แดร์ริลตื่นเต้นมากเพราะสายจากเคลัน เขานอนไม่หลับเลยทีเดียว!
นิกายตำหนักอมตะได้กำจัดตระกูลดิกสันแล้ว!
ทิโมธี ดิกสัน ผู้นำตระกูลดิกสันถูกฆ่าตายภายใต้แผนการของเคลัน ลูกบุญธรรมทั้งสี่ของเขา—เซปไฟร์, นิมบัส, เลวิน, และโวลต์—ล้วนถูกจับอยู่ในสาขาของนิกายตำหนักอมตะ
โดน็อก ผู้ที่ก่อนหน้านี้ถูกแดร์ริลแทงไป 300 ครั้ง ก็ยังไม่ฟื้นตัวจากการบาดเจ็บที่ได้รับจากการแทงเพิ่มอีกหลังจากนิกายตำหนักอมตะได้กำจัดตระกูลดิกสัน
ยังไงก็ตาม ร่างของโดน็อกกลับสูญหายไปในตอนที่พวกเขาเคลียร์สนามรบ
เคลันยืนกรานว่าโดน็อกไม่มีทางรอดชีวิตได้หลังจากบาดเจ็บสาหัส
เคลันถอนหายใจในตอนจบของการสนทนาพวกเขา “ท่านฮอลล์มาสเตอร์ ตระกูลดิกสันได้กระทำการเลวทรามมากมายเพราะรายได้หลักพวกเขามาจากการค้าประเวณีและการพนัน โรงแรมใหญ่มากมายของพวกเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าประเวณีผิดกฎหมาย คาสิโน และแม้กระทั่งการกดขี่ผู้อยู่อาศัยของท้องถิ่น ประชาชนเมืองหยุนโจวต่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรกับตระกูลดิกสัน”
แดร์ริลทั้งตื่นเต้นและพอใจในขณะที่เขาเลิกคิ้วขึ้น “ปิดธุรกิจผิดกฎหมายทั้งหมดลงซะ เราต้องไม่รังแกเหล่าคนท้องถิ่นในตอนที่เราครองทุกอย่างของตระกูลดิกสัน เข้าใจไหม? เราจะดำเนินธุรกิจที่เหมาะสมและไม่ผิดกฎหมาย!”
“รับทราบครับ”
…
แดร์ริลเร่งรีบไปที่สถาบันหกวิถีในเช้าวันต่อมา
เขาตื่นเต้นกับการทำลายตระกูลดิกสันมากไปและหลับสนิทในคืนก่อน เขาจึงสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา
เขาเห็นว่าแด๊กซ์นั้นมาถึงแล้วในตอนที่เขาเข้ามาในห้อง
แดร์ริลเดินไปหาแด๊กซ์แล้วฉีกยิ้มให้ ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรแปลก ๆ กับบรรยากาศในห้องเรียนขณะที่เขานั่งลง
ผู้คนรอบ ๆ แดร์ริล มองเขาด้วยสายตาที่ดูถูกและเยาะเย้ยพร้อมกับพยายามกลั้นหัวเราะ
แดร์ริลถอนหายใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเกี่ยวกับการแข่งขันปรุงโอสถ
แดร์ริลแกล้งทำเป็นไม่เห็นพวกเขาและยิ้มให้แด๊กซ์ก่อนจะพูดเสียงเบา “แด๊กซ์ ฉันมีข่าวดีให้นาย ตระกูลดิกสันถูกทำลายแล้ว”
ข่าวดีแบบนี้ แน่นอนว่าเขาต้องแบ่งปันมันกับเพื่อนยากคนนี้
แด๊กซ์หัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของแดร์ริล “แดร์ริล ฉันรู้เรื่องนั้นเมื่อคืน ฉันได้ยินว่าไม่มีใครรอดชีวิตเลยสักคน เ-ี่ย ฉันดีใจชะมัดพอคิดถึงมัน!”
