ตอนที่ 82

Taming Master

เอียนเมื่อได้รับเควสต์จากอีเรียลแล้วก็ได้เริ่มตามหาที่อยู่ของจิตวิญญาณก่อน

‘ด้วยความยากของเควสต์ที่ไม่ได้ระบุ…มันน่าจะเป็นเพราะระดับของมันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่และก็ไม่อาจระบุระดับได้’

เอียนมั่นใจว่าเป็นเควสต์ที่มีระดับความยากอย่างไม่น่าเชื่อที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตนักเล่นเกมของเขาถึง 20 ปี

ถัดจากเอียนที่กำลังเดินอยู่นั้นก็มีบุ๊กค์คอยส่งกำลังใจให้อยู่

บุ๊กค์- บุ๊กค์-!

ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่มันก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่

‘ในเมื่อเธอบอกว่าคนที่ชื่อวิซซันอาศัยอยู่แถวๆด้านบนของภูเขา ไปที่นั่นกันก่อนดีกว่า’

ชื่อของวิญญาณทั้งสองที่เอียนต้องให้เขารักกันก็คือ ‘วิซซัน’ และ ‘แคโรล’

‘การคุยกับผู้ชายมันน่าจะคุยง่ายกว่าคุยกับผู้หญิง’

แน่นอนว่าเมื่อดูจากชื่อของพวกเขา วิซซันเป็นชื่อของวิญญาณผู้ชายและแคโรลเป็นชื่อของวิญญาณผู้หญิง

และเพราะว่าเขาได้สติแตกก่อนแน่ๆถ้าหากเควสต์ต้องให้เขาไปคุยกับผู้หญิงเรื่องความสัมพันธ์ซึ่งเป็นเรื่องที่เขามีปัญหาอย่างมาก เขาจึงไม่มีทางเลือก

‘เอาละ เป็นไงเป็นกัน!’

สถานที่ที่เอียนมาถึงหลังจากที่ใช้เวลาไม่นานมันเป็นกระท่อมไม้อยู่บนหน้าผาเล็กในมุมหนึ่งของป่าแห่งความรัก

 

* * *

 

“ห้ะ? เจ้าจะช่วยข้า?”

หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวจากเอียนทั้งหมด วิซซันวิญญาณของป่าแห่งนี้ก็ได้กรอกตาทั้งสองของตน

ยืนด้วยความสูงที่ไม่เกินไปกว่าหน้าอกของเอียน วิซซันมีหน้าที่ดูเด็กมากราวกับเขาอายุเพียง 12-13 ปีเท่านั้น

เอียนพยักหน้าพร้อมกับตอบกลับ

“ใช่ ผมจะช่วยคุณเพื่อที่จะให้คุณกับแคโรลอยู่ด้วยกัน”

วิซซันจีบแคโรลมานานมากแล้ว ถึงกระนั้นแคโรลก็ไม่ได้ชอบวิซซัน

อย่างน้อยๆ มันก็เป็นสถานการณ์ของวิซซันในปัจจุบัน

“แต่เจ้าคิดว่าเจ้าจะช่วยข้าได้งั้นหรอ เอียน?”

“ก็อาจจะ…?

ไม่ใช่ว่าเรื่องรักใครเป็นสิ่งที่เอียนอ่อนด้อยที่สุดอย่างนั้นหรอ?

เอียนตอบอย่างไม่เร่งรีบ

วิซซันถามอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“ข้ารู้สึกได้ถึงความโดดเดี่ยวจากเจ้าเช่นเดียวกัน เอียน”

“…”

“เจ้าโดดเดี่ยวมากี่วันแล้ว?”

เอียนโดดเดี่ยวมาโดยตลอดเมื่อคิดถึงวันเกิดของตน

และเขาก็ตอบกลับด้วยท่าทางที่ขมขื่น

“ประมาณ1พันวัน…?”

เขาไม่ต้องการที่จะคำนวณจำนวนวันให้เป๊ะๆ

‘วิซซันคงไม่เชื่อใจฉัน…ฉันพูดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไปรึป่าว?’

แม้จะเป็นเช่นนั้น นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่ว่าวิซซันจู่ๆก็ทำหน้าตาสดใสงั้นหรอ?

“ว้าว จริงดิ? ไม่นานเท่าไหร่นี่! ถ้านับวันนี้ข้าก็อยู่คนเดียวมาแล้ว 55,027 วัน แน่นอนว่าเจ้าเก่งกว่าข้า เอียน!”

วิญญาณวิซซันมีอายุราวๆ150ปี และเขาก็เข้าใจผิดคิดว่าเอียนเป็นวิญญาณเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงคิดว่าอย่างน้อยๆเอียนก็มีประสบการณ์ด้านความรักมาบ้าง

เอียนคิดว่าวิซซันน่าจะเข้าใจอะไรผิดสักอย่าง แต่เขาก็เลือกที่จะไม่พูดออกไป

‘ในเมื่อมันดีแล้วก็ปล่อยมันไป…’

เอียนตัดสินใจที่จะรับฟังเรื่องราวของเขาอีกเล็กน้อย

“วิซซัน คุณได้เจอแคโรลบ้างรึเปล่า?”

วิซซันพยักหน้า

“อืมม..พวกข้าเจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อน และข้าก็ต้องไปเจอเธออีกทีพรุ่งนี้เช่นกัน”

“พรุ่งนี้?”

“ใช่แล้ว พวกข้าจะต้องออกไปเก็บเห็ดด้วยกัน”

เอียนคิด

‘อย่างแรกฉันต้องรู้ก่อนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นยังไง’

และเขาก็ตอบกลับ

“ถ้าหากเป็นเช่นนั้น แล้วจะเป็นอะไรมั้ยถ้าผมจะขอฟังสิ่งที่พวกคุณพูดกันจากที่ไกลๆ?”

วิซซันครุ่นคิดชั่วครู่ ก็ได้เดินเข้าไปในห้องเก็บของที่อยู่ตรงหัวมุมและนำบางสิ่งออกมา

“รับไป ถ้าเจ้าวางเจ้าสิ่งนี้ไว้ข้างหู เจ้าจะได้ยินเสียงของข้าและแคโรล”

เอียนหยิบไอเทมมาดูมันเหมือนกับหูฟัง

“มันจะยังทำงานใช่มั้ยถ้าหากผมอยู่ที่ไกลๆ?”

วิซซันหยักหน้า

“มันยังใช้ได้ถ้าหากเจ้าไม่อยู่ไกลเกินกว่า200เมตร”

“ผมเข้าใจแล้ว”

ถ้าหากประมาณ200เมตรละก็เขาจะสามารถซ่อนตัวและดักฟังได้ง่าย

เอียนและวิซซันตัดสินใจว่าจะรอดูในวันพรุ่งนี้

 

* * *

 

Chirp- Chir-chirp-!

ท้องฟ้าสีฟ้า และอากาศที่สดใส

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนึกถึงความมืดมนในป่าแห่งความรักที่อย่างกับอยู่ในเทพนิยาย แต่เอียนก็รู้สึกขอบคุณที่อากาศมันดีขนาดนี้

‘ถ้าหากฝนตกละก็มันคงจะยากขึ้นแน่ เป็นแบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อย’

สถานที่ที่วิซซันและแคโรลไปเจอกันนั้นเป็นสวนเห็ดที่ตั้งอยู่ด้านนอกของป่าแห่งความรัก

และด้วยระยะห่างขนาดนี้เอียนก็ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้และคอยสอดส่องทั้งสอง

‘โอ้ พวกเขามาเจอกันแล้ว!’

แม้เขาจะอยู่ไกลอาจจะเห็นไม่ชัด แต่แคโรลก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากราวกับหลุดออกมาจากรูปภาพ

Bbook- Bboo-Bbook-!

บุ๊กค์ที่ยืนอยู่บนไหล่ของเอียนก็ดูสถานการณ์ที่ทั้งสองมาพบกันด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น

เอียนก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม มันเป็นสถานการณ์ที่มันก็ได้รับหูฟังจากวิซซันเช่นกันและกำลังสวมมันอยู่ อาจจะเป็นเพราะบุ๊กค์ไม่ยอมก็ได้

และบทสนทนาของทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น

‘เอาละ วิซซัน เริ่มคุยกับเธอได้แล้ว’

เอียนจ้องมองการเคลื่อนไหวของวิซซัน

แต่สิ่งที่น่าตกใจคือมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เอียนคิด แคโรลเป็นคนที่พูดกับวิซซันก่อน

-วิซซันเจ้ามาตรงเวลามาก วันนี้อากาศดีจังเลยว่ามั้ย?

-จริงด้วย

เมื่อพวกเขาได้่ยินสิ่งที่วิซซันตอบกลับไป เอียนและบุ๊กค์ก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล

‘เอ๊ะ…อะไรกัน? ไม่รู้ทำไมแต่ฉันรู้สึกว่าวิซซันทำอะไรผิดไป’

บุ๊กค์-

และบทสนทนาก็ไม่ได้ไปต่อแต่อย่างใด

มันเป็นเพราะว่าทั้งสองเริ่มเก็บเห็ดด้วยความเงียบสงัด

‘นี่ นี่มันอะไรเนี่ย? พวกเขาจะแค่เก็บเห็ดอย่างเดียวเลยงั้นหรอ?’

เอียนบอกให้วิซซันสัญญากับเขาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะพยายามชวนเธอคุยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อพบกับเธอ

แต่นอกจากการตอบกลับไป วิซซันก็เหมือนพยายามเลี่ยงแคโรลขณะที่กำลังเก็บเห็ดอยู่อย่างเงียบๆ

ในตอนท้ายที่ดูอยู่นั้น เอียนก็เผลอหลับไป

“โถ่ ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงจะไม่ได้อะไร…”

ทันใดนั้นแคโรลก็พูดกับวิซซันก่อนอีกครั้ง

เอียนและบุ๊กค์ตั้งใจฟังบทสนทนาของทั้งสองมาก

-วิซซันอากาศร้อนจังเลยเนอะ? เจ้าไม่เหนื่อยงั้นหรอ?

-ข้าไม่เป็นไร

-วิซซันเจ้าเก็บเห็ดได้กี่ดอกอย่างนั้นหรอ?

-1452…

วิซซันเป็นชายที่มีพลังป้องกันที่สุดยอดพอๆกับกระดองของบุ๊กค์

เอาเข้าจริงๆนอกจากที่วิซซันจะกังวลเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเก็บเห็ดพร้อมกับแคโรลแล้ว เขาก็ทำเพียงแค่นับจำนวนเห็ดเท่านั้น

มันก็มีบทสนทนาต่ออีกนิดหน่อยแต่มันก็เหมือนๆกับอันก่อนหน้า

และเวลาที่สุดแสนจะน่าเบื่อก็ผ่านไป และความเงียบในการเก็บเห็ดกว่าสามชั่วโมงก็ได้จบลงเสียที

-ทำดีมากวิซซัน

-เจ้าก็เช่นกัน แคโรล

-งั้นโชคดีนะ!

ขณะที่ฟังทั้งสองคุยกัน เอียนรู้สึกแปลกๆขึ้น

“แล้ว…ฉันควรทำยังไงดีละทีนี้?”

แต่เอียนก็ยังไม่อาจทำอะไรได้ในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงมุ่งหน้าไปที่บ้านของวิซซันก่อน

 

* * *

 

“วิซซัน”

“ว่าไง เอียน”

วิซซันตอบด้วยเสียงที่ดูเศร้า

เอียนถอนหายใจออกมาขณะที่มองหน้าเขา

“ทำไมคุณตอบสั้นขนาดนั้น? แล้วต้องให้แคโรลเป็นคนชวนคุยอีกต่างหาก”

ดวงตาของวิซซันเริ่มเต็มไปด้วยน้ำตา

“ปากของฉัน…มันไม่ยอมขยับ ฉันจึงทำได้แค่หายใจ”

เอียนรู้สึกปวดหัวมาก

‘เห้อ…ไอนี่มันแย่ยิ่งกว่าฉันซะอีก’

เอียนคิดไม่ออกสักทางเลยที่จะช่วยทั้งสองได้

ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลกๆดังออกมาจากมุมหนึ่งของบ้านของวิซซัน

Whoong- .

และเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของวิซซันก็เปลี่ยนไป

“อะ เอียน เอ่อ…มันเป็นข้อความจากแคโรล!”

“ห้ะ?”

ทันทีที่เขาได้ยินเช่นนั้นเอียนก็คิดอะไรขึ้นมาได้

‘อะไรอีกเนี่ย NPC ก็สามารถส่งข้อความหากันได้ด้วยหรอ?’

เอียนรีบตรวจสอบข้อความที่เด้งขึ้นมาในลูกบอลคริสตัลกับวิซซัน

-วิซซันเจ้ากลับถึงบ้านปลอดภัยดีมั้ย?

และวิซซันที่กำลังลังเลอยู่ เอียนก็กดดันเขาโดยที่ไม่ได้คิดอะไร

“วิซซันคุณกำลังทำอะไรเนี่ย? คุณต้องรีบตอบกลับให้เร็วที่สุด!”

“ละ แล้ว…ข้าควรจะตอบกลับไปยังไงดี?”

เอียนคิดหนักโดยพยายามที่จะให้ความคิดที่แข็งทื่อของเขาหายไป

“ยะ อย่างแรก ลองตอบไปว่าถึงอย่างปลอดภัยแล้ว”

และวิซซันก็ตอบข้อความกลับไป

ฉันถึงอย่างปลอดภัยแล้ว แคโรล

และดูเหมือนว่าเขาจะมีความกล้ามากขึ้นนิดหน่อยเมื่อพวกเขาไม่อยู่ต่อหน้ากัน

-ได้รู้ว่าเจ้ากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วข้าก็รู้สึกอุ่นใจหน่อย

เอียนส่ายหน้า

‘เดี๋ยวนี่เธอหมายความว่ายังไง อุ่นใจ? มันไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนโจมตีวิญญาณสักหน่อย’

เขาก็รู้สึกปลื้มวิซซันนิดหน่อยที่อย่างน้อยก็ตอบสักนิด

‘ใช่แล้ว อย่างน้อยเขาก็ตอบอะไรบ้าง’

ทันใดนั้น แคโรลก็ตอบกลับในทันที

-ถ้าหากเจ้าเป็นห่วงข้าละก็เจ้าก็น่าจะมาส่งข้าที่บ้านนะ…

และก็เกิดความเงียบขึ้นสักพัก

เอียนก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สับสนมากเพราะเขาไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไปยังไงดี

“เอียน…”

“ครับ”

“ข้าควรตอบกลับไปยังไง?”

เอียนพยายามคิดอย่างหนัก

‘มันคงจะดูไม่ดีถ้าหากเขาตอบขอโทษไปสินะ? แล้วเขาจะต้องพูดยังไงละเนี่ย…’

ขณะที่เอียนกำลังคิดอยู่ วิซซันก็ตอบไปก่อนแล้ว

-ก็ถูกของเจ้า

เมื่อเขาได้เห็นสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อ เอียนก็ไม่อาจหยุดยั้งความประหลาดใจได้

เอียนถามวิซซัน

“ทำไมคุณถึงตอบไปแบบนั้น วิซซัน”

วิซซันคอตก

“เจ้าพูดถูก…”

และทั้งสองก็รอการตอบกลับจากแคโรลอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะยังไงเธอก็ไม่ตอบกลับเลย

“วิซซัน อย่างแรกลองส่งข้อความไปอีกครั้งสิ”

“แปปนึงนะ”

และวิซซันก็ส่งข้อความอีกครั้งหลังจากรวบรวมความกล้า

-แครอล เจ้าหลับงั้นหรอ?

เอียนหมดหวัง

‘อะไรของเขากัน นี่เพิ่งจะ4โมงเย็น พระอาทิตย์ยังขึ้นอยู่เลย’

ทันใดนั้นก็ได้รับการตอบกลับมาอย่างน่าประหลาด

-เอ่อ ข้าก็ว่าจะงีบสักหน่อยเพราะว่าเหนื่อย เจ้ารู้ได้ยังไง?

‘อะไรกัน นี่สวรรค์กำลังช่วยพวกเราอยู่งั้นหรอ?’

วิซซันก็ได้ปล่อยโอกาสที่ราวกับหาชิ้นส่วนทองจากกองชิ้นส่วนเป็นพันชิ้น

-อ่า งั้นก็รีบไปนอนเถอะ!

เขาไม่อาจมองต่อได้อีกแล้วตอนนี้ บุ๊กค์ก็ปิดตาปี๊ และเอียนก็ทำท่าเหมือนจะไม่ไหวแล้ว

‘เควสต์นี้…มันเป็นเควสต์ที่ดูจะไม่มีทำสำเร็จได้ตั้งแต่แรกแล้ว’

เอียนเริ่มมองทั้งสองต่อพร้อมกับสายตาที่สั่นไหว

-ฉันก็ไม่รู้แล้วเหมือนกัน….เจ้าไปนอนเถอะวิซซัน ฉันไม่เหนื่อย!

บทสนทนาของทั้งสองมันไม่มีคำตอบเลย

ทันใดนั้น วิซซันก็เริ่มเขียนอะไรบางอย่าง

-แคโรล! เห็ดหอยเขาบอกกันว่ามันช่วยป้องกันไม่ให้อ้วน เห็ดอีโนกิดีสำหรับป้องกันเส้นเลือดอุดตัน และเห็ดไพน์ช่วยลดคอเลสเตอรอล ดังนั้นมันจะดีมากสำหรับป้องกันโรคผู้ใหญ่ อย่างสุดท้ายเห็ดอิชิทาเกะเป็นอันที่อร่อยที่สุดดังนั้นเจ้าก็กินมันทั้งหมดด้วยหล่ะ! เข้าใจมั้ย! ฉัน…ก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน?

“…”

ตอนนี้คู่นี้คงไม่จำเป็นต้องให้เอียนช่วยแล้ว

อย่างน้อยเขาก็คิดว่างั้น

“เอ่อ วิซซัน?”

“ว่าไง…?”

“ในเมื่อเรามาถึงขนาดนี้แล้ว คุณลองสารภาพรักเธอดูสักครั้งเป็นไง?”

เมื่อเอียนพูด วิซซันก็ทำท่างง

“ห้ะ สารภาพ? เพื่อนของข้า พาลคอม บอกว่าการสารภาพด้วยลูกบอลคริสตัลเป็นวิธีที่แย่ที่สุด…”

“ยังไงก็ลองดูก่อนเถอะ”

เอียนเกือบจะกลินคำพูดของเขาลงไป ถ้าหากไม่ใช่ตอนนี้เขาก็ไม่คิดว่าวิซซันจะได้มีโอกาสสารภาพอีกแล้ว

‘ถึงมันอาจจะทำให้เธอตัดการติดต่อกับเขาหลังจากวันนี้ไปก็เถอะ…’

วิซซันที่ไม่รู้ความคิดของเอียน ก็กำมือของตนแน่นและพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น

และเขาก็ตอบข้อความอย่างมั่นใจ

-เอ่อ แคโรลเจ้ารู้มั้ยทำไมข้าถึงคอยส่งข้อความหาเจ้า?

-อืม…เพราะว่าเจ้าเบื่องั้นหรอ?

-ไม่ใช่

และการสารภาพอันร้ายแรงของวิซซันยังคงดำเนินต่อ

-เจ้าอยากจะออกไปเที่ยวกับข้ามั้ย?

“…”

เอียนไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงมองดูการพัฒนาที่สุดยอดมากแบบที่ไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อน

‘เห้อ…นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้เลยในทั้งชีวิต20ปีในชีวิตของฉัน หลังจากสารภาพแล้วคู่ของพวกเขาจะต้องจบลงอย่างแน่นอน’

บทสนทนายังคงดำเนินต่อไป

-ห้ะ? อืม..วิซซันนี่เจ้าไม่ได้ส่งผิดใช่มั้ย?

-เอ่อ…ฉันแค่พูดเล่นน่า

-ไม่เป็นไร! เจ้าพูดเล่นจริงๆใช่มั้ย?

-ใช่แล้ว มั้ง?

เอียนรู้สึกว่าเขาเริ่มที่จะหลุดพ้นจากความเขินอายแล้ว

‘อ่า ทำไมฉันถึงน่าอับอายขนาดนี้?’

ดูเหมือนว่าบุ๊กค์ก็ได้รับความเสียหายทางจิตใจเช่นเดียวกันเมื่อได้เห็นเช่นนั้น มันก็คลานไปหากำแพงและนำหัวมันชนกับกำแพง

-ไม่ฉัน…แคโรล ข้าต้องการที่จะบอกคำนี้จริงๆ ข้าชอบเจ้าแคโรล ข้าพูดอะไรแปลกๆเพราะว่าข้ากังวลมากแต่ข้ารู้สึกว่ามันเป็นเวลากว่า3พันวันแล้วที่ข้าชอบเจ้า ข้าชอบเจ้า ข้าชอบเจ้าจริงๆ ไปเที่ยวกับข้าเถอะ!

เอียนอยากจะเชื่อว่าจะไม่มีคนที่โง่เรื่องความรักได้มากไปกว่าเขาอีกแล้ว

‘จากนี้ไปวิซซันมันขึ้นอยู่กับคุณแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะทำอะไรได้อยู่แล้ว…’

แม้ว่าเอียนจะเจ็บปวดหรือไม่ การพูดคุยของทั้งสองยังคงมีต่อ

-นี่เจ้าพูดเล่นอีกแล้วใช่มั้ย?

-ไม่ใช่! มันเป็นความจริง

-เจ้าจะมาบอกว่าเจ้าพูดเล่นทีหลังใช่มั้ยหล่ะ?

-ไม่ใช่แบบนั้น ข้ากำลังพูดความจริง ไปเที่ยวกับข้าเถอะ

และไม่นาน ในที่สุดแคโรลก็ได้ตอบกลับมาด้วยข้อความที่ไม่อยากจะเชื่อ

-ก็ได้

ความเงียบก็ได้ปกคลุมบ้านของวิซซัน

คนที่เปิดปากคนแรกเลยก็คือบุ๊กค์

บุ๊กค์…?

และวิซซันก็ดูข้อความของแคโรลอีกสองสามครั้ง ก็ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ

“ว้าววว เอียน! ขอบคุณเจ้าจริงๆ เอียน!”

เอียนเต็มไปด้วยความตกตะลึง

‘อะ อะไรกันเนี่ย? อะไรว้ะเนี่ย? นี่เขาสารภาพสำเร็จงั้นหรอ? และเขาขอบคุณฉันทำไม?’

มันเป็นพัฒนาการที่น่าตกใจยิ่งกว่าที่บุ๊กค์ยอมยกมีตบอลให้ไลเสียอีก

วิซซันกอดเอียนที่กำลังอึ้งขณะที่มองไปยังลูกบอลคริสตัลด้วยสายตาที่ไม่โฟกัสอีกแล้ว

“ข้าชอบแคโรลจริงๆ แต่ตอนที่ข้าข้าไปหาเธอ ข้าก็ไม่เคยพูดกับเธอเลย…นั่นจึงทำให้ข้าสารภาพกับเธอด้วยลูกบอลคริสตัลแต่เจ้าบ้าพาลคอมบอกว่าอย่าทำ…”

ขณะที่มองวิซซันที่เต็มไปด้วยความสุข เอียนไม่มีคำพูดใดออกมา

‘นี่เขาสารภาพสำเร็จด้วยวิธีแบบนี้งั้นหรอ…’

ไม่ว่าเกมนี้จะสมจริงยังไง แต่นี่มันไม่สมจริงเกินไปหน่อยหรอ?

เอียนรู้สึกอยากจะฆ่าวิซซันเพราะความอิจฉาซะแล้ว

‘เห้อ…เควสต์นี้ไม่ใช่เพราะว่าเควสต์มันยากเกินไปจนวัดไม่ได้ แต่เพราะว่าเควสต์นี้ยังไงมันก็สำเร็จ’

เอียนได้เรียนรู้บางอย่างจากเควสต์นี้

‘อย่างที่คิดไว้เลยความสัมพันธ์ไม่ได้แบ่งว่าใครดีใครเลว มันเพียงแค่แบ่งคนที่กล้าหรือไม่กล้าเท่านั้น…’