เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1077 ธุรกรรมกับนิกายเงา (2)

แปลโดย iPAT

 

“แล้วเราจะทำธุรกรรมอย่างไร? พวกเจ้าต้องการสิ่งใด?” ฟางหยวนถามด้วยการแสดงออกที่เป็นมิตร

 

“ฟางหยวน เรารู้ว่าเจ้ามีทรัพยากรอมตะมากมาย ทรัพยากรอมตะที่มาจากโลกใต้บาดาลมีปัญหา พวกมันเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ พวกเราไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น แต่ทรัพยากรอมตะที่มาจากน้ำตกสวรรค์สามารถใช้ได้ นี่คือรายการสินค้าที่พวกเราต้องการ ลองดู” ผมที่หกส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับฟางหยวน

 

ฟางหยวนตรวจสอบก่อนพยักหน้า

 

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนจึงเปิดปากกล่าว “ข้ามีทรัพยากรอมตะเกือบทั้งหมด แต่ในฐานะสมาชิกหลักของนิกายหลางหยา ไม่ใช่ว่าเจ้าสามารถขอสิ่งเหล่านี้จากนิกายงั้นหรือ?”

 

ผมที่หกเผยรอยยิ้มขมขื่น “ตอนนี้แตกต่างออกไป จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนใหม่ไม่เหมือนก่อนหน้า ในนิกายหลางหยา ทุกอย่างต้องใช้แต้มผลงาน หากข้าต้องการสมบัติบางอย่าง ข้าต้องใช้แต้มผลงานในการแลกเปลี่ยน แต่แต้มผลงานของข้ามีไม่พอกับความต้องการของท่านอิงอู๋เซี่ย”

 

“เจ้าพูดถูก” ฟางหยวนพยักหน้าก่อนถาม “ข้าสามารถมอบทรัพยากรเหล่านี้ แต่เจ้าจะส่งให้อิงอู๋เซี่ยอย่างไร? สวรรค์สีเหลืองปิดในเวลานี้”

 

อิงอู๋เซี่ยขายวิญญาณอมตะและทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น แน่นอนว่าฟางหยวนรู้เรื่องนี้

 

ผมที่หกกล่าวต่อ “สวรรค์สีเหลืองไม่สามารถใช้งาน แต่เรามีวิธีส่งทรัพยากรเหล่านี้ไปให้ท่านอิงอู๋เซี่ย กองกำลังพันธมิตรผีดิบเป็นกองกำลังย่อยของนิกายเงา ก่อนการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ปีศาจอมตะเซี่ยหูจับตัวผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ ดังนั้นกองกำลังพันธมิตรผีดิบจึงสร้างสุดยอดค่ายกลวิญญาณเพื่อเชื่อมต่อทั้งห้าภูมิภาค”

 

“เดิมทีข้าคิดว่ามันเป็นเพียงข้องอ้างเพื่อปิดบังแผนการของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแต่มันกลับเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?” ฟางหยวนประหลาดใจเล็กน้อย

 

ผมที่หกเผยรอยยิ้มขมขื่น “นี่เป็นเรื่องจริง การบูชายัญกองกำลังพันธมิตรผีดิบเพื่อหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะไม่ได้อยู่ในแผนการเดิมของนิกายเงา แต่ในเวลานั้นเราไม่มีทางเลือก กองกำลังพันธมิตรผีดิบมีประโยชน์มาก หากเป็นไปได้เราจะเก็บพวกเขาเอาไว้”

 

ฟางหยวนพยักหน้า

 

เขาคิดถึงช่วงเวลาห้าร้อยปีในชีวิตแรก ระหว่างช่วงเวลาเหล่านั้นกองกำลังพันธมิตรผีดิบยังอยู่ แต่การกำเนิดใหม่ของฟางหยวนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

ตอนนี้กองกำลังพันธมิตรผีดิบเหลือเพียงความว่างเปล่า ผีดิบอมตะส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ

 

กระทั่งถึงเวลานี้ทั้งห้าภูมิภาคยังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายเพราะมัน

 

หลังจากทั้งหมดกองกำลังพันธมิตรผีดิบครอบครองทรัพยากรจำนวนมหาศาล

 

