บทที่ 149 ทุกคนโกรธมาก

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

บทที่ 149 ทุกคนโกรธมาก

ในคุกของระบบ

แอนเดอร์สัน “ท่านพัศดี คนชื่อเซ่อถีนั่นตายแล้ว จากการเชื่อมต่อของจิตวิญญาณ ฉันสามารถสัมผัสได้เพียงข้อมูลก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาไม่ได้ทำตามคำแนะนำของท่าน แต่ทรยศเรา และในที่สุดก็ไร้ค่าที่จะใช้งาน ถูกงูจงอางตัวนั้นฆ่าตาย”

ฟางหนิง “อืม แกทำได้ดีมาก เป็นอัจฉริยะในหมู่นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การเชื่อมโยงจิตวิญญาณของแมวดำทอมก็สามารถเรียนรู้ได้ทั้งหมด”

แอนเดอร์สัน “ท่านชมเกินไปแล้ว ฉันยังไม่ได้ค้นคว้าเทคโนโลยีการเชื่อมต่อจิตวิญญาณของแมวดำทอมอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่เช่นนั้นเราคงจะค้นพบการทรยศของเขานานแล้ว”

ฟางหนิง “ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป อนิจจา มีคนร้ายที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีอยู่เสมอ พวกเขาไม่รู้ว่าท้องฟ้าสูงแค่ไหน พื้นดินหนาแค่ไหน โลกกว้างใหญ่เพียงใด…”

ระบบ “โฮสต์ คุณตอแหลอีกแล้วนะ…”

ฟางหนิง “ไร้สาระ รีบทำตามแผนเตรียมการของฉันซะ เซ่อถีตายแล้ว ปวดหัวชะมัด กลยุทธ์ที่ดีที่สุดล้มเหลวแล้ว จึงใช้ได้แค่กลยุทธ์ที่แย่ที่สุดเท่านั้น ทำไมคนคนนี้ถึงเข้าใจยากนัก หรือ NPC ในเกมที่ฉันเล่นมีความคิดไม่ซับซ้อน…”

ระบบ “นั่นคือไอคิวของผู้พัฒนาเกมคนอื่นๆ ที่ดูแลคุณในฐานะผู้เล่น…”

ฟางหนิง “…”

อัศวิน A พูดกับผู้อาวุโสไห่และคนอื่นๆ “วิญญาณของชาวเทียนจู๋ที่ถูกข้าปล่อยไปเพื่อรับภารกิจเหยื่อล่อตายไปแล้ว ดูเหมือนว่ากลลวงล่อหลอกศัตรูถูกค้นพบแล้ว งูจงอางตัวนั้นฉลาดแกมโกงมาก คาดว่าจะใช้วิธีหลีกเลี่ยงจุดแข็งโจมตีจุดอ่อนเพื่อเล่นงานพวกเรา พวกเราใช้ได้แค่แผนเตรียมการเบื้องต้น และตอนนี้ผู้อาวุโสไห่มีความเห็นอย่างไรบ้าง…”

ร่องรอยของความเจ็บปวดแวบเข้ามาในดวงตาของผู้อาวุโสไห่ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ขณะนี้เองก็มีเสียงอื่นดังขึ้นข้างหูเขา

ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจทันที “เมื่อกี้เจ้าหน้าที่สืบสวนส่งข้อความมา สัตว์ปีศาจกลุ่มนั้นหันกลับมาดังคาด มายังสำนักงานใหญ่ของเรา ผู้อาวุโสได้กล่าวไว้แล้วว่าเพื่อที่จะจัดการกับปัญหาร้ายแรงนี้ แม้ว่าจะต้องทำลายทรัพย์สินทั้งหมด เขาก็จะไม่ลังเล รีบไปสั่งการเจ้าหน้าที่ในสำนักงานใหญ่ ให้ถอนตัวออกจากดินแดนมรดกทั้งหมด กลับไปที่เสินโจวทันที!”

