“เอาล่ะ หยุดได้แล้ว” ซูฉิงก้าวถอยหลังหลบจูบนี้
พวกเขาหยุดอยู่หน้าห้องผู้ป่วยของท่านผู้เฒ่าฮ่อ ซูฉิงก็นึกถึงภาพของถังรั่วอิงอย่างละเอียดด “ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอไม่ได้ป่วยแน่นอน”
“ทำไมล่ะ?” ฮ่อหยุนเฉิงเปิดปากพูด
ซูฉิงพูดอย่างไตร่ตรองว่า “ทางแพทย์แผนจีนสามารถสังเกตอาการจากสีหน้าได้ แม้ว่าหน้าเธอจะซีดขาว แต่ดวงตาตาของเธอกระจ่างใส ยิ่งฝีเท้าของเธอก็ไม่ได้แผ่วเบาเลยสักนิด โดยเฉพาะเลือดที่เธออาเจียน กลิ่นของเลือดไม่ถูกต้อง แต่เพื่อหลอกลวงนายแล้ว พวกเขายังใช้ความพยายามอย่างมากในการติดสินบนแพทย์และพยาบาล แล้วยังใช้เลือดปลอม”
ฮ่อหยุนเฉิงได้ยินแล้วใจก็ดิ่งลง ถ้าแค่ถังรั่วอิงคนเดียวทำเรื่องมากมายขนาดนี้ไม่ได้แน่
ดังนั้น…
“มีคนช่วยเธออยู่เบื้องหลัง” ฮ่อหยุนเฉินพูดเสียงต่ำ
“นายเดาถูกแล้ว” ซูฉิงไม่ได้ประหลาดใจ เธอเดาได้แล้วทั้งหมด สำหรับฮ่อหยุนเฉิงแล้วไม่ยากแน่ๆ
ซูแงเงยหน้ามองเขา “ถ้าถังรั่วอิงไม่ใช่ถังถัง แต่กลับรู้เรื่องเกี่ยวกับถังถังมากขนาดนี้ รอจนสืบหาเธอและผู้ที่อยู่เบื้องหลังเธอได้ นายก็คงได้พบถังถังของนายแล้ว”
ฮ่อหยุนเฉิงสังเกตว่าซูฉิงใช้คำว่า “ถังถังของนาย” ก็รู้ได้ว่าเธอหึงอีกแล้ว
มือที่จับเธอไว้ก็แน่นขึ้นไปอีก เขาก้าวไปข้างหน้า ขยับเข้าไปใกล้เธอ ลดช่องว่างระหว่างสองคน “ทำไม? เธอไม่เชื่อหัวใจของฉันที่มีต่อเธอเหรอ?”
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ ก็แค่ใจผู้ชายล้ำลึกใครจะหยั่งถึง ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าใครแค่รู้ว่าถังรั่วอิงคือถังถัง ก็ดีต่อเธอขนาดนั้น หากมีมาอีกคนก็ไม่แน่หรอก…”
ซูฉิงยังไม่ทันพูดจบ ริมฝีปากของฮ่อหยุนเฉิงก็กดทับลงมา ปิดปากเธอทั้งหมด
เขาโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด จูบร้อนแรงที่ค่อยๆ ลดลงมา ขจัดความเยือกเย็นในการคิดหาเหตุผลออกไป เธอทำได้แค่เอนตัวพิงเขาอย่างอ่อนปวกเปียก ยอมรับจูบของเขา
จูบของฮ่อหยุนเฉิงนั้นรุนแรง เผด็จการ และหยาบคาย ที่แฝงมาด้วยการลงโทษ
ผู้หญิงคนนี้ มาถึงวันนี้ตอนนี้แล้ว ยังสงสัยความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธออีก
ฮ่อหยุนเฉิงเพิ่มความรุนแรง โอบประคองศีรษะของผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าด้วยมือทั้งสองข้าง ลิ้นใหญ่เปิดริมฝีปากของเธอออก เกี่ยวกระหวัดรัดรึง ราวกับจะกลืนเธอลงไปอย่างไรอย่างนั้น
ความรู้สึกที่ถูกไฟดูดแฝงมาด้วยความเจ็บ ทำให้ซูฉิงอ้าปากค้าง
“อื้อ อื้อ อื้อ…” ซูฉิงหายใจอย่างยากลำบาก “เจ็บ…”
