เยี่ยจิ่งหานตกใจที่กำลังภายในของตนเองค่อยๆ หายไป ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป วิทยายุทธที่มีคงจะใช้การไม่ได้อีก

ขณะที่กำลังครุ่นคิดว่าจะหยุดมันยังไง อยู่ๆ กู้ชูหน่วนก็หยุดดูดซับกำลังภายในของเขา พร้อมกันนั้นใบหน้าเล็กๆ ที่ยับย่นเพราะความเจ็บปวดก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง

เยี่ยจิ่งหานเลือดลมแตกซ่านและมีเลือดพิษกระอักขึ้นมา

แม้ว่าการรักษาของกู้ชูหน่วนจะทำให้อาการบาดเจ็บจากพิษดีขึ้นมาก แต่เขาก็ยังต้องใช้กำลังภายในสกัดกั้นเอาไว้

ตอนนี้เขาสูญเสียกำลังภายในไปจำนวนมากอย่างปุบปับฉับพลัน อาการบาดเจ็บจากพิษกลายเป็นเหมือนน้ำที่เดือดพล่านและพร้อมจะล้นทะลักออกมาได้ทุกเมื่อ

เยี่ยจิ่งหานใช้ปราณฟื้นฟูพลังชีวิต พยายามระงับพิษภายในกายให้นิ่ง

กู้ชูหน่วนลืมตาขึ้นช้าๆ และส่งเสียงในลำคออย่างสบายใจ ทันทีที่ลืมตานางก็เห็นเยี่ยจิ่งหานนั่งอยู่ที่หน้าเตียง

นางลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจและรีบซ่อนแกนผลึกหิมะหมื่นปีเอาไว้

“ถึงเราจะเป็นสามีภรรยากัน แต่บัญชีบางอย่างก็ต้องแบ่งให้ชัดเจน ผลึกหิมะเหล่านี้ข้าเข้าไปหามาจากภูเขาสวินหลงและได้มาอย่างยากลำบาก ท่านจะมาแย่งของข้าไม่ได้”

เยี่ยจิ่งหานคร้านจะเถียงกับนาง

ถ้าเขาจะแย่งเขาคงแย่งไปนานแล้ว คงไม่รอมาจนถึงตอนนี้

กู้ชูหน่วนเพิ่งสังเกตเห็นว่าเยี่ยจิ่งหานมีสีหน้าซีดเผือด พลังปราณเบาบาง ร่างกายก็ดูอ่อนแอมาก

นางเอื้อมมือไปจับชีพจรของเขาและพยายามตรวจชีพจรให้ แต่เยี่ยจิ่งหานกลับสะบัดทิ้ง

กู้ชูหน่วนแข็งขืนจับมือเขาแน่น จากนั้นจึงตรวจชีพจรต่อ

ทันทีที่สัมผัสกับชีพจร กู้ชูหน่วนก็หน้าเสียยิ่งกว่าเดิม

“พิษของท่านกำเริบ นอกจากนี้กำลังภายในยังลดลงไปมาก ก่อนหน้านี้ท่านพบเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งรึ”

เยี่ยจิ่งหานชักมือกลับ นี่เป็นการเคลื่อนไหวธรรมดา แต่สำหรับเขาเวลานี้ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่ง

ศัตรูที่แข็งแกร่งที่ไหนจะดูดซับกำลังภายในของเขาไปถึงครึ่ง

ผู้หญิงคนนี้เอาเปรียบเขาไปแล้วยังจะอวดฉลาด

“นอนลง ข้าจะช่วยฝังเข็มควบคุมพิษให้ท่าน”

“ไม่ต้อง” เยี่ยจิ่งหานผลักรถเข็นเพื่อออกไปจากที่นี่ ทว่าทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็จู่โจมเข้ามาแล้วโยนเขาลงบนเตียง

