บทที่ 333 สามประกายวารีเทพ น้ำเทพอมฤต

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 333 สามประกายวารีเทพ น้ำเทพอมฤต

เสิ่นเทียนประสานมุทราเปิดป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์

ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างเงากลางสายฟ้าประกายเซียนขึ้นร่างหนึ่ง

สายฟ้าประกายเซียนกระเพื่อมเบาๆ เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดังขึ้น “เทียนเอ๋อร์ การผจญภัยครั้งนี้คงราบรื่น ไม่ได้บาดเจ็บอะไรกระมัง!”

เสิ่นเทียนยิ้ม “ขอบคุณที่อาจารย์เป็นห่วง ทุกอย่างราบรื่น”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าช้าๆ “เช่นนั้นก็ดี ข้ากับพวกอวิ๋นซีจะไปถึงทะเลอุดรในเร็วๆ นี้ ก่อนหน้านั้นเจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี”

พวกอาจารย์จะมาทะเลอุดรรึ?

เสิ่นเทียนอึ้งไป “อาจารย์ พวกท่านไม่ต้องมารับข้าก็ได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผงะไปเช่นกัน คลื่นสายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายหยุดนิ่งชั่วครู่

จากนั้นประกายเซียนก็กระเพื่อมเบาๆ อีกครั้ง

เสียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดังมาจากในประกายเซียน “ได้ยินว่าเจ้าได้อะไรมามากมายในเขตทะเลเบิกฟ้า ทะเลอุดรคือถิ่นของเผ่าอสูร แม้เผ่ามังกรจะมีอำนาจสั่นสะเทือนทะเลอุดร แต่อาจารย์ก็ไม่ค่อยวางใจ เลยไปรับเจ้ากลับด้วยตัวเองดีกว่า!”

ถึงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะมีเสียงเฉยชา แต่เสิ่นเทียนกลับรู้สึกอบอุ่นมาก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่มาถึงทะเลอุดรเพื่อรับบบุตรศักดิ์สิทธิ์กลับโดยเฉพาะ นี่เป็นเกียรติเพียงใด ต้องให้ความสำคัญเพียงใด

ทั้งยังพาพวกศิษย์พี่หญิงจางอวิ๋นซีกับพวกศิษย์พี่ใหญ่มาด้วยกันอีก เหอะๆ นี่ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นครอบครัวใหญ่พี่รักน้อง น้องเคารพพี่ รักใคร่กลมเกลียวกันจริงๆ

…….

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ยิ้ม “ขอบคุณอาจารย์”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อย “อีกอย่างนะเทียนเอ๋อร์ เจ้าได้มรดกวิชาคุนเผิงมาจากทะเลอุดรใช่หรือไม่”

ซี้ด เหตุใดอาจารย์ถึงรู้ข่าวที่ข้าได้วิชาคุนเผิงไปล่ะ

เสิ่นเทียนพยักหน้าอย่างจริงใจ “ขอรับ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยราบเรียบ “สถานการณ์เป็นเช่นนี้ วันนี้ราชาเทพคุนแห่งเผ่าคุนสุญตาติดต่ออาจารย์มา เขาบอกข้าว่าบุตรชายคนเดียวของเขาคุนหมิงพบผาหยกคุนเผิงคู่หนึ่งในเขตทะเลเบิกฟ้า หวังจะตระหนักวิชาคุนเผิงในนั้น

ปรากฏว่าไม่ใช่ตระหนักล้มเหลว แต่ยังฝืนกลายเป็นเผิงจนธาตุไฟเข้าแทรก ตอนนี้อยู่ในอันตราย พอรู้ว่าเจ้ามีวิชาคุนเผิงสมบูรณ์ พวกเขาก็หวังว่าเจ้าจะช่วยได้”

คุนหมิงตระหนักรู้ล้มเหลวจนธาตุไฟเข้าแทรกรึ

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย

ก็ได้!

