ตอนที่ 1562 รุ่มร้อนดั่งน้ำแข็ง (4) / ตอนที่ 1563 รุ่มร้อนดั่งน้ำแข็ง (5)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1562 รุ่มร้อนดั่งน้ำแข็ง (4)

“รับทราบ นายหญิง!”

ทันใดนั้น พลังจำนวนมากก็ไหลผ่านร่างนางจากวิญญาณ อวิ๋นลั่วเฟิงรีบรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ด้วยกันแล้วส่งผ่านร่างไปให้มังกรวารี

ขณะที่มังกรวารีคำราม พลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้มันจะเสียเปรียบอยู่แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาก็กลับมาเสมอกับสัตว์อสูรเพลิงแล้ว…

“ดูดกลืน!”

ขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงตะโกน มังกรวารีและสัตว์อสูรก็หายไปทันทีแล้วถูกดูดกลืนเข้าร่างนาง…

ขณะที่นางยังมีสติอยู่ นางก็เห็นแสงสองดวงอยู่ในวิญญาณนาง หนึ่งเป็นสีแดง ส่วนอีกหนึ่งเป็นสีฟ้า แสงทั้งสองจุดอยู่กันคนละฟากฝั่งและจ้องกันอยู่ตลอดเวลาเพื่อรอโอกาสได้เอาชนะอีกฝ่าย

อาจเป็นเพราะอวิ๋นลั่วเฟิงกำราบสัตว์อสูรเพลิงได้ ดังนั้นเปลวเพลิงรอบๆ จึงรีบเคลื่อนไปด้านข้างแล้วเปิดทางให้นาง…

“นายหญิง ข้าไม่รู้ว่านี่เป็นพรหรือคำสาป” เสี่ยวโม่พูดอย่างหมดหนทาง “ถึงแม้พวกเราจะช่วยมังกรได้แต่พวกเราก็…ช่วยเขาไม่ได้ตลอด ถ้าเขาแพ้ให้กับเพลิงแห่งการชำระล้างเมื่อไหร่ วิญญาณของท่านก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านทันที”

อวิ๋นลั่วเฟิงถามขณะครุ่นคิด “ทางแก้คืออะไร”

“ท่านสามารถหาอะไรที่มีคุณสมบัติธาตุน้ำเพื่อเพิ่มพลังให้มังกรวารีได้ จากนั้นพวกมันก็จะสมดุลกันแม้ว่าจะอยู่ในร่างของท่าน”

อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นมนุษย์ แน่นอนว่าไม่สามารถย่อยสลายมังกรวารีได้ ดังนั้นนางจึงได้แค่กดมันเอาไว้รวมกันกับเพลิงแห่งการชำระล้าง…

ถึงแม้ว่ามังกรวารีบางส่วนจะถูกหนูหาทองกินไปแล้ว แต่วิญญาณพวกนั้นก็ไม่สามารถมาช่วยนางได้กระนั้นมังกรวารีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์เพลิงอยู่ดี…

ตูม!

ตูม! ตูม! ตูม!

จู่ๆ ก็มีฟ้าแล่บและฟ้าร้องดังขึ้นแล้วพลังฌานทรงพลังจำนวนมากก็พุ่งเข้าสู้ร่างอวิ๋นลั่วเฟิง…

อวิ๋นลั่วเฟิงรีบนั่งขัดสมาธิ ปล่อยให้สายลมแรงพัดเส้นผมสีดำสนิทของนาง

“นายหญิง ยินดีด้วย ในที่สุดท่านก็เลื่อนระดับเป็นขั้นจักรพรรดิปราชญ์แล้ว!”

