บทที่ 240 จุดเริ่มต้นของสงครามระหว่างสองดินแดน ความทะเยอทะยานของรา

จอมบงการเทพยุทธ์

บทที่ 240 จุดเริ่มต้นของสงครามระหว่างสองดินแดน ความทะเยอทะยานของรา

“แดนทมิฬ…..”

ฉินมู่ยืนอยู่บนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ก้าวไปข้างหน้าโดยสังเกตและได้เข้าใจทุกอย่างในแดนทมิฬ

สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่หาจุดสิ้นสุดได้ยากคล้ายกับแดนนิรันดร์ แม้จะเป็นราชันอมตะก็คงต้องใช้เวลานานในการสํารวจพื้นที่ให้ครบทั้งสี่ทิศ

และหมื่นวิถีของดินแดนนี้มีความชัดเจนและสมบูรณ์มากกว่าแดนนิรันดร์ ราชันผู้กําแหงที่มีพรสวรรค์เหมือนกันหากพวกเขาฝึกฝนในแดนนิรันดร์และแดนทมิฬพลังการต่อสู้ของราชันผู้กําแหงที่ฝึกฝนในแดนทมิฬจะเหนือกว่าในแดนนิรันดร์อย่างแน่นอน และเมื่อเวลาผ่านไป ช่องว่างนี้จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยเหตุผลนี้เองที่สามารถอธิบายได้ว่าทําไมปริมาณและคุณภาพของราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬถึงสูงกว่าแดนนิรันดร์

เนื่องจากพลังฟ้าดินที่นี่มีความสมบูรณ์กว่า การฝึกวิชาจึงง่ายกว่ามากและด้วยจํานวนราชันผู้กําแหงและยอดฝีมือที่เกิดสะสมตลอดปีอันไร้ที่สิ้นสุดนั้นเป็นปกติที่จะมีมากกว่าแดนนิรันดร์ความแตกต่างระหว่างพลังต่อสู้ระดับสูงในดินแดนทั้งสองก็สะท้อนให้เห็นในเรื่องนี้เช่นกัน นอกจากนั้น สถานที่แห่งนี้ก็ไม่ต่างจากแดนนิรันดร์เลยจริงๆ

กระแสพลังแห่งฟ้าดินนั้นยอดเยี่ยมเปี่ยมไปด้วยสมบัติอันล้ําค่า และสามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตในแดนทมิฬได้ทุกหนทุกแห่ง

ส่วนใหญ่มันจะเหมือนกับสิ่งมีชีวิตทั่วไปของแดนนิรันดร์ มีความแข็งแกร่งที่ต่ํา แต่เนื่องจากพลังแห่งฟ้าดินนั้นมีความอุดมสมบูรณ์ มันจึงมีช่วงชีวิตที่ยาวนาน

ฉินมู่ก้าวไปข้างหน้าหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ไปถึงส่วนลึกของแดนทมิฬ และมาถึงวิหารบูชายัญโบราณที่ซึ่งมีราชันอมตะอาศัยอยู่

นี่คือสถานที่ซึ่งลึกและเงียบสงบที่สุดในแดนทมิฬ มีเพียงวิหารโบราณเท่านั้นที่อยู่ที่นี่และปกคลุมไปด้วยหมอกสีดําซึ่งคงอยู่ตลอดไป

เมื่อนับดูดีๆ แล้ว ที่นี่มีวิหารโบราณหลายสิบแห่ง!

วิหารโบราณทุกแห่งมีกระแสพลังแสดงถึงตัวตนของราชันอมตะ!

แต่ทว่า ไม่ใช่ทุกวิหารที่มีกระแสพลังของราชันอมตะเล็ดลอดออกมา

วิหารบูชายัญโบราณที่ตั้งอยู่ที่นี่ สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีราชันอมตะถือกําเนิดขึ้น และยังมีราชันอมตะอยู่บ้าง และร่างที่แท้จริงของพวกเขาไม่ได้อยู่ภายในวิหารโบราณนี้แต่กําลังหลับไหลอยู่ที่อื่น

นอกจากนี้ยังมีราชันอมตะบางคนที่ได้ตกลงไปในแม่น้ําสายยาวแห่งประวัติศาสตร์แล้ว แต่วิหารที่นี่ยังไม่ได้ถูกลบออกไป

ดังนั้น จํานวนของราชันอมตะแห่งแดนทมิฬที่เหลืออยู่ยังคงเป็นปริศนา

แต่ถึงกระนั้น รากฐานของแดนทมิฬก็ยังคงแข็งแกร่งมากจนสามารถบดขยี้แดนนิรันดร์ได้”ค่อนข้างแปลก ราชันอมตะมากมายขนาดนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?”