ทรัพยากรเหล่านี้กลายเป็นไร้เจ้าของ ผู้อมตะและกองกำลังใหญ่ต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิงพวกมัน

 

‘ดูเหมือนในช่วงชีวิตแรกของข้า นิกายเงาจะประสบความสำเร็จจริงๆ การดำรงอยู่ของกองกำลังพันธมิตรผีดิบสามารถพิสูจน์เรื่องนี้ วังสวรรค์โจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาส่งผลให้ฟงจิวเก้อเสียชีวิต แต่มันยังน่าสงสัย นิกายเงามีสายลับอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แต่พวกเขากลับปล่อยให้มันตกอยู่ในกำมือของวังสวรรค์แทนที่จะเก็บไว้เอง’

 

ฟางหยวนคิดและรู้สึกว่ามีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่เบื้องหลัง

 

‘ความลับของโลกใบนี้ถูกซ่อนไว้ลึกเกินไป ตัวตนในตำนานปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องและวางแผนต่อต้านกันเอง พวกเขาเหมือนดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่บนท้องฟ้า หากเปรียบเทียบ ข้ายังไม่ถือว่าโดดเด่น ฮ่าฮ่า แต่ก็เพราะเหตุนี้ มันจึงยิ่งน่าสนใจมิใช่หรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า’

 

ฟางหยวนคิดและรู้สึกมีความสุข

 

มุมปากของเขายกตัวขึ้นเล็กน้อย

 

ผมที่หกไม่เข้าใจ เขาคิด ‘เขายิ้มเพราะเหตุใด? แล้วเหตุใดข้าถึงรู้สึกไม่ดี…’

 

ฟางหยวนมองผมที่หกด้วยสายตาแหลมคมก่อนกล่าว “เช่นนั้นข้าจะได้รับสิ่งใดเป็นการแลกเปลี่ยน?”

 

“วิญญาณอมตะ” ผมที่หกตอบ

 

“น่าสนใจ น่าสนใจ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

 

วิญญาณอมตะดวงใดที่อิงอู๋เซี่ยจะนำออกมาแลกเปลี่ยน? แน่นอนว่ามันต้องเป็นวิญญาณอมตะของฟางหยวน!

 

ขายวิญญาณอมตะคืนให้กับเจ้าของ นี่เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง

 

กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกว่าความคิดของอิงอู๋เซี่ยดีมาก

 

ในโลกใบนี้ ผู้ใดจะต้องการวิญญาณอมตะเหล่านั้นมากไปกว่าฟางหยวน? หากมี มันก็มีไม่มาก

 

สำหรับผู้อมตะคนอื่นๆ พวกเขายังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับตนเอง ดังนั้นวิญญาณอมตะเหล่านี้จึงมีค่ากับฟางหยวนมากกว่าผู้ใด

 

เพราะความแตกต่างของแต่ละเส้นทางและพลังงานแห่งเต๋าที่อาจขัดแย้งกัน มันจึงเป็นเรื่องยากที่ผู้อมตะจะใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางสายอื่น เว้นเพียงพวกเขาจะใช้มันเป็นส่วนประกอบของท่าไม้ตายอมตะ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่หาได้ยากเช่นกัน

 

สามารถกล่าวได้ว่าฟางหยวนเป็นลูกค้าที่ดีที่สุด ไม่เพียงเขาจะเคยใช้วิญญาณอมตะเหล่านั้นมาก่อน แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขามีกำลังซื้อ!

