แดนนิรมิตเทพ บทที่ 322
แค่คิดถึงผลลัพธ์ที่มีปัญหากับตระกูลจินแห่งฮ่านหยางแล้ว ฝีเท้าของนายอำเภอเหมยก็เร่งความเร็ว รู้สึกเสียใจจนแทบอยากจะวิ่งชนกำแพง

พวกเฉินจิงเย่ทั้งสามคนยังเดินจากไปได้ไม่ไกล กำลังยืนรอรถอู่ด้านหน้าสถานที่พักรับรองของอำเภอ

นายอำเภอเหมยมองเห็นในทันที แล้วก็ตะโกนอย่างดีใจ “น้องจิงเย่ รอเดี๋ยว!”

เฉินจิงเย่หันกลับไปมอง มองนายอำเภอเหมยที่วิ่งมาอย่างประหลาดใจ แล้วถามหลี่ซู่เฟินที่อยู่ข้างกายอย่างงุนงง “เกิดอะไรขึ้น? นายอำเภอเหมยคิดจะทำอะไรกัน?”

หลี่ซู่เฟินมองดูเฉินโม่ที่มีสีหน้านิ่งเฉยอยู่ข้างกาย ยิ้มเยาะพูดว่า “ฉันจะรู้ได้ยังไงกัน รอเขามาแล้วนายก็ถามเขาเองสิ”

เฉินจิงเย่เดินเข้าไปหาอย่างไม่มีทางเลือก ปล่อยให้หัวหน้าตัวเองวิ่งมาหาตัวเองไม่ได้หรอก!

“นายอำเภอเหมย คุณทำอะไรครับเนี่ย?” เฉินจิงเย่ถามอย่างไม่เข้าใจ

นายอำเภอเหมยเหนื่อยหอบ ถูกเลขาเสี่ยวหลี่พยุงไว้ แล้วมือก็จับแขนของเฉินจิงเย่ไว้ เหมือนกลัวว่าเฉินจิงเย่จะหนีไป

“สารวัตรกำนันเฉิน เมื่อกี้ฉันแค่ล้อเล่นกับนายเท่านั้น งานเลี้ยงฉลองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ทุกคนกำลังรอนายอยู่?”

เฉินจิงเย่รู้สึกมึนงง เมื่อกี้นายอำเภอเหมยเป็นคนสั่งให้เขากลับ แล้วตอนนี้ก็มาเชิญเขาอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

“ขอบคุณความหวังดีของนายอำเภอเหมยมากครับ แต่ในเมื่อออกมาแล้ว ผมก็ไม่กลับเข้าไปแล้วละครับ คุณรีบกลับไปเป็นประธานในงานเถอะครับ!”

เฉินจิงเย่เป็นคนซื่อตรง คำพูดที่เขาพูดเองก็เป็นความในใจ แต่คำพูดนี้เมื่ออยู่ในหูของนายอำเภอเหมยแล้ว เหมือนกับกำลังเยาะเย้ยอยู่

นายอำเภอเหมยกลอกตาใส่ แอบด่าในใจ “ยังจะเป็นประธานงานบ้าบออะไรอีก ถ้าหากนายไม่กลับไป ฉันก็ได้มีปัญหากับตระกูลจินแห่งฮ่านหยางแล้ว นั่นเป็นถึงตระกูลจินแห่งฮ่านหยางเชียวนะ!”

“อย่าเลย ทุกคนกำลังรอนายอยู่ นายต้องกลับไปนะ!” นายอำเภอเหมยไม่อธิบายอะไร แต่ดึงแขนของเฉินจิงเย่เดินกลับไปด้วยกัน

เฉินจิงเย่ไม่มีทางเลือก ทำได้แค่เดินตามนายอำเภอเหมยกลับไป แล้วยังหันหลังไปพูดกับพวกเฉินโม่ทั้งสองคนว่า “พวกเธอจะกลับบ้านหรือว่าตามมา?”

นายอำเภอเหมยยิ้มให้กับเฉินจิงเย่ “ต้องมาด้วยกันอยู่แล้วสิ วันปีใหม่แบบนี้ครอบครัวแยกย้ายกันมันไม่ดี น้องสะใภ้ หลานชาย พวกเธอเดินตามมานะ”

หลี่ซู่เฟินไม่มีความรู้สึกดีต่อนายอำเภอเหมยขี้อิจฉาคนนี้ จึงพูดเย็นชาว่า “นายกลับไปเองแล้วกัน ฉันกับเสี่ยวโม่ไม่ไปแล้วละ จะได้ไม่โดนคนอื่นว่าเราว่าใช้งานฉลองมาเป็นงานเลี้ยงครอบครัว”

เมื่อนายอำเภอเหมยได้ยินก็ร้อนรน แทบอยากจะตบปากตัวเอง โทษตัวเองที่ปากไม่ดี!

ที่เขาเชิญเฉินจิงเย่กลับไปก็เพราะว่าเฉินจิงเย่พูดจาด้วยง่าย แต่เฉินโม่ถึงจะเป็นคนที่ต้องการเชิญกลับไปที่แท้จริง และก็เป็นคนที่จินเพ่ยอวิ๋นมองหา

หากเฉินโม่ไม่กลับไป เชิญเฉินจิงเย่กลับไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร?

นายอำเภอเหมยลดทิฐิ พูดอย่างประจบเอาใจ “น้องสะใภ้ ฉันก็แค่พูดเล่น เธอคิดจริงจังหรอเนี่ย!ฉันขอโทษด้วย ฉันขอโทษได้มั้ย? อย่าโกรธเลย รีบกลับไปด้วยกันกับน้องจิงเย่เถอะ!”

หลี่ซู่เฟินไม่หวั่นไหว ไม่มีความคิดที่จะกลับไป

นายอำเภอเหมยร้อนรนเหมือนดั่งมดในกระทะร้อน รีบพูดอ้อนวอนเฉินจิงเย่ “น้องจิงเย่ นายพูดอะไรหน่อยสิ คนในครอบครัวนายห้ามขาดใครสักคนเด็ดขาด!”

เฉินจิงเย่สีหน้าประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมนายอำเภอเหมยถึงต้องให้เขาพาหลี่ซู่เฟินและเฉินโม่กลับไปด้วย

แต่เป็นหัวหน้าเขาก็ต้องให้เกียรติ

“ซู่เฟิน นายอำเภอเหมยขอโทษด้วยตัวเองแล้ว เธออย่าได้ถือสาเลย พาเสี่ยวโม่มาด้วยกันเถอะ!”

ศักดิ์ศรีของสามีตัวเอง หลี่ซู่เฟินก็ยังต้องให้อยู่ จึงถอนหายใจ “รู้อย่างนี้แต่แรก แล้วทำไมต้องทำอย่างนั้นละ!เสี่ยวโม่ พวกเราไปกันเถอะ!”

เพียงประโยคเดียว ใบหน้าของนายอำเภอเหมยอับอายจนแดงก่ำ