เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1071 ขายวิญญาณอมตะ

แปลโดย iPAT

 

“บึม บึม บึม…”

 

แรงระเบิดทำให้ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้นสู่อากาศ

 

อิงอู๋เซี่ยเปิดปากคำรามโดยปราศจากเสียงแต่จิตวิญญาณของผู้อมตะภาคกลางสามคนที่โจมตีเขากลับสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

 

“โอ้ ไม่! นี่คือท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ!”

 

สามผู้อมตะภาคกลางเร่งป้องกันตัว

 

“ถอย!” อิงอู๋เซี่ยตะโกนบอกให้ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันหลบหนี

 

เมื่อผู้อมตะภาคกลางสามารถรักษาเสถียรภาพทางจิตวิญญาณ กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยก็จากไปแล้ว

 

“ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณนี้คือสิ่งใด? ช่างอัศจรรย์นัก! ข้ารู้สึกราวกับดวงวิญญาณกำลังจะแตกสลายในครั้งเดียว!”

 

“ผู้อมตะสามคนจากภาคเหนือ พวกเขาคือผู้ใด?”

 

“พวกเขาปรากฏตัวในถ้ำนรกใต้พิภพ พวกเขาเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้หรือไม่?”

 

ผู้อมตะทั้งสามพูดคุยขณะรักษาอาการบาดเจ็บของตน

 

“ข้าส่งข่าวกลับไปยังนิกายเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานกำลังเสริมจะมาถึง”

 

“ฮืม พวกเขาถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายของข้า พวกเขาจะไม่สามารถหลบหนี!”

 

หลังจากอาการบาดเจ็บดีขึ้น ผู้อมตะทั้งสามเร่งออกไล่ล่า

 

แต่ร่องรอยกลับหายไปอย่างลึกลับ

 

ผู้นำกลุ่มผู้อมตะภาคกลางกล่าว “แปลก! ท่าไม้ตายอมตะของข้าถูกสร้างขึ้นมาหลายปี ข้าสามารถติดตามร่องรอยของศัตรูมากมายและมีผู้คนน้อยมากที่รู้จักมัน แล้วพวกเขาหลบหนีไปได้อย่างไร?”

 

“มีผู้อมตะที่หลากหลาย ท่าไม้ตายมากมายถูกสร้างขึ้น ผู้อมตะกลุ่มนี้อาจมีวิธีตอบโต้ท่าไม้ตายของท่าน”

 

“นั่นเป็นไปได้แต่มีความน่าจะเป็นน้อยมาก ในความคิดเห็นของข้า มันยังไม่ถูกกำจัดแต่พวกเขาใช้วิธีการบางอย่างเพื่อปกปิดตนเอง”

 

ผู้นำกลุ่มกล่าว “เราตามพวกเขามาถึงที่นี่ก่อนที่การเชื่อมต่อของท่าไม้ตายจะหายไป เรื่องนี้ต้องมีเหตุผล เป็นไปได้หรือไม่ที่พวกเขาจะเข้าไปในมิติช่องว่างของบางคน?”

 

มิติช่องว่างเป็นโลกใบเล็กที่ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์

 

เมื่อผู้อมตะอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์ พวกเขาจะสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของศัตรู

 

หากอิงอู๋เซี่ยที่ถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายของฝ่ายตรงข้ามเข้าไปในนมิติช่องว่างของผู้อื่น วิธีตรวจสอบของผู้นำกลุ่มผู้อมตะภาคกลางจะไม่ทำงาน

 

แต่การเข้าไปในมิติช่องว่างของผู้อื่นเป็นเรื่องที่หาได้ยากในโลกของผู้อมตะ

 

ประการแรก มิติช่องว่างเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการบ่มเพาะของผู้อมตะ มีน้อยคนมากที่จะให้บางคนเข้าไปในมิติช่องว่างของตน

 

ประการที่สอง เมื่อผู้อมตะเข้าไปในมิติช่องว่างของผู้อื่น ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของพวกเขาอาจต่อต้านกัน

 

หากผู้อมตะที่เข้าไปมีการบ่มเพาะที่สูงกว่ามากเกินไป มิติช่องว่างที่ด้อยกว่าอาจเกิดการระเบิด

 

ในกรณีของผีดิบอมตะ มิติช่องว่างของพวกเขาตายไปแล้ว เวลาในมิติช่องว่างที่ตายไปแล้วจะเท่ากับโลกภายนอก ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่อยู่ภายในมิติช่องว่างจะถูกย้ายไปยังร่างกายของผีดิบอมตะ

 

