บทที่ 1303 – สถานที่ตั้งธงสวรรค์ปัญจธาตุของเธอ เขาจะเป็นฝ่ายโดนรุกหรือไม่?

 

ชิงสุ่ยไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงถามเรื่องนี้ ทุกครั้งที่เขาเห็นเธอ เขารู้สึกว่าเธอไม่ได้จริงจังและเขาก็ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร

 

“ท่านปรมจารย์ป้า คนรุ่นท่านไม่น่าที่จะหยอกล้อข้าเช่นนี้” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างหมดหนทาง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปวดหัวมากและรู้สึกกลัวผู้หญิงที่งดงามเป็นพิเศษ เมื่อตอนที่เขาเผชิญหน้ากับประมุขอสูรและกำลังจะตาย เขาไม่ได้รู้สึกกลัว เขาไม่มีความรู้สึกเช่นเดียวกับตอนนี้เลย

 

เธอหัวเราะอย่างดูมีชีวิตชีวา

 

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้ายังไม่แก่ ถ้าเจ้าพูดเหมือนข้าแก่อีกครั้ง ข้าจะสอนบทเรียนให้กับเจ้า เอาหล่ะ ข้าจะหยุดหยอกล้อเจ้า แต่เจ้าจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากข้าอีก เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าเจ้าเป็นคนแรกที่ได้อะไรเช่นนั้นจากข้า?” เธอมองไปที่ชิงสุ่ย อย่างกระตือรือร้น

 

ถ้าในอดีตชิงสุ่ยไม่มีทางเชื่อเลย มันเป็นเพราะเขารู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ค่อนข้างปล่อยตัว แม้ว่าเธอจะดูบริสุทธิ์ แต่เขาก็รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ปล่อยตัว อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นหลายๆสิ่ง เขารู้สึกว่าจริงๆแล้วมีผู้ชายไม่มากนักที่จะเข้าหาเธอได้

 

ชิงสุ่ยฟื้นคืนสติ เขารู้ว่าทุกสิ่งที่เขาคิดนั้นไม่เหมาะสมที่จะกล่าวในขณะนี้ มันดีที่สุดสำหรับเขาหากเก็บเอาไว้

 

“ตอนนี้เจ้าเกลียดข้างั้นหรือ?” เธอมองไปที่ชิงสุ่ย

 

“ไม่ ทำไมท่านพูดเช่นนั้น?” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่ามันไม่ดีที่จะยังคงนิ่งเฉยอยู่

 

“เอาหล่ะ ทุกอย่างก็เสร็จแล้ว นี่มันก็เริ่มมืดแล้ว ถ้าหากเจ้าไม่อยากพักที่นี่คืนนี้ก็รีบกลับไปซะ” เธอพูดขณะมองไปที่ชิงสุ่ยและยิ้ม

 

“ข้าจะไปทันที!” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างรวดเร็ว

 

“ช้าก่อน เจ้าจะไปจริงๆงั้นหรือ? นี่มันก็มืดแล้ว เจ้าควรจะออกเดินทางพรุ่งนี้ อย่าได้กังวล ข้าไม่กินเจ้าหรอก ข้าไม่อยากให้เจ้าได้รับอันตราย” เมื่อเธอเห็นชิงสุ่ยหันออกไป เธอจึงรีบคว้าเขากลับมาด้วยความขุ่นเคือง

 

ชิงสุ่ยหันมามองเธอ คราวนี้สีหน้าของเธอดูจริงจังเป็นพิเศษ เขาพยักหน้า “เช่นนั้นข้าก็คงต้องขอรบกวนท่านปรมจารย์ป้าแล้ว”

 

ชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะพักที่นี่เพราะคำพูดที่ว่าไม่ต้องการให้เขาได้รับอันตรายใดๆ ชิงสุ่ยรู้สึกว่าตลอดเวลาอันเนิ่นนานที่ได้พูดคุยกัน นี่คือสิ่งที่อบอุ่นที่สุดของเธอที่กล่าวกับเขา

 

เขารู้สึกว่าเธอไม่ได้ปล่อยปละเกินไป ถานท่ายหยวนบอกว่าเขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่อาจารย์ของเธอพูดหยอกล้อด้วย แต่นั่นก็รวมถึงการที่เธอไม่รู้ว่าอาจารย์ของเธอหยอกล้อเขาแค่ไหน อาจารย์ของเธอได้คว้าอวัยวะส่วนล่างของเขาเอาไว้ ชิงสุ่ยเกิดความไม่เข้าใจ…

 

“อย่างนั้นข้าขอตัวไปจับปลาสักหน่อยและนำมันมาปรุงอาหาร!” ชิงสุ่ยยิ้มและพูด

 

“ฟังดูดี ไปกันเถอะ ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”

 

