เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1075 อสรพิษเปลี่ยนเป็นมังกร

แปลโดย iPAT

 

ผมที่หกมองฟางหยวนและหัวเราะโดยปราศจากความหวาดกลัว

 

หากฟางหยวนต้องการแจ้งจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาจะไม่นั่งลงและกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมา

 

ผมที่หกกล่าว “ก่อนที่เจ้าจะมาที่นี่ ข้าจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเอาไว้แล้ว ไม่เพียงมันจะซ่อนพวกเราจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา มันยังสามารถปิดผนึกข้อตกลงพันธมิตร หากไม่เชื่อ เจ้าสามารถทดลอง”

 

ฟางหยวนเข้าร่วมนิกายหลางหยา เขาถูกผูกมัดด้วยข้อตกลงพันธมิตรและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้โดยอิสระ

 

หลังจากได้ยินคำกล่าวของผมที่หก ฟางหยวนทดลองมันและพบว่าเขาไม่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดข้อตกลงพันธมิตรจริงๆ

 

ฟางหยวนหรี่ตามองก่อนกล่าว “เจ้าซ่อนตัวได้ดีจริงๆ เอาล่ะ เจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

ผมที่หกรู้สึกโล่งอก เดิมทีเขาเกรงว่าฟางหยวนจะปฎิเสธโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ แต่ตอนนี้อุปสรรคแรกได้ผ่านไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามผมที่หกไม่สามารถประมาทฟางหยวนบุคคลที่ไร้ยางอายที่สุด แม้จะมีความเสี่ยงแต่ผมที่หกก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทดลองเท่านั้น

 

การทำธุรกรรมกับฟางหยวนไม่ต่างจากการวางแผนจับพยัคฆ์ มันอันตรายเกินไป

 

หลังจากธุรกรรมนี้จบลง พวกเขาจะถูกผูกมัดไว้ด้วยกัน เมื่อเวลานั้นมาถึง ผมที่หกจึงจะปลอดภัย

 

แต่วิธีบรรลุเป้าหมายโดยไม่สูญเสียผลประโยชน์มากเกินไปเป็นปัญหาที่ผมที่หกยังรู้สึกกังวล

 

‘อิงอู๋เซี่ยกับข้ามีความเป็นอริศัตรูกันอย่างลึกซึ้ง แต่พวกเขากลับมาหาข้าและกระทั่งเปิดเผยตัวตน สิ่งใดที่พวกเขาต้องการจากข้า น่าสนใจ ข้าอยากรู้นักว่าพวกเขากำลังจะทำสิ่งใด?’ ฟางหยวนคิด

 

“ข้าจะกล่าวตามตรง ตอนนี้ท่านอิงอู๋เซี่ยอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง หากไม่ใช่เพื่อความอยู่รอด ข้าจะไม่เปิดเผยตัวและมาพูดคุยกับเจ้า” ผมที่หกกล่าว

 

ฟางหยวนยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งและพิจารณาฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง

 

ความตรงไปตรงมาของผมที่หกทำให้ฟางหยวนลอบตกใจอยู่ภายใน

 

เหตุใดเขาจึงเปิดเผยจุดอ่อนของตนเองออกมาก่อนทำธุรกรรม?

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น ในความเป็นจริงแม้ผมที่หกจะไม่กล่าวออกมา ฟางหยวนก็สามารถคาดเดา แต่การกล่าวออกมาโดยตรงแสดงให้เห็นถึงความพยายามครั้งสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

 

‘ดูเหมือนหลังจากเข้าร่วมนิกายหลางหยา ข้าจะลดความระวังตัวลง กระทั่งฝ่ายตรงข้ามจะเป็นมนุษย์ขน เขาก็ยังเป็นสายลับของนิกายเงา แล้วเขาจะถูกกลั่งแกล้งโดยง่ายเช่นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้อย่างไร?’ ฟางหยวนตื่นตัวมากขึ้น

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนกล่าวอย่างช้าๆ “อิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณทั้งหมดของข้า เขายังได้รับความช่วยเหลือจากไห่ลั่วหลันและไท่เป่ยหยุนเฉิง แล้วเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร? ข้าปฎิเสธที่จะเชื่อ”

 

ผมที่หกส่ายศีรษะ “ฟางหยวน ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอีกต่อไป เจ้าซ่อนเจตจำนงพิเศษไว้ในวิญญาณเหล่านั้นและสั่งให้พวกมันทำลายตัวเอง เจ้าทำให้ท่านอิงอู๋เซี่ยประหลาดใจมาก เขาพยายามรักษาวิญญาณแต่มันเหลือเพียงสามสิบส่วนเท่านั้น”

 

ได้ยินเรื่องนี้ฟางหยวนมั่นใจแล้วว่าผมที่หกเป็นสายลับของนิกายเงา

 

นอกจากนั้นเขายังได้รับข้อมูลมากมายจากคำกล่าวของผมที่หก

 