ผลลัพธ์เช่นนี้อยู่ในการคาดการณ์ของเสิ่นเทียนเช่นกัน

ถึงอย่างไรฟางฉางและฉีเซ่าเสวียนก็เคยผ่านมาก่อน เป็นผู้อาวุโส

เจ้าว่าไฉนถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ!

ตอนแรกข้าว่าจะร่วมเดินทางกับเจ้าอยู่แล้ว เจ้าไม่ตอบตกลง ทั้งยังด่าทอข้า

ตอนนี้เป็นอย่างไร กลายเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่คิดถึงใครเลยล่ะสิ!

เสิ่นเทียนยิ้ม “อาจารย์หมายความว่า”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “เผ่าคุนสุญตาเป็นขุมอำนาจระดับสอง มีศักยภาพแฝงลึกล้ำไม่อาจคาดเดา อีกทั้งยังไม่มีความแค้นกับฝ่ายเรา ตอนนี้เจ้าเผ่าคุนสุญตารุ่นปัจจุบันคุนซวีเป็นสหายสนิทของอาจารย์ ระหว่างนั้นยังรักใคร่กลมเกลียวกับแดนศักดิ์สิทธิ์เรา เคยร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในเขตแดนมากมาย

ดังนั้นหากไม่เป็นการบังคับ ข้าก็หวังว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เราจะไม่ผูกอาฆาตแค้นกับเผ่าคุนสุญตาเพราะวิชาคุนเผิง อีกทั้งเผ่าคุนยังมีไพ่ตายเยอะมาก หากบังคับขู่เข็ญพวกเขา เกรงว่าคงจะส่งผลไม่ดีกับเจ้าเทียนเอ๋อร์”

เสิ่นเทียนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว “อาจารย์หมายความว่าจะให้ศิษย์คืนวิชาคุนเผิงให้กับเผ่าคุนสุญตาใช่หรือไม่”

แม้จะคับอกคับใจอยู่บ้าง แต่เสิ่นเทียนอย่างไรก็ได้อยู่แล้ว

ถึงอย่างไรวิชาคุนเผิงก็เป็นโชคลิขิตของคุนหมิงอยู่แล้ว คืนให้คุนหมิงไปก็ถือว่าคืนเจ้าของเดิม กระทั่งหากไม่ใช่เพราะเจ้านี่ชิงรักหักสวาทกับเสิ่นเทียน เสิ่นเทียนก็คิดจะเชิญเขาไปตามหาผาหยกคุนเผิง ตระหนักวิชาคุนเผิงด้วยกันอยู่แล้ว

ตอนนี้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยปากขอแทนเผ่าคุน เสิ่นเทียนจึงให้เกียรตินี้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้าช้าๆ “ไฉนจะต้องคืนล่ะ”

เสิ่นเทียนงุนงง

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อม “ถึงข้าจะไม่อยากผูกอาฆาตแค้นกับเผ่าคุนสุญตาเพราะวิชาคุนเผิง แต่ก็ไม่ถึงขนาดกลัวเผ่าคุนสุญตา

ในเมื่อเทียนเอ๋อร์พบวิชาคุนเผิง เช่นนั้นก็เป็นโชคลิขิตของเจ้า เป็นของเจ้า เผ่าคุนสุญตาอยากได้หรือ ได้ แต่ไม่ได้ให้เปล่าๆ ต้องเอาผลประโยชน์มาแลก”

เสิ่นเทียนมึนงง

ดังนั้น อาจารย์เลยจะใช้วิชาคุนเผิงนี่ขู่กรรโชกคนอื่นเขารึ

……

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างราบเรียบ “ข้าเจรจากับคุนซวีมาแล้ว เผ่าคุนยินดีจะนำอาวุธอริยะสามชิ้นกับสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินชิ้นหนึ่งมาแลกกับมรดกสมบูรณ์วิชาคุนเผิงของเจ้า ขณะเดียวกันจะสงวนสิทธิ์ในมรดกนี้ให้กับศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์และเจ้าใช้เท่านั้น เทียนเอ๋อร์เจ้าคิดว่าอย่างไร

