ตอนที่ 359 เหยียดหยามหลี่เฉิงเจี๋ย!
เมื่อเห็นหลี่เฉิงเจี๋ย เย่เฉินก็รู้ว่าซูมู่ชิงและซือซือมาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญแน่
ถึงแม้ว่าพูดว่าห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มีสินค้าแบรนด์เนมเป็นจำนวนมาก แต่ในเมืองหลวงมีห้างหรูหรามากมาย ทำไมเขาถึงต้องมาที่นี่ด้วยล่ะ?
จะต้องเป็นเพราะหลี่เฉิงเจี๋ยรู้ว่าเย่เฉินมาเป็นยามที่นี่ ดังนั้นถึงได้จงใจขับรถพาสองแม่ลูกมาที่นี่ จะได้มาเยาะเย้ยเย่เฉิน!
“รนหาที่ตาย ดูไปแล้วไม่เพียงแต่มีคนของซูมู่หลินจะสะกดตามรอยเรา หลี่เฉิงเจี๋ยก็น่าจะส่งคนมาสะกดรอยตามเราด้วย!”
ในใจเย่เฉินอึดอัด เขาเกลียดความรู้สึกที่โดนคนสะกดรอยตาม เขาจะไม่สามารถไปสืบข่าวคราวของฉินหงเหยียน
ซือซือเห็นเย่เฉินก็เอ่ยชมบิดาจากในรถ “ชุดยูนิฟอร์มของคุณพ่อหล่อมากเลย!”
เด็กผู้หญิงไม่ถึง 4 ขวบไหนจะเข้าใจเรื่องสถานะสูงต่ำ เพียงแต่รู้สึกว่าเสื้อผ้าชุดนี้ของเขารู้สึกว่าหล่อเหลาอย่างมาก สวมชุดที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป
ทว่าหลี่เฉิงเจี๋ยกลับยิ้มแล้วเอ่ย “ซือซือ ชุดที่พ่อหนูใส่คือชุดยามนะ!”
ซือซือเบิกตากว้าง ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววนับถือเย่เฉิน “ว้าว ยามคืออะไรหรอคะ! เท่จังเลย! หนูโตแล้วก็อยากจะเป็นยามบ้างเหมือนกัน!”
หลี่เฉิงเจี๋ยรีบร้อนอธิบายพลางกล่าว “ยามเป็นอาชีพต่ำๆ น่ะ…”
“เฉิงเจี๋ย!” หลี่เฉิงเจี๋ยยังกล่าวไม่ทันจบ ซูมู่ชิงก็ห้ามเขา “ซือซือยังเด็ก ฉันไม่อยากให้คุณสอนลูกสาวฉันมองคนไม่เท่ากันทั้งๆ ที่ลูกฉันยังอายุน้อยแบบนี้”
หลังจากนั้นซูมู่ชิงก็อธิบายกับซือซือ “ยามเป็นอาชีพที่น่าเคารพนับถือ คุณพ่ออยู่ที่นี่ คอยดูว่าเรามีบัตรผ่านหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็จะเข้าไม่ได้”
ซือซือพยักหน้ารับอย่างกระตือรือล้น “โห แล้วเรามีไหมคะ?”
ซือซือและซูมู่ชิงต่างก็มองไปที่หลี่เฉิงเจี๋ย
เย่เฉินเองก็มองหน้าหลี่เฉิงเจี๋ย “ต้องแสดงใบเสร็จซื้อของหรือว่าบัตรทองก่อน ถ้าไม่มีบัตรจะเข้าไปจอดไม่ได้”
หลี่เฉิงเจี๋ยหัวเราะร่วน “ฮ่าๆ…เย่เฉิน จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าฉันเหมือนพระเอกในนิยายเลย ส่วนนายเป็นตัวร้าย นายจงใจหาเรื่อฉัน จะไม่ยอมให้ฉันเข้าไปด้านใน ส่วนฉันจะเป็นคนเอาบัตรทองมาตบหน้านาย! ฉันเคยเห็นมุกแบบนี้มาเยอะแล้ว ฮ่าๆ… ฉันจะไม่มีบัตรทองได้ยังไง? ดูให้ดีๆ ล่ะ ไอ้เด็กบ้า!”
หลี่เฉิงเจี๋ยหยิบเอาบัตรทองของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วโยนใส่หน้าเย่เฉิน!
เพี้ยะ!
บัตรทองร่วงลงบนร่างของเย่เฉิน จากนั้นบัตรก็ร่วงลงพื้น
ส่วนหลี่เฉิงเจี๋ยแค่นเสียงเย็น เขาจงใจดูหมิ่นเย่เฉินแบบนี้ เขาจะให้เย่เฉินก้มหัวให้ตนเอง!
