บทที่ 278 ทำไมต้องฆ่าผม

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 278 ทำไมต้องฆ่าผม
ผู้คนต่างร้องตะโกนต้อนรับ

ฉินเทียนโบกมือ ยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไรจะพูดหรอก ขอให้ทุกคนดื่มกันอย่างเต็มที่ สนุกกันให้เต็มที่นะครับ”

“คืนนี้ ผมเป็นเจ้ามือเอง”

“โอเค!”

“ขอบคุณพี่เทียนมากครับ!” เฉียงหลงปรบมือนำ

ทั่วทั้งฟลอร์เดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

เฉียงหลงหยิบไมโครโฟนและพูดเสียงดังว่า “พี่เทียนนานๆ มาที ทุกคนโปรดฟังผม”

“สาวสาวทีมเอนเตอร์เทน และคุณผู้หญิงแสนสวยทุกท่านใน ณ ที่นี้”

“ในค่ำคืนนี้จะมีหนึ่งในพวกคุณที่ได้รับโอกาสเป็นคู่เต้นรำให้กับพี่เทียน”

“ส่วนใครจะเป็นผู้โชคดีนั้น ขึ้นอยู่กับผลงานของพวกคุณแล้วหล่ะ”

“เอาหล่ะ!แสดงฝีมือของพวกคุณออกมากันได้เลยครับ!”

“ใครได้รับความชอบจากพี่เทียน ผมจะเป็นตัวแทนพี่เทียนมอบให้หนึ่งล้านบาท!”

พูดจบ เขาก็รีบออกไปทันที

ไอนี้นี่ ทิ้งบอมบ์ส์ลูกใหญ่ไว้ เข้ามาทีละคนที

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉียงหลงแล้ว บรรดาชายหนุ่มต่างเริ่มกันโห่ร้อง พวกเขาก็ถอยไปอยู่ข้างๆ โดยอัตโนมัติ เพื่อเปิดฟลอร์เต้นรำ

ในตาของบรรดาสาวใหญ่สาวน้อยแสนสวยต่างลุกโชนเป็นไฟ

พวกหล่อนต่างถอดเสื้อที่เป็นอุปสรรคออกอย่างตื่นเต้น เริ่มจู่โจมเหมือนกับกลุ่มนกน้อย มุ่งไปทางฉินเทียน

ฉินเทียนเองเตรียมตัวที่จะหนี แต่ก็โดนบรรดานกกระจิบนกกระจอกห้อมล้อมไปหมด

พวกหล่อนเต้นรำอย่างสุดเหวี่ยง ท่าทางพวกนั้นทำเอาฉินเทียนต้องปาดเหงื่อแทนพวกหล่อน ด้วยกลัวว่าเอวพวกหล่อนจะหัก

เสียงเพลงครึกโครม

เสียงคำรามของหมาป่า

ทั้งฟลอร์เดือดพล่าน

บรรยากาศที่คึกคักไปกว่าฟลอร์นั้น คืออารมณ์ของโหวหยานกับบรรดาบอดี้การ์ดสองสามคนที่ยืนแข็งเหมือนเป็นอัมพาต

พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ชายที่ดูไม่มีพิษไม่มีภัยคนนี้ จริงๆ แล้วก็คือ “พี่เทียน!”

เมื่อครู่ตอนที่เฉียงหลงคุกเข่าต่อหน้าฉินเทียนนั้น ใจของพวกเขาก็ตกไปที่ตาตุ่มแล้ว

ยังดีที่ เฉียงหลงและฉินเทียน เหมือนจะไม่ได้ให้ความสนใจเขา

ดูจากตัวตนของฉินเทียนแล้ว ไม่น่าจะแก้แค้นอะไรเขาใช่ไหม?

มองไปที่เจียงหงที่ยืนตะลึงอยู่ข้างๆ โหวหยานเรียกสติและรีบพูดว่า “ยัยโง่ คุณมัวรออะไรอีกหล่ะ!”

“รีบไปสิ!”

“ระบำนกยูงของคุณไง!”

เจียงหงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็หน้าแดงและพูดว่า “คุณว่าฉันจะทำได้จริงๆ หรือ?”

โหวหยานตอบอย่างตื่นเต้นว่า “ตั้งใจเต้น คุณทำให้สาวน้อยพวกนั้นตกกระป๋องได้แน่นอน!”

“ค่ำคืนนี้ พี่เทียนต้องเป็นของคุณ!”