เธอดึงแขนของชิงสุ่ยและออกจากคฤหาสน์ไผ่ทะเลใต้ เธอดูเป็นธรรมชาติมากแม้จะจับมือของชิงสุ่ยเอาไว้ ชิงสุ่ยต้องการที่จะเบี่ยงมือหลบ แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจหยุดไว้ ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจว่าตอนนี้เขารู้สึกอะไร

 

เขารู้ว่าเธอไม่มีทางคิดที่จะมายุ่มย่ามเขา เพราะด้วยร่างกายของเธอ เธอถูกกำหนดให้ไม่สามารถเพลิดเพลินไปกับการมีสัมพันธ์ได้ มันอาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ เธอจึงทำอะไรแบบนี้ อย่างไรก็ตามทำไมเธอเลือกเขา? มันเป็นเพราะเขามีความสามารถหรือไม่?

 

อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเพราะเห็นว่าเขามีความสามารถ… เธอก็ดูจะเลือกได้อย่างถูกต้องมากเกินไป ด้วยร่างกายของชิงสุ่ย แน่นอนว่าเขาสามารถมีความสัมพันธ์กับเธอได้โดยไม่มีผลกระทบใดๆเลย เธอจะทำอะไรหากรู้เกี่ยวกับร่างกายนี้ของเขา? เพียงแค่คิดถึงมันชิงสุ่ยก็รู้สึกแปลกๆ

 

มันเป็นเพราะเขารู้สึกว่าถ้าเธอรู้ว่าเขาสามารถทำบางสิ่งกับเธอได้ เธอจะต้องลงมือกับเขาแน่นอน

พวกเขาจับมือกันและมุ่งหน้าไปยังชายหาดที่อยู่ไม่ไกล ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าและมีแสงสว่างเหลือเพียงเล็กน้อย ลมทะเลพัดมาเบาๆและให้ความรู้สึกที่สดชื่นมาก ไม่มีกลิ่นเหม็นสาบอะไรเลย

 

สภาพแวดล้อมที่นี่ไม่สามารถเทียบกับสถานที่ต่างๆในชีวิตก่อนหน้าของชิงสุ่ยได้ เขาจับมือของหญิงผู้งดงามไว้ แต่แล้ว ชิงสุ่ยก็สังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้สวมใส่รองเท้าใดๆ เท้าอันสวยงามของเธอเปลือยเปล่า

 

“ชิงสุ่ย เมื่อไหร่ที่เจ้าจะมุ่งหน้าไปยังอีก 3 มหาทวีป?” เธอมองไปไกลสุดสายตาและกล่าวช้าๆ

 

“เมื่อข้าสามารถระบุที่ตั้งของธงสวรรค์ปัญจธาตุใน 3 มหาทวีปได้” ชิงสุ่ยใช้ความคิดบางอย่างและตอบกลับ  2 ปีควรจะเป็นเวลาที่เพียงพอ มันจะดีตราบเท่าที่เขาสามารถระบุจุดหนึ่งจุดใดใน 3 มหาทวีป

 

“อืมม โอ๊ะ จริงสิ มีตำแหน่งปรากฏขึ้นบนธงสวรรค์ปัญจธาตุของข้า” เธอพูดอย่างมีความสุขกับชิงสุ่ย

 

“โอ้ ช่างรวดเร็วนัก?”

 

“มันก็ไม่ได้รวดเร็วเหมือนกับของเจ้า มีอะไรแปลกงั้นหรือ?” เธอมองไปที่ชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยไม่สามารถตอบได้ เขามีดินแดนหยกยุพราชอมตะ เขาไม่รู้ว่าหญิงผู้นี้มีสมบัติที่น่าอัศจรรย์บ้างไหม

 

“ท่านกำหนดตำแหน่งไว้ที่ใด?” ชิงสุ่ยหวังว่าเธอจะไม่ได้กำหนดมันไว้ที่มหาทวีปธรรมไตรเช่นกัน อย่างไรก็ตามมหาทวีปธรรมไตรเป็นสถานที่ที่ดีที่สุด ดังนั้นเขารู้สึกว่าโอกาสที่เธอจะตั้งไว้มีสูงมาก

 

“ข้าได้กำหนดไว้ที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตก จริงๆแล้วธงสวรรค์ปัญจธาตุของข้าสามารถกำหนดได้เพียงที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตก” เธอกล่าวอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

 

ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขมาก หลังจากคิดอยู่นาน ในที่สุดเขาก็รู้ถึงปัญหา มันอาจขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาอาศัยอยุ่ที่ไหนนานสุดในชีวิตหรืออาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของคู่ธงสวรรค์ปัญจธาตุด้วย ตัวอย่างเช่นหลังจากที่ตั้งธงสวรรค์ปัญจธาตุอันหนึ่งแล้ว เช่นนั้นจะไม่สามารถตั้งธงสวรรค์ปัญจธาตุไว้ที่เดียวกันได้

