บทที่ 234 จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

บทที่ 234 จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง

 

หลงหมิงเบะปาก พูดด้วยน้ำเสียงที่บอกว่านายประสบการณ์น้อยมาก “ผู้แข็งแกร่งที่มีพละกำลังยิ่งใหญ่ ในโลกยุทธ์อันสูงส่ง ที่สามารถใช้พละกำลังของคนเดียวเบิกอุโมงค์โลกเล็กได้ ในสมัยโบราณจะถูกเรียกว่าแดนปริศนาใหญ่ ส่วนแดนปริศนาน้อย คือการอาศัยพลังค่ายกล ก่อตัวเป็นพื้นที่อิสระ ในด้านความลึกลับ แน่นอนว่าไม่สามารถเทียบกับผู้แข็งแกร่งที่มีพละกำลังยิ่งใหญ่ ในโลกยุทธ์อันสูงส่ง ที่สามารถใช้แรงเพียงคนเดียวเบิกอุโมงค์โลกเล็กได้”

“ใช้พละกำลังของคนเดียวเบิกอุโมงค์โลกเล็ก……” สายตาของหลัวซิวเคร่งขรึม ตกใจเป็นอย่างมาก

พละกำลังผลการฝึกตนของเขาในตอนนี้ แม้แต่พื้นที่ว่าง ยังไม่สามารถสั่นสะเทือนได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเบิกอุโมงค์โลกเล็กเลย

“แดนนานาอสูร แดนตำหนักจื่อ แดนปริศนา ล้วนเป็นแดนปริศนา ที่ก่อตัวขึ้นมาจากค่ายกล พื้นที่ที่สร้างในหอคอยมังกรบิน ก็เป็นแดนปริศนาน้อย แต่ระดับต่ำเกินไป” หลงหมิงพูดอธิบาย

จากที่หลงหมิงพูด ไม่ว่าจะเป็นแดนปริศนาน้อย แดนปริศนาใหญ่ ต่างก็แบ่งระดับเป็นสูงและต่ำ

“นายรู้เกี่ยวกับแดนปริศนามากน้อยแค่ไหน” หลัวซิวถามต่อ

หลงหมิงเป็นสัตว์เทพในสมัยโบราณ ที่มีชีวิตรอดมา เหมือนกับซากดึกดำบรรพ์มีชีวิต น่าจะรู้เรื่องมากมาย ที่คนปกติไม่รู้

“แดนนานาอสูรคือสถานที่ ที่สำนักไท่เสวียนเลี้ยงอสูร ลูกศิษย์ในสำนักเข้าไปฆ่าอสูรกายในแดนปริศนา จะได้รับประสบการณ์ฝึกฝน แถมยังได้ลูกแก้วโลหิต เพื่อยกระดับแดนร่างเนื้อ”

“ส่วนแดนปริศนา เป็นแดนหยินสุดขั้ว ซึ่งสร้างมาจากค่ายกล ตาเฒ่าในสำนักไท่เสวียน วางบททดสอบเอาไว้ในนั้นเยอะมาก ใช้ลับคมลูกศิษย์ในสำนัก”

เมื่อได้ยินดังนั้น หลัวซิวยกยิ้มมุมปากยียวน

พลังหยินในหยินหยาง อยู่ในแขนงหนึ่งของพลังแห่งความตาย สำหรับคนที่ฝึกพลังสองระดับความเป็นตาย แบบหลัวซิว ประสิทธิภาพการฝึกตน เหนือกว่าพลังฟ้าดินจิตทั่วไป

หลงหมิงมองหลัวซิวอย่างแปลกประหลาด แน่นอนว่าเขารู้ว่าพลังหยิน มีผลดีกับคนที่ฝึกตนพลังแห่งความตายเป็นอย่างมาก แต่พลังแห่งความตาย มีการกัดกร่อนที่แข็งแกร่งมาก น้อยคนที่จะฝึกตนได้สำเร็จ

ถึงฝึกสำเร็จ แต่ก็ทำให้คนที่ฝึกตน เหมือนครึ่งผีครึ่งคน น่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างมาก

แต่หลัวซิวกลับดูปกติเป็นอย่างมาก หลงหมิงไม่เข้าใจว่าไอ้หมอนี่ ควบคุมพลังแห่งความตายได้อย่างไร

