ตอนที่ 771 เพราะเธอคือเหนียนเสี่ยวมู่ / ตอนที่ 772 เขาเป็นพ่อคนแล้ว?

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 771 เพราะเธอคือเหนียนเสี่ยวมู่

อวี๋เยว่หานเดินไปอยู่ข้างเธอ พอยื่นมือไปจิ้มแก้มเล็กๆของเสี่ยวลิ่วลิ่ว เธอก็ได้แต่ทำปากขมุบขมิบ

พลิกตัวแล้วหลับต่อ

“เด็กใจร้าย” ริมฝีปากบางอ้าเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นน้ำเสียงเอ็นดู

เขาก้มศีรษะลงและจูบใบหน้าเล็กที่เกลี้ยงเกลาราวกับหยกขัดสีของเธอก่อนที่จะก้าวออกไปจากห้อง

พอเดินมาถึงห้องรับแขก พ่อบ้านก็ยกน้ำชาสร่างเมาที่เพิ่งต้มเสร็จเดินมาตรงหน้าเขา

รินน้ำชาให้เขาหนึ่งถ้วย

น้ำชาที่ร้อนผ่าวปล่อยไอระอุสีขาว

ลอยผ่านตา

อวี๋เยว่หานจับจ้องชาสร่างเมาที่อยู่ตรงหน้า ทว่าภาพที่แวบเข้ามาในหัวกลับเป็นภาพตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่นั่งบนโซฟากำลังอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วกล่อมนอน

ความอ่อนโยนในดวงตาเธอเหมือนกับตอนที่เธอเพิ่งมาสัมภาษณ์ที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ในตอนแรก

ตอนนั้นเธอก็เป็นแบบนี้ อุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วนั่งบนโซฟาในห้องรับแขก ใส่ยาให้เสี่ยวลิ่วลิ่วอย่างอ่อนโยน

แสงที่ปกคลุมบนตัวเธอช่างอ่อนโยนและอบอุ่น …

เป็นแบบที่เขาชอบ

บางทีนับตั้งแต่นั้นมา เธอก็งัดใจเขาได้ทีนิดทีละหน่อย

“ไปหยิบไวน์มา” อวี๋เยว่หานนั่งพิงบนโซฟา เขาหลับตาลงเล็กน้อยพร้อมกับกำชับ

เมื่อได้ยินดังนั้น พ่อบ้านก็นิ่งไปสักพัก “คุณชาย ผู้ช่วยหยางบอกว่าวันนี้คุณดื่มมากแล้ว คือว่า…”

พ่อบ้านยังไม่ทันพูดจบ อวี๋เยว่หานก็เลิกคิ้วเหลือบมองเขา

พ่อบ้านที่มีมาตรฐานจะสงสัยในคำสั่งของเจ้านายไม่ได้

พ่อบ้านถอนหายใจอย่างไร้สุ้มเสียงและหมุนตัวเดินไปที่หน้าตู้เก็บเหล้า

เขาหยิบไวน์แดงมาหนึ่งขวดพร้อมกับแก้วไวน์ก้านยาว

เปิดขวดแล้วรินไวน์

จากนั้นก็วางไว้ตรงหน้าอวี๋เยว่หาน

เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานยกแก้วขึ้นมาดื่มหมดในคราวเดียว ก็อดไม่ได้ที่จะพูด

“คุณชายหาน ที่จริงวันนี้คุณเหนียนกลับมาที่นี่”

“…” อวี๋เยว่หานวางแก้วไวน์ มือชะงักเล็กน้อยแล้วถือขวดไวน์รินให้ตัวเองต่ออีกหนึ่งแก้ว

พอกำลังจะดื่ม พ่อบ้านก็รีบเอื้อมมือห้ามไว้

“คุณชายหาน อันที่จริงผมรู้สึกว่าคุณเหนียนเธอไม่ใช่คนเจ้าแผนการอะไร ในเมื่อคุณปล่อยวางเธอไม่ได้ ทำไมถึงให้เธอไปล่ะครับ?”

