นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ซินซูจวนและคนอื่น ๆ มองด้วยความตกตะลึงราวกับว่าพวกเขาได้เห็นผี
เกาเจี๋ยนั้นเหมือนเป็นลูกน้องที่เคารพเย่เซิ่งเทียนมาก!
สถานะตัวตนของเย่เซิ่งเทียนคืออะไรกันแน่!
ต้องรู้ว่าเกาเจี๋ยเป็นเจ้าของดอกบานพูนสุขที่มีฐานะมั่งคั่ง แม้แต่คนของสี่ตระกูลใหญ่พบเขา ก็ต้องเกรงใจและให้เกียรติเขา!
แต่ตอนนี้เขาเรียกเย่เซิ่งเทียนว่าคุณเย่?
เย่เซิ่งเทียนเป็นเพียงเขยแต่งเข้าบ้านของตระกูลหวางไม่ใช่หรือ?
เขามีสิทธิ์อะไรถึงทำให้เกาเจี๋ยแสดงความเคารพมากขนาดนี้?
เป็นไปได้ไหมว่าตอนนี้เขามีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งมาก?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเพื่อนร่วมชั้นดูแย่มากราวกับกินอุจจาระ
เสียใจจนแทบกระอักเลือด
มิน่าล่ะทำไมเฉินเฟิงปกป้องเย่เซิ่งเทียนมาก! !
หากรู้ตั้งแต่แรกว่าเย่เซิ่งเทียนมีความพลังอำนาจเช่นนี้ พวกเขาไม่กล้าปฏิบัติต่อเย่เซิ่งเทียนเช่นนี้
“ช่างมันเถอะ พวกเขาไม่คู่ควร”
เย่เซิ่งเทียนมองซินซูจวนด้วยสายตาหยอกล้อและกล่าวว่า “ผมมีความสุขมาก ที่เมื่อวานพวกเราได้พบกันโดยบังเอิญ พวกคุณเชิญผมมางานเลี้ยงสังสรรค์รวมรุ่น และผมคิดว่าเพื่อเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้น ถ้าพวกคุณมีปัญหาอะไรผมก็สามารถช่วยเหลือ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าผมคิดไปเอง ไอ้เกา ควรเก็บเงินค่าอาหารอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้นเถอะ เงินที่ผมเตรียมไว้นั้นไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว ตัดเงินส่วนนั้นของผมออกไปเถอะ”
“ครับ คุณเย่”
เกาเจี๋ยกวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟและกล่าวว่า “ออกบิลให้พวกเขาจ่ายเงินตามค่าใช้จ่ายจริง”
จากนั้นเขามองไปที่ซินซูจวนและคนอื่น ๆ และถามติดตลกว่า “พวกคุณ ใครเป็นคนจ่ายบิลค่าอาหาร?”
“ห๊ะ?”
ซินซูจวนกับหลินจื้อเผิงและคนอื่น ๆ ตกตะลึง
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าพวกเขาจะมาหลอกเย่เซิ่งเทียน
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว พวกเขาจะแอบหนีไป โดยปล่อยให้เย่เซิ่งเทียนเป็นคนจ่ายบิลค่าอาหารเอง
ต้องรู้ว่าการมาทานอาหารในห้องวีไอพีห้องนี้ราคาเริ่มต้นก็หลายหมื่นแล้ว แล้วพวกเขาจะมีเงินมากขนาดนั้นได้อย่างไร?
ถึงจะหารกันจ่ายก็คนล่ะหลายพันแล้ว เงินเดือนทั้งเดือนก็ไม่เหลือแล้ว
“ยอดบิลค่าอาหารทั้งหมด 63,888 ปัดเศษออกตามกฎของร้าน เหลือ 60,000 พวกคุณใครจะเป็นคนจ่ายบิลค่าอาหารค่ะ”
หงเหมยที่หน้าบวมเหมือนหัวหมู กรีดร้องว่า “ซินซูจวน เรื่องทั้งหมดนี้คุณเป็นคนวางแผนเพื่อจะแก้แค้นเย่เซิ่งเทียน คุณต้องเป็นคนจ่ายบิลค่าอาหารเอง!”
“ทำไมฉันถึงจ่ายบิลค่าอาหารล่ะ พวกคุณไม่กินหรือไง? ฉันขอร้องให้พวกคุณมาหรือเปล่า?”
ซินซูจวนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอแต่งตัวเหมือนคนหนูที่ร่ำรวย แต่การพูดจานั้นเหมือนมนุษย์ป้า
หลี่เชี่ยนกล่วเสียงดังว่า “ทำไมคุณถึงไม่จ่ายบิลค่าอาหารล่ะ เดิมทีพวกเราไม่อยากมา แต่คุณตามพวกเราจากกลุ่ม อย่าคิดว่าพวกเราไม่รู้ว่าคุณเป็นเมียน้อยคนอื่น คุณไม่เพียงแค่เป็นเมียน้อยคนแก่คนเดียวเท่านั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณคงจะได้เงินมาไม่น้อย ถ้าคุณไม่จ่ายแล้วใครจะจ่ายล่ะ?”
เพื่อนรักสามสาวเริ่มทะเลาะกัน ไม่มีใครยอมจ่ายบิล
หลินจื้อเผิงไม่อยากจ่ายเช่นกัน เขารู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่เสียเปรียบมากที่สุด จึงโยนความผิดทั้งหมดให้กับซินซูจวน
“ไปเถอะ!”
เย่เซิ่งเทียนยิ้มเบา ๆ และเดินออกไปก่อน
การร่วมรุ่นสังสรรค์คราวนี้ทำให้เขารู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก
“พวกเขา ช่างน่าขายหน้าจริง ๆ”
เฉินเฟิงอยากจะหารอยแยกบนพื้นเพื่อมุดเข้าไป
และเกิดความแตกแยกขึ้นในคนกลุ่มนี้
มีการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างเพื่อน
ใบหน้าของหลินจื้อเผิงมีรอยขีดข่วน
เกาเจี๋ยรู้สึกขยะแขยงพวกเขามาก
สุดท้าย พวกเขาหารค่าอาหารกัน และนำเงินออกมาทั้งหมด 60,000
ถือว่าได้แตกคอกันอย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะซินซูจวน เรื่องน่าขยะแขยงที่เธอเคยทำมาก่อนหน้านั้นถูกเปิดเผยออกมาหมด และดาวห้องผู้สง่างามและเยือกเย็น กลายเป็นตัวตลกทันที
มันแพร่กระจายในหมู่เพื่อนร่วมชั้นอย่างรวดเร็ว
และถือว่าเธอเป็นคนแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง
“ไม่ได้ ฉันจะต้องขอให้เย่เซิ่งเทียนยกโทษให้ฉัน เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ตอนนี้ของเขาแล้ว เขาต้องมีพลังอำนาจมาก หากฉันสามารถใช้พลังอำนาจของเขาได้ ฉันจะพัฒนาได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน”
หลินจื้อเผิงกัดฟันและกล่าวพึมพำกับตนเอง