ท่าทางแบบนี้ของซูฉิง ทำให้ฮ่อหยุนเฉิงใจอ่อนยวบ
เขาผ่อนการกระทำลง เริ่มอ่อนโยนขึ้นมา
ฮ่อหยุนเฉิงจูบเธออย่างอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้าก็มีความรู้สึกสั่นไหวที่บอกไม่ถูกไหลผ่านร่างของซูฉิง
ทำให้เธอรู้สึกเขินอายแต่ก็รู้สึกสบายและงดงาม ต้องการมากกว่านี้
สวรรค์ เธอมีความคิดแบบนี้ได้ยังไงกัน…
ใบหน้าของซูฉิงแดงเถือกเหมือนกุ้งต้ม
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ฮ่อหยุนเฉิงถึงปล่อยซูฉิง
ถ้าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่หน้าห้องพักผู้ป่วยของท่านผู้เฒ่าฮ่อล่ะก็ เขาเกรงว่าคงตัดใจปล่อยเธอเร็วขนาดนี้ไม่ลง
ใบหน้าเขินอายของซูฉิงอิงแอบอยู่ที่หน้าอกเขา
“ต่อไปไม่เอาในที่แบบนี้ได้มั้ย ถ้าคุณปู่ออกมากะทันหันแล้วเห็นเข้าต้องอายแน่” ซูฉิงคร่ำครวญออกมาอย่างอดไม่ได้
“ฉันคิดว่าคุณปู่คงยินดีมาก” ฮ่อหยุนเฉิงอารมณ์ดีในเวลานี้ มุมปากของเขาไม่สามารถที่หยุดยกขึ้นได้ ส่วนโค้งมนทำให้ใบหน้าหล่อเหลาที่แข็งกร้าวของเขาดูนุ่มนวลขึ้นมาไม่น้อย
ซูฉิงได้ยินถ้อยคำนี้ ก็หมดคำจะพูด ไม่ตอบรับคำพูดของเขา
เธอหมุนกายไปมองห้องพักคนไข้ เคาะเบาๆ ก็มีเสียงท่านผู้เฒ่าฮ่อดังออกมาอย่างรวดเร็ว
“เข้ามา”
ตามาด้วยประตูที่เปิดออก แม่หวางพูดกับพวกเขาอย่างยินดี “นายน้อย นายหญิงน้อย”
สำหรับคำเรียกขานของแม่หวาง ฮ่อหยุนเฉิงพอใจเป็นอย่างมาก จูงมือซูเฉิงเดินเข้าไปข้างใน
ท่านผู้เฒ่าฮ่อกำลังเอนพิงหัวเตียงอ่านหนังสือพิมพ์ในมือ สวมแว่นสายตายาว ดูมีเมตตาใจดีอย่างมาก
เมื่อเห็นพวกเขาก็รีบวางหนังสือพิมพ์ลง ถอดแว่นออก ข้างดวงตาเต็มไปด้วยรอยพับจากรอยยิ้ม ทักทายซูฉิง “ฉิงฉิง เร็วเข้า มานั่งตรงนี้”
“คุณปู่ฮ่อ เป็นยังไงบ้าง?” ชูฉิงปล่อยให้ชายชราดึงมือของเธอ ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้นั่งบนขอบเตียงผู้ป่วยของเขา
น้ำเสียงของท่านผู้เฒ่าฮ่อกระฉับกระเฉง “ดีขึ้นมากแล้ว หลังจากที่เธอฝังเข็มให้ปู่ ร่างกายนี้ของฉันเบากว่าเมื่อก่อนไม่น้อย ความรู้สึกเจ็บๆ ที่หัวใจแต่ก่อนนั่นก็ลดลงกว่าครึ่ง”
ชูฉิงคว้ามือของชายชราแล้ววางลงบนผ้าห่ม น้ำเสียงที่นุ่มนวลไพเราะ “นั่นก็ดีมากเลย คุณปู่คะเดี๋ยวฉันจะตรวจชีพจรให้อีกครั้ง จะได้เข้าใจสภาพร่างกายของคุณปู่อย่างถี่ถ้วน”
“ได้ได้ได้” เมื่อเห็นซูฉิงที่กตัญญูและประพฤติตนอย่างดีแบบนี้ ท่านผู้เฒ่าฮ่อก็อดยิ้มไม่ได้
เขาเอียงไปหาฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ด้านข้าง “เป็นยังไง ปู่ไม่ได้เลือกคู่หมั้นให้แกผิดใช่มั้ย?”
