บทที่ 234 ท่านอ๋อง ขอพระราชทานอภัย

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 234 ท่านอ๋อง ขอพระราชทานอภัย

กล้าลงมือกับหนานหว่านเยียน?

เสิ่นอี่ว์ชำเลืองมองกู้โม่หานอย่างเงียบๆ ขนลุกชูชัน รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีพลังอาฆาตวนเวียนอยู่รอบตัวกู้โม่หาน

หากหยุนโม่หรานพูดมากอีกสักคำ กู้โม่หานอาจจะตัดหัวเขาก็ได้

หยุนโม่หรานยังพูดไม่ทันจบ ผ้าปิดหน้าก็ถูกอวี๋เฟิงกระชากออก

วินาทีต่อมาหยุนโม่หรานรู้สึกเพียงว่าทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าสว่างขึ้นมาทันที แต่สิ่งที่เข้าสู่สายตาก็คือใบหน้าของหยุนอี่ว์โหรวที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ยังมีใบหน้าเฉยเมยของกู้โม่หาน ไปจนถึง…การมองลงต่ำอย่างเย้ยหยันของหนานหว่านเยียน

หนานหว่านเยียนมองไปที่หยุนโม่หราน พลางยิ้มเยาะ “กำแหงนัก กล้าสังหารข้า พระชายารองส่งเสริมให้เจ้ากล้าหรือ?”

“ตูม” เสียงระเบิดดังขึ้นในหัวของหยุนโม่หราน เขารู้สึกหน้ามืดตาลาย

หยุนโม่หรานรู้ทันทีว่า หายนะกำลังเกิดขึ้นกับเขา…

ทันใดนั้นเขาก็ร้องขอความเมตตาตัวสั่นงันงก “อ๋องอี้ ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าแค่โมโหเกินไป ไม่รู้ว่าถูกใครลักพาตัวมา ก็เลย ก็เลยพูดออกไปโดยไม่ยั้งคิด…”

“ล้นเกล้าล้นกระหม่อม เห็นแก่ที่ข้าเป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของอี่ว์โหรว ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”

หยุนอี่ว์โหรวโกรธจัดจนแทบจะกระอักเลือดออกมา โกรธจนตัวสั่น

เมื่อครู่นางไม่กล้าบอกให้หยุนโม่หรานหุบปาก ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นร้อนตัวเสียเอง

เหมือนกับที่กู้โม่หานบอกไว้เมื่อวานนี้ นางรู้ว่าเขาฉลาดมาก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ขึ้นอยู่กับนาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่รู้อะไรเลย แต่นึกไม่ถึงว่าหยุนโม่หรานจะมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ปากเปราะถึงขนาดนั้น!

ตอนแรกนางไม่ควรเชื่อเขาเลย ให้เขาลงมือก็ควรจะเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว จับตัวได้พร้อมของกลาง!

ไม่ ไม่ นางจะตื่นตระหนกไปเองไม่ได้ ต้องรีบตัดความสัมพันธ์ให้ขาดสะบั้นโดยเร็วที่สุด

“ท่านอ๋อง…”

แต่กู้โม่หานไม่เปิดโอกาสให้หยุนอี่ว์โหรวพูด เขามองหยุนโม่หรานด้วยสายตาเยือกเย็น กล่าวอย่างเย็นชา

“ไว้ชีวิตเจ้า? เจ้าส่งคนมาลอบสังหารพระชายาของข้า แล้วยังใช้เงินในจวนอ๋องของข้าโดยพลการ สร้างปัญหาข้างนอกในนามของข้า ข้าจะยังไว้ชีวิตเจ้าได้อีกหรือ?”

พูดจบ เขาก็ชักดาบยาวออกมา แล้วแทงเขาอย่างแรง

ในชั่วพริบตา ดาบยาวก็เสียบเข้าที่ร่าง เลือดสาดกระเซ็นไปทุกทิศทาง

“ท่านอ๋องได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ท่านอ๋องได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!” หยุนโม่หรานหวาดกลัวจนฉี่ราด ถูกแทงอีกหนึ่งดาบ รู้สึกเจ็บปวดปิ่มจะขาดใจ ด้วยความกลัวตาย จึงรีบโดยความผิดไปให้หยุนอี่ว์โหรว

“ทะ…ท่านอ๋อง น้องสาวลูกพี่ลูกน้องให้เงินข้า นางข้าไปสังหารหนานหว่านเยียน ข้าถูกนางหลอกใช้!”