ผู้าวุโสสวี่ประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวและเตือน “ในกลยุทธ์ท่านเทพกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน สินค้าคงคลังทั้งหมดและของกระจุกกระจิกอื่นๆ ทั้งหมดได้รับการบรรจุและส่งกลับไปยังเสินโจวแล้ว และเจ้าหน้าที่ก็พร้อมสำหรับการอพยพครั้งสุดท้าย ไม่มีวัตถุดิบยาที่สำคัญในฐานวัตถุดิบยาอื่นๆ เฉพาะในฐานบัญชาการเท่านั้นที่มีวัตถุดิบยาหายากมากมายที่ยังไม่เติบโต ซึ่งไม่สามารถย้ายที่ปลูกได้อย่างรวดเร็วและไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ มีไม่น้อยที่อีกสองสามเดือนถึงจะเก็บเกี่ยวได้และทั้งหมดนี้มีประโยชน์มาก”

ผู้อาวุโสไห่โบกมือพลางพูดด้วยความเจ็บปวด “ผู้อาวุโสสวี่ไม่ต้องพูดแล้ว อยากจะจับหมาป่าต้องไม่กลัว ใครใช้ให้เราไม่มีพลังต่อสู้สูงสุดเท่ามัน วิธีเดียวที่จะจัดการกับงูตัวนั้นก็คือการทำงานร่วมกัน งูอาจมองจุดนี้ออกถึงได้คิดจะใช้มันเล่นงานพวกเรา”

ระบบ “น่าเสียดาย เมื่อฉันมองออกไปนอกประตู ในที่สุดคือฐานบัญชาการของพวกเขา ในสวนยา มีวัตถุดิบยาล้ำค่ามากมาย คาดว่าทำยาวิเศษที่มีคุณสมบัติขั้นสูงได้”

ฟางหนิง “เจ้าโง่เอ๊ย ปกติก็มักจะขี้งก ทำไมถึงจำไม่ได้ล่ะ พื้นที่รักษาความสดของระบบ รักษาอวัยวะมนุษย์ของฉันได้ แต่รักษาต้นไม้วัตถุดิบยาไม่ได้งั้นเหรอ”

ระบบ “เอ๊ะ โฮสต์คราวนี้คุณเตือนฉันได้ทันเวลามาก… ผู้อาวุโสไห่คนนี้น่าจะสนใจมาก และเขาจะต้องจ่ายเงินให้เราอย่างงามแน่”

อัศวิน A จึงพูดว่า “ข้าขอชื่นชมความมุ่งมั่นของผู้อาวุโสไห่ ตอนนี้เราได้ค้นพบมันตั้งแต่เนิ่นๆ และยังพอมีเวลา ข้าสามารถเก็บรักษาวัตถุดิบยาที่กำลังเติบโตไว้ได้ครบถ้วนโดยไม่เสียหาย แล้วจึงค่อยย้ายที่ปลูกในภายหลัง แม้ว่าสัตว์ปีศาจจะทรงพลัง แต่ไม่รวดเร็วนัก ข้ามั่นใจว่าสามารถล่วงหน้าไปก่อนพวกมันได้”

เมื่อผู้อาวุโสไห่ได้ยินก็โล่งใจ วัตถุดิบยาอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ประเด็นสำคัญคือ หลาย อย่างถูกนำมาใช้เพื่อช่วยให้เยาวชนฝ่าฟันคอขวดได้ การสูญเสียในตอนนี้หมายถึงการเลื่อนเวลาของความก้าวหน้า และปล่อยให้กองกำลังอื่นตามมาทัน

ผู้อาวุโสไห่ “นั่นยิ่งดีไม่น้อย ในกรณีนี้ที่มีท่านเทพ ต่อไปนี้วัตถุดิบยาสามารถเติบโตต่อไปได้จะมอบรางวัลแก่ท่านเทพร้อยละ 10 เพื่อตอบแทนท่านในครั้งนี้”

ระบบ “ขี้งกชะมัด ฉันนึกว่าเขาจะให้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง”

“…”

ฟางหนิง “รีบไปเถอะ พวกเขาต้องทุ่มเทหนักแค่ไหนกว่าจะปลูกขึ้นมาได้ ถ้าไม่ใช่เพราะชาวเทียนจู๋ปล่อยเจ้างูจงอางจอมเจ้าเล่ห์ออกมา พวกเราก็ไม่มีทางได้เงินพิเศษก้อนนี้”