หากบางคนเข้าไปในมิติช่องว่างที่ตายไปแล้ว ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของพวกเขาอาจถูกดึงไปยังร่างกายของผีดิบอมตะเจ้าของมิติช่องว่างที่ตายไปแล้ว แน่นอนว่านี่คือการสูญเสีย

 

อิงอู๋เซี่ย ไห่ลั่วหลัน และไท่เป่ยหยุนเฉิงต่างถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายสายตรวจสอบของผู้นำกลุ่มผู้อมตะภาคกลาง ไม่ว่าพวกเขาจะเข้าไปในมิติช่องว่างของผู้ใดก็ยังมีคนหนึ่งที่เหลืออยู่

 

ผู้นำกลุ่มผู้อมตะภาคกลางคิด ‘อย่าบอกข้าว่าบางคนวางมิติช่องว่างลงขณะที่อีกสองคนเข้าไปในมิติช่องว่างนั้น?’

 

‘มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าไปในมิติช่องว่างของบางคนแต่การวางมันลงต้องใช้เวลาเล็กน้อย แล้วเหตุใดพวกเขาจึงหายตัวไปอย่างกะทันหัน? แต่…ผู้อมตะมีวิธีการมากมาย มีอัจฉริยะนับไม่ถ้วนอยู่บนโลกใบนี้ พวกเขาอาจมีวิธีวางมิติช่องว่างลงอย่างรวดเร็ว?’

 

ผู้อมตะผู้นี้พยายามคิดแต่ยังไม่สามารถสรุป

 

“พวกเขายังไม่ได้จากไปแต่ยังอยู่ที่นี่” ในค่ายกลวิญญาณ ไท่เป่ยหยุนเฉิงมองออกไปข้างนอกและถอนหายใจ

 

ไห่ลั่วหลันจมลงสู่ความเงียบ

 

การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยน่าเกลียดมาก เขากล่าว “ผู้ใดจะคิดว่าผู้อมตะสามคนนี้จะรออยู่ที่นี่!”

 

อิงอู๋เซี่ยตัดสินใจละทิ้งค่ายกลวิญญาณแต่พวกเขากลับพบผู้อมตะจากนิกายจิตวิญญาณบรรพกาลและเกิดการต่อสู้ สุดท้ายอิงอู๋เซี่ยจึงต้องล่าถอยกลับมายังค่ายกลวิญญาณเช่นเดิม

 

ด้วยการปกป้องจากค่ายกลวิญญาณ ท่าไม้ตายอมตะของฝ่ายตรงข้ามกลายเป็นไร้ประโยชน์

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดของนิกายจิตวิญญาณบรรพกาลบินอยู่เหนือค่ายกลวิญญาณแต่พวกเขากลับไม่พบสิ่งใด

 

“พวกเราจะทำอย่างไรต่อไป?” ไห่ลั่วหลันมองไปที่อิงอู๋เซี่ย

 

อิงอู๋เซี่ยกัดฟันแน่นก่อนตัดสินใจ “ในสถานการณ์นี้ ข้าสามารถทำสิ่งนี้เท่านั้น!”

 

หลังจากชั่วครู่ ในสวรรค์สีเหลือง

 

เสาแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและดึงดูดความสนใจของผู้คน

 

“สิ่งใดที่ทำให้เกิดเสาแสงที่น่าทึ่งเช่นนี้?”

 

“วิญญาณอมตะ! มันเป็นวิญญาณอมตะ!”

 

“บางคนใช้สวรรค์สีเหลืองขนส่งวิญญาณอมตะอีกครั้งงั้นหรือ? ช่างฟุ่มเฟือยนัก!”

 

ผู้อมตะต่างวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องนี้ทำให้พวกเขาคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าเมื่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขนส่งวิญญาณอมตะให้กับฟางหยวนผ่านสวรรค์สีเหลือง

 

วิญญาณอมตะสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยน แต่โดยทั่วไปมันจะเป็นการแลกเปลี่ยนด้วยวิญญาณอมตะเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามธุรกรรมครั้งนี้กลับเป็นการขายวิญญาณอมตะเพื่อแลกกับทรัพยากรอมตะ!

