ตอนที่ 102 ถ่ายภาพโปรโมตกับหรงเช่อ (2)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

มันเป็นกฎที่ไม่ได้ถูกบัญญัติไว้ในวงการบันเทิง ว่าศิลปินที่มีสถานะสูงกว่าจะได้รับเกียรติให้เข้าไปก่อนในงานอีเวนต์ 

 

 

สตาร์รี่ไนต์เคยได้รับความนิยมสูงกว่าหรงเช่อ แต่เพราะว่าระยะหลังมานี้ทั้งสามแทบไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมในงานอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งหมายถึงว่าพวกเขาออกงานน้อยมาก ถึงแม้ว่าจะมีฐานแฟนเพลงมหาศาลก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังสู้ความนิยมของหรงเช่อซึ่งถือว่ากำลังอยู่ในช่วงที่พีคสุดแทบไม่ได้เลย  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อรักษาสีหน้าไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆ เอาไว้ เหอจยาอวี่ขมวดคิ้ว ส่วนใบหน้าฉือหยวนเฟิงก็ดำทะมึนเหมือนกับรอยคล้ำที่ใต้ตาเลยทีเดียว 

 

 

มันช่างน่ากลัวจริงๆ! 

 

 

หรงเช่อมีรอยยิ้มของสายลมในคืนเดือนหงาย “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเลยที่ว่าใครจะเข้าก่อนเข้าหลัง ใช่ไหม” 

 

 

ระหว่างที่สตาร์รี่ไนต์ทั้งสามไม่แสดงทีท่าว่าจะตอบโต้ใดๆ อันซย่าซย่าก็พยักหน้าหงึกๆ อย่างมีความสุขไม่หยุด 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อรู้สึกเหมือนขมับของเขาเต้นตุบๆ กับท่าทางของเธอ 

 

 

ยัยซื่อบื้อ! 

 

 

หรงเช่อดูเหมือนจะสังเกตเห็นอันซย่าซย่า ในใจนึกวางแผน “และนี่คือ…” 

 

 

ผู้จัดการของเขากระซิบบอก “เราไม่จำเป็นต้องไปสนใจเด็กผู้หญิงนี่หรอก บางทีอาจจะเป็นแค่เด็กหน้าใหม่ที่บริษัทกำลังพยายามปลุกปั้นอยู่ก็ได้…” 

 

 

เมื่อได้ยินว่าตัวเองถูกกล่าวถึงโดยไอดอลขวัญใจ อันซย่าซย่าก็แนะนำตัวเองอย่างตื่นเต้น “ฉะ-ฉันชื่ออันซย่าซย่าและฉันเป็นแ-” ก่อนที่เธอจะทันได้พูดคำว่า “แฟนคลับ” ออกไป เซิ่งอี่เจ๋อก็ปิดปากพลางดึงตัวเธอกลับ 

 

 

พอเห็นอย่างนี้แล้ว เหอจยาอวี๋ก็ตระหนักได้ว่าเซิ่งอี่เจ๋อคงไม่เสียเวลามาตอแยกับหรงเช่อเรื่องนี้แน่จึงคลายท่าทีลงพลางลากตัวฉือหยวนเฟิงไว้ จากนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เชิญก่อนเลยครับ รุ่นพี่” 

 

 

หรงเช่อเข้าวงการบันเทิงมาก่อนพวกเขา ดังนั้นการเรียกแทนชื่อเขาว่า “รุ่นพี่” ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก 

 

 

ผู้จัดการของหรงเช่อทำเสียงออกจมูกดังหึ พลางมองพวกเขาอย่างเหยียดๆ 

 

 

หรงเช่อยิ้มและกำลังจะเดินเข้าอาคารอย่างสง่างาม 

 

 

เสียงเย็นชาของผู้หญิงคนหนึ่งหยุดเขาไว้ “ตายแล้ว เมื่อไหร่กันที่เด็กของฉันต้องหลีกทางให้พวกคุณ” 

 

 

หรงเช่อชะงักพลางหันกลับมามองและเห็นว่าหลูเคอกำลังเดินฉับๆ เข้ามาหาพวกเขาด้วยรองเท้าสีแดงส้นสูงแปดเซนติเมตร 

 

 

ใบหน้าผู้จัดการของหรงเช่อดูถมึงทึง ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้จักหลูเคอในฉายานางจิ้งจอก ไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นหรอกถ้าหากมีเธออยู่ใกล้ๆ! 