ส่วนเย่เฉินก็ค้อมตัวลงไปเก็บบัตรทองขึ้นมา
เห็นเย่เฉินหยิบบัตรทองขึ้นมา แต่กลับพบว่าไม่ใช่บัตรทองที่ว่า แต่เป็นบัตรนัดตรวจโรคของโรงพยาบาล
เย่เฉินพลิกมองบัตรแล้วพึมพำ “บัตรนัดของโรงพยาบาลเทียนหลุนผู้มีบุตรยากประจำเมืองหลวง คุณผู้ชายยื่นบัตรผิดแล้วมั้ง?”
“อะไรนะ?” หลี่เฉิงเจี๋ยชะงักนิ่งไปทันที เขาจำได้ว่าเมื่อครู่ที่โยนออกไปเป็นบัตรทองของห้างสรรพสินค้า JFS ชัดๆ!
หลี่เฉิงเจี๋ยไม่ได้โยนออกมาผิดแน่ๆ เพียงแต่ในวินาทีที่เย่เฉินหยิบออกมา เขาก็ใช้วิธีการ ‘สลับบัตร’!
เมื่อครู่ตอนมีแขกเดินขึ้นมา เขาโยนบัตรใบนี้ออกมาจากในรถ
เย่เฉินยังไม่ทันได้โยนของลงถังขยะ เขาหยิบบัตรใส่ในกระเป๋า คิดไม่ถึงว่าจะได้ใช้
เย่เฉินจึงส่งบัตรของโรงพยาบาลคืนให้หลี่เฉิงเจี๋ยพลางกล่าว “โรงพยาบาลช่วยรักษาคนมีลูกยากของเทียนหลุนเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในด้านนี้จริงๆ คุณหายหรือยัง?”
สีหน้าหลี่เฉิงเจี๋ยฉายแววหัวเสียทันที เขาอดหันมองซูมู่ชิงไม่ได้ ซูมู่ชิงกลับก้มหน้างุดๆ ไม่พูดไม่จา
ส่วนหลี่เฉิงเจี๋ยกลับเข้าใจว่าท่าทางนี้ของหญิงสาวเป็นเพราะหล่อนผิดหวังในตัวเขา!
หลี่เฉิงเจี๋ยรีบร้อนอธิบายทันที “มู่ชิง เจ้าเด็กนี่ใส่ความผม ผมไม่ได้ป่วยเลย! ผมไม่เคยไปคลินิคสืบพันธุ์ด้วยซ้ำ ! ร่างกายผมแข็งแรงสุดๆ! บัตรผู้ป่วยนี่ต้องเป็นของเย่เฉินแน่ คนที่มีลูกไม่ได้ต้องเป็นเขา!”
เย่เฉินหัวเราะคิกคัก “คุณล้อเล่นใช่ไหม? ผมเนี่ยนะมีลูกไม่ได้แล้วซือซือมาจากไหนกัน? เราเคยตรวจ DNA กันแล้วด้วยนะ! ฮ่าๆ หลี่เฉิงเจี๋ยได้ยินมาว่าคุณเคยแต่งงานมาก่อนแต่ไม่เคยมีลูก อดีตภรรยาของคุณหย่ากับคุณเพราะคุณมีลูกไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
หลี่เฉิงเจี๋ยหัวเสียทันที “ไร้สาระ! เป็นเพราะฉันซ้อมหล่อนต่างหาก หล่อนถึงหย่ากับฉัน!”
เย่เฉินกล่าว “อ้อ หลี่เฉิงเจี๋ยนี่คุณซ้อมผู้หญิงเชียวเหรอเนี่ย? คุณเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า? คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกคนซ้อมเมีย!”
เย่เฉินบีบให้หลี่เฉิงเจี๋ยต้องพูดเรื่องนี้ เพื่อให้ซูมู่ชิงได้รู้เช่นเห็นชาติชายผู้นี้และหวังว่าหญิงสาวจะพิจารณาเรื่องแต่งงานกับเขา จะได้ไม่ต้องแต่งงานกับเขา!
“แก! ไอ้สารเลว!”
หลี่เฉิงเจี๋ยหัวเสีย เขาปรี่ลงจากรถแล้วตำหนิเย่เฉิน “ต้องเป็นตอนที่แกก้มลงเก็บบัตรจากพื้นเมื่อกี้นี่แน่ เลยย้อมแมวเปลี่ยนบัตรทองของฉัน บัตรทองของฉันต้องอยู่ที่แก! ฉันจะค้นตัวแก!”
เย่เฉินกล่าว “ถ้าไม่อยู่ล่ะจะทำยังไง?”
หลี่เฉิงเจี๋ยตอบ “อยู่แน่นอน!”
เย่เฉินกล่าว “ก็ได้ เชิญค้นเลย ถ้าบัตรทองไม่ได้อยู่กับผม คุณเตรียมคุกเข่าขอโทษผมได้เลย แล้วก็ไสหัวไปพร้อมๆ กับรถตัวเองเลย!”