 

นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยาก

 

สวรรค์สีเหลืองตกลงสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง

 

ผู้อมตะจากทั้งห้าภูมิภาคต่างให้ความสนใจกับธุรกรรมวิญญาณอมตะในครั้งนี้

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาตระหนักว่าทรัพยากรอมตะที่ใช้แลกเปลี่ยนเป็นสิ่งเพียงสิ่งของทั่วไป ตราบเท่าที่คนผู้หนึ่งสามารถรวบรวมทรัพยากรอมตะ พวกเขาจะสามารถแลกเปลี่ยนกับวิญญาณอมตะดวงนี้ นี่คือกำไรอย่างไม่ต้องสงสัย

 

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้อมตะจำนวนมากเริ่มเสนอราคา

 

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

 

แน่นอนว่าผู้ขายวิญญาณอมตะไม่ใช่ผู้ใดนอกจากอิงอู๋เซี่ย

 

โดยปกติแล้ววิญญาณอมตะจะไม่ถูกขายเพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะหลอมรวม วิญญาณอมตะแต่ละดวงมีเพียงหนึ่งเดียวขณะที่ทรัพยากรอมตะมีอยู่มากมาย

 

แต่เวลานี้อิงอู๋เซี่ยถูกบังคับให้หมดสิ้นหนทาง เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขายวิญญาณอมตะ

 

เขามีท่าไม้ตายอมตะและเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะมากมายอยู่ในใจ มันเป็นความทรงจำที่ได้รับมาจากเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา

 

เนื่องจากวิญญาณกาลเวลามีข้อจำกัดในการใช้งาน ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้จึงถูกส่งมอบให้กับอิงอู๋เซี่ยโดยผ่านการพิจารณามาอย่างรอบคอบ

 

แต่อิงอู๋เซี่ยไม่สามารถขายสิ่งเหล่านี้เพราะเขาต้องใช้พวกมันช่วยเหลือเทพปีศาจจิตวิญญาณที่ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

สุดท้ายอิงอู๋เซี่ยจึงต้องขายวิญญาณอมตะ

 

อิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณอมตะหลายดวง ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณอมตะของฟางหยวน

 

ตอนนี้เขากำลังขายวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของอินทรีย์มงกุฎเหล็ก

 

แม้ผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งจะหาได้ยาก แต่วิญญาณอมตะดวงนี้ยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เหตุผลเป็นเพราะราคาของมันไม่สูง ผู้อมตะระดับหกมากมายที่ไม่มีวิญญาณอมตะในการครอบครองต่างต้องการมัน

 

‘ดังคาด! การขายวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของอินทรีย์มงกุฎเหล็กเป็นดวงแรกทำให้เกิดความวุ่นวาย หลังจากนี้ข้าสามารถเพิ่มราคาขึ้นเมื่อข้าขายวิญญาณอมตะดวงต่อๆไป’ อิงอู๋เซี่ยคิด

 

ภาคกลาง วังสวรรค์

 

“เทพธิดาจื่อเว่ย เจ้ารู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสวรรค์สีเหลืองหรือไม่?” ยายชาใช้วิญญาณติดต่อเทพธิดาจื่อเว่ย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยกำลังค้นหาที่อยู่ของฟางหยวนแต่นางไม่รู้ว่าร่างกายกับดวงวิญญาณของฟางหยวนถูกแยกออกจากกัน

 

การอนุมานส่วนใหญ่ของนางมุ่งไปที่อิงอู๋เซี่ย ฟางหยวนอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและยังมีกำแพงภูมิภาคกีดขวาง ดังนั้นนางจึงไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเกี่ยวกับฟางหยวน

 

หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากยายชา เทพธิดาจื่อเว่ยหยุดอนุมานและเผยรอยยิ้ม “ขายวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของอินทรีย์มงกุฎเหล็กในสวรรค์สีเหลือง? เขาต้องการวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่คล้ายคลึงกับวิญญาณท่องแดนอมตะงั้นหรือ? ดูเหมือนฟางหยวนจะถูกผลักเข้ามุม เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำเช่นนี้”

 

“น่าเสียดาย…หากเป็นผู้อื่น พวกเขาจะไม่สามารถหยุดธุรกรรมในสวรรค์สีเหลือง แต่วังสวรรค์เป็นข้อยกเว้น เปิดคลังสมบัติ! ข้าจะทำธุรกรรมกับจิตวิญญาณสวรรค์ของสวรรค์สีเหลือง!”

 

เจตจำนงสวรรค์ของสวรรค์สีเหลืองไม่เคยปรากฎตัวในที่สาธารณะ มันกระทั่งเพิกเฉยต่อวังสวรรค์และยินดีตายหากถูกบังคับ

 

วังสวรรค์ไม่สามารถใช้กำลังบีบบังคับเจตจำนงสวรรค์ของสวรรค์สีเหลืองเพื่อหยุดธุรกรรมของอิงอู๋เซี่ย นั่นเป็นไปไม่ได้

 

แต่เทพธิดาจื่อเว่ยแน่ใจว่านางสามารถทำธุรกรรมนี้