เป็นท่าที่คลุมเครือ

เยี่ยจิ่งหานอยู่ด้านล่าง กู้ชูหน่วนอยู่ด้านบน

หากมองจากข้างนอกจะเห็นว่ากู้ชูหน่วนโถมตัวเข้าหาเยี่ยจิ่งหาน

ภาพการพบกันครั้งแรกผุดขึ้นมาในใจของเยี่ยจิ่งหานอีกครั้ง เขาโกรธ นึกอยากจะสะบัดมือโยนกู้ชูหน่วนออกไป แต่อีกใจก็กลัวว่าจะทำร้ายลูกในท้องของนาง

เขาพยายามดันกู้ชูหน่วนออกไปแต่ไม่เป็นผล ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาสูญเสียกำลังภายในมากเกินไป หรือเป็นเพราะพิษที่กำเริบ หรือเพราะกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งขึ้น เขาทำได้เพียงเอ่ยอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนให้เจ้ารีบออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างอนาถ”

กู้ชูหน่วนยิ้มนิดหนึ่ง นางใช้นิ้วที่เรียวยาวลูบจมูกของเยี่ยจิ่งหานอย่างรักใคร่ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “น่านะ ข้าก็แค่จะช่วยฝังเข็มให้ท่าน ไม่ทำอะไรท่านหรอก”

การกระทำที่สนิทสนมและน้ำเสียงที่ออดอ้อนทำให้เยี่ยจิ่งหานอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง แต่เขากลับลังเลที่จะผลักกู้ชูหน่วน ทำเพียงแค่เบนหน้าหนีและเอ่ยอย่างดึงดัน “เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นรึ”

“ไม่อยู่แล้วสิเพคะ ท่านอ๋องของพวกเราเป็นถึงเทพแห่งสงครามของรัฐเยี่ย เป็นผู้ที่ไร้พ่าย แค่พลิกฝ่ามือก็ควบคุมเมฆควบคุมฝนได้ นอกจากนี้ยังมีวรยุทธ์สูงส่ง หล่อเหลามีความสามารถ ใครจะไปทำอะไรท่านได้ ข้าก็แค่เป็นห่วงสุขภาพของท่านเท่านั้น”

หัวใจของเยี่ยจิ่งหานหวามไหวไม่หยุดเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้

ความมืดมนบนใบหน้าหายวับไปและถูกแทนที่ด้วยความสุขอันเบาบาง

“ฝังเข็มอย่างไร”

“คนเป็นหมอย่อมมีวิธีอยู่แล้ว ท่านถอดอาภรณ์ออกเสียสิ อ้อ ข้าสัญญาว่าคราวนี้จะต้องขับพิษออกจากร่างกายของท่านได้แน่”

เยี่ยจิ่งหานไม่เต็มใจเป็นอย่างยิ่ง

เขาไม่ชอบเปลื้องผ้าต่อหน้าผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้ชูหน่วน มันทำให้เขารู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่ง

เว้นเสียแต่ว่ากู้ชูหน่วนจะถอดด้วย หรือให้เขาเป็นฝ่ายรุก

“เจ้างูน้อยตัวนั้นกำลังมอง” เยี่ยจิ่งหานไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นเหตุผล ดังนั้นจึงหันไปโทษเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์

งูเก้าหัวสำรากออกมาเป็นภาษางู ส่งเสียงฟ่อออกมาสองสามครั้ง

รังแกงูงั้นเหรอ

มันชอบแค่ตัวเมีย ไม่ชอบตัวผู้

กู้ชูหน่วนกลอกตา “มันก็แค่งู จะไปเข้าใจอะไร แค่งูตัวเดียวท่านยังต้องป้องกัน อ๊ะ หรือท่านกลัวว่ามันจะกัดกล่องดวงใจของท่าน”

ถ้าไม่พูดถึงกล่องดวงใจก็คงจะดี เพราะตอนนี้สีหน้าของเยี่ยจิ่งหานมืดมนขึ้นมาทันตาเห็น