“หยุนโม่หราน เจ้าพูดบ้าอะไรอยู่!” หยุนอี่ว์โหรวอยากจะจับหยุนโม่หรานที่ไม่ไว้หน้าใคร ตัดเอ็นถลกหนังแล้วส่งไปฝังที่สุสานเหลือเกิน

“ข้าเคยให้เงินเจ้าก็จริง แต่ตอนแรกเจ้าสัญญากับข้า ว่าจะคืนเงินก้อนนี้เต็มจำนวนเมื่อเจ้าหาเงินได้”

“ข้าเป็นแค่ผู้หญิงที่ไม่มีที่ให้พึ่งพิงในจวนอ๋องอี้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้รับสิทธิ์ดูแลจวน ข้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้า ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยพูดถึงเจ้าในทางไม่ดีเลย แต่เจ้า…กลับโจมตีใส่ร้ายคนอื่นอย่างชั่วช้าเช่นนี้!”

นางมองกู้โม่หานร้องไห้ฟูมฟาย ทุกคำพูดดูเหมือนจะออกมาจากใจจริง

“ท่านอ๋อง ตอนนั้นเขาข่มขู่ข้า บอกว่าหากข้าไม่ให้เงินเขา เขาจะปล่อยข่าวลือออกไปภายนอกว่าข้ากับท่านอ๋องภายนอกดูสนิทสนมกันดีแต่ความจริงไม่ใช่ บอกว่าท่านเมินเฉยไม่เห็นจวนแม่ทัพอยู่ในสายตา โหรวเอ๋อร์ทำเพื่อท่าน เพื่อชื่อเสียงของจวนอ๋อง ข้าไม่มีทางเลือก…”

“แต่เรื่องมือสังหาร โหรวเอ๋อร์ไม่รู้เรื่องอะไรเลย! หากโกหกแม้แต่คำเดียว โหรวเอ๋อร์ยินดีให้ฟ้าผ่า ตายอย่างอนาจ!”

หยุนโม่หรานถูกหยุนอี่ว์โหรวจ้องเขม็งใส่จนไม่กล้าหายใจแรง ทันใดนั้นก็ตระหนักว่าตนเหมือนจะร้อนรนจนพูดอะไรผิดไป จึงทนเจ็บปวดโดยไม่กล้าเอ่ยปากอีก

กู้โม่หานชักดาบกลับอย่างแรง เขาชำเลืองมองหยุนอี่ว์โหรว เม้มริมฝีปากบาง แววตาแฝงความผิดหวัง

โหรวเอ๋อร์ เจ้าไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เหรอ?

“เป็นแค่บุตรของอนุจวนแม่ทัพไม่เพียงกล้าข่มขู่พระชายารองของข้าเท่านั้น แต่ยังกล้าลอบสังหารพระชายาของข้าอีก” เขาไม่มองหยุนอี่ว์โหรวอีก แต่มองไปที่หยุนโม่หรานอย่างเย็นชา “ทหาร ลากลงไปโบยให้ตาย!”

“ช้าก่อน! เขายังตายไม่ได้!” แววตาของหนานหว่านเยียนขรึมลง

นางไม่คาดคิดว่าหยุนอี่ว์โหรวจะเกี่ยงงานหนักจับแต่งานเบา ดื้อดึงใช้ข้ออ้างแบบนี้ เพื่อปัดเรื่องลอบสังหารออกจากตัวอย่างหมดจด

“กู้โม่หาน เรื่องมาถึงขั้นนี้ หลักฐานและพยานทั้งหมดอยู่ที่นี่ หากเจ้ายังปกป้องหยุนอี่ว์โหรวอย่างหูหนวกตาบอด ข้าจะเข้าวัง นำเรื่องนี้กราบทูลไทเฮาและเสด็จพ่อ”

หยุนโม่หรานเป็นพยานบุคคล เขาจะตายไม่ได้

นอกจากนี้นางก็ต้องการดูว่า กู้โม่หานจะยังช่วยเหลือหยุนอี่ว์โหรวเหมือนเคยหรือไม่

หากว่าไม่ใช่ เขาก็ยังมีโอกาสเยียวยา หากว่าใช่ ก็ไม่ต้องพูดพร่ำให้เสียเวลา เขาไม่สมควรแม้แต่จะยืนอยู่ต่อหน้านาง!