ถ้ายังไม่พอใจ อาจารย์จะไปเจรจากับคุนซวีอีก ขออาวุธอริยะมาอีกสองสามชิ้น ถึงอย่างไรต่อให้เผ่าคุนรุ่งเรืองขึ้นมาจริงๆ ข้าก็ไม่ถึงกับกลัวมันหรอก”

เพิ่งเอ่ยจบ พลังอำนาจรอบตัวเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เพิ่มมากขึ้น สายฟ้าประกายเซียนทรงพลังโหมซัดสาด ราวกับเคราะห์สวรรค์ยิ่งใหญ่

แม้แต่เสิ่นเทียนที่ตอนนี้มีศักยภาพแทบจะแขวนผู้สูงศักดิ์สวรรค์ส่วนใหญ่ทุบตีได้ ยังรู้สึกถึงแรงกดดันรุนแรงเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

แรงกดดันมหาศาลนั้นเหมือนกับตอนนั้นที่เผชิญหน้ากับเคราะห์สวรรค์ในหุบเขาหมอกลับแล

เห็นได้ชัดมากว่า ผู้อริยะที่เพิ่งทะลวงพลังเทียบกับระดับพลังของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เลย

หลังสัมผัสได้ถึงความจริงจังในคำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว เสิ่นเทียนก็ยิ้ม “ศิษย์ไม่มีความแค้นกับเผ่าคุน เพียงแค่เข้าใจผิดกันเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้เผ่าคุนยินดีจะแลกอาวุธอริยะสามชิ้นกับสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินหนึ่งชิ้นกับวิชาคุนเผิง สำหรับศิษย์แล้วเหมือนกับเก็บมาได้เปล่าๆ

แค่กๆ ศิษย์ถามได้หรือไม่ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินใด”

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมอีกครั้ง “สามประกายวารีเทพอันดับหกในรายนามวารีแท้ ได้รับขนานนามว่า ‘น้ำอมฤตเทพ’ อันนี้อาจารย์เป็นคนขอมาให้เจ้า สำหรับเจ้าแล้ว มูลค่าของมันสูงกว่าอาวุธอริยะสิบชิ้นอีก ต่อให้เป็นเผ่าคุนที่ร่ำรวย นี่ก็เป็นยอดสมบัติก้นหีบ ตอนที่อาจารย์ขู่จะเอาเจ้านี่ คุนซวีนั่นปวดใจจนกระโดดโหยงๆ เลย”

……

สามประกายวารีเทพ น้ำเทพอมฤต?

เสิ่นเทียนตัวสั่นเล็กน้อย เกิดความสนใจขึ้นอย่างแรงกล้า

วารีแท้เช่นนี้อยู่ในห้าดินแดนโลกข้างล่าง เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นสมบัติเทพเยียวยาสูงสุดที่แท้จริง

เล่าลือว่าต่อให้บาดเจ็บหนักกว่านี้ เหลือเพียงลมหายใจเดียว แค่ดื่มสามประกายวารีเทพครึ่งแก้ว ก็ฟื้นฟูกลับมาดังเดิมได้

ผลการเยียวยาของมันถึงขั้นแกร่งกว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานธรรมดา

หากหลอมรวมมันเข้าไปในกาย เช่นนั้นก็จะไร้พ่ายแล้ว แทบจะมีร่างเป็นอมตะ

เวลาต่อสู้บาดเจ็บที่ใดก็เคลื่อนสามประกายวารีเทพเข้าไป ก็จะเยียวยาได้ตลอดเวลา แล้วก็หมุนตัวกลับมาสับศัตรู

ผลลัพธ์เช่นนี้ ถึงขั้นเรียกได้ว่านมเซียนเดินได้!