พ่อบ้านได้ใช้ความกล้าไปหมดแล้วจากที่ห้ามไว้เมื่อกี้นี้ เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานมองมา เขาจึงรีบชักมือกลับ

เห็นเขาดื่มไปอีกแก้วแล้ววางแก้วลง

ค่อยๆเปิดริมฝีปาก

“เพราะเธอคือเหนียนเสี่ยวมู่”

อวี๋เยว่หานเหลือบมองพ่อบ้านที่ฟังไม่เข้าใจโดยสิ้นเชิง เขาไม่ได้อธิบายอะไรต่อ แต่เทไวน์ลงในแก้วแล้วถือไว้ในมือ จากนั้นก็เดินไปที่หน้าต่าง

นอกหน้าต่างเป็นสีมืดทึบ

แสงจันทร์ส่องแสงลงมายังกิ่งไม้และพื้นหญ้า

ยังมีทิศทางที่เธอเพิ่งจากไป…

คำถามของพ่อบ้านแวบเข้ามาในหัว

เขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบแล้วหรี่ตาลง

เรื่องในวิดีโอ ถังหยวนซือรู้ข่าวแล้ว คนอื่นๆก็เช่นกัน

เขาสามารถเชื่อในตัวเหนียนเสี่ยวมู่ได้ แต่คนอื่นในตระกูลอวี๋ล่ะ?

เขาไม่เพียงแต่ต้องรับผิดชอบตัวเอง เขายังต้องรับผิดชอบคนอื่นในตระกูลอวี๋ด้วย นี่คือความรับผิดชอบของคนที่กุมอำนาจตระกูลอวี๋

เขาไม่ถามไม่พูดหรือไม่สงสัยได้ทั้งนั้น แต่เขาห้ามคนอื่นไม่ให้ตั้งคำถามกับเธอไม่ได้ การบังคับให้เธออยู่ในตระกูลอวี๋โดยที่ตัวเองปกป้องเธอไม่ได้จะเป็นการทำให้เธอไม่ได้รับความเป็นธรรม

และยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ดีว่าการที่เธอเป็นคนคิดจากไปก่อน เป็นเพราะในใจเธอมีเขา

ไม่อยากเห็นคนสองคนเดินไปถึงจุดที่ย้อนกลับไปไม่ได้เพียงเพราะความหวาดระแวง…

คนอื่นไม่เข้าใจเธอ ทำไมเขาถึงจะไม่เข้าใจเธอล่ะ?

เป็นเพราะเข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นจึงยอมให้เธอจากไปและให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน

นอกจากนี้ยังเป็นการให้เวลาตัวเองตรวจสอบความจริงของเรื่องทั้งหมด

อวี๋เยว่หานหรี่ตาลง ยกแก้วไวน์ดื่มจนหมดแก้ว มองแสงจันทร์แล้วพึมพำเบาๆ “เหนียนเสี่ยวมู่…”

ตอนที่ 772 เขาเป็นพ่อคนแล้ว?

อีกด้านหนึ่ง

ถังหยวนซือนั่งรถแท็กซีตรงกลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลถัง

รถจอดได้ไม่นานเขาก็เปิดประตูลงจากรถ

หลังจากจ่ายค่าโดยสารแล้ว เขาก็เดินไปทางประตูใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลถังพร้อมกับโทรศัพท์หาผู้ช่วยของอวี๋เยว่หานเพื่อจะถามไถ่สถานการณ์ของอวี๋เยว่หาน

โทรศัพท์ยังไม่ทันได้ต่อสาย ทันใดนั้นเขาก็เหลือบเห็นร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลถัง

ถังหยวนซือคิดว่าตัวเองคงเมาไปแล้วจึงส่ายหัวแรงๆ

ปฏิกิริยาต่อมาก็พบว่าเขาไม่ได้เมา เมากับผีน่ะสิแค่น้ำเปล่าหนึ่งกา!

จากนั้นก็หันไปมองคนที่อยู่ตรงหน้า…

คนคนนั้นยังอยู่และดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา เธอจึงค่อยๆหันมาทางเขาอย่างช้าๆ

เมื่อคนคนนั้นเผยใบหน้าทั้งหมด ถังหยวนซือก็ตัวแข็งทื่อ พอดีว่าขณะนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ต่อสายได้แล้ว เสียงของผู้ช่วยดังมาจากปลายสาย

“ประธานถัง คุณชายหานไม่ได้เป็นอะไรครับ ผมส่งถึงบ้านแล้ว คุณไม่เป็นไรนะครับ?”

“……”

ไม่เป็นไร ก็แค่อาจจะเจอผีเข้าแล้ว

ตะโกนขอความช่วยเหลือได้ไหม?

