง สีหน้าของพ่อฉิวฉิวดูเสียใจมาก
พอมองผู้ชายคนนี้ที่แก่ลงไปมาก ในใจของฉิวฉิวมีแต่ภาพความทรงจำอันเลวร้ายในวัยเด็ก
เขาในวัยเด็ก แม่เสีย พ่อก็เกลียดลูกสาว เอาแต่ตีเขาทุกวัน ชอบบอกว่าเด็กผู้หญิงไร้ค่า เขาเลยเริ่มไม่กล้าแต่งตัวเป็นผู้หญิง ไม่กล้าไว้ผมยาว อยากใช้วิธีนี้ทำให้พ่อลืมว่าเขาเป็นผู้หญิง แล้วจะได้เลิกตีเขา นานวันเข้าเขากลับชอบความรู้สึกที่เป็นผู้ชาย จนค้นหาตัวเองเจอ
เขาตอนวัยรุ่น เห็นพ่อทำธุรกิจล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า เวลาล้มเหลวพ่อก็จะกินเหล้าย้อมใจแล้วทุบตีเขา ถามเขาด้วยความเคียดแค้นว่าทำไมไม่เกิดเป็นลูกชาย
ต่อมาพอเขาออกจากบ้านไปเรียนมหาวิทยาลัย เจอการใช้ชีวิตที่เหมาะกับตัวเองแล้ว แต่ก็ยังหนีไม่พ้นการดุด่าตบตีจากพ่อ หลังจากนั้นอีก อยู่ๆพ่อก็ดวงดีร่ำรวยขึ้นมา เที่ยวมีผู้หญิงไปทั่ว เหมือนจะอยากมีลูกชายให้ได้
แต่สวรรค์กลับทอดทิ้งผู้ชายคนนี้ เขารวยขึ้นมาได้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีลูกชาย ลูกเพียงคนเดียวของเขาก็ยังคงเป็นฉิวฉิว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพ่อที่เริ่มมีผมหงอก ฉิวฉิวไม่ได้รู้สึกอ่อนไหวเลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดรำคาญเสียด้วยซ้ำ
ผู้ชายคนนี้ทำให้ชีวิตเขาผิดที่ผิดทาง ตอนนี้ยังคิดบังคับให้เขาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ พ่อคิดอะไรอยู่กันแน่?