 

เกี่ยวกับวิธีขนส่งวิญญาณอมตะ พวกเขาจะใช้ค่ายกลวิญญาณของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ

 

ฟางหยวนยิ้ม “วิญญาณอมตะของข้าเหลือกี่ดวง? ไม่เพียงข้าจะต้องการซื้อพวกมัน ข้ายังต้องการซื้อวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง วิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า และวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้า”

 

ผมที่หกพิจารณาก่อนจะพยักหน้า “ข้าสามารถตัดสินใจเรื่องนี้และตกลง”

 

อิงอู๋เซี่ยเซี่ยควบคุมไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน เขาสามารถบังคับให้คนทั้งสองส่งมอบวิญญาณอมตะเหล่านี้ สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการหลบหนี ส่วนเรื่องอื่นเป็นเพียงเรื่องรอง

 

ฟางหยวนกล่าวอีกครั้ง “พวกเราจะแลกเปลี่ยนกันหนึ่งต่อหนึ่ง นำวิญญาณอมตะของพวกเจ้ามา แล้วข้าจะจ่ายด้วยทรัพยากรอมตะ”

 

ผมที่หกแสดงออกด้วยความหนักใจ “กล่าวตามตรง มันต้องใช้เวลาเล็กน้อยก่อนที่เจ้าจะได้รับวิญญาณอมตะ เจ้าย่อมเข้าใจสถานการณ์ของทั้งห้าภูมิภาค กองกำลังพันธมิตรผีดิบตกเป็นเป้าหมายของทุกฝ่าย หากเมืองคลื่นทมิฬไม่จมลงสู่โลกใต้บาดาล มันคงถูกยึดครองไปนานแล้ว ค่ายกลวิญญาณถูกจัดตั้งอยู่ในเมืองคลื่นทมิฬ มันต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อให้ข้านำวิญญาณอมตะมาที่นี่ แต่ก่อนหน้านั้นข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถจัดเตรียมทรัพยากรอมตะให้เราก่อนเพราะพวกเราต้องการใช้พวกมันหลอมรวมวิญญาณ ยิ่งเร็วยิ่งดี ท่านอิงอู๋เซี่ยกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายและไม่รู้ว่าจะอดทนได้นานเท่าใด”

 

ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน ‘ผมที่หกกำลังกล่าวความจริงและเท็จในเวลาเดียวกัน มันง่ายมาก เขากล่าวว่าอิงอู๋เซี่ยกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เขายังบอกอีกว่าอิงอู๋เซี่ยสามารถอดทนได้อีกสักพัก”

 

ฟางหยวนปฏิเสธเสียงแข็ง “นั่นเป็นไปไม่ได้ หากข้าจ่ายทรัพยากรอมตะและเจ้าไม่ส่งมอบวิญญาณอมตะให้ข้า ข้าจะไม่กลายเป็นคนโง่งั้นหรือ?”

 

“ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าเตรียมท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อผูกมัดทั้งสองฝ่ายเอาไว้แล้ว พวกเราไม่สามารถทำลายข้อตกลง” ผมที่หกแสดงออกอย่างจริงใจ

 

ฟางหยวนหัวเราะและโบกมือ “อย่าพูดกับข้าเรื่องวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล ข้าไม่เชื่อ! ตั้งแต่พวกเจ้าสามารถกำหราบไห่ลั่วหลัน พวกเจ้าก็ต้องมีวิธีลบข้อตกลงพันธมิตรที่สร้างขึ้นจากวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลถูกต้องหรือไม่? ข้าไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งข้อมูล แล้วข้าจะโง่พอที่จะทำข้อตกลงด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลกับพวกเจ้าได้อย่างไร?”

 

“นี่…” ผมที่หกลังเล

 

เขาเข้าใจความคิดของฟางหยวน หากเป็นเขา เขาก็จะไม่ทำข้อตกลงใดๆกับนิกายเงาเช่นกัน

 

“เช่นนี้เป็นอย่างไร?” ผมที่หกเสนอความคิดใหม่ “ข้าจะใช้ข้อมูลเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจ้าส่งมอบทรัพยากรอมตะออกมาก่อน ข้อมูลเหล่านี้มีค่ามากสำหรับเจ้า ฟางหยวน เจ้าไม่ต้องการรู้ขอบเขตของเจตจำนงสวรรค์เช่นนั้นหรือ? นิกายเงาของเรามีประสบการณ์ในการตอบโต้เจตจำนงสวรรค์ มันยังเกี่ยวกับปีศาจต่างโลกรวมถึงข้อมูลของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เจ้าไม่ต้องการพวกมันงั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนถูกล่อลวง

 

เจตจำนงสวรรค์!