หลี่เฉิงเจี๋ยไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาใช้มือค้นตัวอีกฝ่าย แต่ค้นๆ ไปรอบหนึ่งแล้วนอกจากเงินสดพันหยวน และสิ่งของชิ้นเล็กๆ ที่ต้องพกติดตัวอย่างพวกยาแล้วก็ไม่ได้มีบัตรทองอะไร
และในเวลานี้ซูมู่ชิงและซือซือก็ตามลงมาจากรถ ส่วนด้านหลังนั้นมีรถต่อท้ายอีกสองคัน รถด้านหลังบีบแตรไม่หยุด
“ทำอะไรน่ะ รีบหน่อยได้ไหม? ช่วยอย่าขวางทาง!”
“นี่มันรถคาดิแลควินเทตปี 1956 เชียวนะ! เป็นเกียร์กระปุกนะโว้ย! ฉันขึ้นเนินไม่เก่งด้วย! อีกเดี๋ยวรถไหลลงไปชนรถคันอื่น แกต้องชดใช้นะ!”
ซูมู่ชิงเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจึงรีบกล่าวกับหลี่เฉิงเจี๋ย “เฉิงเจี๋ย ไม่งั้นเราไปจอดที่ชั้นใต้ดินไหม อย่ามาจอดแช่ที่นี่เลย ฉันกับซือซือจะไปรอคุณในห้าง”
ถึงแม้ว่าครอบครัวของหลี่เฉิงเจี๋ยจะทรงอิทธิพลและยิ่งใหญ่ แต่ที่นี่คือเมืองหลวงเขาก็ไม่อยากจะก่อเรื่องนักหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จอดในลานจอดรถชั้นสามได้มีแต่ะพวกคนรวยๆ ทั้งนั้นจะล่วงเกินไม่ได้
“ได้ เย่เฉิน ถือว่าแกโชคดีไป!”
หลี่เฉิงเจี๋ยชี้หน้าเย่เฉิน เขาต้องจำใจเดินกลับไปที่รถ “เย่เฉิน อย่าคิดว่าทำอาหารได้ไม่กี่จาน แล้วเล่นลูกไม้ปัญญาอ่อนเป็นแล้วจะมางัดข้อกับฉัน! ตอนนี้แกเป็นคนจน หนทางข้างหน้ายังอีกยาว ไม่ช้าก็เร็วฉันเอาแกตายแน่!”
พูดจบหลี่เฉิงเจี๋ยก็ขับรถจากไปด้วยใบหน้าบูดเบี้ยว
ผ่านไปไม่นานนัก ผู้จัดการหวงก็รีบเดินมาทันที เขาก้าวไปขวางหน้าเย่เฉิน “เกิดอะไรขึ้น? ฉันได้ยินว่าที่นี่การจราจรติดขัดเหรอ?”
เย่เฉินกล่าวพลางอธิบาย “อ้อ ไม่เป็นไร เมื่อครู่มีแขกที่ไม่มีบัตรทองขับรถขึ้นมาครับ แล้วจอดแช่ที่นี่ แต่ผมจัดการแล้วครับ”
“อ้อ ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว”
ผู้จัดการหวงเพิ่งเดินมาถึง คิดไม่ถึงว่าข้างๆ เย่เฉินจะมีสองคนแม่ลูกยืนอยู่ หญิงสาวที่เป็นมารดานั้นงดงามราวนางฟ้า ส่วนเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ก็น่ารักอย่างยิ่ง!
“พ่อคะ เขาคือใครคะ?”
จู่ๆ บุครสาวก็โพล่งถามเขา
เย่เฉินตอบ “เขาคือหัวหน้าของพ่อเอง”
ผู้จัดการหวงได้ยินเด็กสาวตัวน้อยเรียกเย่เฉินว่าพ่อ ชะงักนิ่งไปแล้วกล่าวถามพลางชี้ไปที่เด็กหญิง “นี่ลูกสาวนายเหรอ?”
เย่เฉินพยักหน้ารับ
ผู้จัดการหวงจึงชี้ไปที่ซูมู่ชิง “แล้วคนนี้คือ…”
ซือซือชิงตอบในทันที “นี่คุณแม่ของหนูเอง!”
ผู้จัดการหวงนิ่งไป ยามที่เขารับมาใหม่เป็นบิดาของแม่หนูน้อย แล้วนางฟ้าแสนสวยคนนี้เป็นมารดาของเด็กหญิงตัวน้อย
คิดไม่ถึงว่าสองคนนี้จะเป็นแฟนกัน?
“นาย… หล่อน… พวกคุณ…”
ผู้จัดการหวงพูดติดอ่างทันที ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่กล้าเชื่อเด็ดขาดว่า ยามที่มีเงินเดือนแค่หนึ่งพันจะมีภรรยาที่สวยได้ถึงขนาดนี้!