“แน่นอนครับ” ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้ว “ขิงแก่มักเผ็ดกว่า”
ซูฉิงเม้มริมฝีปาก สองคนนี้พูดอะไรกันอยู่ เปลี่ยนเรื่องจะได้ไหม!
เธอทำเป็นไม่ได้ยิน ก้มหนั้งตั้งใจตรวจชีพจรให้ท่านผู้เฒ่าฮ่อ
ดวงตาที่ลึกซึ้งฮ่อหยุนเฉิงจับจ้องอยู่ที่ซูฉิง
ต่างก็พูดว่าผู้ชายที่ตั้งใจทำงานมีเสน่ห์ดึงดูดต่อผู้หญิงที่สุด
แท้จริงแล้วผู้หญิงที่จริงจังและมีสมาธิก็มีเสน่ห์เช่นกัน
ฮ่อหยุนเฉิงมองใบหน้าด้านข้างของซูฉิง เครื่องหน้าทั้งห้าที่เล็กจุ๋มจิ๋มทั้งประณีตและงดงาม ผิวขาวกระจ่างใส คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะตกลงไปในหลุมพรางนี่
เขารอไม่ไหวแล้วที่แต่งผู้หญิงคนนี้เข้าบ้าน
ซูฉิงชีวิตนี้ เป็นได้แค่ผู้หญิงของเขาเท่านั้น!
เขามองอย่างจริงจัง กระทั่งพ่อบ้านหลี่เข้ามา ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่รู้สึกแม้แต่น้อย
ไม่กี่นาทีต่อมา ซูฉิงก็ตรวจชีพจรเสร็จ เธอค่อย ๆ วางมือของชายชราลง เธอถอนหายใจยาวด้วยอย่างโล่งอก “คุณปู่ฮ่อ ชีพจรของคุณปู่มั่นคงมาก นอกจากที่คุณปู่ป่วยมานานเกินไปก็ไมมีเรื่องใหญ่อะไร แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ตอนนี้บำรุงร่างกายให้ดีก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาช้าๆ”
“ลำบากเธอแล้ว” ท่านผู้เฒ่าฮ่อดึงมือซูฉิง ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
ครั้งนี้เขาไปเยือนประตูผีมาแล้วรอบหนึ่ง ถ้าไม่ใช่อาจารย์ฉีกับซูฉิง เกรงว่าจะผ่านมาไม่ได้
ซูฉิงกุมมือท่านผู้เฒ่าฮ่อ “จะลำบากได้ยังไงกันคะ คุณปู่ฮ่อวางใจได้ มีฉันอยู่ ต้องทำให้คุณปู่อายุยืนยาวเป็นร้อยปีแน่นอน!”
“ตอนนี้ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเป็นปู่อายุยืนยาวร้อยปี ปู่น่ะ แค่หวังว่าจะได้เห็นเธอแต่งงานกับหยุนเฉิง มอบหลานชายอ้วนท้วนให้ปู่” นายฮั่วลูบเคราของเขาและพูดกับ พูดพร้อมรอยยิ้ม
“หลานสาวก็ได้!” ท่านผู้เฒ่าเกรงว่าซูฉิงจคิดว่าเขาให้ความสำคัญกับผู้ชายดูแคลนผู้หญิง จึงรีบพูดเสริมเข้าไปอีกประโยค
ซูฉิงขัดเขินเล็กน้อย “คุณปู่ฮ่อ คุณปู่พูดอะไรน่ะ จะเร็วขนาดนั้นได้ยังไง”
“ไม่เร็วเลวเลยสักนิด” ฮ่อหยุนเฉิงก้าวมาข้างหน้าซูฉิง ก้มลงมามองเธอ “ฉันในตอนนี้รอไม่ไหวแล้ว”
ซูฉิง:!!!
เลิกพูดเรื่องนี้จะได้มั้ย น่าอายไปแล้ว…