 

หลังจากตระหนักว่าเจตจำนงสวรรค์ต้องการกำจัดเขา แล้วฟางหยวนจะสามารถเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้อย่างไร? ในโลกใบนี้ผู้ใดจะรู้จักเจตจำนงสวรรค์ดีไปกว่านิกายเงา?

 

หากนิกายเงาไม่ให้ข้อมูลแก่เขา ฟางหยวนก็จะถูกทิ้งไว้ในความมืดไปอีกนาน

 

สำหรับข้อมูลของปีศาจต่างโลก ฟางหยวนอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน เขาอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงมาอยู่ที่นี่? แล้วยังมีปีศาจต่างโลกคนอื่นๆอยู่ที่นี่อีกหรือไม่? หากมี พวกเขามาจากโลกใบใด? เหตุใดปีศาจต่างโลกจึงสามารถเปลี่ยนอดีต?

 

และข้อมูลเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาดำรงอยู่มาถึงสามแสนปี มีความลับใดบ้างที่ซ่อนอยู่? นี่เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะช่วยให้ฟางหยวนยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้ในอนาคต

 

ข้อมูลเหล่านี้ล้ำค่ามากและล้วนเป็นประโยชน์ต่อฟางหยวน

 

ในจังหวะนี้สภาพแวดล้อมกลายเป็นเงียบงัน ไม่มีฝ่ายใดเปิดปากกล่าว

 

ฟางหยวนตกอยู่ในห้วงแห่งความคิด

 

ผมที่หกรอคอยอย่างสงบแต่เขามั่นใจมากว่าฟางหยวนจะตอบตกลง หลังจากทั้งหมดข้อมูลเหล่านี้มีค่ามากเกินไป

 

แน่นอนว่าหากไม่ใช่เพราะสถานการณ์นี้ ผมที่หกจะไม่บอกสิ่งใดกับฟางหยวนทั้งสิ้น

 

ฟางหยวนถาม “ข้าไม่เข้าใจบางสิ่ง เมื่อมันเป็นสุดยอดค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ เหตุใดอิงอู๋เซี่ยไม่ใช้มันหลบหนีโดยตรง?”

 

ผมที่หกอธิบาย “ค่ายกลวิญญาณสามารถขนส่งทรัพยกรอมตะเท่านั้น ร่างผีดิบอมตะถูกพิจารณาว่าเป็นทรัพยากรอมตะแต่มันไม่สามารถขนส่งมิติช่องว่าง อาจมีวิธีการบางอย่างบนโลกใบนี้ แต่มันหาได้ยาก ตัวอย่างเช่นวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่มันมีเพียงหนึ่งเดียว สำหรับประตูแห่งดวงดาว มันมีข้อจำกัดมากเกินไปและไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าไปในมิติช่องว่างของผู้อื่น”

 

นิกายเงารู้จักประตูแห่งดวงดาวเพราะฟางหยวนใช้มันหลายครั้งเพื่อเดินทางเข้าออกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

เป็นเรื่องยากในการขนส่งผู้อมตะเพราะพวกเขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าอยู่บนร่างกาย

 

ย้อนกลับไปฟางหยวนใช้มิติช่องว่างที่ตายไปแล้วเก็บวิญญาณสติปัญญาระดับเก้าขณะที่ร่างกายของเขาเป็นผีดิบอมตะในจุดต่ำสุดของระดับหก ด้วยวิธีนี้เขาจึงสามารถใช้ประตูแห่งดวงดาวหรือวิญญาณท่องแดนอมตะในการเดินทาง

 

แต่เขาไม่สามารถเก็บวิญญาณสติปัญญาไว้ในมิติช่องว่างของตนได้เป็นเวลานานและต้องปล่อยมันไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

 

สำหรับผู้อมตะระดับแปด พวกเขามีวิธีการเดินทางข้ามภูมิภาคของพวกเขาเอง

 

มันคือการเดินทางผ่านสวรรค์สีขาวหรือสวรรค์สีดำเช่นหอคอยดวงตาสวรรค์ที่นำกลุ่มผู้อมตะจากวังสวรรค์เดินทางไปยังภาคใต้ผ่านสวรรค์สีขาว