แม้ผลลัพธ์ของมันจะซ้ำกับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานของเสิ่นเทียนไปบ้าง แต่มีใครบ้างไม่อยากมีสมบัติล้ำค่าเยอะๆ!

เจ้ามีเยี่ยนหลิงจีเป็นภรรยาแล้ว จะไม่อยากได้นางฟ้าไปครองรึ

มิหนำซ้ำ ถึงเสิ่นเทียนจะมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานเหลืออยู่มากมาย แต่ภายภาคหน้าก็จะค่อยๆ หมดลง

แต่หลังจากได้ต้นกำเนิดสามประกายวารีเทพมาบ่มเพาะในกาย ก็จะบำรุงกายเนื้อได้ตลอด ให้มันมีกายเป็นอมตะ

นี่เพิ่มทักษะการเอาตัวรอดของเสิ่นเทียนขึ้นสูงสด

ส่วนสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินล้ำค่าเช่นนี้ เหตุใดเผ่าคุนถึงทำใจปล่อยมือได้

เหตุผลก็ง่ายมาก เพราะถึงสมบัติสุดยอดเยียวยาจะล้ำค่า แต่ก็มีตัวแทนเยอะมาก

หากไม่ไหวจริงๆ ก็ถอยมาเป็นโอสถเยียวยารองลงมาได้!

แต่วิชาคุนเผิง เผ่าคุนไม่ยอมเสียไปแน่ ถ้าได้วิชาคุนเผิงสมบูรณ์กลับมา ศักยภาพของทั้งเผ่าคุนสุญตาจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เทียบกันแล้ว ต่อให้คุนซวีทำใจยอมไม่ได้มากกว่านี้ ก็ได้แต่ฝืนใจทิ้งสามประกายวารีเทพไป

…..

“ถ้าเทียนเอ๋อร์คิดว่าไม่มีปัญหา ก็ไปเมืองแห่งสุขาวดีเถอะ! คนของเผ่าคุนรออยู่ที่นั่นแล้ว เจ้าไปถึงก็จะส่งเข้าไปเป็นแขกที่หุบเหวสิ้นหวัง

ตามหลักแล้ว เผ่าคุนสุญตากระพือข่าวใหญ่โตเช่นนี้ ไม่มีทางล่วงเกินเผ่ามังกรและฝ่ายเรามุ่งร้ายกับเจ้าแน่ หากเจ้ายังไม่วางใจก็รออีกสองสามวัน รออาจารย์ไปถึงทะเลอุดรเมื่อไร จะส่งเข้าไปงานเลี้ยงด้วยตัวเอง”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความห่วงใยอันรุนแรงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เสิ่นเทียนก็ยิ้ม “ไม่เป็นไร ศิษย์ดูแลตัวเองได้”

ก็แค่ไพ่ตายไม่ใช่รึ!

ข้าเองก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน!

สายตาลึกล้ำมองลอดผ่านสายฟ้าประกายเซียนมามองเสิ่นเทียน

ผ่านไปพักใหญ่ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “เทียนเอ๋อร์เจ้าทำอะไรไว้ใจได้มาตลอด อาจารย์วางใจมาก เช่นนั้นเจ้าก็ไปก่อนเถอะ! รออาจารย์กับพวกศิษย์พี่ศิษย์น้องเจ้าไปถึงทะเลอุดรเมื่อไร จะไปรวมกับเจ้าเอง จำไว้ว่าให้มองความปลอดภัยของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ!”