หรือให้ใครมาหยิกเขาที เขารู้สึกว่าเริ่มฝันทั้งที่ตัวเองไม่ได้หลับไป

ถังหยวนซือวางสายโทรศัพท์โดยไม่รอให้ผู้ช่วยพูดอะไรอีก

กลับมาตั้งสติและสาวเท้าเดินเข้าไปหาคนที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูบ้าน

เผชิญหน้ากับดวงตาใสแจ๋วที่แฝงไปด้วยความดื้อรั้นอยู่หน่อยๆของซั่งซิน เขาช็อกไปชั่วขณะ!

เธอกลับมาแล้ว…

นึกไม่ถึงว่าเธอจะกลับมา…

ไม่ใช่สิ เธอไม่ได้ไปต่างประเทศแล้วหรือ ทำไมยังกลับมาอีก?

แล้วยังปรากฏตัวอยู่ที่นี่

เธอผอมไปแล้ว

รูปร่างที่เคยบอบบางอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ยิ่งเหลือเนื้อไม่กี่ส่วน

คนรอบตัวเธอเป็นอะไรกันไปหมด?

ไม่มีใครเตือนเธอให้กินเยอะๆหน่อยหรือไง?

มือของถังหยวนซือที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวกลายเป็นกำหมัดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เขากำหมัดแน่นเพื่อบังคับความคิดที่อยู่ภายในใจไม่ให้ตัวเองเดินไปกอดเธอ

เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอและมองเธอด้วยสายตาเย็นชา

ยามเฝ้าประตูวิ่งมาข้างหน้า

“ประธานถัง คุณซั่งซินมาถึงหลังจากที่คุณไปได้ไม่นาน เธอไม่ยอมพูดอะไรเลย พอรู้ว่าคุณไม่อยู่บ้านก็ยืนรอคุณแบบนี้มาตลอด”

เมื่อได้ยินดังนั้น ถังหยวนซือก็รู้สึกแน่นหน้าอกเล็กน้อย

เขาคิดว่าตอนที่เธอจากไป เธอคงเกลียดเขามาก เกลียดจนแทบไม่อยากเจอเขาอีกตลอดชีวิต ทั้งชีวิตนี้กลัวก็แต่ว่าจนถึงวันที่เขาตาย เธอก็จะไม่ยอมปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีก…

แต่กลับไม่คิดเลยว่าเธอจะกลับมากะทันหัน

เมื่อได้ยินคำพูดของยามเฝ้าประตู ถังหยวนซือก็ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ซั่งซินที่เอาแต่ยืนไม่ขยับก็ได้เดินมาหาเขา

เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงหนึ่งก้าว ก้มหน้าลง พลิกกระเป๋าอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบปากกาสีขาวยื่นให้เขา

ถังหยวนซือสะดุ้งและรับมันไปโดยไม่รู้ตัว

ตอนเริ่มแรกเขายังไม่รู้สึกตัว เธอยื่นปากกามาให้เขาทำไม

ต่อมาเมื่อเห็นขีดสีแดงสองขีดตรงกลางปากกา รูม่านตาก็หดลง พลางจ้องปากกาที่อยู่ในมือด้วยความสับสน

จากนั้นก็เพิ่งจะรู้ตัวว่านั่นไม่ใช่ปากกา แต่มันคือที่ตรวจครรภ์

ขีดสีแดงสองขีด

เป็นสองขีด

ชัดมากว่าเป็นสองขีด

ถังหยวนซือไม่เคยเจอพ่อบุญธรรมและพวกพี่ชายของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เขากอดที่ตรวจครรภ์และยิ้มราวกับกวางโง่

เขารู้ดีกว่าใครๆว่าขีดสีแดงสองขีดนั้นหมายถึงอะไร…

เมื่อซั่งซินเห็นเขาเอาแต่ช็อกก็กัดริมฝีปาก

“ถ้าคุณดูอันนั้นแล้วไม่เข้าใจก็ดูนี่ซะ”

เธอก้มหน้าพลิกกระเป๋าอีกครั้งแล้วหยิบแผ่นตรวจอัลตราซาวนด์ออกมา

ในภาพเล็กๆมีสิ่งเล็กๆรูปจันทร์เสี้ยวอยู่หนึ่งอัน ทำให้ถังหยวนซือสั่นสะท้านไปทั้งตัว