ในแคว้นเจ็ดเมืองมีแค่ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ยืนอยู่เหนือทุกสิ่งมีชีวิต! …

เวลาเดียวกัน คนในอาณาจักรก็ได้ยินเสียงดังมากจากด้านหลังหุบเขา พวกเขาทุกคนหันไปมองที่ด้านหลังหุบเขา…

เหนือด้านหลังหุบเขา พายุหมุนที่เต็มไปด้วยพลังไร้ที่สิ้นสุดและแรงกดดันมหาศาลก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ภายใต้แรงกดดันนี้ คนที่แข็งแกร่งไม่พอไม่สามารถแม้แต่จะยืนตรงๆ ได้…

ด้านหลังหุบเขา

เซวียนหยวนและองค์ราชินีกำลังดูปรากฏการณ์นี้อยู่ เทียบกับบุรุษที่ดูตื่นเต้นข้างๆ นางแล้ว องค์ราชินีกำลังวิตกกังวล

ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ใครกันที่ผ่านด่านเลื่อนระดับอยู่ที่เขตต้องห้ามด้านหลังหุบเขา หรือว่าจะเป็นอวิ๋นลั่วเฟิง

ไม่!

เป็นไปไม่ได้! อวิ๋นลั่วเฟิงตายแล้ว ไม่มีทางเป็นนางแน่!

ขณะที่องค์ราชินีกำลังคิดอย่างวิตกกังวลอยู่นั้น เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังนาง

เสวียนหยวนหันไปก็เจอผู้อาวุโสเดินเข้ามา เขาจึงพูดอย่างเคารพว่า “ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านมาแล้วหรือ”

ผู้อาวุโสสูงสุดดูตื่นเต้นมากๆ เขาจ้องพายุที่อยู่เหนือด้านหลังหุบเขาโดยไม่กะพริบตา เขาตื่นเต้นมากจนเสียงเปลี่ยน “เป็นเรื่องดีที่ในที่สุดก็มีใครบางคนในอาณาจักรเราผ่านด่านเลื่อนระดับเป็นจักรพรรดิปราชญ์ในรอบหลายปีมานี้ แต่ข้าไม่รู้ว่าเป็นใคร อาณาจักรเรามียอดฝีมือที่เก็บตัวอยู่ที่ด้านหลังหุบเขาด้วยหรือ”

เป็นไปไม่ได้!

เขาสั่งห้ามทุกคนไม่ให้เข้าไปที่ด้านหลังหุบเขาแต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนอาศัยอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตามคำสั่งห้ามก็เพิ่งมีขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้ว ไม่แน่อาจจะมีใครบางคนอาศัยอยู่ที่ด้านหลังหุบเขาก่อนหน้านั้นเพราะเขาไม่ได้ออกตามหาผู้รอดชีวิตด้วยคิดว่ามันอันตรายเกินไป

…………………………………..

ตอนที่ 1563 รุ่มร้อนดั่งน้ำแข็ง (5)

ดังนั้นก็น่าจะมีคนที่อาศัยอยู่ที่ด้านหลังหุบเขาคนเดียวซึ่งเพิ่งผ่านด่านเลื่อนระดับเป็นจักรพรรดิปราชญ์…

เขาไม่ได้คิดว่าเป็นอวิ๋นลั่วเฟิงเพราะตอนที่นางมาถึงอาณาจักร นางไม่ได้แสดงพลังให้เห็น

ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์แข็งแกร่งมาก! เด็กสาวอย่างนางจะผ่านด่านเลื่อนระดับถึงขึ้นนี้ได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้!

หวืด!

ตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีพลังแข็งแกร่งเกิดขึ้น ทำให้ทุกคนตัวสั่น พวกเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นเพียงร่างสีดำพุ่งผ่านท้องฟ้าแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา เขาเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาที่มีดวงตาเย็นชาและคมเหมือนตาเหยี่ยว เขายืนเอามือไพล่หลังอยู่บนท้องฟ้า ก้มหน้ามองคนที่อยู่ด้านล่างเหมือนจักรพรรดิที่ยืนอยู่เหนือผู้คน ไม่มีร่างของใครสะท้อนอยู่ในดวงตาเย็นชาและลึกลับของเขา เขาเย็นชาเกินกว่าจะเข้าใกล้