เมื่อเอ่ยจบแล้ว แสงสว่างจากป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มเก็บกลับเข้าไปช้าๆ

ร่างของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็หายไปในมวลอากาศช้าๆ เช่นกัน

ก่อนจะค่อยๆ ปรากฏร่างของเยี่ยฉิงชางขึ้นกลางประกายสีม่วงหนาทึบ

เขาหัวเราะเยาะ “เจ้าหนูนี่ต่อราคาโหดจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะให้คนอื่นเขาเอาสามประกายวารีเทพมาแลกกับวิชาคุนเผิง อีกทั้งยังได้อาวุธอริยะเพิ่มมาอีกสามชิ้น เดาว่าคงใกล้จะแตะเส้นตายการเงินของเผ่าคุนแล้ว”

เสิ่นเทียนใจฝ่อเล็กน้อย “แค่กๆ เยี่ยเหล่าท่านว่าอาจารย์ต่อราคาเช่นนี้ ข้าไปงานเลี้ยงเผ่าคุนแล้ว จะไม่โดนเผ่าคุนทำเป็นกับข้าวรึ”

เยี่ยฉิงชางแบะปาก “เถอะน่า! เจ้าหนูจางหลงหยวนทำอะไรรอบคอบ ทั้งยังมองเจ้าเป็นลูกรักยิ่งกว่าบุตรสาวเขาอีก ถ้าไม่มั่นใจเต็มสิบ เขาจะให้เจ้าไปเสี่ยงอันตรายถึงเผ่าคุนรึ วางใจเถอะ อีกอย่าง พูดอย่างกับว่าเจ้าจะไปเผ่าคุนด้วยตัวเองอย่างนั้นแหละ”

เสิ่นเทียนงุนงง

…….

จะแขวะก็แขวะไป อย่างไรก็ต้องไปเผ่าคุน

ไม่ว่าอย่างไร คุนหมิงธาตุไฟเข้าแทรกเพราะมีความผิดของเสิ่นเทียนด้วย

แม้เจ้านี่จะยั่วยุเสิ่นเทียนก่อนเพราะชิงรักหักสวาท กระทั่งอยากทุบตีเสิ่นเทียน

แต่เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ที่ใจกว้างอย่างยิ่ง เสิ่นเทียนคิดว่าควรจะมีใจโปรดสัตว์ต่อเผ่าอสูร

อืม ไม่ใช่เพราะสามประกายวารีเทพกับอาวุธอริยะเด็ดขาด แต่เป็นเพราะส่งเสริมความดีงามที่แท้จริง!

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะยื่นมือขวาออกมาช้าๆ

ของเหลวโลหิตสีแดงอมทองไหลมาตามปลายนิ้วเสิ่นเทียนทีละหยด ไม่นานก็รวมเป็นก้อนโลหิตขนาดเท่าฝ่ามือ จากนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก บุรุษรูปงามที่สุดแห่งยุคในชุดผ้าแพรมังกรขาวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเสิ่นเทียน นอกจากกลิ่นอายพลังที่อ่อนแอกว่าเสิ่นเทียนแล้ว ใบหน้าแทบจะไม่มีความต่างใดๆ กันเลย

“บุตรเทพโลหิตที่หลอมขึ้นมาในช่วงนี้หล่อเหลายิ่งขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ”

เสิ่นเทียนเพ่งพินิจร่างแยกโลหิตตรงหน้าพลางแอบพยักหน้า “เจ้าคุนหมิงเหมือนจะไม่ชอบคนหน้าตาดีเอามาก ไม่รู้ว่าข้าไปงานเลี้ยงเผ่าคุนครั้งนี้ เขาจะนิสัยดีขึ้นบ้างหรือไม่”

…….

ชายหนุ่มผ้าแพรคนหนึ่งเดินออกมาจากในเกาะรกร้างยักษ์เนิบนาบ

เขามองเขตทะเลกว้างไกล ปีกเทพทองคำกางออกข้างหลังเขาช้าๆ

พรึ่บ!

ปีกเทพพลันกระพือปีก ชั่วพริบตาเดียวมวลอากาศแตกกระจาย แสงทองสว่างจ้าพุ่งไปยังเมืองแห่งสุขาวดี

วันนั้นมีข่าวออกมาว่า ‘บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนรับคำเชิญของคุนซวี ไปเป็นแขกที่หุบเหวสิ้นหวัง’

เวลานี้ ทะเลอุดรสั่นสะเทือน

…………………………………….