ในปกติท่านสามจะมีใบหน้าอ่อนโยน คาดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้มีฝีมือสูงคนหนึ่ง!
ทุกคนต่างรู้ว่าผู้มีฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองเอกคือเจี้ยนเฟิง
แต่ไม่มีใครรู้ว่าความสามารถของจางเวยยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเจี้ยนเฟิง
เพียงแค่หลายปีมานี้ เขาเก็บซ่อนเร้นไว้ลึกมาก แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยออกมือ
มองเห็นจางเวยระบายโทสะ เจี้ยนเฟิงสีหน้าก็ไม่เปลี่ยน
จากที่เขาดูมา ความต้องการนี้ของหยางเฟิงข่มเหงรังแกกันจนเกินไปจริง ๆ!
จางเวยพูดด้วยความโมโห “ระดมกำลังคนให้ฉันทันที ฉันต้องการไปเหยียบเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!”
ได้ยินคำพูดนี้
เจี้ยนเฟิงก็พูดโน้มน้าวทันที “ท่านสาม หยางเฟิงคนนี้ความสามารถแข็งแกร่งมาก พวกเราตอนนี้ไม่ควรแข็งชนแข็งกับเขา”
“หรือว่าแกอยากให้ฉันไปคุกเข่าขอโทษเขาเหรอ?”
สองตาสีแดงก่ำของจางเวยจ้องมองไปยังเจี้ยนเฟิงแล้วถาม
อยากให้เขาคุกเข่า
ยังไม่เท่าฆ่าเขาไปเลย!
เจี้ยนเฟิงเหงื่อแตกหยดลงทันที รีบอธิบายอย่างร้อนรน “ท่านสามโปรดยับยั้งความโกรธ!”
“แน่นอนว่าผมไม่ได้ต้องการให้คุณไปคุกเข่าขอโทษหยางเฟิง พวกเรายังสามารถใช้วิธีอื่นจัดการกับเขาได้”
“ตอนนี้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปรับช่วงต่อโดยเย่ซื่อกรุ๊ปแต่เดิม พวกเราเพียงต้องตัดขาดบริษัทคู่ค้าทั้งหมดของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปสำนักงานสาขาเมืองเอก พวกเขาจะไม่ไปให้พ้นเมืองเอกดีดีเหรอ?”
จางเวยหรี่ตา หัวเราะแล้วพูด “ไม่เลว นี่เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง!ถ่ายทอดคำสั่งฉัน ใครกล้าเป็นบริษัทคู่ค้ากับเฟิงเมิ่งกรุ๊ปสำนักงานสาขาเมืองเอก ทำการฆ่าให้หมดโดยไม่ต้องมีเหตุผล!”
“ครับ!”
เจี้ยนเฟิงรีบออกไปทันที
……
เร็วมาก
ข่าวสารสั่นสะเทือนไปทั่วเมืองเอก เผยแพร่ออกมาจากสุพรีมคลับ
ตัวพ่อของพื้นที่สีเทาเมืองเอก จางเวยปล่อยคำสั่งปิดตายยุทธภพอย่างถาวร!
บริษัทที่เดิมที่เป็นคู่ค้ากับเย่ซื่อกรุ๊ปทั้งหมดล้วนตัดขาดการเป็นคู่ค้า
ผู้ที่ขัดต่อคำสั่ง ทำการสังหารให้หมดโดยไม่ต้องมีเหตุผล!
เฟิงเมิ่งกรุ๊ปสำนักงานสาขาเมืองเอก
ในเวลานี้
เย่ซานตกอยู่ในสภาพอึดอัด
ทั้งวัน โทรศัพท์ของเขาดังไม่มีหยุด
ทั้งหมดล้วนเป็นบริษัทคู่ค้ากันมาก่อนที่โทรมา ต้องการตัดขาดความร่วมมือ
ไม่ว่าเขาจะพูดดีด้วยเท่าไหร่ ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ฟัง
ไม่มีวิธี เย่ซานได้เพียงแค่ไปหาเย่เมิ่งเหยียนด้วยตัวเอง
“ท่านประธาน!”
เย่ซานเดินเข้าไปห้องทำงานของท่านประธาน รีบร้อนอธิบายเหตุการณ์ที่เจอมารอบหนึ่ง
ถ้าบริษัทคู่ค้าตัดขาดความร่วมมือทั้งหมด ใช้เวลาไม่นาน แหล่งเงินทุนของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปก็อาจตัดขาดได้
เวลานี้ สีหน้าของเย่เมิ่งเหยียนก็เปลี่ยนไปมาก
“แสดงออกได้ยิ่งใหญ่มาก!”
หยางเฟิงที่กินผลไม้อยู่บนโวฟา ได้ยินสาเหตุ เสียงเปล่งเสียงหัวเราะเย็นชา
เขามองเย่ซานแล้วพูด “คุณปล่อยคำพูดผมออกไป บริษัทที่ตัดขาดความร่วมมือกับพวกเราทั้งหมด ทั้งหมดลากลงบัญชีดำ ต่อไปอย่าคิดจะได้เป็นคู่ค้ากับพวกเราอีกตลอดไป!”
ได้ยินคำพูดนี้ เย่ซานกับเย่เมิ่งเหยียนทั้งสองตะลึงงันไปทันที
ตอนนี้ในเวลานี้ หยางเฟิงทำแบบนี้จะไม่เอาไฟราดบนน้ำมันเหรอ?
ต่อไปอยู่ในเมืองเอก ยังจะมีใครกล้าร่วมมือกับบริษัทพวกเรา?
เย่ซานพูดอย่างลังเล “คุณหยาง แต่ว่า……”
หยางเฟิงพูดตัดคำพูดเขา “ไม่มีแต่อะไร คุณแจ้งตามคำพูดของผมไปก็พอแล้ว”
“ครับ!”
สำหรับหยางเฟิง ผู้ชายที่ลึกลับเข้มแข็งและยิ่งใหญ่จนถึงที่สุดคนนี้ ในใจเย่ซานเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง ไม่กล้าที่จะไม่ฟัง
“อืม!นอกจากนี้ คุณไปจัดการหน่อย ผมอยากรับซื้อบริษัทที่ตัดขาดความร่วมมือกับพวกเราทั้งหมด”
ได้ยินประโยคนี้ คางของเย่ซานของหล่นลงพื้นทันที
คาดไม่ถึงว่าหยางเฟิงต้องการรับซื้อบริษัทที่ตัดขาดความร่วมมือกับพวกเราทั้งหมด นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่ไม่?
เย่ซานพูดตะกุกตะกัก “แต่ว่า……คุณหยาง……เงินทุนของบริษัทพวกเรา ไม่เพียงพอต่อการรับซื้อบริษัทเหล่านี้โดยสิ้นเชิง……”
“หนึ่งหมื่นล้าน!”
“อะไรนะครับ?”
เย่ซานฟังไม่ชัดเจน อะไรหนึ่งหมื่นล้าน?
หยางเฟิงจ้องมองเย่ซาน แล้วถาม “ผมถามคุณ ให้คุณหนึ่งหมื่นล้าน พอที่จะรับซื้อบริษัทพวกนี้ไหม?”