“ถ้าได้ดีแล้ว ก็อย่าลืมน้องคนนี้ด้วยหล่ะ”

“ตกลง!” เจียงหงกัดฟัน ยกเบียร์มาดื่มอย่างดุดัน และก้าวออกไปด้านหน้า

เสน่ห์ท่วงท่าการร่ายรำของเขา เล่นเอาบรรดาเด็กสาวที่เต้นมั่วซั่วเหล่านั้นได้อยู่หมัด

เด็กสาวเหล่านั้น แม้ว่ารูปร่างจะไม่เลว แต่ก็เต้นท่าง่ายๆ ได้ไม่กี่ท่า

ส่วนเจียงหง เป็นผู้เชี่ยวชาญเลยแหละ

ต่อสู้กันด้วยการเต้นรำ ก็เป็นแบบนี้แหละ

ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองเต้นสู้คนอื่นไม่ได้ คุณเองยังจะฝืนเต้นต่อไปอีก

คนรอบๆ ค่อยๆ หลีกทางออก ไม่นานนักเจียงหงก็เข้าไปอยู่ตรงกลางฟลอร์ได้

กลายเป็นเป้าสายตาของบรรดาผู้คนทั้งหลาย

เวลานี้เจียงหงกลายเป็นจุดเต้นกลางฟลอร์นั้น!

หล่อนมองใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินเทียน รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ มีอำนาจครอบงำอย่างมหาศาล

หล่อนเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆเหมือนจิ้งจอกขาวนั่งอยู่หน้าฐานดอกบัว

พยายามเต้นอย่างตั้งใจที่สุดในชีวิตของหล่อน

ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกอย่างเต็มที่

บรรดาผู้คนทั้งหลายต่างโดนดึงดูดด้วยลีลาท่าทางอันสวยงาม

“คือหล่อนนั่นแหละ!”

“ยินดีกับพี่เทียนด้วยครับ!”

“สาวสวย โชคดีของคุณแล้ว!” เริ่มมีบางคนตะโกนขึ้นมา

ฉินเทียนได้แต่ยิ้มและไม่พูดอะไร ที่เขารอมาถึงตอนนี้ เพราะคิดว่า จะมีนักฆ่าใช้จังหวะนี้เปิดเผยตัวตนออกมา

อย่างเช่นบรรดาสาวๆ พวกนั้น เมื่อครู่เต้นอย่างเร่าร้อนแนบชิดใกล้เขา ถ้าหนึ่งในพวกหล่อนนั้นเป็นนักฆ่า ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการลงมือ

แต่เขาก็ผิดหวัง

ดูเหมือนว่าจะไม่มีนักฆ่ามาที่นี่

ดังนั้นเขาเลยเตรียมตัวที่ออกจากที่นี่

ในเวลานี้ จู่จู่เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่กลุ่มคนข้างๆ

หล่อนไม่ได้แต่งตัวโป๊เหมือนคนทั่วไป แต่สวมใส่กางเกงยีนขายาว มิดชิดมาก

แต่กางเกงยีนทรงสลิมรัดรูปทำให้เห็นรูปร่างที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ที่สำคัญไปกว่านั้น หล่อนสวมหน้ากากมาร่วมงานด้วย

ด้านหลังหน้ากาก ดวงตาคู่นั้น มองไปที่ฉินเทียนอย่างเย็นชา

อืม?

ฉินเทียนใจเต้นระรัว ความรู้สึกแรกคือ รู้สึกคุ้นๆ กับดวงตาคู่นั้น?

ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้คน เจียงหงเองก็รู้สึกว่า ในค่ำคืนนี้ตัวเองต้องเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นแน่ๆ

ต้องได้รับสุขจากฉินเทียนแน่นอน

หล่อนทนไม่ไหวจนเดินเข้าไปแนบชิดกายของฉินเทียน

ในช่วงเวลานี้ ผู้หญิงที่ใส่หน้ากาก สวมกางเกงยีนคนนั้นก็เดินเข้ามา

นี้มันอะไรกัน?

บรรดาผู้คนต่างตกตะลึง

หญิงสาวเงียบลง และเริ่มเต้นรำ

รูปร่างอันสวยงาม เต้นรำอย่างยั่วยวน

ราวกับราชาระเบิด จุดชนวนฟลอร์นี้ทันที

ถ้าเทียบกับหล่อนแล้ว เจียงหงเมื่อครู่นี้เป็นแค่การเปิดฟลอร์อันร้อนแรงเท่านั้น

ส่วนหล่อน ถึงจะเป็นนางเอกตัวจริง

บ้ากันหมดแล้ว!