‘ผู้ใดจะคิดว่าอิงอู๋เซี่ยจะควบคุมไห่ลั่วหลันได้จริงๆ ไห่ลั่วหลันเป็นคนน่าเกรงขาม นางไม่ใช่ตัวตนที่สามารถควบคุมได้โดยง่าย แต่หลังจากป้าของนางเสียชีวิต การจัดการนางก็ง่ายขึ้น นางมีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง หากใช้งานได้ดี นางจะกลายเป็นตัวหมากชั้นยอด’

 

‘ไท่เป่ยหยุนเฉิงเป็นคนใจดี แม้เขาจะขี้ขลาดเป็นบางครั้ง แต่เขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสองดวง เขาสามารถช่วยเหลือได้มาก แต่พวกเขากลับถูกควบคุมโดยอิงอู๋เซี่ย ช่างน่าอับอายนัก!’

 

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

โชคชะตาเป็นสิ่งลึกลับ

 

หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ฟางหยวนได้รับร่างใหม่ขณะที่อิงอู๋เซี่ยได้รับความมั่งคั่งทั้งหมดของเขา

 

ในฐานะร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ อิงอู๋เซี่ยไม่ขาดแคลนวิธีการที่น่าอัศจรรย์และสามารถควบคุมไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิง

 

‘อิงอู๋เซี่ยมีวิญญาณอมตะของข้าและไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิง แต่ตอนนี้เขายังต้องการทำธุรกรรมจากข้า ข้าจะทำให้เขาต้องจ่ายในราคาที่สาสม!’ ฟางหยวนคิด

 

อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดเผยจุดอ่อน ผมที่หกยังกล่าวต่อ “ก่อนทำธุรกรรม ให้ข้าแสดงความจริงใจของพวกเรา เจ้าสามารถคิดว่านี่คือค่าธรรมเนียม มันคือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการบ่มเพาะในอนาคตของเจ้า กล่าวอีกอย่างมันเกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายของเจ้า!”

 

ฟางหยวนก่นเสียงเย็น “เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดมากเกี่ยวกับมูลค่าของมัน ข้าสามารถประเมินด้วยตนเอง”

 

“ฟางหยวน เจ้ารู้จักเจตจำนงสวรรค์หรือไม่?” ผมที่หกถาม

 

“เจตจำนงสวรรค์?” ฟางหยวนถามกลับด้วยความสับสน

 

ผมที่หกพยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนกล่าว “เจ้าพลาดหลายสิ่งจริงๆ ฟางหยวน”

 

“เจ้าหลายถึงสิ่งใด?” คิ้วของฟางหยวนขมวดเล็กน้อย

 

ผมที่หกกล่าวต่อ “เจ้าได้รับคำแนะนำจากเจตจำนงสวรรค์และสามารถสลับร่างกับกายาแห่งความฝันของท่านอิงอู๋เซี่ย สุดท้ายจึงได้รับวิญญาณทารกอมตะ แต่เจ้าไม่รู้ว่ากายาแห่งความฝันถูกสร้างขึ้นโดยม่านเยี่ยนซื่อและมีข้อบกพร่องที่ดวงวิญญาณจะสูญเสียความทรงจำ เมื่อเวลาผ่านไปความทรงจำจะสูญหายไปเรื่อยๆ เพราะเรื่องนี้ท่านอิงอู๋เซี่ยจึงสูญเสียความทรงจำและสามารถใช้เพียงท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน”

 

ผมที่หกนำวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกมา

 

มันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์ทั่วไปแต่มันมีค่ามากสำหรับฟางหยวน หากไม่ใช่สถานการณ์คับขัน พวกเขาจะไม่มอบมันให้กับฟางหยวน

 

ตามแผนการเดิมของอิงอู๋เซี่ย เขาจะใช้จุดอ่อนนี้จัดการฟางหยวน แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่เขาต้องช่วยฟางหยวนจากจุดอ่อนนี้

 

“วิญญาณดวงนี้บันทึกข้อมูลก่อนและหลังเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียน ลองดู” ผมที่หกส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับฟางหยวน

 

หลังจากตรวจสอบและไม่พบปัญหา ฟางหยวนจึงกระตุ้นใช้งานวิญญาณดวงนี้

 

ภาพเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียนปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

เขาค้นพบความทรงจำที่ขาดหายไปมากมาย

 

‘ไม่แปลกใจเลยที่ข้ารู้สึกแปลกๆ แต่มันกลายเป็นว่าข้าสูญเสียความทรงจำ!’

 

อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสที่ฉากเหตุการณ์เหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงฟางหยวน

 

หลังจากตรวจสอบหลายครั้ง ฟางหยวนคิดก่อนกล่าว “ดูเหมือนข้าจะสูญเสียความทรงจำ แต่ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือเรื่องจริงหรือเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น?”