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกมีความสุขหรือไม่ ตำแหน่งต่อไปที่เขาจะตั้งอาจจะอยู่ใน 5 มหาทวีปหรืออีก 3 มหาทวีป ชิงสุ่ยรู้สึกมีความหวัง มันจะดีที่สุดถ้าเขาสามารถกำหนดตำแหน่งในโลก 9 มหาทวีปได้

 

บางทีในอนาคตพวกเขาอาจจะสามารถกำหนดให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันหรือสถานที่ที่ไม่ไกลจากกันมากนัก นั่นอาจเป็นไปได้

 

“เอาหล่ะ มันจะง่ายสำหรับข้าหากต้องการกลับไปที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตกในอนาคต เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะคิดถึงท่านปรมจารย์ป้าเป็นคนแรก” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“มันดีสำหรับเจ้า แต่ข้านั้นไม่สามารถไปที่ใดได้” เธอบ่นอุบอิบ

 

“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นหรือ? เมื่อมีโอกาสเหมาะ ท่านสามารถไปเที่ยวชมรอบ 5 มหาทวีปได้” ชิงสุ่ยยิ้มและตอบกลับ

 

“อืมม ถ้ามีเวลา ข้าจะไปที่นั่นและมองดูโลก 5 มหาทวีปที่ไม่เคยไปมาก่อน”

 

ชิงสุ่ยหยิบคันเบ็ดตกปลาทองคำบริสุทธิ์ออกมาและเดินลงไปในน้ำพร้อมกับเธอ พวกเขาเดินลงไปถึงจุดที่ลึกเล็กน้อย

 

ย้อนกลับไปเขาเคยจับกบมรกตตรีเนตรเมื่อตอนที่อยู่กับติ๊เฉิน ตอนนี้มีพวกมันบางส่วนอยู่ในดินแดนหยกยุพราชอมตะ รวมทั้งราชสีห์หยกที่เขาจับมาก่อนหน้า ร่างกายของราชสีห์หยกถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าและเขาได้สะสมพวกมันไว้จำนวนมาก ราชสีห์หยกมีความงดงามยิ่งกว่ากบมรกตตรีเนตร มันน่าเสียดายที่พวกมันไม่ได้เป็นสัตว์อสูรและถือเป็นเพียงสัตว์อสูรสมบัติ

 

“ชิงสุ่ย คันเบ็ดของเจ้าดูดีทีเดียว!” เธอมองไปที่คันเบ็ดตกปลาทองคำบริสุทธิ์ในมือของชิงสุ่ย

 

“อืมม มันเป็นของที่น่าพึงพอใจ มันช่วยให้ข้าจับหลายสิ่งหลายอย่างได้” ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่เขาตอบ

 

“โอ๊ะ เจ้าจับอะไรได้บ้าง? ฟังเจ้าพูดแล้วสิ่งที่จับได้คงดีไม่น้อย ดูเหมือนว่าคันเบ็ดอันนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว”

 

“เช่นนั้นกบมรกตตรีเนตรและราชสีห์หยกนับรวมด้วยหรือไม่?” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“ใช่ แน่นอนว่านับพวกมันด้วย!” เธอประหลาดใจมาก

 

“โอ๊ะ จริงสิ ครั้งแรกที่มาที่นี่ ข้าก็จับคู่ปลาชีพนิรันดร์ได้” ตอนนี้บางอย่างชิงสุ่ยสามารถพูดออกไปได้ นอกจากนี้หญิงผู้นี้ก็ไม่ถือว่าเป็นคนนอก

 

“ปลาชีพนิรันดร์ แถมยังมีสองตัวงั้นหรือ?” เธอมองชิงสุ่ยด้วยท่าทางอันประหลาดใจ

 

“ถูกต้อง หยวนเอ๋อและลู่หยานทั้งคู่ต่างก็ได้เห็นมัน” ชิงสุ่ยไม่เข้าใจว่าทำไมเธอจึงดูตกใจมาก

 

สิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึงคือการที่ปลาชีพนิรันดร์ไม่เพียงแต่จะเพิ่มอายุขัยให้ แต่มันยังแสดงถึงความหนักแน่นในความสัมพันธ์ของคนผู้นั้น คนที่สามารถจับตัวพวกมันคือผู้ที่ยึดมั่นในความรักและมีความรู้สึกอันแรงกล้าต่อรักและความใคร่ นอกเหนือจากนี้ถ้าจับพวกมันได้อาจทำให้หญิงบางคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงตกหลุมรัก มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะได้เป็นสามีภรรยาหรือแม้กระทั่งเนื้อคู่กัน

 