ออกมาจากร้านเหล้า หลัวซิวมาถึงสำนักงานใหญ่องค์กรนักล่ายุทธ์ ที่เมืองเทียนหวู

“ท่านชายหลัวซิว ท่านหัวหน้าใหญ่แก๊งเรียนเชิญครับ” ผู้อาวุโสรูปร่างท้วม ดูอุดมสมบูรณ์เล็กน้อย อยู่ตรงหน้าหลัวซิว

ผู้อาวุโสคนนี้สีหน้ายิ้มแย้ม หน้าตาไม่โดดเด่น แต่กลับเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชายุทธ์

“เชิญนำทาง” หลัวซิวประสานมือทำความเคารพ

จากตำแหน่งในองค์กรนักล่ายุทธ์ ที่โดดเด่นไม่ธรรมดา หัวหน้าใหญ่แก๊ง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่ ในประเทศเทียนหวู

หลัวซิวไม่แปลกใจ ที่หัวหน้าใหญ่แก๊งจะพบตัวเอง เพราะในระยะเวลาปีกว่า เขาก่อความวุ่นวายในประเทศเทียนหวูไม่น้อยเลย

ถึงบอกว่าไม้เรียวระหงกลางป่า ย่อมถูกลมโค่น แต่ถ้าสามารถต้านทานลมฝนได้ ก็สามารถเติบโตเป็นต้นไม้สูงตระหง่าน อยู่บนยอดภูเขา จนขุนเขามองดูเล็ก

ตอนนี้ยังไม่ทราบสถานการณ์ของเหยียนเยว่เอ๋อร์ ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย เพื่อที่จะช่วยเธอให้เร็วที่สุด หลัวซิวทำได้เพียงเสี่ยงเท่านั้น

หัวหน้าใหญ่แก๊ง เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างซูบผอม สวมชุดคลุมยาวตัวโคร่ง กำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่ห้องหนังสือ

ตอนหลัวซิวเดินเข้ามา เขาช้อนตาขึ้นมามอง ยิ้มบางๆ “สายตาของเหวินเซวียนไม่เลว ขุดค้นเจอต้นกล้าชั้นดี”

“มาพบหัวหน้าใหญ่แก๊ง” หลัวซิวโค้งตัวทำความเคารพ

ถึงหัวหน้าใหญ่แก๊งคนนี้ ไม่ได้ปลดปล่อยพลังอันน่าเกรงขามออกมา แต่หลัวซิวรู้ดี นี่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ ที่สูงสุดในประเทศเทียนหวู

ในประเทศเทียนหวูมีจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสิบ ไม่ได้หมายความว่าจะมีจักรพรรดิยุทธ์แค่สิบคน แต่เป็นตัวแทนสิบคน ที่มีพละกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด

หัวหน้าใหญ่แก๊งขององค์กรนักล่ายุทธ์คนนี้ เป็นจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงอันดับหนึ่ง ในบรรดาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสิบ

เหยียนเยว่เอ๋อร์มีฉายาว่าจักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่ง อยู่ในอันดับท้ายสุด ในจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสิบ แข็งแกร่งไม่เท่าจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงคนนี้

“เชิญนั่ง” จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงสะบัดมือลวกๆ

หลัวซิวเอ่ยขอบคุณ จากนั้นจึงนั่งลง

“จากข้อมูลที่นายบันทึกไว้ในองค์กร ตอนนี้นายเพิ่งอายุสิบหกปีสินะ” จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงยิ้ม แล้วเอ่ยขึ้น

“อายุสิบหก แต่ไปถึงฝึกจิตขั้น5 แล้ว เพียงพอที่จะได้รับการประเมินอัจฉริยะขั้นดำระดับกลางในองค์กร ถ้าบวกกับความสามารถปรมาจารย์ค่ายกลขั้นสี่ ปรมาจารย์กลั่นยาระดับ4 ของนาย ฉันประเมินอัจฉริยะขั้นดำระดับสูงให้นายได้”

จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงยิ้มบางๆ “ถ้านายสามารถถึงแดนราชายุทธ์ ก่อนอายุยี่สิบปีได้ หรือเป็นปรมาจารย์ค่ายกลขั้นห้า หรือไม่ก็ปรมาจารย์กลั่นยาระดับ5 จะสามารถยกระดับการประเมิน ไปถึงอัจฉริยะขั้นฟ้าระดับล่างได้เลย”

“สมาชิกที่เป็นอัจฉริยะขั้นดำขึ้นไป จะมีสิทธิพิเศษในองค์กร”

ระหว่างที่พูด จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงหยิบม้วนหยกบนโต๊ะข้างหน้า ยื่นให้หลัวซิว

หลัวซิวยื่นมือไปรับ ตัวสำนึกทะลุเข้าไปข้างใน

จากบันทึกในม้วนหยก อัจฉริยะขั้นเหลืองต่ำกว่าขั้นดำลงไป ที่อยู่ภายในองค์กร น่าจะเท่ากับศิษย์นอกสำนัก จะไม่ได้รับความสนใจ

แต่เมื่อประเมินระดับอัจฉริยะ สามารถไปถึงขั้นดำ ก็จะเท่ากับศิษย์ในสำนัก จะได้รับค่าเลี้ยงดูจากองค์กร รวมไปถึงการคุ้มครอง

เช่น ยากลั่นจิต ที่ทำให้ปรมาจารย์ฝึกจิต ยกระดับผลการฝึกตนทะลุไปถึงแดนเล็ก ราคาขายในตลาด ต้องมีหินพลังจิตห้าพันก้อน แต่อาศัยสิทธิอัจฉริยะขั้นดำระดับสูง หลัวซิวสามารถซื้อแค่ครึ่งราคา ใช้หินพลังจิตแค่สองพันห้าร้อยก้อนเท่านั้น

นอกจากนั้น องค์กรยังบริการ การเรียนวิชายุทธ์ต่างๆ เช่น ยา ค่ายกล ยาวิเศษ นักยุทธ์ เกราะนักยุทธ์ ให้กับอัจฉริยะขั้นดำขึ้นไป สามารถซื้อได้ในองค์กร ด้วยราคาต่ำสุด

ในม้วนหยกที่จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงให้หลัวซิว มีบันทึกไว้ว่า สามารถซื้อแหล่งสมบัติต่างๆ ได้ในองค์กร

ในนั้นมีวิชายุทธ์ระดับ8 สิบกว่าชนิด อีกทั้งยังมีวิชายุทธ์ระดับ9 อีกหลายชนิด!

ในประเทศเทียนหวู วิชายุทธ์ระดับ8 เป็นวรยุทธ์ชั้นสุดยอดแล้ว ส่วนวิชายุทธ์ระดับ9 ราชวงศ์ตระกูลฝานก็ยังไม่เคยมี

ตอนนี้หลัวซิวฝึกวิชายุทธ์ระดับ8 สองวิชา วิชาแรกคือวิชาพลังมังกรแท้ สามารถรวบรวมพลังจิตแท้เป็นรูปมังกร พลังโจมตีเป็นเท่าตัว อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพการกลั่นร่างด้วย

ส่วนอีกวิชาเป็นวรยุทธ์กลั่นวิญญาณ พลังก่อรวมวิญญาณ

ส่วนทักษะยุทธ์กับวิชาท่าร่าง ตอนนี้หลัวซิวฝึกกระบี่เพลิงวิชายุทธ์ระดับ7 และตามลมล่าจันทรา

จากสิทธิของอัจฉริยะขั้นดำระดับสูง หลัวซิวสามารถซื้อวิชายุทธ์ระดับ9 สี่ชนิดในองค์กร มีวรยุทธ์สองวิชา ทักษะยุทธ์หนึ่งวิชา และวิชาท่าร่างหนึ่งวิชา

วรยุทธ์สองวิชาแบ่งเป็น วิชาอัคคีแท้หยางบริสุทธิ์กับวิชาเหินฟ้าชิงจื้อ วิชาหนึ่งเป็นวรยุทธ์ธาตุไฟ ส่วนอีกวิชาเป็นวรยุทธ์ธาตุไม้

หลัวซิวไม่ได้ต้องการวรยุทธ์ เพราะเขาฝึกพลังที่อยู่ในสองระดับความเป็นตาย วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด