ส่วนที่ 16 อนุภรรยาขุนศึก ตอนที่ 10 อนุภรรยาขุนศึก (10)

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

หิมะ​และ​น้ำแข็ง​ละลาย​ ​ปีใหม่​ใน​เดือน​สามตาม​ปฏิทิน​จันทรคติ​กำลังจะ​มาถึง​

และ​ปีใหม่​นี้​ ​เรือน​ใหญ่​อย่าง​บ้าน​สกุล​อิน​ก็​มี​การเปลี่ยนแปลง​มากมาย​เช่นเดียวกัน​

ตั้งแต่​ซู​หว่าน​ ​‘​ป่วย​เสียชีวิต​’​ ​เรือน​ข้าง​ของ​นาง​ก็​กลายเป็น​เขตหวงห้าม​ของ​บ้าน​สกุล​อิน​ ​นอกจาก​อิน​เป่ย​เกอ​แล้ว​ ​ไม่มีใคร​กล้า​เหยียบ​เข้าไป​ใน​นั้น​อีก

ช่วงต้น​เดือน​สอง​อิน​เป่ย​เชา​ออกจาก​บ้าน​สกุล​อิน​ ​โดย​อิน​ซุ่น​ได้​ฝากฝัง​คน​ให้​พา​เขา​เดินทาง​ข้ามน้ำข้ามทะเล​ไป​ศึกษา​ด้าน​การเงิน​ที่​ต่างประเทศ​ ​แต่​เรื่อง​ที่นา​ยพ​ลอิน​ไม่มีทาง​คาดคิด​ได้​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​ ​หลังจากนี้​อีก​ไม่​กี่​ปี​ ​การก​ลับ​มา​ของ​อัจฉริยะ​ทางการเงิน​คน​นี้​ ​จะ​กลายเป็น​ฝันร้าย​ของ​คนบ้าน​สกุล​อิน

การตาย​ของ​ซู​หว่าน​ทำให้​อิน​เป่ย​เกอ​ซึม​ลง​ระยะ​หนึ่ง​ ​ซึ่ง​เหยา​ไป๋​เซียน​ก็​กลุ้มใจ​มาก​กับ​สภาวะ​หลงใหล​ใน​ความรัก​ของ​ลูกชาย​ตนเอง​…

ถ้า​นาง​ไม่เห็น​แก่ตัว​ ​แยก​ซู​หว่าน​กับ​อิน​เป่ย​เกอ​ออกจาก​กัน​ใน​ตอนนั้น​แล้ว​ละ​ก็​ ​สถานการณ์​ใน​วันนี้​จะ​เป็น​อย่างไร​หนอ

ครอบครัว​รักใคร่​สามัคคี​ ​ลูกหลาน​ล้อมหน้าล้อมหลัง​หรือไม่​หนอ

เสียดาย​ ​โลก​นี้​ไม่มี​คำ​ว่า​ถ้า​ ​และ​ไม่มี​ยา​แก้​อาการ​สำนึก​เสียใจ​อย่างแน่นอน

พอ​ถึง​เดือน​ห้า​ ​พวก​อันธพาล​ที่​เหลือ​ซึ่ง​ถูก​บีบ​ให้​จนมุม​เมื่อ​ปี​ที่แล้ว​ ​ได้​สมรู้ร่วมคิด​กับ​คนใน​กองทัพ​เมือง​อวิ​๋น​เฉิง​ ​เริ่ม​ออก​ปล้นสะดม​ ​ฆ่า​คน​วางเพลิง​ไป​ทั่วเมือง​เหลียว​เฉิง

ขณะนั้น​ ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​เมือง​เหลียว​เฉิง​กับ​เมือง​อวิ​๋น​เฉิง​ที่อยู่​ใกล้​ๆ​ ​กันตึง​เครียด​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ทั้งสองฝ่าย​ขาด​ก็​แต่​บาดหมาง​ซึ่ง​ๆ​ ​หน้า​เท่านั้น​ ​ใน​ช่วงเวลา​อัน​เปราะบาง​เช่นนี้​ ​อิน​ซุ่น​ย่อม​ไม่ยอม​จำนน​ให้​คนเมือง​อวิ​๋น​เฉิง​ ​เขา​จึง​สั่ง​ให้​อิน​เป่ย​เกอ​นำ​ทหาร​ออก​นอกเมือง​อีกครั้ง​ ​และ​การสู้​รบ​ใน​ครั้งนี้​ ​อิน​เป่ย​เกอ​ก็​ตกลง​ไป​ใน​ทะเล​ ​หายสาบสูญ​…​

เมื่อ​บ้าน​สกุล​อิน​ได้ข่าว​ว่า​อิน​เป่ย​เกอ​หายสาบสูญ​ ​เหยา​ไป๋​เซียน​กับ​เหยา​รั่ว​ฟาง​ก็​เป็นลม​ล้มพับ​ลง​ทันที​ส่วน​หู​ฮุ่ย​เย​่ว​์​ที่อยู่​ใน​เรือน​ ​แม้​สีหน้า​เป็นกังวล​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ​แต่​ใน​ใจ​กลับ​ยินดี​ปรีดา​ไม่​หยุด​…

ลูก​เมียหลวง​สอง​คน​ของ​บ้าน​สกุล​อิน​ ​คน​หนึ่ง​เสียชีวิต​ ​อีก​คน​หายสาบสูญ

ถ้า​อิน​เป่ย​เกอ​ตาย​ไป​ ​ลูกชาย​ตน​ ​อิน​เป่ย​เชา​มิก​ลาย​เป็น​ลูกชาย​คนเดียว​ของ​ท่าน​นายพล​หรอก​หรือ

พอนึก​ถึง​ความเป็นไปได้​เช่นนี้​ ​หู​ฮุ่ย​เย​่ว​์​ก็​รู้สึก​ว่า​ทุก​ส่วน​ใน​ร่างกาย​สั่นสะท้าน​ด้วย​ความตื่นเต้น​…

ขณะเดียวกัน​ ​ใน​เรือน​ของ​ท่าน​สาม

“​ภรรยา​ ​วันนี้​รู้สึก​หาย​หน่อย​หรือยัง​”

ตอน​ซู​รุ่ย​ก้าว​เข้าไป​ใน​ห้องนอน​นั้น​ ​เห็น​ซู​หนิง​กำลัง​หวี​ผม​ให้​ซู​หว่าน​อยู่​พอดี​ ​ในที่สุด​ตอนนี้​ ​ผม​ยาว​สลวย​ของ​นาง​ก็​เงางาม​แล้ว​ ​ไม่มี​ท่าที​แห้ง​เสีย​ไร้​ชีวิตชีวา​เหมือน​เมื่อปีก่อน​อีก

“​รู้สึก​ดีขึ้น​มาก​แล้ว​”

ซู​หว่าน​ยิ้ม​ให้​ซู​รุ่ย​ ​ซึ่ง​ซู​รุ่ย​ก็​เดิน​มาถึง​ด้านหลัง​ของ​นาง​พอดี​ ​เขา​แย่ง​หวี​ไป​จาก​มือ​ของ​ซู​หนิง​ ​จากนั้น​ก็​ตั้งหน้าตั้งตา​หวี​ผม​สลวย​ของ​ซู​หว่าน​อย่าง​อ่อนโยน

เมื่อ​ซู​หนิง​เห็น​เช่นนี้​ ​ก็​รู้​งาน​ ​รีบ​ถอย​ออก​ไป​แต่​โดยดี

หลาย​เดือน​มานี​้​ ​ซู​หว่าน​พัก​รักษาตัว​อยู่​ใน​ห้อง​ตลอด​ ​ซึ่ง​ซู​รุ่ย​ก็​ช่วย​นาง​ปรับ​กำลังภายใน​ทุกวัน​ ​พิษ​ที่​เหลือ​ใน​ร่างกาย​นาง​ถูก​กำจัด​ออก​ไป​แล้ว​ ​ทว่า​…​อวัยวะภายใน​ทั้งหมด​ได้รับ​พิษ​รุนแรง​เกินไป​ ​แม้​ตอนนี้​กำจัด​พิษ​จน​หมด​แล้ว​ ​ร่างกาย​ก็​ยัง​อ่อนแอ​กว่า​คน​ทั่วไป​มาก​ ​และ​อย่างมาก​ ​มีชีวิต​อยู่​ได้​อีก​ห้า​ปี

ซึ่ง​ห้า​ปีนี​้​ ​เพียงพอ​ที่​ซู​หว่าน​กับ​ซู​รุ่ย​จะ​ทำลาย​บ้าน​สกุล​อิน​ ​เพียงแต่​พอนึ​กว่า​ ​ภรรยา​ตนเอง​ต้อง​ลาก​สังขาร​ที่​ป่วย​กระเสาะกระแสะ​แบบนี้​ ​ปฏิบัติภารกิจ​ใน​โลก​ใบ​นี้​ ​แม่ทัพ​ซู​ก็​รู้สึก​ปวดใจ

เขา​ได้​ให้​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​สามารถ​ให้​นาง​ได้​ ​สิ่ง​ที่​เขา​อยาก​จะ​ให้​ก็​มอบให้​แล้ว​ ​แต่​เรื่อง​บางอย่าง​ที่​เคย​เกิดขึ้น​ ​เขา​ยังคง​ทำ​อะไร​ไม่ได้

“​เอาล่ะ​”

พอ​รู้สึก​ว่า​ซู​รุ่ย​กำลังใจ​ลอย​ ​ซู​หว่าน​ก็​ยกมือ​ขึ้น​ ​นิ้วมือ​เรียว​บาง​และ​เย็น​เล็กน้อย​กุมมือ​ใหญ่​ของ​เขา​ไว้​ ​“​ไม่ต้อง​หวี​แล้ว​ ​สวย​มาก​แล้ว​ล่ะ​”

ขณะ​มองดู​ใบหน้า​ที่​กลับคืน​มา​เฉิดฉาย​ดังเดิม​ใน​กระจก​ ​นาง​ก็​อด​ที่จะ​ยิ้ม​อย่าง​มีเลศนัย​ไม่ได้​ ​“​ตอนนี้​เวลา​เหลือ​น้อย​แล้ว​ ​สิ่ง​ที่​ควร​เตรียมการ​ ​เตรียมการ​เสร็จ​แล้ว​หรือยัง​”

“​อืม​”

พอได้​ยิน​คำพูด​ของ​ซู​หว่าน​ ​ซู​รุ่ย​ก็​ผงกศีรษะ​เบา​ๆ​ ​“​ผม​หา​คน​เช่า​สโมสร​จุ้ย​เยียน​ได้​แล้ว​ ​ต่อไป​คุณ​ก็​คือ​เสวี​่ย​หลิง​หลง​ ​เถ้าแก่เนี้ย​ของ​ที่นั่น​ ​จะ​ไม่มีใคร​สงสัย​สถานะ​ของ​คุณ​ ​ชื่อ​ของ​คุณ​ ​อดีต​ของ​คุณ​ ​ผม​เตรียม​ทุกอย่าง​ไว้​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​ ​ไร้​ช่องโหว่​!​”

“​อืม​ ​มีท​่าน​สาม​คอย​จัดการ​ ​ข้าวาง​ใจ​เป็น​ที่สุด​”

ซู​หว่าน​หัวเราะ​พลาง​ค่อยๆ​ ​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ถ้า​งั้น​พรุ่งนี้​ ​เรา​ก็​เริ่ม​กัน​เลย​!​”

“​ภรรยา​ ​อย่า​ลำบาก​จน​เกินไป​นัก​ ​ร่างกาย​คุณ​…​”

“​ชู่​”

ซู​หว่าน​เอน​ตัว​เข้าหา​ซู​รุ่ย​ ​เขย่ง​เท้า​แล้ว​จูบ​ริมฝีปาก​เขา​เบา​ๆ​ ​“​ไม่เป็นไร​หรอก​ ​มีคุณ​อยู่​ด้วย​ ​ฉัน​ไม่​ลำบาก​สักนิด​”

พอได้​ยิน​คำพูด​ของ​ซู​หว่าน​ ​ซู​รุ่ย​ก็​เก็บ​สายตา​คืน​กลับ​ ​แล้วจึง​อุ้ม​หญิงสาว​ที่อยู่​ตรงหน้า​ขึ้น

“​เอาล่ะ​ ​ไป​พักผ่อน​สักครู่​ก่อน​ ​พรุ่งนี้​ค่อย​ไป​สโมสร​จุ้ย​เยียน​”​…

สโมสร​จุ้ย​เยียน​ ​เมือง​เหลียว​เฉิง

ที่นี่​เคย​เป็น​สโมสร​บันเทิง​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​เมือง​เหลียว​เฉิง​ ​น่าเสียดาย​ ​ตั้งแต่​ไป่​หลิง​ ​นักร้อง​สาว​ชื่อดัง​ของ​ที่นี่​เสียชีวิต​ลง​อย่าง​มี​เงื่อนงำ​เมื่อ​ปี​ที่แล้ว​ ​กิจการ​ของ​ที่นี่​ก็​แย่​ลง​เรื่อยๆ​ ​สุดท้าย​เถ้าแก่​จึง​จำต้อง​ปล่อย​เช่า​สโมสร​ทั้ง​หลัง​ใน​ราคา​ต่ำ​ ​ทว่า​ราคา​แม้​ต่ำ​ที่สุด​ ​แต่​กับ​คน​ทั่วไป​ ​กระทั่ง​พ่อค้า​ธรรมดา​เหล่านั้น​ ​ยังคง​เป็น​ราคา​ที่​แพง​ลิบลิ่ว​อยู่ดี

ตอนนี้​ ​สโมสร​จุ้ย​เยียน​ได้​เปลี่ยน​เจ้าของ​และ​เปิดกิจการ​ใหม่​แล้ว​ ​ขณะ​มองดู​ประตู​อาคาร​สีสัน​สวยงาม​ ​อีกทั้ง​ป้ายชื่อ​ที่​คลุม​ผ้าแดง​ไว้​ ​ทุกคน​ต่าง​สงสัย​ว่า​ ​หลังจาก​สโมสร​จุ้ย​เยียน​เปลี่ยน​เจ้าของ​ ​จะ​เปลี่ยนเป็น​เช่นไร​

“​ได้ฤกษ์​แล้ว​!​”

เสียง​ตะโกน​ดัง​ฟัง​ชัด​ ​ต่อ​ด้วย​เสียง​ประทัด​ดัง​ ​ขบวน​เชิด​สิงโต​ที่​หน้า​ประตู​ก็​เริ่ม​เต้นระบำ​กัน​อย่าง​ทะ​มัดท​แมง​ ​พอ​หัว​สิงโต​คาบ​ผ้าแดง​คลุม​ป้าย​ออก​ ​ตัวอักษร​ ​‘​หอ​หลิง​หลง​’​ ​ก็​ปรากฏ​ตรงหน้า​ทุกคน

ดื่มด่ำ​ห้วง​วิจิตร​ใน​หอ​หลิง​หลง

เยียน​เสวี​่ย​ ​เหยา​หลาน​ ​และ​ซิ่ว​อู่

นี่​คือ​กลอน​ปากเปล่า​ซึ่ง​เป็นที่นิยม​แพร่หลาย​มาก​ที่สุด​ใน​แวดวง​ผู้ชาย​เมือง​เหลียว​เฉิง​ประจำ​ฤดูใบไม้ผลิ​นี้

หอ​หลิง​หลง​ ​(​หอ​วิจิตร​)​ ​ตัว​หอก​็​เป็น​เฉกเช่น​เดียว​กับ​ชื่อ​ ​เถ้าแก่เนี้ย​เสวี​่ย​หลิง​หลง​ ​หญิงสาว​ผู้​มี​ผ้า​ขาว​ปิดหน้า​พร้อม​ความสามารถ​ล้นเหลือ​ ​ยิ่ง​เด็ก​ๆ​ ​สาม​อันดับ​ต้น​ของ​นาง​ ​ไป๋​เยียน​เสวี​่ย​ ​หัว​เหยา​หลาน​ ​เยี​่​ยน​ซิ่ว​อู่​ ​แต่ละ​นาง​ล้วน​มี​รูปโฉม​งดงาม​ใน​แบบ​ของ​ตัวเอง​ ​เป็น​เทพธิดา​ใน​ใจ​ของ​ผู้ชาย​ทั่วทั้ง​เมือง​เหลียว​เฉิง

เพียง​เสียดาย​ ​ที่​ค่าบริการ​ใน​หอ​หลิง​หลง​สูง​มาก​ ​ด้วย​สุรา​ดี​ ​ดนตรี​เพราะ​ ​สาว​ๆ​ ​ก็​สวย​ ​เต้นรำ​มีเสน่ห์​ยิ่ง

คน​ระดับ​ล่าง​ธรรมดา​จ่าย​ไม่ไหว​แน่ๆ​ ​ดังนั้น​บุคคลที่สามา​รถ​เป็น​แขก​พิเศษ​ของ​สาวงาม​ใน​หอ​ทั้ง​สี่​ได้​นั้น​ ​ก็​มี​เพียง​กลุ่มคน​รวย​ที่สุด​ใน​เมือง​เหลียว​เฉิง​แล้ว​ ​ซึ่ง​ท่าน​สาม​สกุล​อิน​ผู้​โดดเด่น​ก็​คือ​หนึ่ง​ใน​บุคคล​เหล่านี้​ ​กระทั่ง​ยัง​มี​คน​เคย​เห็น​เขา​ค้างคืน​ใน​ห้อง​ของ​เสวี​่ย​หลิง​หลง​ด้วย

และ​แล้ว​ ​จวน​นายพล​ก็​คือ​ผู้​หนุนหลัง​หอ​หลิง​หลง​ ​เสวี​่ย​หลิง​หลง​คือ​คนรัก​ของ​ท่าน​สาม​สกุล​อิน​ ​ข่าว​นี้​เริ่ม​ค่อยๆ​ ​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ตาม​ห้างร้าน​ต่างๆ​ ​ใน​เมือง​เหลียว​เฉิง

สำหรับ​การเปลี่ยนแปลง​ของ​ท่าน​สาม​สกุล​อิน​ใน​ช่วง​ที่ผ่านมา​นั้น​ ​แรก​ๆ​ ​คนใน​เมือง​เหลียว​เฉิง​ก็​รู้สึก​ตกใจ​อยู่​ ​แต่​หลังจาก​ได้ข่าว​ว่า​ท่าน​สาม​กำลัง​หลงใหล​เสวี​่ย​หลิง​หลง​ ​ชาวเมือง​เหลียว​เฉิง​ค่อย​รู้สึก​โล่งใจ​ในที่สุด​…

ท่าน​เจ้า​หอ​เสวี​่ย​ ​ท่าน​คือ​เจ้าแม่​กวนอิม​มา​จุติ​ ​รีบ​จัดการ​จอม​มาร​ตน​นั้น​ให้​พวกเรา​ด้วย

ซึ่ง​จริงๆ​ ​แล้ว​ ​แม้​เปิด​เป็น​สโมสร​บันเทิง​ ​แต่​การ​รับแขก​ชาย​หญิง​ใน​หอ​หลิง​หลง​ล้วน​เป็นไปตาม​มาตรฐาน​สโมสร​บันเทิง​ ​และ​เจ้าของ​หอ​ ​เสวี​่ย​หลิง​หลง​ก็​มัก​พา​คน​ของ​หอ​หลิง​หลง​ไป​ช่วยเหลือ​ผู้ยากไร้​ ​ยัง​แจก​ข้าวต้ม​กับ​หมั่น​โถว​ให้​เหล่า​ผู้ลี้ภัย​ที่​หนี​ความทุกข์ยาก​มาที​่​เมือง​เหลียว​เฉิง​ด้วย

ใน​สายตา​ของ​ทุกคน​ ​นาง​ย่อม​เป็น​ผู้หญิง​ที่​ดีมาก​คน​หนึ่ง​ ​และ​ผู้หญิง​เช่นนี้​ก็​กำลังจะ​ใช้ชีวิต​ร่วมกับ​ท่าน​สาม​ ​และ​แล้ว​ทุกคน​ก็​มองโลก​อย่างสวยงาม​ดังนี้​…

แม่นาง​เสวี​่ย​เป็น​คนดี​นะ​!​ ​ช่าง​เป็น​คนดี​อะไร​เช่นนี้​!​ ​นาง​กลัว​ว่า​จอม​มาร​อย่าง​ท่าน​สาม​จะ​คอย​ระราน​หญิงสาว​ใน​เมือง​เหลียว​เฉิง​เรื่อยไป​ ​จึง​ต้อง​เสียสละ​ตนเอง

อย่างที่​พระ​ท่าน​กล่าวว่า​…​เรา​ไม่​ลงนรก​แล้ว​ ​ใคร​จะ​ลงนรก

ซู​รุ่ย​…

ไป​ลงนรก​บ้าน​เอ็ง​สิ​…

แน่นอน​ ​จาก​การ​พูด​กัน​ไป​ต่างๆ​ ​นานา​ของ​ชาวเมือง​ ​ตอนนี้​ท่าน​ใหญ่​กับ​ท่าน​รอง​สกุล​อิน​ล้วน​รู้​แล้ว​ว่า​ ​น้องชาย​ที่​ไม่เอาไหน​ของ​ตน​ ​ในที่สุด​ก็​กำลังจะ​ลง​หลัก​ปัก​ฐาน​ ​หา​ผู้หญิง​ดี​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​มา​แต่งงาน​ด้วย

เหตุนี้​ ​อิน​ซุ่น​กับ​อิน​เฉิง​มั่ว​จึง​เรียก​ซู​รุ่ย​กลับมา​ที่​เรือน​ใหญ่​บ้าน​สกุล​อิน​ ​สาม​พี่น้อง​รวมตัวกัน​บน​โต๊ะ​ ​พูดคุย​พลาง​ดื่ม​สุรา

“​น้อง​สาม​ ​นาง​สวย​ขนาด​ไหน​เชียว​ ​ถึง​ทำให้​เจ้า​หลงใหลได้ปลื้ม​ขนาด​นั้น​ ​จน​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่ยอม​พาก​ลับ​มาที​่​บ้าน​ให้​พวกเรา​ดู​เป็น​ขวัญตา​”

อิน​ซุ่น​ดื่ม​สุรา​ไป​อึก​หนึ่ง​ ​ก่อน​ยิ้ม​ตาหยี​ ​จ้องมอง​น้อง​สาม​ของ​ตนเอง

“​นั่น​น่ะ​สิ​”

อิน​เฉิง​มั่ว​ที่อยู่​อีก​ด้าน​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​น้องชาย​ตนเอง​ด้วย​ใบหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เถ้าแก่เนี้ย​เสวี​่ย​คน​นั้น​สวม​ผ้าคลุม​หน้า​ตลอดเวลา​ ​ไม่ใช่​ว่า​ใบหน้า​มี​ปาน​อะไร​ที่​ไม่​อยาก​ให้​คน​มองเห็น​นะ​ ​หรือไม่ก็​…​สวย​ยิ่งกว่า​นางฟ้า​จริงๆ​”

“​หึ​”

พอได้​ยิน​คำถาม​ของ​คน​ทั้งสอง​ ​ซู​รุ่ย​ก็​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​แล้วจึง​ล้วง​ภาพ​ม้วน​หนึ่ง​ออกจาก​แขน​เสื้อ​ตนเอง​ ​“​วันนี้​ข้า​เอา​ภาพเหมือน​ของ​หลิง​หลง​ติด​มาด​้วย​ ​แต่​พี่ใหญ่​กับ​พี่​รอง​ต้องเต​รี​ยม​ตัว​ให้​ดีนา​ ​ชั่วชีวิต​นี้​ ​ข้า​จะ​แต่ง​กับ​นาง​เท่านั้น​!​”