ฉินมู่ควบคุมร่างกายของเขาไม่ให้รบกวนราชันอมตะใดๆ เขายืนอยู่ท่ามกลางวิหารโบราณด้วยแววตาที่สงสัยของเขา

แม้ว่าวิถีของแดนทมิฬจะสมบูรณ์กว่าหมื่นวิถีในแดนนิรันดร์ และจํานวนราชันผู้กําแหงและยอดฝีมือที่ถือกําาเนิดขึ้นก็มีมากกว่าด้วยนั้นแต่สิ่งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวตนที่มีเขตแดนราชันอมตะ

ราชันอมตะเป็นตัวแทนของจุดสูงสุดของเขตแดนดังกล่าว และแม้กระทั่งในหลายยุคสมัยก็ยังไม่เคยถือกําเนิดขึ้น

การถือกําเนิดของราชันอมตะใดๆต้องใช้ความสามารถอันยิ่งใหญ่ ความอุตสาหะและโอกาสที่ดี!ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้!

และสิ่งนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับจํานวนราชันผู้กําแหงมากนัก

เพราะมีเพียงราชันผู้กําแหงอันดับต้นๆ พร้อมกับโอกาสที่ท้าทายสวรรค์มากที่สุดเมื่อนั้นราชันอมตะถึงจะถือกําเนิดได้

กล่าวคือ แม้ว่าจะมีช่องว่างในพลังการต่อสู้ระดับสูงสุดระหว่างแดนทมิฬและแดนนิรันดร์ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีช่องว่างมากขนาดนี้

และคําถามนี้ แม้แต่เขตแดนกึ่งจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ของฉินมู่ ก็ยังคงสับสนและไม่สามารถหาค่าตอบได้

“อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ข้าพอจะเข้าใจได้ว่าทําไมราชันอมตะแห่งแดนทมิฬเหล่านี้จึงยืนกรานและต้องการจะบุกรุกแดนนิรันดร์”

ดวงตาของฉินมู่เปล่งประกายเจิดจ้า เมื่อเขามองไปยังวิหารโบราณด้วยแววตาที่ดูโล่งใจ”หมื่นวิถีของแดนทมิฬนั้นสมบูรณ์กว่าแดนนิรันดร์แต่ก็มีความแตกต่างระหว่างวิถีของสองดิน แดนเสมอ การบุกรุกแดนนิรันดร์เพื่อรวมสองดินแดนให้เป็นหนึ่งเดียวทําให้วิถีแห่งฟ้าดินสมบูรณ์และเติมเต็มวิถีข้างหน้าโดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถก้าวไปถึงเขตแดนที่สูงขึ้นได้นี่คือแผนของราชันอมตะอย่างงั้นรึ?”

ตามหลักแล้ววิถีแห่งฟ้าดินของแดนทมิฬนั้นสมบูรณ์ยิ่งกว่าแดนนิรันดร์ และดินแดนนี้กว้างใหญ่อย่างไร้ที่สิ้นสุดดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องบุกรุกแดนนิรันดร์

เป็นเหตุผลที่ว่า เมื่อก้าวไปสู่เขตแดนราชันอมตะ ควรดําเนินการตามขั้นตอนและควรได้รับการพัฒนาในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องแต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาราชันอมตะรุ่นต่อรุ่นไม่เคยละทิ้งความทะเยอทะยานที่จะบุกแดนนิรัน

ตอนนี้ ฉินมู่เข้าใจความคิดของพวกเขาโดยสังเกตจากรูปปั้นของราชันอมตะที่นี่เห็นได้ชัดว่าวิถีแห่งฟ้าดินที่นี่มีความสมบูรณ์กว่ากว่าสถานที่อื่นๆในแดนทมิฬ

วิถีแห่งฟ้าดินที่สมบูรณ์กว่านี้ มันค่อนข้างคล้ายกับหมื่นวิถีของแดนนิรันดร์!

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นผลมาจากการที่ราชันอมตะอนุมานตามวิถีของแดนนิรันดร์แล้วทําตามวิถีแห่งฟ้าดินในพื้นที่แห่งนี้ได้

ความจริงที่แท้จริงอาจจะเป็นเช่นนั้น

เป็นเวลาหลายร้อยล้านปีที่ราชันอมตะแห่งแดนทมิฬไม่เคยก้าวข้ามเหนือเขตแดนราชันอมตะในมุมมองของพวกเขา อาจไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาขาดกําลัง แต่เป็นเพราะวิถีแห่งฟ้าดินที่ไม่สมบูรณ์

หากแดนทมิฬสามารถรวมกับแดนนิรันดร์จนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ มันจะช่วยเสริมวิถีแห่งฟ้าดินให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

และด้วยวิธีนี้บางทีพลังของฟ้าดินอาจช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามไปสู่เขตแดนที่สูงขึ้นได้!นี่คือเหตุผลที่เมื่อหลายพันล้านปีก่อนราชันอมตะหลายชั่วอายุต่างก็หมกมุ่นอยู่กับแดนนิรันดร์ และไม่เคยยอมแพ้ในการผนวกแดนนิรันดร์!