เธอคิดถึงตัวเอง แต่แล้วเธอก็รีบส่ายหัวสลัดความคิดออกอย่างรวดเร็ว มันเป็นไปไม่ได้ ในชีวิตนี้เธอถูกกำหนดให้ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวตลอดไป แม้ว่าเธอจะมีชายสักคน เธอก็จะเป็นอันตรายต่อเขา

 

“มีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยเห็นว่าเธอดูจะประหลาดใจมากยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ เธอดูราวกับวิญญาณหลุดลอยไป

 

“ไม่มีอะไร ตกปลากันเถอะ ข้าทนรอกินสิ่งที่เจ้าทำไม่ไหวแล้ว”

 

ภายในเวลาอันรวดเร็ว ชิงสุ่ยจับตะพาบน้ำได้ สิ่งที่สำคัญคือไม่เพียงแต่พวกมันจะรสเลิศเท่านั้น แต่พวกมันยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่มาก จากนั้นเขาก็จับปลาเฉา กุ้ง และปูได้บางส่วน เมื่อรู้สึกว่าเพียงพอแล้ว ชิงสุ่ยก็หยุดมือ

 

ชิงสุ่ยหยิบอุปกรณ์ออกมาและเริ่มลงมือทำที่ชายหาด

 

ชายหาดที่นี่สะอาดมากและอากาศดี แม้จะเดินเท้าเปล่าบนทรายก็ยังรู้สึกสบาย ห่างออกไปมีนกนางนวลบินอยู่ แต่พวกมันไม่ได้เข้ามาใกล้กับคฤหาสน์ไผ่ทะเลใต้ ดังนั้นจึงไม่มีร่องรอยของขนนกหรือของเสียจากพวกมันเลย

 

กลิ่นหอมมหัศจรรย์ลอยฟุ้งออกมาอย่างรวดเร็ว เขาทำอาหาร 4-5 จาน มีทั้งซุป ของปิ้งย่าง และอาหารทะเลสดๆ นอกเหนือจากเครื่องปรุงรสของชิงสุ่ยแล้วรสชาติเดิมๆของพวกมันถือว่ายอดเยี่ยมจริงๆ

 

“จริงสิ เจ้าช่วยสอนเคล็ดวิชาของเจ้าให้ข้าได้หรือไม่? หนึ่งในหยวนเอ๋อหรือลู่หยานน่ารู้จัก” เธอถามขณะที่กิน

 

“โอ๊ะ… ข้าไม่สอนเคล็ดวิชาใดให้กับคนภายนอกและสอนให้เพียงผู้ชายเท่านั้น ถึงแม้ว่าผู้ที่ขอจะเป็นภรรยาหรือพี่สาวน้องสาวก็ตาม…” ชิงสุ่ยรู้ว่าเธอหมายถึงทักษะย่างก้าว 9 เทวา เมื่อเห็นท่าทีอันนิ่งสงบของเธอ ชิงสุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเธอ

 

เธอไม่ได้พูดอะไรและกินอาหารต่อไป

 

“ท่านโกรธข้างั้นหรือ? ข้าแค่ล้อเล่น ข้าจะสอนให้ท่านภายหลัง” ชิงสุ่ยมักใช้วิธีนี้เสมอเมื่อหญิงของเขาดูผิดปกติไป สำหรับเธอมันเป็นสิ่งที่กะทันหันและเขาไม่ได้ตั้งใจใช้มัน

 

“ข้าไม่ได้โกรธ ข้าแค่กำลังงุนงง…” เธอหัวเราะ

 

หลังจากกินอาหารค่ำ ชิงสุ่ยได้สอนเธอถึงรูปแบบย่างก้าวคราเดียวและรูปแบบย่างก้าวคู่ เธอมีพื้นฐานที่ดีและมีความรู้ เธอสามารถเข้าใจถึงสิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว การแสดงออกของเธอด้านความสามารถดูแล้วคล้ายคลึงกับชิงหมิน

 

ในการสอนนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการสัมผัสกันทางกาย อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้คิดเลย นอกจากนี้ชิงสุ่ยยังได้เว้นระยะห่างเป็นครั้งคราว มันไม่ใช่เพราะเขาจิตใจไม่เข้มแข็งพอ แต่ความงามของเธอนั้นยากที่จะปฏิเสธได้ นอกจากนี้ส่วนใหญ่แล้วเธอจะเป็นฝ่ายเข้าหาชิงสุ่ย ดูเหมือนว่าชิงสุ่ยจะถูกหยอกล้อและใช้ประโยชน์ เช่นนั้นเขาจึงรู้สึกแปลกๆกับมัน

 

“ท่านปรมจารย์ป้า ท่านรู้หรือไม่ว่านิกายพุทธองค์ทองคำ สันเขาราชันย์ราชสีห์ และตระกูลเป่ยถังอยู่ที่ใดในมหาทวีปอู่เซียตะวันตก?”