แด๊กซ์กล่าวต่อ “น่าเสียดายที่ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ไม่อย่างนั้นฉันคงไปขอบคุณเขาแล้ว”
ร่างงดงามเดินเข้ามาในห้องเรียนตอนที่แด๊กซ์กล่าวจบ เธอคืออาจารย์ของพวกเขา อิซาเบลล่า
วิชาแรกของพวกเขาคือวิชาเล่นแร่แปรธาตุ อิซาเบลล่าในเดรสเขียวมรกตดูทั้งมันสมัยและงดงาม
“มิสมอนเตสวยมากในวันนี้”
นักเรียนชายหลายคนในห้องอดไม่ได้ที่จะต้องอุทานออกมา
ยังไงก็ตาม ทุกคนล้วนบอกได้ว่าอิซาเบลล่ามีอารมณ์ไม่ดีนักในวันนี้ มีความหงุดหงิดอยู่บนใบหน้าของเธอ มันก็แน่นอนอยู่แล้วที่เธอยังคงเครียดจากการพ่ายการแข่งขันเมื่อวาน
แดร์ริลถอนหายใจในขณะที่กำลังมองหาโอกาสในการปลอบเธอ
ในตอนนั้นเอง ไมเลสก็แสยะยิ้มแล้วกล่าว “มิสมอนเต ผมได้ยินว่าคุณเข้าร่วมการแข่งขันปรุงโอสถเมื่อวาน”
นักเรียนทั้งหมดจ้องมองอิซาเบลล่าเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
ความจริงคือ ทุกคนล้วนรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน พวกเขาไม่มีความต้องการจะล้อเลียนอิซาเบลล่า แต่บางคนกลับใช้โอกาสนี้ในการทำให้แดร์ริลอับอาย
อิซาเบลล่าเพียงแค่พยักหน้าในขณะที่ใบหน้าของเธอแดงเพราะความอับอายเมื่อได้ยินถึงเรื่องการแข่งขันปรุงโอสถเมื่อวาน
แน่นอน ไมเลสมองไปที่แดร์ริลด้วยใบหน้าดูถูกเมื่อเห็นอิซาเบลล่าพยักหน้า “แดร์ริล นายเองก็รู้วิธีกลั่นยาเหรอ? ทำไมนายไม่ช่วยให้มิสมอนเตชนะการแข่งขันล่ะ?”
นักเรียนหลายคนเยาะเย้ยหลังจากไมเลสกล่าวจบ
“ใช่ มิสมอนเต คุณเชื่อมั่นในแดร์ริลมากเกินไป ไอ้ลูกเขยบ้านคนอื่นแบบเขาจะไปรู้วิธีกลั่นยาได้ยังไง?”
“ถูกต้อง มิสมอนเตจะไม่แพ้ย่อยยับแบบนี้หากไม่ใช่เพราะการสร้างปัญหาของเขา เธอไม่ได้แม้แต่ท๊อป 10 ด้วยซ้ำ”
แดร์ริลไม่สนใจจะสร้างความบันเทิงให้คนพวกนี้ เขาเพียงแค่ยิ้มและไม่มีท่าทางอะไรเปลี่ยนแปลง
อิซาเบลล่ากังวลเล็กน้อยแล้วเดินออกมา “พวกเธอทุกคน หยุดพูดถึงเรื่องนั้นได้แล้ว ความจริงแล้ว มันเป็นความผิดของอาจารย์เองในงานแข่งขันปรุงโอสถเมื่อวาน ไม่ใช่เพราะแดร์ริล”
เดคแลนอดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นแล้วกล่าว “มิสมอนเต คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอกครับ มันชัดเจนว่าแดร์ริลเป็นคนถ่วงคุณ คุณเป็นคนดี นั่นจึงทำให้คุณไม่กล้าพูดอะไรไม่สุภาพออกมา”
เดคแลนมองแดร์ริลแล้วกล่าวต่อ “แดร์ริล มิสมอนเตแพ้ยับเยินเพราะนาย นายไม่มีอะไรจะแก้ตัวหน่อยรึไง?”