ทันทีที่องค์ราชินีเห็นชายหนุ่ม นางก็ตกตะลึง

นางคิดว่าองค์ราชาเป็นคนที่หล่อเหลาที่สุดในโลกแล้ว ไม่มีบุรุษคนใดเทียบเคียงเขาได้ แต่ว่าเมื่อเทียบชายหนุ่มเย็นชาทรงพลังข้างหน้านาง เสวียนหยวนก็เหมือนฝุ่นที่อยู่กับพื้น

ถ้า…นางไม่ได้ตกหลุมรักองค์ราชาแล้วเจอบุรุษผู้นี้ก่อน นางก็น่าจะตกหลุมรักเขา แต่ว่านางมีเสวียนหยวนอยู่ในใจแล้ว ไม่ว่าบุรุษผู้นี้จะโดดเด่นแค่ไหน เขาก็ไม่ได้สัมผัสหัวใจนาง…

เมื่อคิดถึงตรงนี้ องค์ราชินีก็หันหน้าไปมองเซวียนหยวนอย่างหลงไหล

“เจ้าเป็นใคร”

ผู้อาวุโสสูงสุดตะคอก ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนของอาณาจักรพวกเขา ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องจำบุรุษที่ทรงพลังเช่นนี้ได้

ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เขาเม้มปาก สายตาที่เขามองพายุเหนือด้านหลังหุบเขาเต็มไปด้วยความรักใคร่ สายตาเย็นชาของเขามีแต่ความอ่อนโยน…

“เจ้าเป็นคนที่เพิ่งผ่านด่านเลื่อนระดับที่ด้านหลังหุบเขาหรือ” ผู้อาวุโสสูงสุดถามพร้อมขมวดคิ้ว

เขาถามแบบนี้เพราะตอนที่ชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้น พายุก็ค่อยๆ หดเล็กเล็กลง ซึ่งหมายความว่าการเลื่อนระดับสำเร็จแล้ว…

แต่ทำไมเขาถึงมองที่นั่นราวกับมีใครบางคนอยู่ที่นั่นเล่า…

ที่น่างุนงงมากว่านั้นก็คือทำไมจู่ๆ ถึงมีบุรุษลึกลับมาปรากฏตัวที่อาณาจักรของพวกเขา

“นายน้อย…” เสวียนหยวนขมวดคิ้ว “ท่านคือ…”

“ไสหัวไป!” ชายหนุ่มตะโกนอย่างเย็นชา เขากลายเป็นคนเย็นเยือกไม่น่าเข้าใกล้อีกครั้ง ไม่ได้ดูอ่อนโยนเฉกเช่นเมื่อครู่ เขามองเสวียนหยวนอย่างไร้อารมณ์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ฝ่าบาท เขาหยาบคายมาก!” องค์ราชินีกระทืบเท้าอย่างโมโหแล้วเงยหน้ามองบุรุษเย็นชาบนฟ้า “ที่นี่เป็นเขตแดนของอาณาจักรพวกเรา เจ้าเป็นคนแปลกหน้าที่นี่ เจ้าควรจะอธิบายมา ไม่อย่างนั่นพวกเราจะสังหารเจ้า!”

ชายหนุ่มยังคงความเย็นชาแล้วไม่สนใจองค์ราชินีเหมือนว่าการเหลือบมองนางจะทำให้ดวงตาเขาสกปรก

องค์ราชินีหน้าแดงเพราะความโกรธ และในตอนที่นางกำลังจะสบถ นางก็เห็นศีรษะเล็กยื่นออกมาจากไหล่ของชายหนุ่ม…

มันเป็นแมลงสีเขียวมรกตที่งดงามจนผู้คนอยากจะเอาเขามาไว้ในมือแล้วชื่นชม แต่ว่าดวงตาของแมลงนี้…ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยเหยียดหยาม

ใช่แล้ว เหยียดหยาม!

เหมือนว่ามันกำลังหัวเราะในความโง่ขององค์ราชินี…

“ฝ่าบาท พวกเขากล้า…” องค์ราชินีกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ แม้แต่แมลงตัวเล็กๆ ยังกล้าดูถูกนาง