หลังจากนั้นอัศวิน A ก็หันหลังและจากไปทันที

ในเวลานี้ในสำนักงานใหญ่ เกิดความอลหม่านขึ้น การอพยพไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการอพยพฉุกเฉิน

อัศวิน A ได้อธิบายกลยุทธ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เขานึกถึงสถานการณ์ของการอพยพทั้งหมดมานานแล้ว ดังนั้นสิ่งของที่สามารถบรรจุและนำออกไปได้ เช่น เอกสารสำคัญ และสิ่งของต่างๆ ได้ถูกส่งกลับไปยังเสินโจวเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ว่างงานก็กลับไปแล้วเช่นกัน

ขณะนี้เหลือเพียงไม่กี่คนและพร้อมที่จะอพยพได้ทุกเมื่อ ส่วนใหญ่เป็นทีมงานเคมีเกษตรที่ดูแลวัตถุดิบยา

วัตถุดิบยาหายากบางชนิดล้ำค่ามากจึงจำเป็นต้องเฝ้าติดตามตลอดเวลา ทั้งหมดจะถูกเคลื่อนย้ายในสำนักงานใหญ่และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

พวกเขาเป็นคนกลุ่มสุดท้ายที่จะอพยพ ในกรณีที่สำนักงานใหญ่ไม่ถูกโจมตี ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่ไม่จำเป็น

เพียงแต่ว่าเมื่อทุกคนได้รับคำสั่งให้อพยพ ก็มองไปที่วัตถุดิบยาอันล้ำค่าในสวนยา พวกเขาทุกคนต่างเสียดาย เจ้าหน้าที่ผู้หญิงบางคนน้ำตาคลอ พวกเธอรู้ว่าเมื่อกลับมาอีกครั้ง ที่นี่จะพินาศไปแล้ว

บางคนกำลังพรางตัวด้วยวัชพืช แม้รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่พวกเขายังทำแบบนั้น

วัตถุดิบยาหายากเติบโตมาด้วยเลือดเนื้อหยาดเหงื่อของพวกเขา แม้กระทั่งชีวิตของเพื่อนร่วมงาน ตอนที่ปลูกถ่ายวัตถุดิบยาหายากจำนวนมากจากโลกภายนอก ต้องเสี่ยงชีวิต

แต่เมื่อได้รับคำสั่งแล้วจึงไม่มีใครขัดขืนได้ พวกเขาต่างก็มาเข้าแถวทีละคน เตรียมพร้อมที่จะอพยพ

ในเวลานี้ จู่ๆ หญิงสาวคนหนึ่งก็พรวดออกจากทีม เธอกางแขนออกมาขวางโสมแก่ที่มีใบและลำต้นเขียวชอุ่ม

“ฉันไม่ไป ให้ฉันอยู่ต่อเถอะ ฉันจะไปสู้กับสัตว์ปีศาจพวกนั้น! โสมแก่นี้กำลังจะให้กำเนิดปัญญาและมีความหวังที่จะกลายเป็นแก่นแท้ของโสม หัวหน้าอู๋ เราจะทิ้งมันไม่ได้!”

“เชื่อฟังคำสั่ง จ้าวซิน!” ชายวัยกลางคนที่เหมือนชาวนาแก่ๆ ใบหน้าสะท้อนประสบการณ์ชีวิตและนิ้วที่หยาบกร้าน เดินออกไปลากผู้หญิงคนนั้นพากลับมาในทีม

“หัวหน้าอู๋ โสมแก่นี้ได้รับการปลูกถ่ายจากโลกภายนอก มันเติบโตมานานกว่าห้าร้อยปีในโลกภายนอก หายากมาก แทบจะพูดได้เลยว่ามีเพียงต้นเดียวในโลก! นำมันมาปลูกถ่ายในดินแดนมรดก ทำให้มันมีชีวิต ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ฉันดูแลมันมากว่าสิบปี อีกแค่เดือนเดียว มันก็จะเกิดปัญญา

“เมื่อเปิดใช้ภูมิปัญญา มันสามารถพัฒนาเป็นโสมที่ไม่เคยมีมาก่อน มูลค่าในอนาคตมีมากมายมหาศาล ฉันเคยรายงานไปแล้ว ยาอื่นๆ ไม่เอาไปด้วยก็ไม่เป็นไร แต่เราจะทิ้งมันไว้ไม่ได้” จ้าวซินพูดสะอึกสะอื้น

หลายคนเบือนหน้าหนีไม่ดู หลายคนจะมีความรู้สึกต่อดอกไม้และต้นไม้ที่พวกเขาเลี้ยง และยิ่งหมกมุ่นอยู่กับดอกไม้ เพื่อเป็นเครื่องยังชีพของจิตวิญญาณของพวกเขาไปตลอดชีวิต

เห็นได้ชัดว่าในสายตาของจ้าวซิน โสมแก่นี้เป็นอาหารทางจิตวิญญาณของเธอ

หัวหน้าอุ้มเธอและกำลังจะเดินเข้าไปในทีม

ในเวลานี้จู่ๆ ก็มีคนแจ้งเหตุฉุกเฉิน

“หัวหน้าอู๋ ผู้อาวุโสไห่ส่งข้อความด่วนมาเมื่อกี้ แจ้งว่าอัศวินนั่นช่วยเราเคลื่อนย้ายวัตถุดิบยาเร่งด่วนได้ และต้องการให้เราร่วมมือ”

เมื่อหัวหน้าอู๋ได้ยินก็ปล่อยมือของจ้าวซิน ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข เขาตัดใจทิ้งวัตถุดิบยาให้เปล่าประโยชน์ในปากของเม่นได้เหรอ

“เขาอยู่ที่ไหนล่ะ” เขาถามอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้คนคนหนึ่งลอยลงมาจากฟากฟ้า

“ทันเวลาพอดี สัตว์ปีศาจจะมาถึงในสองชั่วโมง พวกคุณรีบออกไปเถอะ” อัศวิน A พูดกับพวกเจ้าหน้าที่

เขามองเห็นเรื่องเมื่อครู่ได้ชัดเจนจากบนท้องฟ้า

“อัศวิน รบกวนท่านด้วย พวกเรายังคงอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือท่าน วัตถุดิบยาหลายชนิดเคลื่อนย้ายได้ยากและต้องใช้เทคนิคเฉพาะตัว…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็เห็นอัศวิน A เดินผ่านสวนยา สมุนไพรทุกชนิดที่มีสีเขียวและสีเหลืองทอง รวมทั้งสีม่วงและสีแดงทุกชนิดหายไปข้างหลังเขาทันที

โสมเขียวชอุ่มของธรรมชาติก็ไม่มีข้อยกเว้น

ทุกคนต่างก็มองด้วยความตกตะลึง

จ้าวซินรีบวิ่งเข้าไปอยากจะคว้าตัวอัศวิน A ผลคืออีกฝ่ายเพียงขยับตัวนิดเดียวก็หลบเธอพ้น

จ้าวซินตะโกน “อัศวิน ท่านเอาโสมแก่ไปไว้ที่ไหน”

ขณะที่อัศวิน A รีบส่งวัตถุดิบยาสดทั้งหมดไปยังพื้นที่เก็บรักษาความสดของระบบ พลางตอบกลับโดยไม่หันกลับมามอง “ไม่ต้องห่วง มันปลอดภัยมาก หลังจากนี้ข้าจะจ้างเจ้าไปดูแลมันต่อ”

หัวหน้าอู๋ฟังไม่ค่อยเข้าใจ ว่าไงนะ โสมแก่นี่เป็นของหายากของสำนักงานสัจธรรม จะให้อัศวินจองล่วงหน้าได้ยังไง

ช่างมันเถอะ เรื่องนี้ให้เบื้องบนตัดสินเถอะ ยังไงก็ตามถ้าไม่มีอัศวิน มันก็คงพัง อย่างน้อยก็อยู่ในมือของคนอื่น และสามารถอยู่รอดได้

จ้าวซินไม่คิดเล็กคิดน้อยเพราะที่จริงแล้วมันไม่ใช่ของเธอสักหน่อย เธอแค่อยากจะติดตามโสมแก่นี้ต่อไป

สวนยาหายไปอย่างรวดเร็ว ภายในครึ่งชั่วโมงวัตถุดิบยาที่กำลังเติบโตในสำนักงานใหญ่ทั้งหมดก็หายไป