กู้โม่หานมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของหนานหว่านเยียน นางดูโกรธมาก สายตาที่นางมองเขานั้นห่างเหินและเย็นชา ราวกับมีคูน้ำขวางกั้นไว้

เขามองไปทางหยุนอี่ว์โหรวอีกครั้ง

“พระชายากล่าวหาเจ้าสองกระทง เจ้าจะยอมรับหรือไม่?”

หยุนอี่ว์โหรวตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวสายตาของเขา กระอักเลือดออกมาเต็มปากอีกครั้ง ลมหายใจอ่อนแรงและกระวนกระวาย “ท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์โอนเงินของจวนอ๋องโดยพลการนั้นมีความผิดจริง แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับโหรวเอ๋อร์จริงๆ เพคะ!”

พูดจบ นางก็ชำเลืองมองเชี่ยนปี้อย่างเงียบๆ

สายตาคมกริบดั่งมีด

เชี่ยนปี้ตัวสั่น หยุนอี่ว์โหรวมีบุญคุณช่วยเหลือครอบครัวนาง หากนางไม่ปกป้องหยุนอี่ว์โหรวในเวลานี้ เกรงว่าจะดวงถึงฆาตแล้ว

“บ่าวทำเองเพคะ! การลอบสังหารบ่าวเป็นคนบงการให้หยุนโม่หรานทำเอง พระชายารองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง!”

“ท่านอ๋อง ท่านทราบหรือไม่ว่าตั้งแต่พระชายารองเข้ามาในจวนอ๋อง ก็มีชีวิตที่มีน้ำตาอาบแก้มมาโดยตลอด? นางทำเพื่อท่านตลอดเวลา จนทำอย่างอื่นไม่เป็น สุขภาพของนางก็แย่ลงเรื่อยๆ บ่าวเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร แต่ท่านไม่เพียงไม่สนใจนางเท่านั้น ตรงกันข้ามกลับแสดงความรักกับพระชายาทุกวัน”

“บ่าวทนดูไม่ได้จริงๆ จึงแอบเขียนจดหมายถึงแม่ทัพหยุนในวันที่พระชายารองถูกแม่ทัพหยุนตามขอเงิน ขอให้เขาฆ่าพระชายา”

คำพูดของนางทุกคำทุกประโยคหนักแน่นทรงพลัง แต่ก็ซ่อนความไม่เต็มใจและโกรธแค้นอยู่มากเช่นกัน

หยุนอี่ว์โหรวแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“เชี่ยนปี้เจ้ากล้าดียังไง?” นางโซเซลุกขึ้น ตบหน้าเชี่ยนปี้สองครั้ง “เจ้ารู้ไหมว่าเรื่องที่เจ้าทำ จะทำให้ท่านอ๋องกับพระชายาเข้าใจข้าผิด?”

ใบหน้าของเชี่ยนปี้ทั้งแดงทั้งบวม ไม่กล้าพูดอะไรมาก

หยุนอี่ว์โหรวร่ำไห้ตัดพ้อ มองไปทางกู้โม่หาน “ท่านอ๋อง เชี่ยนปี้ทำอะไรเลอะเลือน เป็นเพราะโหรวเอ๋อร์อบรมไม่ดี เป็นความผิดของโหรวเอ๋อร์เอง โหรวเอ๋อร์ยินดีรับโทษ เงินห้าแสนตำลึง โหรวเอ๋อร์จะชดใช้ให้ แต่เรื่องลอบสังหารพระชายา โหรวเอ๋อร์ไม่รู้เรื่องจริงๆ ท่านอ๋องได้โปรดตรวจสอบให้กระจ่างด้วย”

กู้โม่หานมองหยุนอี่ว์โหรวอย่างลึกซึ้ง แล้วเอ่ยว่า…