 

 

“สวัสดีครับเจ้เคอ” หรงเช่อยิ้ม “ในเมื่อเจ้เคอพูดอย่างนั้น ผมคิดว่าพวกคุณควรเข้าไปก่อน ยังไงซะพวกคุณทั้งหมดก็เป็นเด็กที่มีความสามารถรอบด้าน ผมไม่เคยสนใจกับเรื่องพวกนี้หรอก” 

 

 

เพียงแค่นั้น เขาก็กันตัวเองออกมาเป็นผู้ถูกกระทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ฝั่งสตาร์รี่ไนต์ถูกยัดเยียดไปโดยปริยายว่าไม่ทำตามธรรมเนียมและทำตัวกร่าง 

 

 

หลูเคอเองก็ไม่ใช่นางฟ้าที่ไหน เธอเย้ยกลับอย่างทันควันเหมือนกัน “ลูกผู้ชายควรจะทำในสิ่งที่เปิดเผยและตรงไปตรงมา พูดเสียดสีกันให้มันได้อะไร แต่ถึงจะมีลูกล่อลูกชนขนาดนี้ ใครบางคนก็ยังกลับมามือเปล่า อ้ออีกอย่างหนึ่ง ฉันได้มาว่าหรงเช่อพลาดรางวัลไปไม่น้อยในงานโกลเดนเมโลดีอะวอร์ดครั้งนี้ ช่างน่าเสียดาย” 

 

 

รอยยิ้มอันสมบูรณ์แบบของหรงเช่อสลดลงไปเล็กน้อย 

 

 

ผู้หญิงคนนี้ยังแค้นไม่หายกับเรื่องที่เกิดขึ้นคราวก่อน 

 

 

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของบริษัทที่ปั้นแต่งให้เขาในตอนนี้คือเจ้าชายผู้สง่างาม เป็นการไม่เหมาะสมที่เขาจะแสดงอารมณ์โกรธออกมาที่นี่ ระหว่างที่เขาพยายามรักษารอยยิ้มบนสีหน้า แต่ภายในใจนั้นกำลังก่นด่าวงศ์ตระกูลของหลูเคออยู่ 

 

 

อันซย่าซย่ากำลังปลื้มปริ่มเป็นอย่างมากในการได้เจอกับไอดอลในดวงใจ จนแทบน้ำลายไหลลงพื้น เซิ่งอี่เจ๋อหน้าถมึงทึง “อันซย่าซย่า เธอรู้ตัวบ้างไหมว่าทำท่าเหมือนหมาเห็นกระดูกเลย” 

 

 

“โฮะๆๆ …” หญิงสาวยังหัวเราะคิกคัก 

 

 

“เราควรเข้าไปได้แล้ว!” เหอจยาอวี๋เตือน 

 

 

อันซย่าซย่ายิ้มอย่างเลื่อนลอยขณะที่เดินไปข้างหน้า ตาก็ยังจับจ้องอยู่กับใบหน้าอันหล่อเหลาของหรงเช่อด้วยสีหน้าของแฟนเพลงผู้คลั่งไคล้ 

 

 

อย่างไรก็ตาม สมาชิกสตาร์รี่ไนต์ทั้งสามไม่มีใครขยับเขยื้อน หรงเช่อก็เช่นกัน ดังนั้นคนที่ก้าวเข้าไปคนแรกจึงกลายเป็นอันซย่าซย่าไปในที่สุด… 

 

 

เหอจยาอวี๋มองดูอย่างอายๆ ฉือหยวนเฟิงดูอึ้งทึ่งไป หรงเช่อและผู้จัดการของเขามองดูอย่างแทบไม่อยากเชื่อสายตา ขณะที่ใบหน้าของเจ้เคอเต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลายราวกับรูปวาดบนผ้าใบ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเป็นคนเดียวที่คิดต่าง ริมฝีปากของเขาปรากฏเป็นรอยยิ้มจากนั้นก็เดินตามอันซย่าซย่าเข้าไปข้างใน