 

ผมที่หกกัดฟันแน่น

 

เขารู้ว่านี่เป็นส่วนที่ยากลำบากที่สุดในการทำธุรกรรมครั้งนี้

 

ฟางหยวนและอิงอู๋เซี่ยเป็นศัตรูที่ไม่สามารถอยู่ร่วมโลก มีเพียงการแสดงความจริงใจเท่านั้นจึงจะสามารถทำให้ฟางหยวนเชื่อพวกเขา

 

หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไข ธุรกรรมจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น

 

ความคิดของผมที่หกกำลังพุ่งชนกันอย่างรวดเร็ว เขากำลังพิจารณาถ้อยคำที่จะกล่าวกับฟางหยวนอย่างระมัดระวัง หลังจากทั้งหมดฟางหยวนสามารถสังหารผู้คนได้โดยไม่กระพริบตา หากเขากล่าวผิด นั่นอาจหมายถึงความตายของเขา แต่อิงอู๋เซี่ยต้องช่วยเหลือร่างหลักของพวกเขา สิ่งนี้ไม่สามารถล้มเหลว

 

หลังจากคิดเป็นเวลานาน ผมที่หกจึงเปิดปากกล่าว “ฟางหยวน เจ้ามีวิญญาณกาลเวลา เจ้ามีประสบการณ์ในการกำเนิดใหม่ ทุกคนรู้เรื่องนี้ แต่ความจริงก็คือ แม้เจ้าจะมีความลับมากมาย แต่เจ้าก็มีความเข้าใจน้อยกว่าพวกเรา”

 

“เจตจำนงสวรรค์มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งห้าภูมิภาคและเก้าสวรรค์ มันครอบคลุมทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต วิถีของสวรรค์คือการกำจัดส่วนเกินและรักษาสมดุล วิถีของมนุษย์คือสิ่งตรงข้าม ความต้องการของพวกเราไม่มีที่สิ้นสุด”

 

“เทพอมตะหรือตัวตนในตำนานเป็นเป้าหมายที่สวรรค์ต้องการกำจัด ภัยพิบัติและวิญญาณอายุยืนต่างเป็นไพ่ตายของมัน ฟางหยวน เจ้ามีประสบการณ์เกี่ยวกับภัยพิบัติมาถึงสองครั้ง ครั้งหนึ่งคือภัยพิบัติพิภพ อีกครั้งคือภัยพิบัติที่เกิดจากการหลอมรวมวิญญาณอมตะ ภัยพิบัติทั้งสองมีพลังอำนาจเกินกว่าหลักเหตุผล นั่นเป็นเพราะเจ้าขโมยวิญญาณทารกอมตะและใช้ร่างใหม่ที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัด เมื่อเจ้าเติบโตขึ้น เจ้าจะเหนือกว่าเทพอมตะทุกคนก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุนี้สวรรค์จึงต้องการสังหารเจ้าก่อนที่เจ้าจะสามารถเติบโตมากไปกว่านี้”

 

หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น

 

เขาพยายามหาคำตอบของคำถามนี้มาตลอด

 

แต่ตอนนี้ผมที่หกกลับมอบคำตอบให้เขาโดยตรง

 

‘เจตจำนงสวรรค์…’ ฟางหยวนคิดถึงคำๆนี้

 

ผมที่หกกล่าวต่อ “ร่างหลักของข้า เทพปีศาจจิตวิญญาณสร้างนิกายเงา กองกำลังพันธมิตรผีดิบ และหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะโดยใช้เวลานับแสนปี แต่สุดท้ายพวกเรากลับล้มเหลว สิ่งนี้เกิดจากเจตจำนงสวรรค์ ไม่เพียงภัยพิบัติใหญ่และหมื่นภัยพิบัติ พวกเรายังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูอีกนับไม่ถ้วน วังสวรรค์คือตัวแทนของสวรรค์ ขณะที่เจ้า ฟางหยวน เป็นนักฆ่าที่ซ่อนอยู่ของภัยพิบัติมนุษย์!”

 

“เจ้าหมายถึงสิ่งใด?” ฟางหยวนรู้สึกสนใจมาก คำกล่าวของผมที่หกกำลังจะทำให้สถานการณ์ของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

 

ผมที่หกลังเลเล็กน้อย

 

เขารู้ว่าเมื่อถ้อยคำเหล่านี้หลุดออกไป จุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟางหยวนจะถูกแก้ไข ในความเป็นจริงมันกระทั่งจะทำให้ฟางหยวนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่มีสิ่งใดสามารถกีดขวาง

 

ฟางหยวนเหมือนอสรพิษที่ดิ้นรนอยู่ในบ่อโคลน แต่เมื่อเขาได้รับข้อมูลนี้ อสรพิษจะมองเห็นโลกใบใหญ่ มันจะกลายเป็นมังกรที่ทะยานขึ้นจากบ่อโคลนและท่องเที่ยวไปทั่วโลกได้อย่างอิสระ

 

คำพูดเพียงไม่กี่คำแต่พวกมันจะทำให้สถานการณ์ของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้งเชิง