สมาชิกในทีมเภสัชกรโล่งใจ อีกฝ่ายคือมังกรแห่งจิตวิญญาณ และมันเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาที่จะมีพลังเหนือธรรมชาติมากมาย ผู้อาวุโสไห่ออกคำสั่งแล้ว ใบหน้าพวกเขาย่อมเปื้อนยิ้มแล้วหลบหนีไปทางช่องทางลับอย่างสบายใจ

ระบบยังกังวลไม่หาย “ไม่อย่างนั้นเราจะลองถามผู้อาวุโสไห่ ว่าเขาจะเก็บวัตถุดิบยาในฐานวัตถุดิบยาอื่นๆ ด้วยไหม…”

ฟางหนิง “เป็นเรื่องปกติ งูจงอางคว้าน้ำเหลวที่นี่แล้วจะไปโจมตีที่อื่นๆ ด้วย”

ฝูงเม่นอาละวาดในสำนักงานใหญ่ดินแดนมรดกของสำนักงานสัจธรรมที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา ทีแรกเป้าหมายสำคัญที่จะต้องทำลายคือสวนยา แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า ทำได้แต่ทำลายรั้วป้องกันและห้องทุกห้อง ระบายอารมณ์ขุ่นเคืองที่สะสมมาจากการวิ่งรอกไปมา…งูจงอางเชสมองฐานสำนักงานใหญ่ที่เกือบจะว่างเปล่า มีเพียงพวกเม่นที่สนุกสนาน มันโกรธจนแลบลิ้นแผลบๆ

“เปลี่ยนที่เดี๋ยวนี้!”

ตอนนี้เม่นบ้าคลั่งพวกนั้นไม่ฟังคำสั่งของมันเลย ตอนนี้พวกมันก็โกรธจัด วันนี้ตระเวนไปมากี่รอบแล้ว

ตอนแรกบอกว่าจะโจมตีสำนักงานใหญ่แห่งนี้ จากนั้นก็ถูกเกณฑ์ไปโจมตีฐานยาที่อยู่ห่างไกล หลังจากวิ่งไปครึ่งทางแล้วก็ถูกเกณฑ์ให้ไปที่หุบเขา ไปถึงหุบเขาแล้วไง ไม่เจอใครสักคนก็ต้องกลับมาโจมตีสำนักงานใหญ่อีก…

คนยังทนไม่ได้ นับประสาอะไรกับเม่นกระหายเลือดที่โหดร้ายและไร้เหตุผลอย่างพวกมัน ไม่มีทางที่จะไม่ระบายความโมโห!

งูจงอางเชสอ้าปากขู่ฟอดใส่พวกมัน

ทว่าฝูงเม่นกลับไม่ขยับเขยื้อน สนใจแต่ระบายอารมณ์

มันจึงพุ่งไปข้างหน้าและกัดเม่นที่อยู่ใกล้ที่สุด

ในแง่ของความแข็งแกร่ง เม่นยังเป็นผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำเหมือนกัน ทรงพลังไร้เทียมทานเมื่อถูกงูจงอางเชสกัด เม่นก็สูญเสียการต้านทาน ตัวสั่นอย่างรุนแรงล้มลงช้าๆ แต่ก็ยังไม่ตาย ยังคงดิ้นรนไม่หยุด สมแล้วที่เป็นระดับบ่อน้ำจริงๆ มีพลังที่แข็งแกร่ง เม่นธรรมดาไม่อาจเทียบมันได้

ฝูงเม่นก็หายจากความโกรธ กลับมารู้สึกหวาดกลัว มารวมตัวกันอีกครั้ง

“ข้าไม่เชื่อหรอก พวกเจ้าจะเก็บกวาดเกลี้ยงได้ทุกฐาน!” เมื่อกลยุทธ์หลีกเลี่ยงจุดแข็งโจมตีจุดอ่อนพังไม่เป็นท่า งูจงอางเชสก็โกรธจัด และความโกรธก็ท่วมท้นเหตุผลของมัน ต้องให้มันระบายออก

มันไม่คำนึงถึงอีกต่อไปการโจมตีฐานย่อยของสำนักงานสัจธรรมจะได้ประโยชน์สักเท่าไหร่

…………………………………………..