เสียงโห่ร้อง เสียงตะโกน ดังไปทั่วห้องโถง

แม้แต่ เจียงหงเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

มองดูหญิงสาวสวมหน้ากากเต้นเข้าหาฉินเทียน หล่อนก็ถอยออกมาด้านข้างเองโดยไม่รู้ตัว

ใกล้เข้ามาทุกที

หญิงสาวเคลื่อนไหวด้วยท่ายาก และทั้งร่างของหล่อนก็ล้มลงไปซบที่อกของฉินเทียน

ฉินเทียนยื่นมือไปโอบเอวของหล่อนไว้

ก้มลงมองแววตาสวยงามอันเย็นชาคู่นั้น

สาวสวมหน้ากากมองเขาด้วยความเย็นชา ในแววตาสวยคู่นั้น จู่จู่ก็เป็นประกายขึ้นมา

ในแววตาประกายนั้น มีความแค้นอย่างสุดซึ้ง!

หล่อนพูดเบาๆและหมุนตัวออก อำพรางสายตาของผู้คน ขณะเดียวกัน มือก็ควักมีดพกเล่มหนึ่งออกมาจากเอวและแทงไปที่อกของฉินเทียน

ฉินเทียนยื่นมือไปจับข้อมือของหล่อนไว้ เก็บความคมของมีดไว้

หญิงสาวร้องและเซล้มเข้าไปอยู่กลางอกของฉินเทียนอีกครั้ง จนขยับไม่ได้

ไม่มีใครเห็นการลอบสังหารนี้

ในสายตาของผู้คน นี้เป็นท่าทางการเต้นรำแบบแนบชิดอันเร่าร้อนแบบหนึ่ง

ฉินเทียนหัวเราะและพูดว่า “เป็นคุณนั้นเอง”

พูดพลาง ก็ประคองหญิงสาวขึ้นมา และรีบเดินไปยังทางเดินส่วนตัว

“เชี้ยเอ๊ย!”

“นายท่านเลือกได้แล้ว!”

“สาวสวยผู้นั้นเป็นใครกันนะ?ยินดีด้วยครับ!”

เสียงโห่ร้องดังขึ้นทั่วฟลอร์

สายตาของเจียงหงและบรรดาผู้หญิงทั้งหลาย ต่างรู้สึกผิดหวังและอิจฉากันไปหมด

แต่พวกหล่อนก็บอกกับตัวเองว่า ตัวเองเทียบกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เลย

พี่เทียนจะเอาจริงหรือ?

เฉียงหลงตะลึงไปครู่หนึ่ง รีบตะโกนว่า “พี่เทียน ข้างบนมีห้องว่าง!”

“ผมพาไปเอง!”

เขารีบวิ่งนำหน้าไปอย่างตื่นเต้น

ในลิฟต์ หญิงสาวคนนั้นก็กัดฟันและพูดว่า “รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”

ฉินเทียนยิ้มและพูดว่า “ทำไม คิดจะหนีหรือ?”

เฉียงหลงยิ้มและพูดว่า “สาวสวย ได้รับความโปรดปรานจากนายท่าน ช่างเป็นโชคดีของคุณจริงๆ”

“ดูแลนายท่านให้ดีนะ!”

หญิงสาวกัดฟันไม่พูดอะไร

ไม่นาน ก็ขึ้นมาถึงชั้นบน เฉียงหลงผลักประตูห้องเข้าไป

ภายในไม่มีสิ่งของอะไรเลย นอกจากเตียงนอนอันหรูหราโอ่อ่า

เฉียงหลงยื่นมือเข้าไปเปิดโคมไฟเพื่อสร้างบรรยากาศ

“พี่เทียน สนุกให้เต็มที่นะครับ มีอะไรเรียกผมได้” พูดพลางก็ยิ้มและเดินออกไปอย่างรู้งาน

ในห้องเริ่มเงียบสงัด

ฉินเทียนโยนหญิงสาวจากอ้อมแขนลงบนเตียง ยิ้มเยาะและพูดว่า “คุณก็คือท็อฟฟี่นมกระต่ายขาวใช่ไหม?”

“ว่ามา ทำไมอยากจะฆ่าผม”